The Azkals (ชื่อเรียก) ประสบความสำเร็จมากมาย แต่ยังไม่สามารถก้าวไปสู่ระดับที่สูงกว่านี้ได้
First of a series
หลังจากตกรอบ Semifinal ใน Suzuki Cup สิ่งหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในวงการฟุตบอล Philippine คือ นี่เป็นขีดจำกัดของเราแล้วหรือ ?
ตั้งแต่จบปี 2014, เป็นประเทศไทยที่ได้สอนบทเรียนให้ Azkals อีกครั้ง ด้วยทีมชาติสายเลือดใหม่ของช้างศึก
ที่มีผู้เล่น 5 คนจากปี 2012 มาเล่นในปี 2014
แม้เราจะมีอันดับ FIFA เป็นที่ 1 ในแถบ Southeast Asia, การแพ้ต่อไทยสร้างความชัดเจนให้แก่ Philippines
ที่ยังห่างไกลและถูกทิ้งไว้เบื้องหลังในภูมิภาคนี้
เป้าหมายที่เปลี่ยนไปสู่ World Cup Qualifiers, เป็นที่แน่นอนว่ามันเป็นอีกก้าวที่ใหญ่มาก
ดังนั้นตั้งแต่ปี 2015 เราจะเริ่มมองไปข้างหน้า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะสั่งสมสิ่งที่เราต้องการจะทำ
ถ้าพวกเราต้องการก้าวข้ามถ้วย Suzuki Cup และถ้าพวกเราต้องการเข้ารอบ World Cup Qualifiers ในสักวันหนึ่ง
Children of the diaspora
The Azkals ปัจจุบันประสบความสำเร็จในการค้นหาเด็กผลัดถิ่นและนำพวกเขากลับมาเล่นให้ Philippines
นั่นช่วยให้วงการฟุตบอล Philippine เติบโต ไม่แปลกใจที่ Younghusbands, Greatwiches, Hartmanns, Gier และคนอื่นๆ
สามารถปรับตัวในทีมได้ ต้องยกความชอบให้ด้านการบริหารจัดการของ Azkals และ UFL
แต่นี่คือปัจจัยที่ทำให้ติดค้างอยู่ที่ระดับเดิม
ส่วนหนึ่งมาจากด้านตัวเลขพื้นฐาน ที่เรามีผู้เล่นแค่ 10% จากจำนวนประชากรทั้งหมดและนั่นทำให้ Azkals พบอุปสรรค
ในการเปลี่ยนจากสระน้ำให้เป็นมากกว่าบ่อน้ำ
สิ่งที่ช่วยอธิบายว่าทำไม Azkals ยังคงอยู่ในอันดับเดิมๆ , Phil Younghusband เป็นตัวแนวรุกเพียงคนเดียว
และเมื่อ Rob Gier และ Juani Guirado อายุ 33 และ 35 เริ่มใกล้ถึงจุดสิ้นสุดในการท้าแข้ง
ในขณะที่ Amani Aguinaldo จะเป็นผู้เล่น Center Back คนเดียวที่เคยผ่านระดับทีมชาติของประเทศนี้
ปัญหาอื่นๆ คือเรื่องพื้นฐาน : business class flights, ค่าเบี้ยเลี้ยง และ เงินพิเศษ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ส่งถึงผู้เล่นน้อยมาก
และการค้นพบใหม่คือ ค่าใช้จ่ายในการผลิตให้ได้ผู้เล่นแต่ละคนสูงมาก
อีกปัญหาคือผู้เล่นต่างชาติ ยกตัวอย่างเช่น Alvaro Silva ที่เคยผ่านการเล่นใน La Liga ไม่สามารถปรับตัวกับทีมได้
ไม่ว่าจะด้วยการสื่อสารและวัฒนธรรม อีกทั้งผู้ล่นที่ดีจริงๆ ก็ไม่ต้องการมาเล่นให้ทีมชาติ เพราะจะเสียโอกาสติดทีมชาติที่อื่น
ยกตัวอย่างเช่น Iain Ramsey ของ Australia
สำหรับ Suzuki Cup 2016 พวกเราต้องค้นหาผู้เล่นหลัก 6 คนเพื่อรักษาระดับในปัจจุบัน
แต่โดยทั่วไปยังคงพูดถึงการพัฒนาผู้เล่นต่างชาติที่จะมาเล่นให้ Azkals การใช้คนท้องถิ่นชาว Philippines เป็นทางเลือกที่สองไม่ก็สาม
นี่คือเหตุผลที่ควรจะปรับเปลี่ยนผู้เล่นโดยอาศัยผลผลิตจาก Academies
Breaking the ceiling
ประเทศไทย, ประเทศเวียดนาม และ ประเทศมาเลเซีย คือ ดีกว่า Azkals ในตอนนี้
บางทีอาจรวมถึงประเทศสิงคโปร์และประเทศอินโดนีเซียด้วย ถ้าพวกเขาจัดการเรื่องการเมืองภายในและส่งทีมที่ดีที่สุดมา
พวกเราทำดีที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่อีกทางหนึ่งคือมาพัฒนาบ่อน้ำของพวกเรา
ดังนั้นมันจะนำไปสู่ทางเลือกที่สอง คือ รากหญ้าเป็นทางออกเดียว วิธีการในปัจจุบันทำให้ฟุตบอลเป็นที่สนใจก็ถือว่าจำเป็น
แต่ในระยะยาว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมทีมอันดับต้นๆ ใน Southeast Asia มีผู้เล่นใหม่ๆ ที่มีคุณภาพทุกปี
พวกเราชนะเวียดนามอย่าง "เหลือเชื่อ" ในปี 2010 ที่ฮานอยและอีกครั้งในปี 2012 เป็นต้น
แต่เวียดนามก็จัดการเราในปี 2014 พวกเขาเก่งในทุกตำแหน่ง
เพราะระดับรากหญ้าของพวกเขาเหมือนสระใหญ่ๆ ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นเก่งๆ ให้เลือก
ในปี 2014 รอบ Semifinals ตอนนั้นยังคงเป็นพื้นที่สำหรับผู้เล่นต่างชาติ ยกตัวอย่างเช่น
ประเทศไทยที่มี Charyl Chappuis (Grasshoppers in Switzerland)
และประเทศเวียดนาม Mạc Hồng Quân (Sparta Prague B in the Czech Republic)
ผู้ชนะ 3 ครั้งหลังสุด มีสองผู้เล่นที่มาจาก Europe (Charyl Chappuis และ Aleksander Duric)
มันไม่ได้หมายความว่าผู้เล่นที่เติบโตในบ้านเกิดจะดีกว่า
มันคือฟุตบอลที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีในการเลือกผู้เล่นมีคุณภาพที่สามารถเรียกผู้เล่นต่างชาติเด่นๆ มาเสริมได้
มันคือความแตกต่างระหว่างการมีผู้เล่นในสระน้ำและในบ่อน้ำ
Worldwide formula
และต่อไปนี้เป็นแค่หนทางหนึ่งในการพัฒนาฟุตบอลใน Southeast Asia มันเหมือนสูตรในการข้ามไปสู่ระดับโลก
Harry Kewell, Mark Viduka, Tim Cahill, และ Mark Schwarzer (ตัวหลักใน Australia's Golden Generation)
ก่อนจะกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษ
Keisuke Honda (AC Milan), Yutu Nagamoto (Inter), Gotoku Sakai (Stuttgart), Maya Yoshida (Southampton),
และ Shinji Kagawa (Borussia Dortmund) – และก่อนหน้านี้ก็มี Shunsuke Nakamura (Celtic) และ Hidetoshi Nakata (Roma)
ก็ถูกสร้างและพัฒนาในประเทศญี่ปุ่นก่อน
ในอนาคต, ASEC Mimosas Academy ของ Ivory Coast เคยสร้าง Kolo และ Yaya Toure, Salomon Kalou,
และ Gervinho, และคนอื่นๆ ที่ช่วยประเทศผ่าน Qualify ใน World Cup 2006
ปัจจุบันสมาชิกทั้ง 23 คนที่จะไปแข่ง African Nations 2015 ล้วนจบจาก Mimosas’ academy
และทั้งหมดได้รับการพัฒนาจากภายในประเทศก่อนที่สโมสรจะเจอตัว
สูตรสำเร็จนี้เหมือนให้เป็นศูนย์การผลิต ยกตัวอย่างเช่น จากที่ Brendan Greeley เคยเขียนไว้ใน Businessweek
ที่ประเทศเยอรมันตกรอบใน Euro 2000 ในรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้แตกตื่นกันใหญ่ จนทำให้ประเทศเยอรมันสร้าง National Academies
มีการฝึกสอน 2 ปี ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ก่อนจะส่งไปยังแมวมองมืออาชีพของสโมสรใน League อีก 2 ปี
เพื่อให้แน่ใจว่าจะใช้เป็นรากฐานให้กับสโมสรได้
ผลที่ได้หลังจากนั้น คือ Julian Draxler, Andre Schürrle, Sven Bender, Thomas Müller, Holger Badstuber,
Mats Hummels, Mesut Ozil, Ilkay Gündoğan, Marco Reus, Toni Kroos, และ Mario Götze.
และ Germany 7-1 Brazil, ชนะ Argentina ในรอบ Final นี่คือผลจากการทำงานมาตลอด 14 ปี
ด้วยโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเยอรมันและประวัติศาสตร์ตอนที่ฟุตบอลเจอวิกฤติ
พวกเค้าไม่ได้คิดถึงเรื่องปีถัดไป ไม่ใช่สองปีต่อไปที่ World Cup กำลังมาถึง
พวกเขาตั้งเป้าไปที่เยาวชนและพวกเขาใช้เวลา 14 ปีต่อจากนั้น
'Soccernomic' development
แต่การคิดถึงระดับรากหญ้าไม่ได้ง่ายดายในการสร้างทีมที่ดีกว่า
ไปดูที่ USA และพวกเราเห็นความนิยมใน Football กำลังมาจากเยาวชน
กระแสคลื่นของเด็กๆ ถูกจับจ้องและประเมินไว้ที่ประมาณ 13 ล้านคนที่เล่น Football
เป็นที่ชัดเจนว่าต้องใช้เวลา แต่เมื่อเด็กโตขึ้น พวกเค้าจะไม่ได้มาเป็นเพียงสินค้า แต่จะมาทั้งตลาด
พวกเขาไม่ได้มาเล่นแต่มาเพราะแฟน ตามที่ได้ประเมินไว้ 26.5 ล้านคนใน USA ดู World Cup 2014 รอบสุดท้ายระหว่าง
Germany - Argentina ทั้งที่ไม่มีคนอเมริกันอยู่ในนั้น
เพราะการเติบโตของจำนวนเด็กที่เล่นฟุตบอล, ผู้เขียนหนังสือ "Soccernomics", รวมถึงคนอื่นๆ
ได้ทำนายว่า USA (ร่วมด้วย Japan, Australia, และแม้แต่ Iraq) จะกลายมาเป็นผู้ผลิตนักฟุตบอลในไม่ช้า
ในประเทศอย่าง USA, Japan และ Australia มีหลายปัจจัยในการพัฒนาฟุตบอล
รวมถึงการปรับปรุง League ของประเทศ, สนาม, และลิขสิทธิ์การถ่ายทอด แต่ขั้นแรกก็ยังคงเป็นเยาวชน
สูตรสำเร็จเป็นเหมือนการก้าวสู่โลก คุณไม่ต้องการ League ที่ยอดเยี่ยมในการสร้างทีมชาติที่ดี
แต่คุณต้องการสร้างนักเตะที่มีคุณภาพ มากความสามารถที่จะได้เล่นใน European leagues
คุณภาพของรากหญ้าเป็นการเริ่มต้นของทุกๆ อย่าง
ในส่วนที่สองเราจะมองไปที่ระดับรากหญ้าของฟุตบอลกับชาว Philippines และดูว่าอะไรที่เรียนเรียนรู้จาก J-League
โดย JST, GMA News
ที่มา
http://www.gmanetwork.com/news/story/417228/sports/football/analysis-the-azkals-have-reached-a-ceiling-and-why-grassroots-are-the-only-answer
ที่มา
http://www.bloomberg.com/bw/articles/2014-07-08/how-germanys-14-year-soccer-plan-crushed-brazil-in-world-cup
ปล. ทั้งนี้ใน Page ของ Philippine National Football Team ส่วนใหญ่มีแต่รายงานอันดับ FIFA ของตนเอง
ซึ่งตอนนี้อยู่อันดับที่ 132 ร่วมกับเวียดนาม
ขอบคุณที่อ่านจนจบ
บทความจาก Philippine กับการยกระดับฟุตบอลของทีมชาติ ตอนแรก
The Azkals (ชื่อเรียก) ประสบความสำเร็จมากมาย แต่ยังไม่สามารถก้าวไปสู่ระดับที่สูงกว่านี้ได้
First of a series
หลังจากตกรอบ Semifinal ใน Suzuki Cup สิ่งหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในวงการฟุตบอล Philippine คือ นี่เป็นขีดจำกัดของเราแล้วหรือ ?
ตั้งแต่จบปี 2014, เป็นประเทศไทยที่ได้สอนบทเรียนให้ Azkals อีกครั้ง ด้วยทีมชาติสายเลือดใหม่ของช้างศึก
ที่มีผู้เล่น 5 คนจากปี 2012 มาเล่นในปี 2014
แม้เราจะมีอันดับ FIFA เป็นที่ 1 ในแถบ Southeast Asia, การแพ้ต่อไทยสร้างความชัดเจนให้แก่ Philippines
ที่ยังห่างไกลและถูกทิ้งไว้เบื้องหลังในภูมิภาคนี้
เป้าหมายที่เปลี่ยนไปสู่ World Cup Qualifiers, เป็นที่แน่นอนว่ามันเป็นอีกก้าวที่ใหญ่มาก
ดังนั้นตั้งแต่ปี 2015 เราจะเริ่มมองไปข้างหน้า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะสั่งสมสิ่งที่เราต้องการจะทำ
ถ้าพวกเราต้องการก้าวข้ามถ้วย Suzuki Cup และถ้าพวกเราต้องการเข้ารอบ World Cup Qualifiers ในสักวันหนึ่ง
Children of the diaspora
The Azkals ปัจจุบันประสบความสำเร็จในการค้นหาเด็กผลัดถิ่นและนำพวกเขากลับมาเล่นให้ Philippines
นั่นช่วยให้วงการฟุตบอล Philippine เติบโต ไม่แปลกใจที่ Younghusbands, Greatwiches, Hartmanns, Gier และคนอื่นๆ
สามารถปรับตัวในทีมได้ ต้องยกความชอบให้ด้านการบริหารจัดการของ Azkals และ UFL
แต่นี่คือปัจจัยที่ทำให้ติดค้างอยู่ที่ระดับเดิม
ส่วนหนึ่งมาจากด้านตัวเลขพื้นฐาน ที่เรามีผู้เล่นแค่ 10% จากจำนวนประชากรทั้งหมดและนั่นทำให้ Azkals พบอุปสรรค
ในการเปลี่ยนจากสระน้ำให้เป็นมากกว่าบ่อน้ำ
สิ่งที่ช่วยอธิบายว่าทำไม Azkals ยังคงอยู่ในอันดับเดิมๆ , Phil Younghusband เป็นตัวแนวรุกเพียงคนเดียว
และเมื่อ Rob Gier และ Juani Guirado อายุ 33 และ 35 เริ่มใกล้ถึงจุดสิ้นสุดในการท้าแข้ง
ในขณะที่ Amani Aguinaldo จะเป็นผู้เล่น Center Back คนเดียวที่เคยผ่านระดับทีมชาติของประเทศนี้
ปัญหาอื่นๆ คือเรื่องพื้นฐาน : business class flights, ค่าเบี้ยเลี้ยง และ เงินพิเศษ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ส่งถึงผู้เล่นน้อยมาก
และการค้นพบใหม่คือ ค่าใช้จ่ายในการผลิตให้ได้ผู้เล่นแต่ละคนสูงมาก
อีกปัญหาคือผู้เล่นต่างชาติ ยกตัวอย่างเช่น Alvaro Silva ที่เคยผ่านการเล่นใน La Liga ไม่สามารถปรับตัวกับทีมได้
ไม่ว่าจะด้วยการสื่อสารและวัฒนธรรม อีกทั้งผู้ล่นที่ดีจริงๆ ก็ไม่ต้องการมาเล่นให้ทีมชาติ เพราะจะเสียโอกาสติดทีมชาติที่อื่น
ยกตัวอย่างเช่น Iain Ramsey ของ Australia
สำหรับ Suzuki Cup 2016 พวกเราต้องค้นหาผู้เล่นหลัก 6 คนเพื่อรักษาระดับในปัจจุบัน
แต่โดยทั่วไปยังคงพูดถึงการพัฒนาผู้เล่นต่างชาติที่จะมาเล่นให้ Azkals การใช้คนท้องถิ่นชาว Philippines เป็นทางเลือกที่สองไม่ก็สาม
นี่คือเหตุผลที่ควรจะปรับเปลี่ยนผู้เล่นโดยอาศัยผลผลิตจาก Academies
Breaking the ceiling
ประเทศไทย, ประเทศเวียดนาม และ ประเทศมาเลเซีย คือ ดีกว่า Azkals ในตอนนี้
บางทีอาจรวมถึงประเทศสิงคโปร์และประเทศอินโดนีเซียด้วย ถ้าพวกเขาจัดการเรื่องการเมืองภายในและส่งทีมที่ดีที่สุดมา
พวกเราทำดีที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่อีกทางหนึ่งคือมาพัฒนาบ่อน้ำของพวกเรา
ดังนั้นมันจะนำไปสู่ทางเลือกที่สอง คือ รากหญ้าเป็นทางออกเดียว วิธีการในปัจจุบันทำให้ฟุตบอลเป็นที่สนใจก็ถือว่าจำเป็น
แต่ในระยะยาว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมทีมอันดับต้นๆ ใน Southeast Asia มีผู้เล่นใหม่ๆ ที่มีคุณภาพทุกปี
พวกเราชนะเวียดนามอย่าง "เหลือเชื่อ" ในปี 2010 ที่ฮานอยและอีกครั้งในปี 2012 เป็นต้น
แต่เวียดนามก็จัดการเราในปี 2014 พวกเขาเก่งในทุกตำแหน่ง
เพราะระดับรากหญ้าของพวกเขาเหมือนสระใหญ่ๆ ที่เต็มไปด้วยผู้เล่นเก่งๆ ให้เลือก
ในปี 2014 รอบ Semifinals ตอนนั้นยังคงเป็นพื้นที่สำหรับผู้เล่นต่างชาติ ยกตัวอย่างเช่น
ประเทศไทยที่มี Charyl Chappuis (Grasshoppers in Switzerland)
และประเทศเวียดนาม Mạc Hồng Quân (Sparta Prague B in the Czech Republic)
ผู้ชนะ 3 ครั้งหลังสุด มีสองผู้เล่นที่มาจาก Europe (Charyl Chappuis และ Aleksander Duric)
มันไม่ได้หมายความว่าผู้เล่นที่เติบโตในบ้านเกิดจะดีกว่า
มันคือฟุตบอลที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีในการเลือกผู้เล่นมีคุณภาพที่สามารถเรียกผู้เล่นต่างชาติเด่นๆ มาเสริมได้
มันคือความแตกต่างระหว่างการมีผู้เล่นในสระน้ำและในบ่อน้ำ
Worldwide formula
และต่อไปนี้เป็นแค่หนทางหนึ่งในการพัฒนาฟุตบอลใน Southeast Asia มันเหมือนสูตรในการข้ามไปสู่ระดับโลก
Harry Kewell, Mark Viduka, Tim Cahill, และ Mark Schwarzer (ตัวหลักใน Australia's Golden Generation)
ก่อนจะกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษ
Keisuke Honda (AC Milan), Yutu Nagamoto (Inter), Gotoku Sakai (Stuttgart), Maya Yoshida (Southampton),
และ Shinji Kagawa (Borussia Dortmund) – และก่อนหน้านี้ก็มี Shunsuke Nakamura (Celtic) และ Hidetoshi Nakata (Roma)
ก็ถูกสร้างและพัฒนาในประเทศญี่ปุ่นก่อน
ในอนาคต, ASEC Mimosas Academy ของ Ivory Coast เคยสร้าง Kolo และ Yaya Toure, Salomon Kalou,
และ Gervinho, และคนอื่นๆ ที่ช่วยประเทศผ่าน Qualify ใน World Cup 2006
ปัจจุบันสมาชิกทั้ง 23 คนที่จะไปแข่ง African Nations 2015 ล้วนจบจาก Mimosas’ academy
และทั้งหมดได้รับการพัฒนาจากภายในประเทศก่อนที่สโมสรจะเจอตัว
สูตรสำเร็จนี้เหมือนให้เป็นศูนย์การผลิต ยกตัวอย่างเช่น จากที่ Brendan Greeley เคยเขียนไว้ใน Businessweek
ที่ประเทศเยอรมันตกรอบใน Euro 2000 ในรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้แตกตื่นกันใหญ่ จนทำให้ประเทศเยอรมันสร้าง National Academies
มีการฝึกสอน 2 ปี ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ก่อนจะส่งไปยังแมวมองมืออาชีพของสโมสรใน League อีก 2 ปี
เพื่อให้แน่ใจว่าจะใช้เป็นรากฐานให้กับสโมสรได้
ผลที่ได้หลังจากนั้น คือ Julian Draxler, Andre Schürrle, Sven Bender, Thomas Müller, Holger Badstuber,
Mats Hummels, Mesut Ozil, Ilkay Gündoğan, Marco Reus, Toni Kroos, และ Mario Götze.
และ Germany 7-1 Brazil, ชนะ Argentina ในรอบ Final นี่คือผลจากการทำงานมาตลอด 14 ปี
ด้วยโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเยอรมันและประวัติศาสตร์ตอนที่ฟุตบอลเจอวิกฤติ
พวกเค้าไม่ได้คิดถึงเรื่องปีถัดไป ไม่ใช่สองปีต่อไปที่ World Cup กำลังมาถึง
พวกเขาตั้งเป้าไปที่เยาวชนและพวกเขาใช้เวลา 14 ปีต่อจากนั้น
'Soccernomic' development
แต่การคิดถึงระดับรากหญ้าไม่ได้ง่ายดายในการสร้างทีมที่ดีกว่า
ไปดูที่ USA และพวกเราเห็นความนิยมใน Football กำลังมาจากเยาวชน
กระแสคลื่นของเด็กๆ ถูกจับจ้องและประเมินไว้ที่ประมาณ 13 ล้านคนที่เล่น Football
เป็นที่ชัดเจนว่าต้องใช้เวลา แต่เมื่อเด็กโตขึ้น พวกเค้าจะไม่ได้มาเป็นเพียงสินค้า แต่จะมาทั้งตลาด
พวกเขาไม่ได้มาเล่นแต่มาเพราะแฟน ตามที่ได้ประเมินไว้ 26.5 ล้านคนใน USA ดู World Cup 2014 รอบสุดท้ายระหว่าง
Germany - Argentina ทั้งที่ไม่มีคนอเมริกันอยู่ในนั้น
เพราะการเติบโตของจำนวนเด็กที่เล่นฟุตบอล, ผู้เขียนหนังสือ "Soccernomics", รวมถึงคนอื่นๆ
ได้ทำนายว่า USA (ร่วมด้วย Japan, Australia, และแม้แต่ Iraq) จะกลายมาเป็นผู้ผลิตนักฟุตบอลในไม่ช้า
ในประเทศอย่าง USA, Japan และ Australia มีหลายปัจจัยในการพัฒนาฟุตบอล
รวมถึงการปรับปรุง League ของประเทศ, สนาม, และลิขสิทธิ์การถ่ายทอด แต่ขั้นแรกก็ยังคงเป็นเยาวชน
สูตรสำเร็จเป็นเหมือนการก้าวสู่โลก คุณไม่ต้องการ League ที่ยอดเยี่ยมในการสร้างทีมชาติที่ดี
แต่คุณต้องการสร้างนักเตะที่มีคุณภาพ มากความสามารถที่จะได้เล่นใน European leagues
คุณภาพของรากหญ้าเป็นการเริ่มต้นของทุกๆ อย่าง
ในส่วนที่สองเราจะมองไปที่ระดับรากหญ้าของฟุตบอลกับชาว Philippines และดูว่าอะไรที่เรียนเรียนรู้จาก J-League
โดย JST, GMA News
ที่มา http://www.gmanetwork.com/news/story/417228/sports/football/analysis-the-azkals-have-reached-a-ceiling-and-why-grassroots-are-the-only-answer
ที่มา http://www.bloomberg.com/bw/articles/2014-07-08/how-germanys-14-year-soccer-plan-crushed-brazil-in-world-cup
ปล. ทั้งนี้ใน Page ของ Philippine National Football Team ส่วนใหญ่มีแต่รายงานอันดับ FIFA ของตนเอง
ซึ่งตอนนี้อยู่อันดับที่ 132 ร่วมกับเวียดนาม
ขอบคุณที่อ่านจนจบ