ภาพยนตร์ที่กำลังมีกระแสอยู่ในตอนนี้เรื่องหนึ่งก็คือ Chappie (Neil Blomkamp, 2015) เรื่องราวที่ว่าด้วยหุ่นยนต์ตำรวจที่ถูกทดลองโปรแกรมความรู้สึกนึกคิดและจิตสำนึกเฉกเช่นมนุษย์ เพียงแต่หุ่นยนต์ตัวนี้กลับไปอยู่ในมือของแกงค์สเตอร์ชาวแอฟริกาใต้ที่ต้องการเงินโดยด่วน
หุ่นยนต์ที่ถูกเรียกว่า แชปปี้ ตัวนี้จึงเติบโตและหล่อหลอมขึ้นมาเป็นนักเลงหัวไม้ไม่ต่างกัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ภายใต้การกำกับของ นีล บลอมแคมพ์ ผู้กำกับชาวแอฟริกาใต้ที่มีผลงานน่าสนใจอย่าง District 9 และ Elysium มาก่อน
ซึ่งทั้งสองเรื่องนั้นก็พูดถึงประเด็นที่น่าสนใจอย่างมากทั้งคู่
District 9 พูดถึงค่ายอพยพที่รัฐบาลจัดหา ต่อมาคือ Elysium ที่วิพากย์ประเด็นของการเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างคนจนและคนรวย
โดยทั้ง 3 เรื่องนั้นล้วนแต่ใช้ภาพไซไฟในการวิจารณ์สังคมได้อย่างแนบเนียน
---
ย้อนความถึงผลงานของบลอมแคมพ์กันสักเล็กน้อย
งานเปิดตัวที่ไปเข้าตากรรมการอย่างจังของบลอมแคมพ์ก็คือ ภาพยนตร์โปรโมตเกม Halo ในนาม Yellow
แม้ว่างานของบลอมแคมพ์จะเป็นแนวแอนดรอยด์ประสิทธิภาพสูงที่ดูเหมือนมนุษย์แท้ๆ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นพล็อตที่ใหม่เอี่ยมหรือน่าประหลาดใจนัก แต่ด้วยวิธีการถ่ายทำและการเล่นมุมกล้องต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนกับมันกำลังเกิดขึ้นจริง (การใช้ฟุตเตจห้องแลป, ไลน์โรบ็อต, การใช้เสียงบรรยายให้ดูเหมือนเป็นสารคดีมากกว่าภาพยนตร์) จึงทำให้มันดูโดดเด่นมาก
ด้วยเหตุนี้เอง บลอมแคมพ์เลยได้พบกับปีเตอร์ แจ็คสัน, ได้รับทุนก้อนหนึ่งเพื่อให้สร้างหนังของตัวเอง
ตอนนั้นเองที่ District 9 เกิดขึ้น
---
District 9 มีจุดเริ่มต้นจากหนังสั้นของบลอมแคมพ์ที่มีชื่อว่า Alive in Joburg
หนังสั้นเรื่องนี้ก็คือพล็อตเรื่องของ District 9 ทั้งหมดนั่นเอง แน่นอนว่ามันถูกเล่าออกมาผ่านรูปแบบของสารคดีที่ติดตามชีวิตของเอเลียนและการลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านที่อยู่รอบๆ ค่ายอพยพที่รัฐจัดหาให้ แน่นอนว่าฟุตเตจถูกประกอบขึ้นจากฟุตเตจจริงและฟุตเตจที่สร้างขึ้นมา, แม้จะสร้างฟุตเตจขึ้นมา มันก็ถูกสร้างขึ้นมาอย่างสมจริงด้วยการใช้มุมกล้องที่สั่นไหว หรือการให้เอเลียนไปยืนอยู่ท่ามกลางชุมชนแออัดด้วยผ้าเก่าๆ ขาดๆ คลุมตัวเป็นต้น
ประเด็นของ District 9 นั้นเฉียบคมตรงที่ มันต้องการพูดถึง Alienation (ความเป็นอื่น) แต่แทนภาพของผู้อพยพด้วยการให้เป็นเอเลียนไปจริงๆ เสียเลย
บลอมแคมพ์ได้รับแรงบันดาลใจในพล็อตนี้จากประสบการณ์ในวัยเด็กของตน, การถือผิวในแอฟริกาใต้
---
การถือผิวในแอฟริกาใต้คืออะไร?
ในศตวรรษที่ 20 ที่ผ่านมา ในแอฟริกาใต้นั้นมีประชากรแบ่งเป็นชาวอังกฤษ, ชาวแอฟริกาเนอร์ (ซึ่งหมายถึงชาวแอฟริกันผิวขาว), ชาวแอฟริกันผิวสีและชาวอินเดียน
ในช่วงต้นศตวรรษนั้น อาณานิคมในแอฟริกาใต้ถูกยุบรวมเข้าเป็นสหภาพแอฟริกาใต้ (Union of South Africa) ภายใต้การกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร ซึ่งสิทธิหลายๆ อย่างนั้น คนผิวดำจะถูกจำกัดสิทธิลงเรื่อยๆ
จนกระทั่งในช่วงปี 1948 นโยบายการแบ่งแยกสีผิวนั้นรุนแรงถึงที่สุด ที่อยู่อาศัยของแต่ละกลุ่มผิวจะถูกแบ่งแยกออกจากกันอย่างชัดเจน สิทธิทั้งหลายเองก็ถูกจำกัดจนเรียกได้ว่า เกิดการลดชั้นของพลเมืองที่ไม่ใช่กลุ่มผิวขาวลงเป็นอีกระดับหนึ่ง จนกระทั่งชนชาวผิวดำถึงกับแยกตัวเป็นรัฐอิสระที่ปกครองตัวเองในแผ่นดินผืนเดียวกัน
เมื่อมาถึงช่วงปลายศตวรรษนั่นเอง, การถือผิวได้ยุติลงอย่างเป็นทางการในปี 1994 โดยเกิดจากแรงกดดันของกลุ่มธุรกิจในแอฟริกาใต้, การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ, การประณามจากกลุ่มศาสนาและการเคลื่อนไหวทางการเมือง
เนลสัน แมนเดลาได้ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเกิดจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย
เป็นอันยุติการถือผิวลงแต่เพียงเท่านี้
---
หลังจาก District 9 บลอมแคมพ์ก็มีผลงานที่เป็นภาพยนตร์โปรโมตให้กับเกม Halo อีก
ในภาพยนตร์สั้นตัวนี้ก็ยังมาในแนวถนัดของผู้กำกับ คือไซไฟแอคชั่นที่มนุษย์ต้องต่อสู้กับเอเลียน แน่ละว่ามันไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่เมื่ออยู่ในมือบลอมแคมพ์แล้ว มันก็ต้องออกมาโดดเด่นแตกต่างอีกเช่นเคย
หากมองลงไปแล้ว จะเห็นโลเคชั่นที่ใช้ถ่ายหนังเรื่องนี้ก็ดูไม่ได้เว่อร์วังอลังการแต่อย่างใด มันดูไม่ต่างจากสนามบีบีกันทั่วไป แต่ด้วยการตัดต่อฟุตเตจต่างๆ เข้ามา ทั้งจากกล้องอินฟาเรด, กล้องแฮนดิแคม, กล้องโกโปรติดรถ ฯลฯ มันก็ทำให้การต่อสู้กับเอเลียน CG ที่ดูเหมือนหมีใส่เกราะก็ดูสมจริงขึ้นมาได้
---
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
รู้หรือไม่ Chappie นั้น บลอมแคมพ์มีแนวคิดมาเนิ่นนานแล้ว จากหนังสั้น Tetra-vaal ตั้งแต่ปี 2004 ของเขา
(
ในหนังสั้น เราจะเห็นว่ามันเป็นเหมือนโฆษณาของบริษัท Tetra-vaal ที่พูดถึงหุ่นยนต์ตำรวจแบบเดียวกับ Chappie เป๊ะ เป๊ะแม้กระทั่งหู
หูกระต่ายนี้ บลอมแคมพ์ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละคร Briareos จากมังงะเรื่อง Appleseed ของมาซามุเนะ ชิโร ก็น่ารักดีตอนที่ผงกขึ้นๆ ลงๆ นะ
---
แหล่งอ้างอิง
http://www.imdb.com
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89
https://www.google.com/culturalinstitute/exhibit/%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89/gRba14lr?hl=th&position=12%2C22
http://en.wikipedia.org/wiki/Neill_Blomkamp
http://miotd.com/2008/02/01/appleseed-deunan-and-briareos-from-ex-machina-full-size/
www.youtube.com
ติดตามข่าวสาร รีวิวและเกร็ดหนังเรื่องอื่นๆ ได้จากเพจ
https://www.facebook.com/LittleCinephile นะฮะ
แล้วเจอกันฮะ
เย้
Neil Blomkamp: จาก District9 สู่ Chappie, ความเป็นอื่นและการเหยียดเผ่าพันธุ์ที่วางอยู่บนภาพไซไฟ
หุ่นยนต์ที่ถูกเรียกว่า แชปปี้ ตัวนี้จึงเติบโตและหล่อหลอมขึ้นมาเป็นนักเลงหัวไม้ไม่ต่างกัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ภายใต้การกำกับของ นีล บลอมแคมพ์ ผู้กำกับชาวแอฟริกาใต้ที่มีผลงานน่าสนใจอย่าง District 9 และ Elysium มาก่อน
ซึ่งทั้งสองเรื่องนั้นก็พูดถึงประเด็นที่น่าสนใจอย่างมากทั้งคู่
District 9 พูดถึงค่ายอพยพที่รัฐบาลจัดหา ต่อมาคือ Elysium ที่วิพากย์ประเด็นของการเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างคนจนและคนรวย
โดยทั้ง 3 เรื่องนั้นล้วนแต่ใช้ภาพไซไฟในการวิจารณ์สังคมได้อย่างแนบเนียน
ย้อนความถึงผลงานของบลอมแคมพ์กันสักเล็กน้อย
งานเปิดตัวที่ไปเข้าตากรรมการอย่างจังของบลอมแคมพ์ก็คือ ภาพยนตร์โปรโมตเกม Halo ในนาม Yellow
แม้ว่างานของบลอมแคมพ์จะเป็นแนวแอนดรอยด์ประสิทธิภาพสูงที่ดูเหมือนมนุษย์แท้ๆ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นพล็อตที่ใหม่เอี่ยมหรือน่าประหลาดใจนัก แต่ด้วยวิธีการถ่ายทำและการเล่นมุมกล้องต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนกับมันกำลังเกิดขึ้นจริง (การใช้ฟุตเตจห้องแลป, ไลน์โรบ็อต, การใช้เสียงบรรยายให้ดูเหมือนเป็นสารคดีมากกว่าภาพยนตร์) จึงทำให้มันดูโดดเด่นมาก
ด้วยเหตุนี้เอง บลอมแคมพ์เลยได้พบกับปีเตอร์ แจ็คสัน, ได้รับทุนก้อนหนึ่งเพื่อให้สร้างหนังของตัวเอง
ตอนนั้นเองที่ District 9 เกิดขึ้น
District 9 มีจุดเริ่มต้นจากหนังสั้นของบลอมแคมพ์ที่มีชื่อว่า Alive in Joburg
หนังสั้นเรื่องนี้ก็คือพล็อตเรื่องของ District 9 ทั้งหมดนั่นเอง แน่นอนว่ามันถูกเล่าออกมาผ่านรูปแบบของสารคดีที่ติดตามชีวิตของเอเลียนและการลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านที่อยู่รอบๆ ค่ายอพยพที่รัฐจัดหาให้ แน่นอนว่าฟุตเตจถูกประกอบขึ้นจากฟุตเตจจริงและฟุตเตจที่สร้างขึ้นมา, แม้จะสร้างฟุตเตจขึ้นมา มันก็ถูกสร้างขึ้นมาอย่างสมจริงด้วยการใช้มุมกล้องที่สั่นไหว หรือการให้เอเลียนไปยืนอยู่ท่ามกลางชุมชนแออัดด้วยผ้าเก่าๆ ขาดๆ คลุมตัวเป็นต้น
ประเด็นของ District 9 นั้นเฉียบคมตรงที่ มันต้องการพูดถึง Alienation (ความเป็นอื่น) แต่แทนภาพของผู้อพยพด้วยการให้เป็นเอเลียนไปจริงๆ เสียเลย
บลอมแคมพ์ได้รับแรงบันดาลใจในพล็อตนี้จากประสบการณ์ในวัยเด็กของตน, การถือผิวในแอฟริกาใต้
การถือผิวในแอฟริกาใต้คืออะไร?
ในศตวรรษที่ 20 ที่ผ่านมา ในแอฟริกาใต้นั้นมีประชากรแบ่งเป็นชาวอังกฤษ, ชาวแอฟริกาเนอร์ (ซึ่งหมายถึงชาวแอฟริกันผิวขาว), ชาวแอฟริกันผิวสีและชาวอินเดียน
ในช่วงต้นศตวรรษนั้น อาณานิคมในแอฟริกาใต้ถูกยุบรวมเข้าเป็นสหภาพแอฟริกาใต้ (Union of South Africa) ภายใต้การกำกับดูแลของสหราชอาณาจักร ซึ่งสิทธิหลายๆ อย่างนั้น คนผิวดำจะถูกจำกัดสิทธิลงเรื่อยๆ
จนกระทั่งในช่วงปี 1948 นโยบายการแบ่งแยกสีผิวนั้นรุนแรงถึงที่สุด ที่อยู่อาศัยของแต่ละกลุ่มผิวจะถูกแบ่งแยกออกจากกันอย่างชัดเจน สิทธิทั้งหลายเองก็ถูกจำกัดจนเรียกได้ว่า เกิดการลดชั้นของพลเมืองที่ไม่ใช่กลุ่มผิวขาวลงเป็นอีกระดับหนึ่ง จนกระทั่งชนชาวผิวดำถึงกับแยกตัวเป็นรัฐอิสระที่ปกครองตัวเองในแผ่นดินผืนเดียวกัน
เมื่อมาถึงช่วงปลายศตวรรษนั่นเอง, การถือผิวได้ยุติลงอย่างเป็นทางการในปี 1994 โดยเกิดจากแรงกดดันของกลุ่มธุรกิจในแอฟริกาใต้, การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ, การประณามจากกลุ่มศาสนาและการเคลื่อนไหวทางการเมือง
เนลสัน แมนเดลาได้ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเกิดจากการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย
เป็นอันยุติการถือผิวลงแต่เพียงเท่านี้
หลังจาก District 9 บลอมแคมพ์ก็มีผลงานที่เป็นภาพยนตร์โปรโมตให้กับเกม Halo อีก
ในภาพยนตร์สั้นตัวนี้ก็ยังมาในแนวถนัดของผู้กำกับ คือไซไฟแอคชั่นที่มนุษย์ต้องต่อสู้กับเอเลียน แน่ละว่ามันไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่เมื่ออยู่ในมือบลอมแคมพ์แล้ว มันก็ต้องออกมาโดดเด่นแตกต่างอีกเช่นเคย
หากมองลงไปแล้ว จะเห็นโลเคชั่นที่ใช้ถ่ายหนังเรื่องนี้ก็ดูไม่ได้เว่อร์วังอลังการแต่อย่างใด มันดูไม่ต่างจากสนามบีบีกันทั่วไป แต่ด้วยการตัดต่อฟุตเตจต่างๆ เข้ามา ทั้งจากกล้องอินฟาเรด, กล้องแฮนดิแคม, กล้องโกโปรติดรถ ฯลฯ มันก็ทำให้การต่อสู้กับเอเลียน CG ที่ดูเหมือนหมีใส่เกราะก็ดูสมจริงขึ้นมาได้
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
รู้หรือไม่ Chappie นั้น บลอมแคมพ์มีแนวคิดมาเนิ่นนานแล้ว จากหนังสั้น Tetra-vaal ตั้งแต่ปี 2004 ของเขา
ในหนังสั้น เราจะเห็นว่ามันเป็นเหมือนโฆษณาของบริษัท Tetra-vaal ที่พูดถึงหุ่นยนต์ตำรวจแบบเดียวกับ Chappie เป๊ะ เป๊ะแม้กระทั่งหู
หูกระต่ายนี้ บลอมแคมพ์ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละคร Briareos จากมังงะเรื่อง Appleseed ของมาซามุเนะ ชิโร ก็น่ารักดีตอนที่ผงกขึ้นๆ ลงๆ นะ
แหล่งอ้างอิง
http://www.imdb.com
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89
https://www.google.com/culturalinstitute/exhibit/%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89/gRba14lr?hl=th&position=12%2C22
http://en.wikipedia.org/wiki/Neill_Blomkamp
http://miotd.com/2008/02/01/appleseed-deunan-and-briareos-from-ex-machina-full-size/
www.youtube.com
ติดตามข่าวสาร รีวิวและเกร็ดหนังเรื่องอื่นๆ ได้จากเพจ https://www.facebook.com/LittleCinephile นะฮะ
แล้วเจอกันฮะ
เย้