มีหลายกระแสต่างๆโจมตีเครือโรงหนังในบ้านเราว่าทำไมถึงมีรอบหนังเรื่องนี้น้อยและเข้าโรงน้อยมาก ผมเข้าใจแล้วว่าเพราะอะไร ช่วงหลังๆมาผมดูหนังรักบ่อยมาก ผมเชียร์EddieกับCooperในการเข้าชิงออสการ์ทั้งๆที่ตอนนั้นผมยังไม่ได้ดูThe Theory of Everythingเพราะอ่านในPantipว่าการแสดงคงEddieนั้นสุดๆมากผมก็เลยเชียร์ด้วยเลย และในที่สุดเค้าก็ได้รางวัลออสการ์ปีนี้ในสาขานำชายยอดเยี่ยม พอได้ดูผมก็บอกเลยCooperคงต้องยอมEddieจริงๆ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า หนังเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริง หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราว
เกี่ยวกับStephen Hawkingนักฟิสิกชื่อก้องโลกที่ป่วยเป็นโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อมตอนอายุ21ปี และสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกสองปีหมอบอกกับเค้าแบบนั้น แต่ด้วยผู้หญิงที่เค้าเจอในงานเลี้ยงเธอชื่อ Jane Wlide ทั้งสองมีใจให้กันและรักกัน จนวันนึงเธอรู้ว่าStephenป่วย แต่เธอก็ไม่รังเกียจเค้าและพร้อมที่จะดูแลเค้า เธอไปคุยกับพ่อของStephenเรื่องแต่งงาน พ่อStephenบอกว่ามันสำคัญมากนะ ให้Janeคิดให้ดีๆชีวิตของStephenจะสั้นมาก แต่Janeยืนกรานหนักแน่นด้วยความรักที่เธอมีต่อStephen ทั้งสองจึงได้แต่งงานกัน มีลูกด้วยกันถึงสองคน
แต่แล้วอาการของStephenหนักขึ้นเรื่อยๆ Jane เริ่มจะดูและไม่ไหวและไม่พอใจ ที่ลูกชายขาดสิ่งที่ควรจะได้รับในวัยเด็ก แม่ของเธอได้บอกให้เธอลองกลับไปร้องเพลงที่โบสถ์ เธอก็ลองทำตามที่แม่บอกได้เจอกับนักดนตรีที่สอนร้องเพลงในโบสถ์ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะชอบคอกัน เค้ามีชื่อว่าJonathan เค้าช่วยดูแลStephenและลูกทุกอย่างจนวันนึง Janeท้อง แต่แม่เธอสงสัยว่าเธอท้องกับใครกันแน่StephenหรือJonathanเพราะอาการของStephenตอนนั้นยังไงก็ไม่มีทางจะมีลูกได้แน่ๆ Jonathanได้ยินเธอคุยกับแม่ว่ายังไงลูกก็ต้องเป็นลูกของStephenเท่านั้น เค้าจึงเดินออกไปJaneเห็นพอดีจึงตามไปJonathanบอกว่าผมคงต้องถอยกลับไป พวกเค้าพูดถึงคุณอยู่ ทั้งสองต่างบอกรักกัน ต่อมาJaneกับStephenก็เหมือนเดิม จนStephenบอกว่าไปบอกJonathanสิJaneบอกเค้าคงไม่กลับมาแล้ว StephenไปหาJonathanที่โบสถ์และทำให้เค้ากลับมาเป็นเหมือนเดิมสำเร็จ
วันนึงStephenได้รับเชิญไปที่งานๆนึงที่บอร์เดิกซ์Stephenล่วงหน้าไปก่อนแต่JaneบอกกับStephenว่าเดี๋ยวแม่จะพาลูกๆตามไปส่ง แต่แล้วเธอและJonathanก็ได้ไปCampingกับลูกๆแทน จนตื่นเช้ามาเธอรู้ข่าวว่า Stephenป่วยหนักมาก Jonathanจึงต้องถอยกลับไปอีกครั้ง เธอไปที่โรงพยาบาลและบอกกับหมอว่าไม่ว่าจะยังไงStephenต้องรอดเค้าต้องได้ทำในสิ่งที่เค้าอยากทำ หมอบอกเค้ามีโอกาสรอดแต่ไม่สามารถพูดได้อีกตลอด จนในที่สุดStephenก็รอดแต่เค้าพูดไม่ได้Janeพยายามใช้กระดานตัวอักษรแต่ก็ไม่สำเร็จจนต้องจ้างElaine Masonผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้มาช่วยStephenเธอทำได้และต่อมาก็ได้เครื่องพิมที่สามารถออกเสียงได้ด้วยซึ่งก็เสมือนกับStephenกลับมาพูดได้อีกครั้ง จนทำให้เค้าได้เขียนหนังสืออย่างที่เค้าอยากทำโดยJaneเป็นคนจัดการให้ จากที่ฟังเครื่องพิมของStephenจนวันนึงStephenบอกกับJaneว่าเค้าอยากไปAmerica Elaineจะเป็นคนดูแลเค้าเอง ทั้งสองรู้ว่าพวกเค้าจะต้องจากกันแล้ว JaneบอกกับStephenว่าเธอจะรักเค้าตลอดไป
Janeก็ได้กลับไปหาJonathan Stephenได้ทำทฤษฏีของเค้าให้เป็นจริงในที่สุดที่Americaเค้ามีชื่อเสียงระดับโลก จนในที่สุดสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2แห่งสหราชอาณาจักร ได้เรียกStephenและJaneเข้าพบเค้าได้รับรางวัลเกียรติยศ ทั้งสองอยู่บริเวณสวนของพระราชวัง ทั้งสองคุยกันStephenบอกJaneดูสิ่งที่พวกเราสร้างขึ้นสิ นั่นคือลูกๆวิ่งเล่นกันอย่างสนุก Stephenปฏิเสธตำแหน่งอัศวินจากพระราชินี JaneและJonathanแต่งงานกันอย่างมีความสุข StephenกับJaneยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมาและช่วยเค้าในเรื่องการทำวิจัยหรือทฤษฏีอยู่ตลอด จนตอนนี้Stephen Hawkingอายุ73ปี จบครับ ผมเสียน้ำตาเยอะที่สุดกับหนังเพราะหนังเรื่องนี้เลยตอนที่ผมเห็นStephenที่รับบทโดยEddie Redmayneพยายามจะช่วยเหลือตัวเองแต่ทำไม่ได้แล้วมันPeakมากๆต้องบอกว่าสมควรแล้วจริงๆที่Eddieได้รับรางวัลออสการ์เพราะการแสดงของเค้ามีพลังและสุดยอดมากๆ และตอนที่StephenกับJaneต้องจากกันอีกสุดๆมาก แต่ผมรู้สึกเจ็บแทนStephenที่Janeแอบไปมีความสัมพันธ์กับJonathan แต่ผมก็เข้าใจเพราะJonathanก็เป็นคนดีจริงๆเค้าก็ชื่นชมStephenและดูแลด้วยความเต็มใจ แต่ความรักที่ทั้งJaneและStephenมีให้กันมันน่าทึ่งมากๆ จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่รู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายที่ตนรักป่วยแต่เธอยังอยากจะดูแลเค้าและช่วยให้เค้าหายจากโรคร้าย
แต่ก็ต้องบอกว่ามันแทบจะจบตอนที่ผมได้รู้ว่าJaneมีชู้แต่เธอก็ยังคงรักStephenมากกว่าJonathanเพียงแต่เธออยากมีครอบครัวที่ปกติก็เท่านั้นเอง เพราะเธอก็แสดงให้เห็นว่าStephenมาก่อนJonathanทุกอย่าง ช่วงหลังผมรู้สึกว่าผมดูหนังรักบ่อยมากๆ ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะดูหนังแนวนี้ได้Romantic Dramaแต่เพราะตอนเรียนมหาลัยปี1ผมค้นพบว่าผมรักหนังชอบดูหนังผมก็เลยดูทุกแนวไม่ว่าจะหนังเล็กหนังใหญ่ ถ้าดาราที่ผมชอบเล่นหรือplotมันน่าสนใจผมก็จะเข้าไปดู มันเลยทำให้มีผลมาถึงทุกวันนี้ ผมไม่รู้ว่านี่คือรีวิวหนังที่ยาวที่สุดของผมในตอนนี้หรือเปล่าแต่บอกเลยครับควรหาหนังเรื่องนี้มาดูกันจริงๆ แม้จะเข้าชิงแต่ไม่ได้Best Pictureแต่ผมว่ารางวัลออสการ์สาขานำชายของEddie Redmayneคงจะเพียงพอสำหรับหนังเรื่องนี้ที่จะทำให้คุณหลงรักหนังเรื่องนี้และรักStephenกับJaneไปด้วย มีคนเคยบอกผมว่า "ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราไปได้ตลอดหรอก" ผมยอมรับนะว่ามันคือความจริงแต่มันไม่ใช่ทุกอย่างเพราะผมเชื่อว่าความรักและความทรงจำจะอยู่กับเราไปตลอดกาล
Score 10/10 Grade A+
Film Boy
[CR] (Spoil) Review The Theory of Everything By Film Boy
เกี่ยวกับStephen Hawkingนักฟิสิกชื่อก้องโลกที่ป่วยเป็นโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อมตอนอายุ21ปี และสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกสองปีหมอบอกกับเค้าแบบนั้น แต่ด้วยผู้หญิงที่เค้าเจอในงานเลี้ยงเธอชื่อ Jane Wlide ทั้งสองมีใจให้กันและรักกัน จนวันนึงเธอรู้ว่าStephenป่วย แต่เธอก็ไม่รังเกียจเค้าและพร้อมที่จะดูแลเค้า เธอไปคุยกับพ่อของStephenเรื่องแต่งงาน พ่อStephenบอกว่ามันสำคัญมากนะ ให้Janeคิดให้ดีๆชีวิตของStephenจะสั้นมาก แต่Janeยืนกรานหนักแน่นด้วยความรักที่เธอมีต่อStephen ทั้งสองจึงได้แต่งงานกัน มีลูกด้วยกันถึงสองคน
แต่แล้วอาการของStephenหนักขึ้นเรื่อยๆ Jane เริ่มจะดูและไม่ไหวและไม่พอใจ ที่ลูกชายขาดสิ่งที่ควรจะได้รับในวัยเด็ก แม่ของเธอได้บอกให้เธอลองกลับไปร้องเพลงที่โบสถ์ เธอก็ลองทำตามที่แม่บอกได้เจอกับนักดนตรีที่สอนร้องเพลงในโบสถ์ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะชอบคอกัน เค้ามีชื่อว่าJonathan เค้าช่วยดูแลStephenและลูกทุกอย่างจนวันนึง Janeท้อง แต่แม่เธอสงสัยว่าเธอท้องกับใครกันแน่StephenหรือJonathanเพราะอาการของStephenตอนนั้นยังไงก็ไม่มีทางจะมีลูกได้แน่ๆ Jonathanได้ยินเธอคุยกับแม่ว่ายังไงลูกก็ต้องเป็นลูกของStephenเท่านั้น เค้าจึงเดินออกไปJaneเห็นพอดีจึงตามไปJonathanบอกว่าผมคงต้องถอยกลับไป พวกเค้าพูดถึงคุณอยู่ ทั้งสองต่างบอกรักกัน ต่อมาJaneกับStephenก็เหมือนเดิม จนStephenบอกว่าไปบอกJonathanสิJaneบอกเค้าคงไม่กลับมาแล้ว StephenไปหาJonathanที่โบสถ์และทำให้เค้ากลับมาเป็นเหมือนเดิมสำเร็จ
วันนึงStephenได้รับเชิญไปที่งานๆนึงที่บอร์เดิกซ์Stephenล่วงหน้าไปก่อนแต่JaneบอกกับStephenว่าเดี๋ยวแม่จะพาลูกๆตามไปส่ง แต่แล้วเธอและJonathanก็ได้ไปCampingกับลูกๆแทน จนตื่นเช้ามาเธอรู้ข่าวว่า Stephenป่วยหนักมาก Jonathanจึงต้องถอยกลับไปอีกครั้ง เธอไปที่โรงพยาบาลและบอกกับหมอว่าไม่ว่าจะยังไงStephenต้องรอดเค้าต้องได้ทำในสิ่งที่เค้าอยากทำ หมอบอกเค้ามีโอกาสรอดแต่ไม่สามารถพูดได้อีกตลอด จนในที่สุดStephenก็รอดแต่เค้าพูดไม่ได้Janeพยายามใช้กระดานตัวอักษรแต่ก็ไม่สำเร็จจนต้องจ้างElaine Masonผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้มาช่วยStephenเธอทำได้และต่อมาก็ได้เครื่องพิมที่สามารถออกเสียงได้ด้วยซึ่งก็เสมือนกับStephenกลับมาพูดได้อีกครั้ง จนทำให้เค้าได้เขียนหนังสืออย่างที่เค้าอยากทำโดยJaneเป็นคนจัดการให้ จากที่ฟังเครื่องพิมของStephenจนวันนึงStephenบอกกับJaneว่าเค้าอยากไปAmerica Elaineจะเป็นคนดูแลเค้าเอง ทั้งสองรู้ว่าพวกเค้าจะต้องจากกันแล้ว JaneบอกกับStephenว่าเธอจะรักเค้าตลอดไป
Janeก็ได้กลับไปหาJonathan Stephenได้ทำทฤษฏีของเค้าให้เป็นจริงในที่สุดที่Americaเค้ามีชื่อเสียงระดับโลก จนในที่สุดสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2แห่งสหราชอาณาจักร ได้เรียกStephenและJaneเข้าพบเค้าได้รับรางวัลเกียรติยศ ทั้งสองอยู่บริเวณสวนของพระราชวัง ทั้งสองคุยกันStephenบอกJaneดูสิ่งที่พวกเราสร้างขึ้นสิ นั่นคือลูกๆวิ่งเล่นกันอย่างสนุก Stephenปฏิเสธตำแหน่งอัศวินจากพระราชินี JaneและJonathanแต่งงานกันอย่างมีความสุข StephenกับJaneยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดมาและช่วยเค้าในเรื่องการทำวิจัยหรือทฤษฏีอยู่ตลอด จนตอนนี้Stephen Hawkingอายุ73ปี จบครับ ผมเสียน้ำตาเยอะที่สุดกับหนังเพราะหนังเรื่องนี้เลยตอนที่ผมเห็นStephenที่รับบทโดยEddie Redmayneพยายามจะช่วยเหลือตัวเองแต่ทำไม่ได้แล้วมันPeakมากๆต้องบอกว่าสมควรแล้วจริงๆที่Eddieได้รับรางวัลออสการ์เพราะการแสดงของเค้ามีพลังและสุดยอดมากๆ และตอนที่StephenกับJaneต้องจากกันอีกสุดๆมาก แต่ผมรู้สึกเจ็บแทนStephenที่Janeแอบไปมีความสัมพันธ์กับJonathan แต่ผมก็เข้าใจเพราะJonathanก็เป็นคนดีจริงๆเค้าก็ชื่นชมStephenและดูแลด้วยความเต็มใจ แต่ความรักที่ทั้งJaneและStephenมีให้กันมันน่าทึ่งมากๆ จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่รู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายที่ตนรักป่วยแต่เธอยังอยากจะดูแลเค้าและช่วยให้เค้าหายจากโรคร้าย
แต่ก็ต้องบอกว่ามันแทบจะจบตอนที่ผมได้รู้ว่าJaneมีชู้แต่เธอก็ยังคงรักStephenมากกว่าJonathanเพียงแต่เธออยากมีครอบครัวที่ปกติก็เท่านั้นเอง เพราะเธอก็แสดงให้เห็นว่าStephenมาก่อนJonathanทุกอย่าง ช่วงหลังผมรู้สึกว่าผมดูหนังรักบ่อยมากๆ ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะดูหนังแนวนี้ได้Romantic Dramaแต่เพราะตอนเรียนมหาลัยปี1ผมค้นพบว่าผมรักหนังชอบดูหนังผมก็เลยดูทุกแนวไม่ว่าจะหนังเล็กหนังใหญ่ ถ้าดาราที่ผมชอบเล่นหรือplotมันน่าสนใจผมก็จะเข้าไปดู มันเลยทำให้มีผลมาถึงทุกวันนี้ ผมไม่รู้ว่านี่คือรีวิวหนังที่ยาวที่สุดของผมในตอนนี้หรือเปล่าแต่บอกเลยครับควรหาหนังเรื่องนี้มาดูกันจริงๆ แม้จะเข้าชิงแต่ไม่ได้Best Pictureแต่ผมว่ารางวัลออสการ์สาขานำชายของEddie Redmayneคงจะเพียงพอสำหรับหนังเรื่องนี้ที่จะทำให้คุณหลงรักหนังเรื่องนี้และรักStephenกับJaneไปด้วย มีคนเคยบอกผมว่า "ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราไปได้ตลอดหรอก" ผมยอมรับนะว่ามันคือความจริงแต่มันไม่ใช่ทุกอย่างเพราะผมเชื่อว่าความรักและความทรงจำจะอยู่กับเราไปตลอดกาล
Score 10/10 Grade A+
Film Boy