การขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา เผื่อเป็นแนวทาง

กระทู้สนทนา
ดิฉันเพิ่งไปสัมภาษณ์มาอาทิตย์ที่แล้ว ตั้งใจว่าถ้าผลวีซ่าออกจะมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง เผื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนที่กำลังขอวีซ่าอยู่ อ้อผลคือดิฉันได้วีซ่าท่องเที่ยว 10 ปีค่ะ

       เริ่มเลยนะคะ ข้อมูลส่วนตัวคือ เป็นหญิงโสด อายุ 40 ปี ช่วยธุรกิจที่บ้านมา 10ปี เงินเดือน 20,000บาท มีแฟนเป็นชาวอเมริกัน ทำงานให้รัฐด้านการวิจัย (เป็นสาเหตุให้ได้ไปขอวีซ่าท่องเที่ยว) ที่บ้านเป็นร้านขายปุ๋ยจดทะเบียนการค้าชื่อพ่อ และดิฉันมีหุ้นในบริษัทจดทะเบียน 2 แห่ง เคยเดินทางไป ออสเตรเลีย 3 ครั้ง ญี่ปุ่น 3 ครั้ง สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ มาเลเชีย สิงคโปร์ อินโดนีเชีย เคยทำงานเป็นแอร์ตอนอายุ 27ปี ทำได้ไม่ถึงปีก็ลาออกค่ะ

           แฟนที่คบกันอยู่มาหาที่ไทยทุกหกเดือน มาคราวนี้แฟนชวนให้ไปเที่ยวบ้านเขาบ้าง งานเข้าเลยค่ะ เพราะดิฉันไม่เคยคิดอยากไปเที่ยวอเมริกา แต่ที่จะไปครั้งนี้ คิดถึงเวลาที่ต้องไปเยี่ยมบ้านเข้าบ้าง แต่ดิฉันไม่อยากอ้างถึงแฟนตอนยื่นวีซ่า เพราะเคยอ่านเจอว่า ถ้าเอยถึงแฟนจะโดนให้ไปขอวีซ่าคู่หมั้นแทน แต่ถ้าไม่พูดถึงก็กลัวว่า ถ้าวันข้างหน้าเกิดแต่งงานกัน ทางสถานทูตจะหาว่าโกหกเรื่องแฟน แฟนดิฉันก็อยากให้พูดถึงเขาค่ะ สุดท้ายเป็นอันตกลงว่าจะไม่พูดถึงแฟน ถ้าเขาไม่ถามค่ะ

           ดิฉันเริ่มหาข้อมูลจากพันทิป และกรอกใบสมัคร DS 160 ตามขั้นตอนที่อธิบายไว้ในนี้ http://ppantip.com/topic/32189283 มีประโยชน์มากค่ะ และขอขอบคุณทุกกระทู่ในนี้นะคะ

      เริ่มจากกรอก Online nonimmigrant visa application หรือ DS-160  ขออธิบายส่วนของปันหาที่ดิฉันเจอในแต่ส่วนนะคะ
อ้อสามารถเลือกภาษาไทยได้นะคะ ถ้าให้แปลก็คลิกแช่ตรงข้อความที่เราจะให้แปล และจะมีกล่องข้อความเป็นภาษาขึ้นมา

              
Personal,Address,Phone,And passport Information
ปันหาที่พบคือใส่ / ในส่วนของบ้านเลขที่ไม่ได้ ดิฉันใส่เป็นคำว่า tub เลยค่ะ โทรไปถามกะสถาทูตมาเขาว่าใส่เป็นทับศัพท์เลย

    Travel Information
ใส่ที่อยู่ที่เราจะไปพัก ดิฉันใส่ที่อยู่โรงแรมค่ะ

    
U.S.Contact Information
ถ้าไม่มีคนรู้จัก ก็เลือก NO และกรอกชื่อโรงแรมในข้อ Organization name in the U.S.

    
Family Information
ไม่มีปันหาอะไร

Work/Education/Training information
ตรงนี้สำคัญค่ะ ข้อ  Briefly Describe your Duties: กรอกให้ละเอียดค่ะ ดิฉันกรอกว่าร้านธุรกิจอะไร ดิฉันทำตำแหน่งอะไร ตั้งแต่ปีไหน ทำหน้าที่อะไร มีอาชีพเสริมอะไร และทำอะไรบ้าง
         ส่วนอื่นก็ไม่มีปันหาค่ะ อ้อ แต่บางคนอาจมีถามเพิ่มเติมเรื่องเคยเข้ารับการอบรมที่ไหนมาก่อน และเคยไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง ของดิฉันไม่มีค่ะ
ต่อมาก็สร้างบัญชีผู้ใช้ค่ะ เข้าไปที่เว็ป http://www.ustraveldocs.com/th
และกรอก Application no.  ในช่อง ช่องหมายเลขยื่นแบบฟอร์ม DS-160 ระบบจะพาไปจนถึงหน้าการชำระเงิน พิมพ์ใบ pay In ออกมา และไปจ่ายเงินที่ธนาคารกรุงศรีใกล้บ้าน  ตอนนี้ไม่ต้องรอเมล์ยืนยันการชำระเงินแล้วนะคะ หลังจากจ่ายเงินแล้ว วันถัดไปก็ไปทำการนัดได้เลยค่ะ

              เมื่อยื่นยันวันนัดแล้วถ้ายังไม่พิมพ์ก็เลือกให้ส่งเมล์มาให้ก่อนก็ได้ค่ะ

         วันสัมภาษณ์
ดิฉันลุ้นตั้งแต่วันที่เสียเงินค่าสมัครวีซ่า กลัวไม่ได้ เสียดายเงินค่ะ เลยรีบนัดสัมภาษณ์จะได้ไม่ต้องลุ้นนาน
เอกสารที่นำไปนะคะ
1.    ใบ Confirmation DS-160
2.    Passport ทุกเล่ม
3.    ใบ pay in
4.    Appointment confirm
5.    จดหมายยื่นยันให้ดิฉันลางานได้ โดยดิฉันมีตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป พ่อเป็นคนเซ็นอนุญาต ในตำแหน่ง Direct manager ค่ะ พร้อมแนบสำเนาใบจดทะเบียนการค้า และสำเนาหนังสือเดินทางของพ่อ(ดิฉันเคยยื่นแบบนี้ตอน ขอวีซ่าเชงเก้นค่ะ)
-    ในจดหมายระบุปีที่เริ่มทำงาน เงินเดิน ระยะเวลาการท่องเที่ยว และวันที่จะกลับมาทำงาน อันนี้ต้องให้เครดิสคุณแฟนที่ช่วยแก้ไขคำพูดให้สวยงาม คือเขาพยายามอยากช่วยค่ะเลยให้งานแบบนี้เขาไป)
6.    หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัททั้งสองแห่ง
7.    แผนการท่องเที่ยว และจดหมายแนะนำตัว
8.    เอกสารเกี่ยวกับที่มาของรายได้อื่นๆ เนื่องดิฉันกรอกว่าได้เงินเดิน 20,000 บาท แต่ในบัญชีธนาคารมีเงินหมุนเวียนหลักแสนค่ะ เกรงว่าจะไม่สมเหตุสมผล สิ่งที่เตรียมไปเพิ่มมีทั้งหลักฐานการโอนเงินค่าของ และใบเรียกเก็บเงินในนามดิฉัน
9.    สมุดบัญชีธนาคารทุกเล่ม มีเล่มเดียวที่มียอดคงเหลือ 120,000 เล่มอื่นแค่รับเงินโอนเข้าและถอนออกมาเท่านั้นแต่ละบัญชีเหลือร้อยกว่าบาท
10.    รูปถ่าย

            วันสัมภาษณ์ดิฉันนัดเวลา 9.45 น. ดิฉันไปถึงก่อนครึ่งชั่วโมง แวะเอากล้องไปฝากที่ร้านขายน้ำผลไม้ที่ตลาด คือดิฉันต้องไปงานต่อเลยเอากล้องมาด้วย และตั้งใจจะฝากอยู่แล้ว ก็ถามคนแถวนั้น ว่าร้านอยู่ไหน พอฝากของเสร็จก็มาเข้าแถว สักพักเจ้าหน้าที่ตรวจชื่อตามนัดแจ้งให้ทุกคนที่มาใหม่นำหนังสือเดินทางและ ใบ DS-160 ออกมา หลังจากเช็ดชื่อแล้วเจ้าหน้าที่จะให้บัตรสีม่วงแนบมากับหนังสือเดินทาง บัตรนี้จะถูกพี่ยามเก็บไปตอนเข้าตรวจร่างกายค่ะ

         ป.ล. พี่ยามไม่ดุนะคะ แต่แกพูดเสียงดัง ระหว่างรอแกก็คุยดีค่ะ

                  ผ่านการตรวจร่างการตรวจกระเป๋ามาจะเจอจุดตรวจเอกสารดังนี้นะคะ

        จุดที่ 1 จะเรียกตรวจเอกสารตามเวลานัดคะ เอกสารที่ขอดูมีแค่หนังสือเดินทางและใบ DS-160 และจะแนบใบที่อยู่ที่  ที่มี tacking number มากับหนังสือเดินทาง จดtacking number ไว้นะคะ

       จุดที่2 อยู่ในอาคารค่ะ มีสามช่อง ดิฉันยื่นเอกสารที่จุดที่ 1 จัดให้(ห้ามไปแกะใบ DS-160 ออกจากหนังสือเดินทางนะค่ะ ไม่งั้นโดนดุ)ให้เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ถามแค่ว่าเคยเปลี่ยนนามสกุลไหม ดิฉันตอบว่าเคยเปลี่ยนกันทั้งบ้านตั้งแต่สมัยเด็กๆ และแจ้งนามสกุลเดิม และพิมพ์ลายนิ้วมือ เจ้าหน้าที่น่ารักมากค่ะใจเย็นพูดเพราะ และบอกให้ดิฉันไปรอยื่นยันลายนิ้มมือที่ช่อง 11

       จุดที่ 3 ไม่ต้องยื่นเอกสารนะคะ เอาด้านที่มี Bar code แนบกับกระจก ให้ฝรั่งข้างในยิง Bar code และสแกนลายนิ้วมืออีกครั้ง ไม่ถามอะไรดิฉันเลย ชักกังวลแล้วสิ

      จุดที่ 4 คือจุดสัมภาษณ์ค่ะ ดิฉันได้สัมภาษณ์กับกงสุลหนุ่มเอเชีย หล่อมาก ดิฉันแอบมองตั้งแต่ตอนรอแล้ว เห็นบางคนที่สัมภาษณ์ด้วยก็ไม่ผ่าน พอถึงคิวดิฉัน ท่านกงสุลขอแค่หนังสือเดินทางและ ใบ DS-160 ค่ะ อย่างอื่นไม่ขอดูเลย ดิฉันพยายามยัดเยียดให้ก็ไม่ดู

        คำถามนะคะ

ท่านกงสุล: ไปเที่ยวที่ไหนครับ
ดิฉัน : วอชิงตันดี ซี ค่ะ ปกติดิฉันไปเที่ยวทุกปีอยู่แล้ว (ต้องสร้างประเด็นให้ถามต่อ)

ท่านกงสุล: เคยไปเที่ยวที่ไหนบางครับ
ดิฉัน: ออสเตรเลีย 3 ครั้ง (ท่ากงสุลบอกให้ยื่นชิดไปทางซ้ายจะได้ได้ยินชัดๆ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะได้พักขาบ้าง ดิฉันพิงสุดตัวเลยค่ะ ) ไปญี่ปุ่น 3 ครั้ง อิตาลิ สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และประเทศในแถบเพื่อนบ้านค่ะ

ท่านกงศุล: ไปคนเดียวเหรอครับ (ยิ้มน่ารักมากค่ะ แอบเคลิ้ม)
ดิฉัน: ตั้งใจจะไปกับเพื่อนๆ ค่ะ แต่เพื่อนยังกรอกใบสมัครไม่เรียบร้อย ดิฉันไม่มั่นใจว่าเพื่อนๆ จะเปลี่ยนใจไหมเลยลงในใบสมัครว่าไปคนเดียวค่ะ ปกติดิฉันมักไปเที่ยวกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ ค่ะ (ตอบตามจริงเลยค่ะ)

ท่านกงสุล:ไปเที่ยวกับใคร
ดิฉัน: อย่างล่าสุดที่ไปเกาหลีใต้ ดิฉันไปกับหลานสาว น้องสาวและเพื่อนๆ ค่ะ ประมาณ 13 คน
ท่านกงสุล: ทำงานที่....(พยายามออกเสียงชื่อร้าน)
เราจึงทวนชื่อร้านให้ และท่านกงสุลถามต่อว่าตำแหน่งอะไร

ดิฉัน: ตำแหน่ง General manager ค่ะ และดิฉันมีหุ้นในบริษัทที่จดทะเบียนทำธุรกิจใหม่ด้วย (พยายามยื่นเอกสารให้ ท่ากงสุลไม่แลเลยสักแผ่น)
ท่านกงสุลนั่งพิมพ์อะไรสักอย่างและเอา passport ดิฉันไปไปวางไว้ที่กองpassport ข้างตัว แล้วหันมาบอกดิฉันว่า คุณจะได้รับหนังสือเดินทาง คืนภายใน สองถึงสามวันนะครับ และยิ้มให้อย่าง nice ดิฉันยิ้มให้ท่านอย่างแฉ่งเลยค่ะ และขอบคุณท่านมาก ลืมอาการปวดขา เท้าเป็นตะคิวไปหมด ดันประตูแสนหนังออกมา และรับมือถือคืน

ดิฉันพบว่า


-    ถ้ากรอกแบบฟอร์ม DS-160  ผิดและยื่นยันไปแล้ว สามารถเริ่มไปกรอกใหม่ได้ค่ะ โดยพิพม์ใบยืนยันของอันไหมออกมาและนำไปในวันสัมภาษณ์ และเข้าไปแก้เลขหมายยื่นยันแบบฟอร์ม DS-160 ในการยืนยันนัดสัมภาษณ์วีซ่าและพิมพ์ใบใหม่ออกมา

-    ควรกรอกใบสมัคร DS-160 ให้ละเอียดค่ะ

-    ตั้งแต่คุณมาเข้าแถวรอเข้าตรวจร่างกายจนจบการสัมภาษณ์คุณจะไม่ได้นั่งเลยค่ะ

-    เอกสารที่เตรียมไปตั้งแต่ ข้อ 3-10 ไม่ได้ใช้เลยค่ะ หนังสือเดินทางเล่มเก่าก็ไม่ได้ใช้

สุดท้ายนี้ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ ดิฉันเป็นมือใหม่หัดโพสค่ะ ใครมีข้อสงสัยอะไรก็ถามได้นะคะ ยินดีช่วยเหลือเท่าที่ประสบการณ์ที่มีจะช่วยได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่