บมจ.บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น (BIG) ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง กลับเข้ามาเทรดวันแรก เปิดตลาดที่ 3.98 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 3,084% เมื่อเทียบกับราคาปิดตามพาร์ใหม่ คือ 0.25 บาท/หุ้น ดังนั้นราคาหุ้นครั้งสุดท้ายจะอยู่ที่ 0.125 บาท/หุ้น บิ๊กบอส “ธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์”มั่นใจตลาดกล้องดิจิตอล อนาคตสดใส กางแผนปี”58 ตั้งงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เตรียมเปิดสาขาเพิ่ม 10 สาขา โหมประชาสัมพันธ์การตลาด คาดรายได้ปีนี้เติบโต 10% เทียบปีก่อน กวาดรายได้กว่า 3,452 ล้านบาท
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นบริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BIG) เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังกลับเข้ามาเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯในวันแรก (3 มี.ค.58) เปิดตลาดอยู่ที่ 3.98 บาท/หุ้น ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายปรับตัวสูงสุดที่ 4.30 บาท/หุ้น ก่อนปิดตลาดที่ 2.24 บาท/หุ้น มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 3,254 ล้านบาท
นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BIG) เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับการกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯของหุ้น BIG เป็นอย่างดี หลังจากผ่านกระบวนการฟื้นฟูกิจการ การปรับโครงสร้างธุรกิจ และเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของบริษัทใหม่ ซึ่งมั่นใจว่าด้วยศักยภาพความเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจกล้องดิจิตอลของเมืองไทย รายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
“ราคาหุ้น BIG เปิดตลาดที่ 3.98 บาท/หุ้น คงจะไปเปรียบเทียบราคาปิดตลาดในช่วงก่อนฟื้นฟูกิจการที่อยู่ที่ 5 บาท/หุ้น ไม่ได้ เพราะตอนนั้นราคาพาร์อยู่ที่ 10 บาท แต่ในปัจจุบันราคาพาร์อยู่ที่ 0.25 บาท/หุ้น นั่นหมายความว่าราคาปิดวันนั้นจะอยู่ที่ 0.125 บาท/หุ้น ดังนั้นราคาเปิดวันนี้ (3 มี.ค.) ที่ 3.98 บาท ถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 3,084% เมื่อเทียบกับราคาปิดครั้งก่อนหน้า”นายธนสิทธิ์กล่าว
นายธนสิทธิ์ กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2558 บริษัท ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามียอดขาย 3,452 ล้านบาท เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้ตลาดกล้องดิจิตอลกลับมาคึกคักได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญเรามีจุดเด่นคือ เป็นร้านค้าปลีก จัดจำหน่ายอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจร มีครบทุกแบรนด์ ทำให้ลูกค้าเข้ามาแวะเยี่ยมชมคึกคักทุกวัน
ขณะที่แผนการลงทุนในปี 2558 บริษัทได้ตั้งงบไว้ประมาณ 100 ล้านบาท แบ่งเป็น 40 ล้านบาท ใช้สำหรับการขยายสาขา Big Camera เพิ่มอีก 10 แห่ง และปรับปรุงสาขาเดิม โดยปัจจุบันมีสาขา 237 แห่งทั่วประเทศ กระจายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และโมเดิร์นเทรด เช่น เซ็นทรัล เดอะมอลล์ โรบินสัน เพราะลูกค้ามีกำลังซื้อสูง ส่วนอีกประมาณ 50 ล้านบาท เป็นงบการตลาดประชาสัมพันธ์
ปัจจุบัน BIG ดำเนินธุรกิจลงทุนในกิจการอื่น (Holding Company) โดยมีบริษัทแกนคือ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด เป็นบริษัทย่อยถือหุ้น 100% ดำเนินธุรกิจค้าปลีกกล้องถ่ายภาพ อุปกรณ์ถ่ายภาพ และอุปกรณ์เสริม และธุรกิจค้าปลีกโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมทั้งธุรกิจการให้บริการแก่ผู้ใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพ
BIG เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านการเข้ามาฟื้นฟูกิจการ บริษัท ซันวู้ดอินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (SUN) ตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยก่อนที่จะถูกห้ามซื้อขายอยู่ที่ 5 บาท/หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 10.00 บาท/หุ้น แต่ภายหลังจากปรับโครงสร้างธุรกิจ และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่เป็น บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BIG) บริษัทได้กำหนดมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) ใหม่เป็น 0.25 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ปิดตลาด(3มี.ค.)ราคาBIGอยู่ที่2.24บาทปรับลง2.76บาท เปลี่ยนแปลง-55.20%
หุ้น BIG ไม่ได้ราคาลงนะครับ ลดพาร์จาก10บาทเหลือ0.25!! เปิด3.98 หรือ+3,084% !!!
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นบริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BIG) เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังกลับเข้ามาเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯในวันแรก (3 มี.ค.58) เปิดตลาดอยู่ที่ 3.98 บาท/หุ้น ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายปรับตัวสูงสุดที่ 4.30 บาท/หุ้น ก่อนปิดตลาดที่ 2.24 บาท/หุ้น มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 3,254 ล้านบาท
นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BIG) เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับการกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯของหุ้น BIG เป็นอย่างดี หลังจากผ่านกระบวนการฟื้นฟูกิจการ การปรับโครงสร้างธุรกิจ และเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของบริษัทใหม่ ซึ่งมั่นใจว่าด้วยศักยภาพความเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจกล้องดิจิตอลของเมืองไทย รายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
“ราคาหุ้น BIG เปิดตลาดที่ 3.98 บาท/หุ้น คงจะไปเปรียบเทียบราคาปิดตลาดในช่วงก่อนฟื้นฟูกิจการที่อยู่ที่ 5 บาท/หุ้น ไม่ได้ เพราะตอนนั้นราคาพาร์อยู่ที่ 10 บาท แต่ในปัจจุบันราคาพาร์อยู่ที่ 0.25 บาท/หุ้น นั่นหมายความว่าราคาปิดวันนั้นจะอยู่ที่ 0.125 บาท/หุ้น ดังนั้นราคาเปิดวันนี้ (3 มี.ค.) ที่ 3.98 บาท ถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 3,084% เมื่อเทียบกับราคาปิดครั้งก่อนหน้า”นายธนสิทธิ์กล่าว
นายธนสิทธิ์ กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2558 บริษัท ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามียอดขาย 3,452 ล้านบาท เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้ตลาดกล้องดิจิตอลกลับมาคึกคักได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญเรามีจุดเด่นคือ เป็นร้านค้าปลีก จัดจำหน่ายอุปกรณ์ถ่ายภาพครบวงจร มีครบทุกแบรนด์ ทำให้ลูกค้าเข้ามาแวะเยี่ยมชมคึกคักทุกวัน
ขณะที่แผนการลงทุนในปี 2558 บริษัทได้ตั้งงบไว้ประมาณ 100 ล้านบาท แบ่งเป็น 40 ล้านบาท ใช้สำหรับการขยายสาขา Big Camera เพิ่มอีก 10 แห่ง และปรับปรุงสาขาเดิม โดยปัจจุบันมีสาขา 237 แห่งทั่วประเทศ กระจายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และโมเดิร์นเทรด เช่น เซ็นทรัล เดอะมอลล์ โรบินสัน เพราะลูกค้ามีกำลังซื้อสูง ส่วนอีกประมาณ 50 ล้านบาท เป็นงบการตลาดประชาสัมพันธ์
ปัจจุบัน BIG ดำเนินธุรกิจลงทุนในกิจการอื่น (Holding Company) โดยมีบริษัทแกนคือ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด เป็นบริษัทย่อยถือหุ้น 100% ดำเนินธุรกิจค้าปลีกกล้องถ่ายภาพ อุปกรณ์ถ่ายภาพ และอุปกรณ์เสริม และธุรกิจค้าปลีกโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมทั้งธุรกิจการให้บริการแก่ผู้ใช้อุปกรณ์ถ่ายภาพ
BIG เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่านการเข้ามาฟื้นฟูกิจการ บริษัท ซันวู้ดอินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (SUN) ตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยก่อนที่จะถูกห้ามซื้อขายอยู่ที่ 5 บาท/หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 10.00 บาท/หุ้น แต่ภายหลังจากปรับโครงสร้างธุรกิจ และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่เป็น บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BIG) บริษัทได้กำหนดมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) ใหม่เป็น 0.25 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ปิดตลาด(3มี.ค.)ราคาBIGอยู่ที่2.24บาทปรับลง2.76บาท เปลี่ยนแปลง-55.20%