CHAPPIE : สีคราม หมายความเหมือนใจมนุษย์

คือด้วยความชอบหนัง District 9 ของ ผกก.คนนี้มากๆ หนังที่สำรวจจิตใจด้านมืดของมนุษย์ได้สุดๆ พอๆกับ X-Men 2 กับ The Dark Knight เลย
หนังเรื่องราวในปี 2016 เมืองโจฮันเนสเบิร์ก เรื่องของ วิศวกรหุ่นยนตร์ ที่สร้างหุ่นที่คอยรับโปรแกรมจากตำรวจในการปราบอาชญากรรมทั่วเมือง (Robocop มาก) แต่เขาก็ยังคอยพัฒนาระบบที่เรียกว่าจิตสำนึก ที่เชื่อว่าสามารถพัฒนาได้ และคิดเองได้เหมือนกับมนุษย์

บทหนัง ดีตรงที่ พาเราสำรวจสังคมปัจจุบันที่เน่าเฟะ อาชญากรล้นเมือง ผู้คนตัดสินกันจากภายนอก แม้ตัวพระเอกที่อยากสร้างหุ่นยนตร์ที่คิดเองได้ ยังต้องยอมเป็นเบี้ยล่างนักธุรกิจ ที่หวังทำกำไรจากหุ่นยนตร์ (Robocop อีกแล้ว) จนกระทั่งการมาถึงของ CHAPPIE หุ่นยนตร์ปัญญาประดิษฐ์ ที่พระเอกหวังให้เป็นเด็กดี แต่กลับไปเป็นสมบัติของกลุ่มโจรกระจอก ที่หวังปล้นเงินร้อยกว่าล้านเพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่ (Fast Five เลย) และหวังให้หุ่นยนตร์เป็นแม่ทัพ

แต่หนังมันดีตรงที่ พัฒนาการทางอารมณ์
ตัวละคร ที่ CHAPPIE ค่อยๆเติบโตจากสมองกลทารก เป็นวัยรุ่นเต็มตัวที่เลือกเส้นทางชีวิตเอง มีชีวิตดีๆ แย่ๆ มาให้เขาเรียนรู้ ให้เขาเลือก ขนาดพระเอกที่เหมือนเป็นคนดี กลับตีกรอบซะเหมือนพ่อแม่ที่เอาแต่ขีดเส้นทางให้ตัวลูก ทั้งที่จริงอาจลืมว่ากำลังคุยกับหุ่น หรือจะฝั่งโจรที่ให้อิสระ แต่เหมือนปล่อยปละละเลย สรุปไม่มีใครดีไปหมดซะทีเดียว

ตัวร้ายของเรื่อง พูดจริงๆว่า มิติแบนราบไปนิด เหตุผลแค่อยากอวดหุ่นตัวเองบ้าง ไม่น่าทำให้ทหารยอมทำขนาดนี้ คือเหตุผลรองรับยังบางเบาอยู่

พระเอกตัวจริง CHAPPIE ขอชมตัว Motion Capture ที่ทำให้มีชีวิตชีวา เรารู้สึกว่าหุ่นยนตร์ตัวนี้ มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกและจิตสำนึก มีการชั่งใจ อารมณ์ที่มีการแสดงออกตอนแรกๆ ก่อนเก็บอาการเป็นในตอนหลังๆ ราวกับมนุษย์คนหนึ่ง

ฉากแอคชั่น ทำออกมามันส์ ขอบอกว่ามันส์จริงๆ ลุ้นตามด้วยนี่สิ ต้องชมคนเขียนบท (ก็ ผกก. นั่นแหละ) ที่ส่งให้เราเอาใจช่วยหุ่น แต่ลังเลที่จะช่วยคนกันเอง ก็แหมมันมีทั้งดีทั้งร้ายเลย

เสียงดนตรีประกอบ บอกตรงๆว่า Dark Knight มากๆ
สรุปว่า สนุกมั้ย สนุกเอาการสำหรับช่วงที่หนังกำลังซาๆ รอรับของหนักช่วงกลางปี หนังจิกกัดสังคมได้ดี คนเราน่ากลัวกว่าเครื่องจักรเป็นร้อย
*แอบเสียดาย ฮิวจ์ แจ็คแมน กับซิกโกนี่ วีเวอร์ บทธรรมดาไป*

ใครไม่ฮาฉากขโมยรถ เอาเท้ามายันหน้าผมได้