How to "แต่งหน้า Everyday Look ง่าย แต่..เป๊ะ!!!"

สวัสดีคะ วันนี้อาชิกลับมาใน How to แต่งหน้า Everyday look 2015
เนื่องจากว่าล่าสุดที่ทำคลิป Everyday look คือ ปลายปี2013
วันนี้เลยขอมาอัพเดท Everyday look ของอาชิ
ที่สุดแสนจะง่าย ...เพื่อนๆสามารถนำ Everyday look ในแบบของชิ
ไปปรับเปลี่ยนให้เข้ากับ Style ของเพื่อนๆได้เลยย



Everyday Look ของอาชิจะค่อนข้างเรียบง่าย
ชิจะไม่แต่งตาเลย เน้นโครงหน้าที่ชัดเจน เพราะชิเป็นคนมีแก้ม
สามารถรับชม How to แบบวิดีโอเต็มๆด้านล่างได้เลยน้าา

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

มาดูขั้นตอนการแต่งหน้ากันเล้ยยย
v
v
v



1. เริ่มแต่งหน้าโดยการลงบำรุงผิว ตามที่เพื่อนๆใช้กันเลย แต่สำหรับชิ ระยะเวลาที่ผ่านมาแพ้ครีม เลยข้ามขั้นตอนการทาครีม และทากันแดดเลย วันนี้ชิใช้ของ Eucerin ตัวนี้จะเป็น SPF50 เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นสีเนื้อกลืนกับสีผิวไปเลย เนื้อไม่บาง แต่ใช้แล้วก็ไม่รู้สึกว่าหนักหน้าอะไรค่ะ
2. ลง Primer บางๆ ของ Laura Mercier
3. สิ่งที่ใช้ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเร่งรีบขนาดไหน ก็คือ Concealer คะ เพราะชิเป็นใต้ตาคล้ำมาก วันนี้เลือกใช้ของ NARS สี Custard เนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างแห้งไว ฉะนั้นแนะนำให้ทาทีละข้าง และเกลี่ยให้ไวค่ะ
4. ทาครีมบรัชเลย ชิติดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อครีมมากๆ เพราะมันให้ความรู้สึกที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า และที่สำคัญเลย คือ เนื้อครีมจะติดแน่น ทนนานมากกว่าเนื้อฝุ่น
5. Everyday look ของชิจะไม่ลงรองพื้นนะคะ นอกจากวันที่ทำงาน หรือวันที่ต้องการให้หน้าแน่นตลอดทั้งวันจริงๆ ชิจึงเลือกใช้แป้งพัฟที่ผสมรองพื้นแทน ใช้ของ Chanel เบอร์ 20 คะ สีนี้ขาวกว่าชิเล็กน้อย แต่ชิว่ามันโอเคเลย ชิไม่ชอบใช้แป้งพัฟที่สีเข้มกว่าหรือเท่ากับสีผิว จะชอบให้ขาวกว่าเล็กน้อยก็เพียงพอคะ




6. เวลาที่ชิไม่ได้ลงรองพื้น ชิจะใช้พัฟในการแป้ง โดยการกดไปทั่วๆไปหน้า จะเน้นในช่วงใต้ตา เพื่อกลบแพนด้าให้หมดจด
7. มาเริ่มเขียนคิ้วกันโลดดด ไม่ว่าจะลุคไหนๆ คิ้วต้องเป๊ะไว้ก่อนค่า เขียนตามทรงที่เพื่อนๆชอบเลย แต่ส่วนตัวชิ ชอบคิ้วหนาๆหน่อย และตรงคะ ชิว่าเขียนคิ้วหนาๆจะทำให้หน้าเราดูเล็กลง แต่หากเขียนคิ้วหนาแล้ว พยายามเลือกใช้สีคิ้วที่ไม่เข้มมากจนเกินไป ไม่งั้น อาจโดนแซวได้ 55
8. จากนั้น นำพู่กัน ที่ติดผลิตถัณฑ์เขียนคิ้ว มาเฉดดิ้งจมูก ลากตั้งแต่หัวคิ้วมาจรดปลายจมูก และใช้นิ้วเกลี่ยอีกที
9. ดัดขนตา (ขอแนะนำนิดนึงน้าา ชิใช้ของ Shu uemura ค่ะ คือดีมากกกกกก)
10. จากนั้นปัดขนตาเลย ใช้ของไดโซะ 60บาท คือมันเริ่มจริงๆๆๆๆคะ ชอบมาก ชอบตรงที่ล้างออกง่าย ประสิทธิภาพอาจจะไม่ดีเท่าหลายๆแบรนด์ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับราคาแล้ว ถือว่ามันสุดยอดมากค่ะ ซึ่งชิเป็นคนที่ขนตาสั้นมาก จึงต้องปัดซ้ำ2ทีค่ะ




11. ปัดแก้มเลยนะคะ เนื่องจากว่าเราทาครีมบรัชแล้ว ก็ลงปัดแก้มแบบฝุ่นทับเพียงเล็กน้อย หรือไม่ต้องใช้เลยก็ได้ แต่ชิเป็นคนขี้เกียจพกเครื่องสำอางออกไปเติมระหว่างวัน เลยปัดทับไปเลยคะ แต่อย่าปัดเยอะเกินน้าเดี๋ยวจะแดงเกิ้นนนน ฮ่าๆๆ วันนี้ชิใช้ที่ปัดแก้มของ Essence สี 80 Autumn peach สีสวย ติดทน
12. จากนั้นมาต่อด้วยการ Shading เป็นสิ่งที่ชิไม่พลาดอีกเช่นเดียวกันไม่ว่าจะรีบแค่ไหน ขอหน้าเล็ก หน้ามีมิติ และดั้งพุ่งไว้ก่อน ใช้ของ Collection ตัวนี้สีจะค่อนข้างเข้ม คนขาวไม่แนะนำนะคะ แต่คนผิวแทน จัดโลดดด คือ ปัดแล้วแทนสวยมากๆค่ะ
13. มี Shading ก็ต้องมี Hilight คะ 2สิ่งนี้มาคู่กันอยู่แล้ว วันนี้ชิใช้ของ Sleek คะ Hilight มีหลายตัวที่ชิชอบ คือของ The balm, MTI ส่วนของ Sleek ก็โอเคเลย จะไม่พุ่งมาก แต่ไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือหนาว มันจะดูไม่วาวจนเกินไปจ้าาา




14. Hilight บริเวณสันจมูก โหนกคิ้ว โหนกแก้ม ตามที่ราต้องการให้มันดูเด้งขึ้นมา แต่หากคนหน้ามัน สามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้เลยนะคะ หรืออาจะเลือกใช้ แป้งพัฟ หรือ eyeshadow สีเบจแทนก็ได้จ้าาา
15. ถัดมา ทาปากเลยคะ ทุกๆวันของชิ พูดตามตรง ไม่เคยทาลิปสีเดียวเล้ยยยย จะชอบใช้ 2สี คือสีเข้มและอ่อน วันนี้ใช้วิธีการ Ombre สี คือการไล่สีปาก 16. ทา Lip stain ของ ELF บริเวณขอบปากด้านใน Lip stain ตัวนี้แห้งช้าไปหน่อยคะ แต่รู้สึกว่าใช้แล้วปากแห้งน้อยกว่ายี่ฮ้ออื่นๆ
17. จากนั้นขั้นตอนสุดท้ายแล้วว ทาลิปสติคสีนู้ดชมพูของ Maybelline สี Matt7 รักสีนี้ที่สุดเลยย แต่หากทาสีเดียวอาจดูป่วยไปหน่อย จึงเลือกทาลิปสีแดงด้านใน เพื่อให้ดูสดใส มีชีวิตชีวามากขึ้น เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นแล้วค่าาาาา








ทั้งนี้ การทำผมก็เป็นสิ่งที่สำคัญน้า
ชิแต่งหน้าเบาๆแบบนี้ พอมัดผมขึ้นก็ดูใสๆไปเลย
แต่พอปล่อยผม ก็จะดูโตขึ้นคะ
สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะคะ
สวัสดีคะ
^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่