ความภูมิใจเล็กๆ ของมนุษย์เงินเดือนหมื่นกว่าบาท ที่หัดเล่นหุ้น

ขอเกริ่นนำประวัติตัวเองคร่าวๆ ก่อนนะคะ...ปัจจุบันอายุ 25 ปี จบม.รัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่บ้านจน พ่อแม่แยกทาง เป็นหนี้ธนาคารเป็นล้านๆ กู้เงินกยศ.
ตอนเรียนก็ทำงาน Part time ประทังชีวิตไปวันๆ ค่ะ แต่ก็สนุกดี ไม่ได้คิดว่าชีวิตเดือดร้อนอะไร ทุกวันนี้มีแต่คนมาเล่าปัญหาชีวิตให้ฟัง (ในใจนี่ ตรูปัญหาเยอะกว่าพวกท่านๆ สะอีก 555)...ปัจจุบันทำงานเอกชนแห่งหนึ่ง เงินเดือนประมาณ 16,000 กว่าบาท (หักทุกอย่างแล้ว) ทำมาได้เกือบ 2 ปี (ที่ทำงานไม่มีโบนัสนะคะ แต่ทำงานสบายๆ ใกล้บ้าน บริษัทก็ใหญ่พอสมควร)

จุดเริ่มต้นของการเล่นหุ้นเกิดจากเดินผ่านโต๊ะพี่ที่ทำงานแล้วแอบเห็นพี่แกเปิดพอร์ตหุ้นทิ้งไว้ ตอนนั้นด้วยความจนที่มีเงินเก็บประมาณ 60,000 กว่าบาท
(เงินเก็บมาจากที่ทำงานปัจจุบัน เริ่มต้นด้วย 0 บาทเลยจ้า ^^) อยู่ๆ ก็มีความคิดที่ว่าไอ้หุ้นนี่มันจะช่วยให้มีเงินเพิ่มขึ้นมาได้ป่ะเนีย เลยลองศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองดู (พี่ที่ทำงานบอกไม่สอน อยากรู้ไรไปหาอ่านเอง 555)

ย้อนกลับไปที่เงิน 60,000 ก่อนค่ะ จะบอกว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 7 เดือน เอาไปฝากประจำ 3 ปี กับธนาคารแห่งหนึ่ง แต่ด้วยการถอนก่อนกำหนดจึงได้ดอกเบี้ยมา 5 บาท ย้ำค่ะ!!!! 5 บาท!!! ซึ่งต้องเขียนคำขอถอนเงินทุกรายการ นั่งกรอกข้อมูลเป็น 10ๆ ใบ มือหงิกเลยค่ะ และกว่าจะได้เงินรอไปประมาณ 1 ชม. เต็มๆ
...ในใจนี่กรี๊ดดดดดเลยค่ะ โอ้! แม่เจ้าตรูเอาเงินไปดองไว้ทำไมเนีย...

ครั้งแรกที่เล่นหุ้น (5 พ.ค.57) ก็เริ่มจากเงินเพียงครึ่งเดียวของตัวเอง ประมาณ 30,000 บาท สำหรับลองผิดลองถูก (คัทไปหลายครั้งอยู่ 555) แล้วก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเดือนละ 5,000 บ้าง 2,000 บ้าง แล้วแต่อารมณ์ช๊อปปิ้งเดือนนั้นๆ ค่ะ จนกระทั่งเกือบสิ้นปีก็เอาเงินที่มีทั้งหมดใส่พอร์ตให้หมด ซึ่งเงินก็เพิ่มไม่กี่พันบาท เพราะทุนน้อยค่ะ

คราวนี้มาดูสไตล์การเล่นมั้งค่ะ จากการศึกษามาหลายตำราก็เห็นมีแต่แนะนำให้เป็น VI แต่ในความเป็นจริงมันขัดกับธรรมชาติของตัวเองมากค่ะ
พอเห็นหุ้นได้กำไรหลักร้อยก็ขายแล้วค่ะ เพราะคิดว่ายังไงก็คุ้มกว่าไอ้ 5 บาทที่ไปฝากประจำกับธนาคารค่ะ โดยช่วงแรกๆ ก็เน้นหุ้นพื้นฐานดี
บริษัทดังๆ ที่รู้จัก แต่เหมือนจะเข้าผิดจังหวะทุกรอบ ทำพอร์ตแดงเป็นเดือนๆ เล่นเอาคนเพิ่งหัดเล่นเซง และไม่สนุกเลยค่ะ

สุดท้ายค้นพบตัวเอง แต่คงเป็นวิธีที่หลายคนคงคัดค้าน เพราะหลังๆ จะไม่เน้นดูหุ้นพื้นฐาน สิ่งที่เน้นคือ
1. เล่นหุ้นราคาไม่เกิน 3 บาท (มีหุ้นประจำ ที่นั่งมองมันขึ้น-ลงมาเป็นเดือนๆ ค่ะ)
2. ส่วนมากตั้งขายไม่เกิน 2 จุด เอาแบบไม่โลภ แค่ได้เงินค่าขนมก็ดีใจแล้วค่ะ (ตั้งตอนกลางคืนที่บ้าน)
3. ถ้าวันนั้นหุ้นวิ่งก็ไม่คิดไรเลยค่ะ ขายทันที
4. ดูปฏิทินวันออก XD คือลองเอาหุ้นที่จะประกาศ XD ทั้งหมดมานั่งคำนวน อันไหนได้เยอะสุดก็ซื้อตัวนั้น
(ติดดอยก็ทำใจ ถือนานหน่อย แต่ที่ผ่านมายังไงมันก็ขึ้นมาเท่าทุน...เพราะทุนน้อย 555)

จริงๆ อยากเอารูปการซื้อขายมาลงให้ดู แต่เพิ่งสมัคร Pantip เห็นมันไม่ให้ลงรูป อิอิ

พูดถึงปัจจุบันเลยนะคะ จากเดือนพฤษภาคม 2557 ปีที่แล้ว ด้วยเงินทุน 3 หมื่นบาท กับเพิ่มพอร์ตเล็กๆ น้อยๆ ไปเรื่อยๆ
ตอนนี้มีกำไรที่ได้จากหุ้น 19,800 บาทแล้วค่ะ อันนี้ยังไม่รวมปันผลที่ได้ๆ มา เกือบหมื่นนะคะ ยิ้มๆ รวมเงินทั้งหมดที่มีในพอร์ตตอนนี้ก็ 135,000 บาท
เย้ๆ เย้ๆ ^^ ซึ่งไม่คิดว่าตัวเองจะเก็บเงินได้หลักแสน 555...(เพราะเงินเดือน หักค่าครองชีพ หักค่ากินเยอะ หักเงินกยศ. หักซื้อของ ซื้อของให้พ่อแม่อีก
ไปเที่ยวอีก หมดตัวครัช)

นี่เหละค่ะ ความภูมิใจเล็กๆ น้อยๆ ที่อยากแบ่งปันให้สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้นทุนทางสังคมไม่ค่อยดี ซึ่งอย่าไปท้อค่ะ มีเท่าไหร่ก็พยายามเก็บๆ
เอาที่ตัวเองสบายใจเลยจ้าาาาาา...จริงๆ อยากมีเงินเก็บเป็นหลักล้านภายในอายุไม่เกิน 30 นี้ มีใครมีความคิดเห็นดีๆ เล่าสู่กันฟังมั้งเน้อออ...


****วิธีเริ่มเล่นหุ้นของจขกท. ได้อธิบายไว้ที่ความคิดเห็นที่ 119 ลองเลื่อนลงไปอ่านดูนะคะ ต่อไปคงเข้ามาไม่บ่อย อาจจะไม่ค่อยได้ตอบค่ะ ^^***
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 44


รักษาวินัยครับ ต่อไปครับ ผมก็เริ่มต้นจากหลักหมื่นเช่นกัน
ความคิดเห็นที่ 102
มือใหม่ ร้อยทั้งร้อย ที่ต้องการเล่นหุ้น เป้ดพอร์ท ต่างๆนาๆ ต้องการกำไรแบบ ชั่วข้ามคืนทั้งนั้น
ขอกำไรเป็นค่าขนมนิดหน่อย (หลักร้อย) ตลาดหุ้น ถ้าเข้ามาเพื่อ"เล่น" ไม่ต่างอะไรกับบ่อนการพนัน
ที่มี"เจ้า" หรือ คนคุมราคา ไม่มีทางที่จะกำไรได้จากบ่อนการพนันยกตัวอย่างเช่น ตรรกะง่าย casino
ที่ ลาสเวกัส คนเช้าไปวันนึง ๆ ไม่รู้กี่พัน กี่หมื่นคน เจ้าของกิจการรวยเอา ๆ เพราะทุกคนคิดว่าเก่งกว่าเจ้ามือ
ฉันนี่หละแน่ ฉันมีทริค เจ้าตามไม่ทันหรอก หรือไม่ก็ฉันเอาแค่ พัน2พัน ก็พอแล้ว แต่เอาเข้าจริง พอมันได้มันยิ่งมันส์
อยากได้เพิ่ม เล่นต่อ มันก็หมดทั้งกำไร รวมถึงทุนก็เป็นได้ น้อยคนนักที่จะรอดไปจาก บ่อนพวกนี้ ตอนยังไม่ลงเงินจริง
อะไรๆก็สวยงามไปหมด พอถึงเวลาเล่นจริงเทรดจริง ตลาดลงจริง หน้ามืดหมดครับ

  ตลาดหุ้นก็เช่นกัน คนที่เข้ามาใหม่ ๆ มักจะได้เงินง่ายจริงๆ อันนี้ยอมรับเลย จิ้มปุ๊บขึ้นปั๊บ 3-5% ภายใน 5 นาที 10 นาที
กลิ่นเงินมันหอมหวลตลบอบอวนไปทั่งตลาด จิ้มตัวไหนวิ่งกันอุดตลุด แล้วก็ตั้งตัว ว่าข้าแน่ ข้าเก่ง เปิดเพจ ใบ้หุ้น
กัน เยอะะแยะ ตั้งกรุ๊ปไลน์แชร์หุ้น หนักหน่อยก็เปิดสอน อ้างเป็นแม่มดมั่งไรมั่ง สอนฟรีงั้นงี้โง้น หลอกให้คนที่ไม่มีความรู้อะไรเลย
คิดว่าเงินมันหาง่าย 5 นาทีก็ได้เงินหมื่นแล้ว ทั้งที่ความจริงอาจจะฟลุ๊ค หรือ อารมณ์ตลาดดี หรือ อะไรก็ตามแต่  ในโลกความเป็นจริง
คนที่จิ้มแล้วขึ้นหรือกำไรตลอด ภายใน3-5 นาทีนั้นก็มีจริง แต่ขอบอกว่าน้อยมาก ๆ ๆ ๆ วินัยการเล่นต้องสูง ผิดทางต้องยอมเสีย
ตัดนิ้ว ดีกว่าเสียแขน ตัดแขนดีกว่า เสียขา เสียขาดีกว่า ตัดหัว 555 เอาเข้าจริง ๆ ผมก็ยังเชียร์ให้"ลงทุน" ในตลาดหุ้นอยู่ดี
วันนี้คุณอาจจะอยาก เล่นเองจิ้มทุกวัน มองหน้าจอทุกๆนาที หรือบางคน ไม่มีเวลา ทำงานประจำ ตั้งซื้อขายไว้กลางคืน ตอนพักกินข้าวมาดู
หรือแอบดูเวลางาน หรือแม่บ้านอยากมีรายได้เสริม หรือนักเรียนอยากมีค่าขนม จะเล่นแบบไหนก็ได้ขอให้มีกำไรเป็นถูกต้อง
แต่ซักวันคุณต้องหา "แนวทาง"ของตัวเอง ให้เจอแล้วคุณจะมีความสุขมากในตลาดหุ้นที่มีแต่ คนจ้องจะกินเงินคุณ  เริมต้นเดี๋ยวนี้มัน
ง่ายมาก อยากรู้อะไรพิมพ์หาข้อมูลเอาในอินเตอร์เนทก่อน เช่นเปิดพอร์ทยังไง เปิดกับโบรคเกอร์ไหนดี อยากมีพาสซีฟอินคัมทำอะไรดี
เงินน้อยเล่นหุ้นแบบไหนดี  โบรคเกอร์คืออะไร สารพัดคีเวิร์ดที่คุณจะนึกออก อ่าน อ่าน และอ่าน ยิ่งมีความรู้เยอะปัญหาคุณจะน้อยมากๆ
"ทิศทางสำคัญกว่าความเร็ว" ผมยืนยันคำนี้ ตลาดหุ้นรอให้เราเอาเงินไปถลุงหรือจะถลุงเงินจากตลาดเข้ากระเป๋าคุณไปอีกนานแสนนาน
ไม่ต้อรีบกระโจนลงสนาม อ่านจนคิดว่าแน่พอ ก็เปิดพอร์ทลองหย่อนเงินดู สมัยนี้ 5 พันบาทก็เปิดได้แล้ว อย่าไปเชื่อคนในอินเตอ์เนทมาก
ร้อยพ่อพันแม่ (รวมถึงผมด้วย) บางคนหวังดีก็โชคดีของคุณไป บางคนมีจุดประสงค์แอบแฝง ไม่รู้จะพิมพ์ไรอีก ตาลายแล้ว 555 ขอบคุณที่ทนอ่านครับ
ความคิดเห็นที่ 119
บางทีคอมเมนต์ก็เยอะไปนะคะ จขกท.ไม่รู้จะตอบยังไงหมด และต้องขออภัยที่ไม่ได้ตอบหลังไมล์เลย เพราะถามๆ มาเหมือนกันหมด ซึ่งบางคำถามก็ยากไป จขกท.ความรู้น้อย ประสบการณ์แค่ไม่ถึงปี กลัวไปแนะนำไรแบบผิดๆ แล้วจะซวยเอา 555

ก่อนอื่นขออธิบายเรื่องที่คาใจ จขกท. ที่อยากเคลียร์ตัวเองก่อนเลย คือ วิธีที่จขกท.ใช้ในตลาดหุ้น อันนี้ขอยอมรับเลยว่าต้องใช้คำว่าเล่นหุ้น ไม่ใช่ลงทุนในหุ้น ซึ่งขอน้อมรับแต่โดยดี (รู้ตัวๆ 555) แต่อย่างที่เคยบอก เคยเลือกหุ้นพื้นฐานดีแล้ว กะเป็น VI ตามตำราบอกแล้ว แต่มันทำไม่ได้จริงๆ ค่ะ ตอนนี้จิตใจยังอ่อนไหวกับเงินหลักร้อยอยู่ อีกอย่างจขกท. มีไอดอลเป็นเซียนหุ้นท่านหนึ่ง ซึ่งจะออกรายการเกี่ยวกับหุ้นบ่อยๆ (ขอไม่เอยชื่อล่ะกันนะคะ อิอิ) ที่ยกให้เป็นไอดอลไม่ใช่เพราะลงทุนในหุ้นเก่งนะคะ แต่เพราะเวลาออกรายการแล้วลุงแกจะชอบพูดไป หัวเราะไป และมักโดนคนในรายการแกล้งบ่อยๆ ดูแล้วน่ารักมากเลยค่ะ

...ขอย้อนกลับไปดราม่าปัญหาชีวิตหน่อยนะคะ ก่อนหน้านี้ที่ทางบ้านจะมีปัญหาเรื่องหนี้สิน และพ่อแม่แยกทางกันแบบไม่รู้ตัว (ครอบครัวจขกท.เคยเป็นครอบครัวอบอุ่นที่สามารถเล่าทุกอย่างในชีวิตให้ฟังได้ แล้วโดนตามใจมาตลอด อยากได้อะไร พ่อแม่หามาให้หมด แต่พอเริ่มมีหนี้สินเข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกอย่างก็แย่ลงเรื่อยๆ สุดท้ายทั้งสองก็แยกทางกันตามระเบียบ T^T) ถึงตอนนี้ไม่ต้องสงสัยนะคะว่าทำไมไม่เอาเงินไปใช้หนี้เป็นล้าน เพราะทั้งพ่อทั้งแม่ล้มละลายไปแล้วค่ะ ตอนแรกที่พาแม่ไปขึ้นศาลก็แอบกลัวๆ นะคะว่า เห้ย!! ถ้าล้มละลายแล้วชีวิตหลังจากนี้จะเป็นยังไง กลัวไปสารพัดเลยค่ะ แต่พอถึงวันไปศาลนะคะ ครั้งแรกที่เข้าไปในห้องบัลลังค์ ค้นพบสัจธรรมเลยค่ะ ไม่ใช่แค่เราคนเดียวที่ล้มละลาย แต่วันนั้นศาลเรียกมาฟังคำตัดสินล้มละลายพร้อมกัน 50 คดีเลยค่ะ (ในใจพอหัวเราะออกนิดๆ หึหึ มีเพื่อนเต็มเบย ^^)

...กลับมาเรื่องไอดอลของจขกท. ก่อนนะคะ สรุปแล้วคืออิจฉาค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ตัวเองก็เป็นคนพูดไป หัวเราะไปเหมือนกัน จนบางครั้งคนที่คุยด้วยจะถามกลับมาว่ามีอะไรน่าขำหรอ ??  เจอคำถามนี้ทีไรต้องแอ๊บเนียนทำขรึมทุกทีเลย 555 ...เล่าเรื่องไอดอลมาสะยืดยาว ยังไม่เข้าสาระเลยอ่า โทดทีค่ะๆ ^^ พอดีเคยเห็นเทปรายการหนึ่ง ที่มีไอดอลเป็นแขกรับเชิญแล้วเขาเล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นเขาก็มาจากไม่มีอะไรเลยเหมือนกัน จนมารู้จักกับตลาดหุ้นช่วงแรกๆ ก็ใช้วิธีซื้อมา ขายไป เหมือนกัน เพิ่งจะมาเป็น VI ตอนพอร์ตค่อนข้างใหญ่นี่เหละ (อันนี้จขกท. พยายามอธิบายให้เข้าใจว่าตอนนี้คิดไรอยู่ ถึงได้เล่นหุ้นแบบนี้ 555)

...คอมเมนต์นี้อาจยาวไปสักนิดนะคะ...วันนี้ตั้งใจเข้ามาเขียนครั้งสุดท้ายแล้วค่ะ เพราะเคยรับปากไว้ว่าจะมาอธิบายขั้นตอนของตัวเองให้ฟังว่าเริ่มต้นมายังไง สำหรับคนที่เพิ่งสนใจหุ้นเหมือนจขกท

ก่อนอื่นขอให้ทุกคนลืมพอร์ตที่กำไร +หลักล้านที่เคยเห็นไปเลยนะคะ และไม่ต้องนั่งคำนวนกันถึงค่าโบรกที่เสียไป เพราะเงินที่โบรก หรือมาร์ได้ จขกท. ไม่สนใจค่ะ ขอแค่ให้ตัวเองได้เงินก็พอแล้ว (เวลาจขกท. เสียค่าโบรกก็จะคิดในใจว่า เงินซื้อกาแฟแต่ละวันยังแพงกว่านี้อีก 555)

จุดเริ่มต้น คือจากการเห็นพี่ที่ทำงานเล่น เลยอยากบ้าง ก็เริ่มจากถามพี่ที่ทำงานว่าต้องเริ่มต้นยังไง ถึงแม้พี่เขาจะไม่บอก แต่พี่เขาก็ใจดี แนะนำหนังสือให้ 1 เล่ม ชื่อ คัมภีร์หุ้น เล่ม 1 ของคุณโสภณ  ด่านศิริกุล โดยหาซื้อได้ตามร้าน SE-ED ทั่วไปค่ะ

หน้าตาหนังสือก็ประมาณนี้ (อันนี้ไม่รู้ว่าจริงๆ มันโพสชื่อหนังสือได้รึป่าว ถ้าไม่ได้ยังไงจะมาลบทิ้งนะคะ)

ก่อนหน้านี้ก็เคยอ่านหนังสือพวกการลงทุนมาบางนะคะ แต่ไม่สนุกเท่าเล่มนี้จริงๆ ค่ะ เวลาจขกท. เลือกหนังสือสักเล่มจะเลือกจากการอ่านคำนำ ไม่ค่อยได้อ่านโปรยปกหลัง (ไม่รู้ใครเป็นบ้างนะ 555) เพราะคำนำที่เจ้าของผลงานเป็นผู้เขียนจะสื่อได้ถึงจิตวิญญาณของหนังสือข้างใน เว่อร์มากกก 555 ...หลังจากอ่านจบ จขกท. ก็เริ่มศึกษาวิธีเปิดพอร์ตค่ะ

ขั้นตอนการเปิดพอร์ตอาจยุ่งยากสำหรับบางคน จนบางคนถอดใจเพราะไปเปิดพอร์ตนี่เหละ 555  (พอร์ตของจขกท. ใช้เวลาเปิด 3 วัน แต่ต้องมีเงินติดบัญชี 1 แสนบาท ...อันนี้ไปยืมคนอื่นมาติดบัญชี พอบัญชีอนุมัติก็กดคืนเงินคนอื่นไป) ...วิธีเลือกเปิดพอร์ตของจขกท. ก็เลือกจาก ฝาก-ถอนง่าย ไม่ต้องทำไรมาก คลิกเมาส์ 1 ครั้ง เงินเข้าพอร์ตทันทีเลยค่ะ (บัญชีผูกกับบัญชีเงินเดือน) และเลือกจากหน้าตาเวปค่อนข้างโอเค อัพเดทเนื้อหาตลอด ใช้งานง่าย เพราะเราเทรดเองในอินเตอร์เนท อันนี้คิดว่าสำคัญค่ะ  

พอเปิดพอร์ตเสร็จก็ไม่รอช้า เอาเงินเข้าพอร์ตทันทีเลย เพราะคิดว่ามัวแต่ศึกษา ไม่ลองเล่นเอง จะรู้ได้ไงว่ามันเป็นยังไง (เจอคนรู้จัก โดยเฉพาะคนใกล้ตัวนี่เหละค่ะ บอกแต่ว่าอย่าไปเล่นเลย มีแต่คนเจ๊งทั้งนั้น...ตอนนั้นอารมณ์เหมือนเด็ก ยิ่งว่ายิ่งยุ 555)

พอได้ลองใช้เงินตัวเองจริงๆ คราวนี้เหละค่ะ ความอยากรู้อยากเห็นก็จะมีเพิ่มมากขึ้นมาเอง ตอนเย็นหลังเลิกงานก็จะไปนั่งอ่านหนังสือ อ่านกราฟ อ่านทุกอย่างบนโลก (แต่พอเปิดมาเจอวิธีสอนดูเทคนิคอลทีไร หัวไม่รับ เลิกอ่านตลอด...แต่ต่อไปต้องจริงจังให้มากกว่านี้ค่ะ)

อันนี้คือการซื้อ-ขายของเดือนที่ 2 ที่เพิ่งเปิดพอร์ตค่ะ เดือนแรกยังมีลังเล ทำไรไม่ถูก ยังวุ่นวายกับวิธีการใช้งานพอร์ตอยู่จ้า ^^
...ขออนุญาตลบชื่อหุ้นออกนะคะ อยากให้สังเกตแค่ราคาหุ้นดูว่าจะมีถูกบ้าง แพงบ้าง เป็นช่วงซื้อ-ขายมัว ซื้อแบบตามหุ้นที่รู้จักบริษัทบ้าง ตามชาวบ้านบ้าง ตามอารมณ์บ้าง 555 ซึ่งจะเห็นว่าเริ่มมีคัทตั้งแต่ช่วงแรกที่หัดเล่นเลย คือไม่ไหวค่ะ กลัวขาดทุนหนัก (ใช้เงิน หลักพัน - หมื่นช่วงนี้ ยังแอบกลัวขาดทุนอีก อิอิ)


อันนี้การซื้อ-ขายของเดือนธันวาคม 57 เป็นเดือนที่ set ลงมา 1300 เดือนนั้น พอร์ตแดงหมดค่ะ วันๆ ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ มีเขียวแค่ตัวเดียว ก็ยังไม่วายที่จะขายเอาเงินหลักร้อย ส่วนตัวที่แดงลงเยอะเกิน ถ้าขายก็เท่ากับกำไรที่เคยได้มาหายหมด เลยตัดสินใจทิ้งมันไว้ยังงั้นเหละ (ตอนนั้นแอบคิดในใจ โชคดีที่ทำงานประจำ รอสิ้นเดือนก็มีเงินใช้ 555)


อันนี้ตัวอย่างเดือนกุมภาพันธ์ที่เพิ่งผ่านมาค่ะ ให้สังเกตวันที่ 10 ค่ะ เป็นช่วงที่ขายหุ้นฐานดีบางตัวได้ แล้วเอาไปเล่นแบบซื้อ-ขายไม่กี่จุด เพื่อทำกำไรดู ก็จะเห็นว่าได้เยอะขึ้นมาหน่อย ตามวอรุม ^^

หมดแล้วค่ะตัวอย่างที่จะให้ดู สรุปเทคนิคเดิมที่เคยโพสไว้ตั้งแต่ต้นนะคะ คือ (อันนี้ก๊อปมาจากข้างบนเลย ^^)
1. เล่นหุ้นราคาไม่เกิน 3 บาท (มีหุ้นประจำ ที่นั่งมองมันขึ้น-ลงมาเป็นเดือนๆ ค่ะ)
2. ส่วนมากตั้งขายไม่เกิน 2 จุด เอาแบบไม่โลภ แค่ได้เงินค่าขนมก็ดีใจแล้วค่ะ (ตั้งตอนกลางคืนที่บ้าน)
3. ถ้าวันนั้นหุ้นวิ่งก็ไม่คิดไรเลยค่ะ ขายทันที
4. ดูปฏิทินวันออก XD คือลองเอาหุ้นที่จะประกาศ XD ทั้งหมดมานั่งคำนวน อันไหนได้เยอะสุดก็ซื้อตัวนั้น
(ติดดอยก็ทำใจ ถือนานหน่อย แต่ที่ผ่านมายังไงมันก็ขึ้นมาเท่าทุน...เพราะทุนน้อย 555)

***ขอเพิ่มเติมหน่อยค่ะ เงินหลักแสนของจขกท. ถูกแบ่งออกเป็น 2 ก้อนนะคะ ก้อนแรกน่าจะประมาณ 6 - 9 หมื่นบาทเอาไปซื้อหุ้นพื้นฐานดีอยู่ 2 ตัว รอเอาปันผล และยอมดอยไป ก้อนนี้ไม่คิดอะไร เป็นหุ้นที่คิดว่ามีอนาคต...ก้อนที่ 2 ก้อนที่เหลือ คือเอามาเล่น ซื้อ-ขายรายวัน เอาแบบไม่ให้ชีวิตมันน่าเบื่อ ซื้อไว้ไม่เกิน 2 ตัวนะคะ ถ้าซื้อเยอะคงดูไม่ไหว ซื้อ-ขายไม่ทัน (เป็นหุ้น mai ค่ะ ไม่ใช่หุ้น warrant นะ อันนี้น่ากลัว ไม่กล้าเล่น 555)  

ก่อนจบ ข้อทิ้งท้ายหน่อย เพราะเตรียมใจไว้แล้วว่าน่าจะมีคนไม่เห็นด้วยเยอะ (พร้อมรับชะตากรรม) ขอฝากสำหรับคนที่สนใจในหุ้นนะคะ...
1.ควรเริ่มจากศึกษาให้เยอะๆ ก่อน  
2.อย่าเชื่อ หรือปักใจกับข่าวมากไป จขกท.พอร์ตแดงบ่อยๆ เพราะข่าวนี่เหละค่ะ (แต่อ่านไว้มันก็ดี)
3.ถ้าทำได้ไม่ต้องซื้อ-ขายบ่อย แบบจขกท.นะคะ (ที่จขกท.ซื้อ-ขาย บ่อยเพราะยังสนใจกับเงินหลักร้อยเวลามันขึ้นอยู่ค่ะ ต่อไปก็จะพยายามพัฒนาจิตใจให้ได้มากกว่านี้ค่ะ)
4.เวลาหุ้นลง ตัดสินใจดีๆ นะคะ ว่าจะคัทหรือจะเก็บ นึกถึงความเป็นจริงแนวโน้มสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับหุ้นนั้นๆ ไว้ให้มากนะคะ (ปัจจุบัน จขกท. ดูกราฟไม่เป็น รู้สึกค่อนข้างเสียเปรียบเวลาดูทิศทางหุ้นมากค่ะ)

สิ่งที่จขกท. คิดได้ที่อยากจะอธิบายให้เข้าใจ ก็มีเพียงเท่านี้เหละค่ะ ต่อจากนี้ก็ตัวใครตัวมันนะคะ เอาไว้อายุ 30 เมื่อไหร่จะมาบอกอีกทีนะคะว่า จขกท. รวย หรือจนหนักกว่าเดิม 555 บุย บุยครัช ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่