สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีประสบการณ์แย่ๆ กับบริษัทออแกไนซ์มาแชร์ค่ะ เกี่ยวกับเรื่องการไปออกบูธขายของในงานโรงเรียนแห่งหนึ่ง (ขออนุญาตไม่กล่าวถึงชื่อโรงเรียนเพราะไม่เกี่ยวกับโรงเรียนค่ะ) แต่ไม่ได้ไปออกบูธที่โรงเรียนนะคะ ไปออกบูธที่โรงละครย่านรัชดาค่ะ เป็นงานเล็กๆ มีบูธแค่ 20-30 บูธ ไม่เกินนี้ ราคาของแต่ละบูธนั้นไม่เท่ากัน ในส่วนของเราเราจองไปทั้งหมด 2 บูธค่ะ ราคาบูธละ 3,000 บาท รวมทั้งหมดเราจ่ายไป 6,000 บาท เนื้อหาหลักๆ ก็ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ จ่ายเงินไป 2 แต่ได้มาแค่ 1 ค่ะ เราขออธิบายตามแผนผังตามรูปเพื่อความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นค่ะ
เพิ่มเติม : บูธเรา A19-A20 ค่ะ
จากรูปจะเห็นว่าโซนตรงนั้นแทนที่จะแบ่งออกเป็น 4 บูธ และเป็นของเรา 2 บูธ กลับกลายเป็นแบ่งเป็น 3 บูธ และได้เนื้อที่เท่าๆ กันเหมือนในรูปทางขวา ตรงนี้จึงเป็นปัญหาค่ะ
ในตอนแรกแฟนเรากับทีมงานของเราอีก 3 คนทยอยขนของเข้าไปจัดก่อน เราอยู่ที่รถต่อแถวเข้าคิวเพื่อที่จะนำของเข้าอาคาร จึงไม่ได้ไปเห็นหน้างาน ณ ขณะนั้น ก็เลยยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นยังไง แต่แฟนได้เดินออกมาเพื่อจะยกของได้บอกว่า สถานที่เล็กกว่าที่คิดไว้ เลยไม่รู้ว่าจะวางโต๊ะยังไง เลยบอกเราว่าให้เข้าไปดูเองแล้วกัน เราก็โอเคไม่ได้คิดอะไร เข้าใจว่าเราคงกะระยะกันมาผิดเองแหล่ะ (เราควรจะได้ที่หน้ากว้าง 5x5 เมตร) ทีนี้พอเข้าไปดูหน้างานจริงๆ ณ ตอนนั้นก็งงกับแผนผังนิดหน่อยว่าทำไมบูธเราถึงเกยมาหน้าบูธ A18 แล้วพอเราจะตั้งของเต็มพื้นที่เราก็ตั้งไม่ได้เพราะ A18 บอกว่าตรงนี้หน้าร้านเค้า ถ้าเรามาตั้งก็ปิดหน้าร้านเค้า เราก็โอเค ดูตามผังแล้วมันก็หน้าร้านเค้าจริงๆ เราเลยเว้นไว้ประมาณกระเบื้อง 3 แถว น่าจะราวๆ เกือบเมตร หรือเมตรนึงค่ะ กะๆ เอานะคะ
*อธิบายเพิ่มเติม คือที่งานไม่มีการแบ่งเส้นเลย ไม่มีสติ๊กเกอร์แปะที่พื้น หรือมีการตั้งโครงบูธ (เราเองไม่ได้คิดว่าจะมีปัญหาเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาตั้งแต่แรก) เราเลยต้องใช้กระเบื้องเป็นหน่วยการวัดแทนค่ะ
และตอนนั้นบูธทางด้านขวาของเรา คือ A21 เค้าก็ตั้งของเยอะมากแล้ว ประมาณ 90% ได้ และเราเองก็ยังไม่ได้สังเกตว่าขนาดของบูธมันเท่ากับที่จ่ายเงินไปมั้ย เพราะเรารีบจัดของเพื่อให้ทันเวลาที่เค้ากำหนดค่ะ (เค้ากำหนดให้เปิดงาน 8 โมง เราไปถึงประมาณ 6.15 น.)
*ตรงนี้เป็นบทสนทนาหน้างาน ไม่มีลายลักษณ์อักษรค่ะ
พอจัดของเสร็จ เริ่มเปิดงานให้คนเข้ามา เราก็ออกมายืนหน้าบูธตรวจความเรียบร้อย (ตอนนั้นราวๆ 9 โมง เค้าจัดบูธกันเสร็จหมดแล้ว) ก็รู้สึกว่าทำไมบูธมันเท่าๆ กันเลยล่ะ แฟนเราเลยไปนับจำนวนกระเบื้องดู ปรากฎว่าร้าน A21 มีหน้ากว้างประมาณ 8 กระเบื้องครึ่ง และร้านเราหน้ากว้างประมาณ 9 กระเบื้องครึ่ง
เราเลยเรียกคุณ จ. (ตำแหน่งเจ้าของบริษัท) มาคุยที่หน้าบูธเราเลยว่ามันเป็นอย่างนี้นะ เค้าก็เห็นด้วยว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เราคุยกันถึงรายละเอียดเรื่องแผนผัง เค้าก็เข้าไปดูว่าเออ แผนผังมาผิดจริงๆ ตรงนี้มีกำแพงนะ เออ หน้าร้านเราเกยกับ A18 นะ เค้าเลยบอกเราว่างั้นก็ขยับออกมาอีกหน่อยนึงสิ ให้ทางเดินฝั่ง A18 แคบกว่านี้หน่อย เราบอกว่าไม่ได้ เพราะมันไปบังหน้าร้านเค้า เราเปิดผังคุยกันเลย ว่า A18 เค้าก็ต้องได้สิทธิ์ตามผังเค้า และอีกอย่างคือต่อให้เราขยับออกมาอีกหน่อยนี่มันชดเชยกับพื้นที่ที่เราเสียไปแล้วหรอ ที่เราควรจะได้น่ะ มันหายไปเท่านึงเลยนะ แต่เราก็บอกว่า โอเค ถ้าพื้นที่ไม่พอก็ไม่เป็นไร เอาเท่านี้ก็ได้ แต่ช่วยคืนเงินค่าบูธอีกบูธนึงมาให้หน่อย เป็นจำนวน 3,000 บาท
เค้าก็ไม่ได้ตอบอะไร บอกว่าเดี๋ยวผมไปคุยให้นะ (งงว่าไปคุยกับใคร ตัวเองเป็นเจ้าของ บ. ไม่ใช่หรอ) แล้วเค้าก็หายไป ซักพักเค้าก็เดินมาบอกว่า ผมไปคุยกับโรงเรียนมาแล้ว เค้าจะชดเชยให้คุณวิว 1,000 บาท เราบอกว่าเราต้องการ 3,000 บาท เพราะเราได้ที่เท่านี้จริงๆ เราไม่ยอมนะ เค้าก็บอกว่าไม่ได้ ทางเค้าเองได้ผังมาผิดเหมือนกัน ตรงนี้โรงละครให้มา แล้วตอนเช้าเค้าก็ไม่ได้มาดูแลจริงๆ ต้องขอโทษด้วย เราก็บอกว่ายังไงก็ต้องรับผิดชอบ เราไม่พอใจ (เราออกอาการตั้งแต่ตรงนั้นแล้วว่าไม่พอใจ) คุณ จ. ก็บอกปัดๆ ไปว่าเดี๋ยวผมช่วยดูให้ว่าช่วยอะไรได้บ้าง ตอนนี้คุณวิวแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนนะ เอาอันนู้นมาตั้งตรงนี้มั้ย เอาอันนี้มาตรงนี้ดีกว่ามั้ย อันที่จริงของคุณวิวก็น่าสนใจนะ คุณวิวยิ้มๆ เข้าไว้นะ เราก็อืมๆ คิดว่าคงไม่มีอะไร แค่เงิน 3,000 ทางนั้นน่าจะคืน ใจเย็นไว้แล้วกัน ปรากฎว่าเราคิดผิดมาก
หลังจากนั้นเราได้ออกจากงานมาก่อน แต่ยังมีทีมงานเราอยู่ที่หน้างานถึง 3 คน และเราได้ไลน์บอกคุณ จ. ว่าเราต้องกลับก่อน หากมีอะไรคืบหน้าช่วยโทรแจ้งด้วย พร้อมกับทิ้งเบอร์เอาไว้ให้ แต่ก็ไม่มีการโทรกลับมา และต่อไปนี้เป็นบทสทนาเรากับคุณ จ. ในไลน์ค่ะ (เป็นบทสนทนาทั้งหมดเท่าที่มีเลย เพราะไม่มีการโทรศัพท์คุยกัน เราต้องการคุยอะไรที่มีลายลักษณ์อักษร) รูปเยอะหน่อยนะคะ
หมายเหตุ : เราไม่มีรูปหน้างานที่เห็นชัดๆ จริงๆ ค่ะ เพราะว่าไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ นึกว่าจะคืนเงินค่ะ เพราะเคยเกิดกรณีอย่างนี้มาก่อนกับอีกบริษัทนึง ธุรกิจบริการ ไม่ใช่ออกบูท เจ้านั้นน้อมรับผิดและคืนเงินส่วนต่างทั้งหมดค่ะ เรายังส่งขนมไปขอบคุณบริษัทนั้นเลยค่ะ จำนวนเงินหลักหลายพัน น่าจะ 6 หรือ 7 พันนี่ล่ะค่ะ ยังได้คืนทั้งหมด อันนี้แค่ 3,000 ไม่คิดว่าจะมีปัญหาค่ะ
จบเพียงเท่านี้ค่ะ จนตอนนี้ยังไม่มีอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกเลย เพราะเราบอกแล้วว่าจะไม่ตอบจนกว่าจะได้ไปคุยกับเพื่อนที่เป็นนักกฎหมาย
อันที่จริงก่อนที่จะโพสกระทู้นี้อารมณ์เรามาเต็มค่ะ อยากจะฟ้องซะเต็มที่ แต่พอโพสเสร็จแล้วเหมือนได้ระบายออกไป ก็เลยไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว
คือเงิน 3,000 น่ะไม่อยากได้แล้วค่ะ เพราะรู้สึกเครียดจนไม่คุ้ม 3,000 แล้ว แต่ด้วยคำพูดที่เค้าพูดมานั้นมันไม่ค่อยโอเค แฟนเราเลยอยากลุยต่อ (ทางกฎหมาย) คือเรามึนกับสิ่งที่เค้าพูดมากๆ เค้าก็รู้ว่าผิดนะ แต่ทำไมเค้าถึงไม่คืนเงินเราอ่ะ แล้วคำที่เค้าพูดมาแต่ละคำเราว่ามันไม่ค่อยมีเหตุผลอ่ะ แล้วตอนแรกที่บอกว่าจะคืน 1,000 บาทนั่นก็คงไม่ได้แล้วด้วยมั้ง
ส่วนเรื่องจะทำยังไงต่อก็ต้องดูอีกทีค่ะ พรุ่งนี้อาจจะเปลี่ยนใจไม่อยากมีเรื่องแล้วก็ได้ =_='
*แต่คุณ จ. คะ ถ้าเข้ามาอ่านแล้วอยากคืนเงินวิวก็ได้นะคะ ยินดีมากๆ ค่ะ แต่วิวคงจะเอาเงินไปทำบุญค่ะ น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด ถ้าทำบุญแล้วแล้วจะมาโพสบอกด้วยค่ะ
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ _/|\_
ปล. ที่เราไม่รับบูธฟรีจากเค้าอีกงานเพราะเราว่ามันไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเราค่ะ ไปแล้วก็อาจจะขายไม่ได้ก็ได้ (วัดผลจากครั้งนี้ที่ขาดทุน) และการจัดการของเค้าก็ไม่ถูกใจเรา เราคงไม่อยากร่วมงานด้วยแล้ว และอีกข้อนึงคือเราไปฟรีก็จริง แต่เราเสียค่าโอทีให้ พนง. เราค่ะ เสียเวลาจัดของไปขายเพราะปกติเราไม่ได้ออกบูธค่ะ ขายออนไลน์อย่างเดียว อันนี้เป็นเหตุผลของเราค่ะ
แชร์ประสบการณ์แย่ๆ กับออแกไนเซอร์ของการออกบูธขายของค่ะ
เพิ่มเติม : บูธเรา A19-A20 ค่ะ
จากรูปจะเห็นว่าโซนตรงนั้นแทนที่จะแบ่งออกเป็น 4 บูธ และเป็นของเรา 2 บูธ กลับกลายเป็นแบ่งเป็น 3 บูธ และได้เนื้อที่เท่าๆ กันเหมือนในรูปทางขวา ตรงนี้จึงเป็นปัญหาค่ะ
ในตอนแรกแฟนเรากับทีมงานของเราอีก 3 คนทยอยขนของเข้าไปจัดก่อน เราอยู่ที่รถต่อแถวเข้าคิวเพื่อที่จะนำของเข้าอาคาร จึงไม่ได้ไปเห็นหน้างาน ณ ขณะนั้น ก็เลยยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นยังไง แต่แฟนได้เดินออกมาเพื่อจะยกของได้บอกว่า สถานที่เล็กกว่าที่คิดไว้ เลยไม่รู้ว่าจะวางโต๊ะยังไง เลยบอกเราว่าให้เข้าไปดูเองแล้วกัน เราก็โอเคไม่ได้คิดอะไร เข้าใจว่าเราคงกะระยะกันมาผิดเองแหล่ะ (เราควรจะได้ที่หน้ากว้าง 5x5 เมตร) ทีนี้พอเข้าไปดูหน้างานจริงๆ ณ ตอนนั้นก็งงกับแผนผังนิดหน่อยว่าทำไมบูธเราถึงเกยมาหน้าบูธ A18 แล้วพอเราจะตั้งของเต็มพื้นที่เราก็ตั้งไม่ได้เพราะ A18 บอกว่าตรงนี้หน้าร้านเค้า ถ้าเรามาตั้งก็ปิดหน้าร้านเค้า เราก็โอเค ดูตามผังแล้วมันก็หน้าร้านเค้าจริงๆ เราเลยเว้นไว้ประมาณกระเบื้อง 3 แถว น่าจะราวๆ เกือบเมตร หรือเมตรนึงค่ะ กะๆ เอานะคะ
*อธิบายเพิ่มเติม คือที่งานไม่มีการแบ่งเส้นเลย ไม่มีสติ๊กเกอร์แปะที่พื้น หรือมีการตั้งโครงบูธ (เราเองไม่ได้คิดว่าจะมีปัญหาเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาตั้งแต่แรก) เราเลยต้องใช้กระเบื้องเป็นหน่วยการวัดแทนค่ะ
และตอนนั้นบูธทางด้านขวาของเรา คือ A21 เค้าก็ตั้งของเยอะมากแล้ว ประมาณ 90% ได้ และเราเองก็ยังไม่ได้สังเกตว่าขนาดของบูธมันเท่ากับที่จ่ายเงินไปมั้ย เพราะเรารีบจัดของเพื่อให้ทันเวลาที่เค้ากำหนดค่ะ (เค้ากำหนดให้เปิดงาน 8 โมง เราไปถึงประมาณ 6.15 น.)
*ตรงนี้เป็นบทสนทนาหน้างาน ไม่มีลายลักษณ์อักษรค่ะ
พอจัดของเสร็จ เริ่มเปิดงานให้คนเข้ามา เราก็ออกมายืนหน้าบูธตรวจความเรียบร้อย (ตอนนั้นราวๆ 9 โมง เค้าจัดบูธกันเสร็จหมดแล้ว) ก็รู้สึกว่าทำไมบูธมันเท่าๆ กันเลยล่ะ แฟนเราเลยไปนับจำนวนกระเบื้องดู ปรากฎว่าร้าน A21 มีหน้ากว้างประมาณ 8 กระเบื้องครึ่ง และร้านเราหน้ากว้างประมาณ 9 กระเบื้องครึ่ง
เราเลยเรียกคุณ จ. (ตำแหน่งเจ้าของบริษัท) มาคุยที่หน้าบูธเราเลยว่ามันเป็นอย่างนี้นะ เค้าก็เห็นด้วยว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เราคุยกันถึงรายละเอียดเรื่องแผนผัง เค้าก็เข้าไปดูว่าเออ แผนผังมาผิดจริงๆ ตรงนี้มีกำแพงนะ เออ หน้าร้านเราเกยกับ A18 นะ เค้าเลยบอกเราว่างั้นก็ขยับออกมาอีกหน่อยนึงสิ ให้ทางเดินฝั่ง A18 แคบกว่านี้หน่อย เราบอกว่าไม่ได้ เพราะมันไปบังหน้าร้านเค้า เราเปิดผังคุยกันเลย ว่า A18 เค้าก็ต้องได้สิทธิ์ตามผังเค้า และอีกอย่างคือต่อให้เราขยับออกมาอีกหน่อยนี่มันชดเชยกับพื้นที่ที่เราเสียไปแล้วหรอ ที่เราควรจะได้น่ะ มันหายไปเท่านึงเลยนะ แต่เราก็บอกว่า โอเค ถ้าพื้นที่ไม่พอก็ไม่เป็นไร เอาเท่านี้ก็ได้ แต่ช่วยคืนเงินค่าบูธอีกบูธนึงมาให้หน่อย เป็นจำนวน 3,000 บาท
เค้าก็ไม่ได้ตอบอะไร บอกว่าเดี๋ยวผมไปคุยให้นะ (งงว่าไปคุยกับใคร ตัวเองเป็นเจ้าของ บ. ไม่ใช่หรอ) แล้วเค้าก็หายไป ซักพักเค้าก็เดินมาบอกว่า ผมไปคุยกับโรงเรียนมาแล้ว เค้าจะชดเชยให้คุณวิว 1,000 บาท เราบอกว่าเราต้องการ 3,000 บาท เพราะเราได้ที่เท่านี้จริงๆ เราไม่ยอมนะ เค้าก็บอกว่าไม่ได้ ทางเค้าเองได้ผังมาผิดเหมือนกัน ตรงนี้โรงละครให้มา แล้วตอนเช้าเค้าก็ไม่ได้มาดูแลจริงๆ ต้องขอโทษด้วย เราก็บอกว่ายังไงก็ต้องรับผิดชอบ เราไม่พอใจ (เราออกอาการตั้งแต่ตรงนั้นแล้วว่าไม่พอใจ) คุณ จ. ก็บอกปัดๆ ไปว่าเดี๋ยวผมช่วยดูให้ว่าช่วยอะไรได้บ้าง ตอนนี้คุณวิวแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนนะ เอาอันนู้นมาตั้งตรงนี้มั้ย เอาอันนี้มาตรงนี้ดีกว่ามั้ย อันที่จริงของคุณวิวก็น่าสนใจนะ คุณวิวยิ้มๆ เข้าไว้นะ เราก็อืมๆ คิดว่าคงไม่มีอะไร แค่เงิน 3,000 ทางนั้นน่าจะคืน ใจเย็นไว้แล้วกัน ปรากฎว่าเราคิดผิดมาก
หลังจากนั้นเราได้ออกจากงานมาก่อน แต่ยังมีทีมงานเราอยู่ที่หน้างานถึง 3 คน และเราได้ไลน์บอกคุณ จ. ว่าเราต้องกลับก่อน หากมีอะไรคืบหน้าช่วยโทรแจ้งด้วย พร้อมกับทิ้งเบอร์เอาไว้ให้ แต่ก็ไม่มีการโทรกลับมา และต่อไปนี้เป็นบทสทนาเรากับคุณ จ. ในไลน์ค่ะ (เป็นบทสนทนาทั้งหมดเท่าที่มีเลย เพราะไม่มีการโทรศัพท์คุยกัน เราต้องการคุยอะไรที่มีลายลักษณ์อักษร) รูปเยอะหน่อยนะคะ
หมายเหตุ : เราไม่มีรูปหน้างานที่เห็นชัดๆ จริงๆ ค่ะ เพราะว่าไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ นึกว่าจะคืนเงินค่ะ เพราะเคยเกิดกรณีอย่างนี้มาก่อนกับอีกบริษัทนึง ธุรกิจบริการ ไม่ใช่ออกบูท เจ้านั้นน้อมรับผิดและคืนเงินส่วนต่างทั้งหมดค่ะ เรายังส่งขนมไปขอบคุณบริษัทนั้นเลยค่ะ จำนวนเงินหลักหลายพัน น่าจะ 6 หรือ 7 พันนี่ล่ะค่ะ ยังได้คืนทั้งหมด อันนี้แค่ 3,000 ไม่คิดว่าจะมีปัญหาค่ะ
จบเพียงเท่านี้ค่ะ จนตอนนี้ยังไม่มีอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกเลย เพราะเราบอกแล้วว่าจะไม่ตอบจนกว่าจะได้ไปคุยกับเพื่อนที่เป็นนักกฎหมาย
อันที่จริงก่อนที่จะโพสกระทู้นี้อารมณ์เรามาเต็มค่ะ อยากจะฟ้องซะเต็มที่ แต่พอโพสเสร็จแล้วเหมือนได้ระบายออกไป ก็เลยไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว
คือเงิน 3,000 น่ะไม่อยากได้แล้วค่ะ เพราะรู้สึกเครียดจนไม่คุ้ม 3,000 แล้ว แต่ด้วยคำพูดที่เค้าพูดมานั้นมันไม่ค่อยโอเค แฟนเราเลยอยากลุยต่อ (ทางกฎหมาย) คือเรามึนกับสิ่งที่เค้าพูดมากๆ เค้าก็รู้ว่าผิดนะ แต่ทำไมเค้าถึงไม่คืนเงินเราอ่ะ แล้วคำที่เค้าพูดมาแต่ละคำเราว่ามันไม่ค่อยมีเหตุผลอ่ะ แล้วตอนแรกที่บอกว่าจะคืน 1,000 บาทนั่นก็คงไม่ได้แล้วด้วยมั้ง
ส่วนเรื่องจะทำยังไงต่อก็ต้องดูอีกทีค่ะ พรุ่งนี้อาจจะเปลี่ยนใจไม่อยากมีเรื่องแล้วก็ได้ =_='
*แต่คุณ จ. คะ ถ้าเข้ามาอ่านแล้วอยากคืนเงินวิวก็ได้นะคะ ยินดีมากๆ ค่ะ แต่วิวคงจะเอาเงินไปทำบุญค่ะ น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด ถ้าทำบุญแล้วแล้วจะมาโพสบอกด้วยค่ะ
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ _/|\_
ปล. ที่เราไม่รับบูธฟรีจากเค้าอีกงานเพราะเราว่ามันไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเราค่ะ ไปแล้วก็อาจจะขายไม่ได้ก็ได้ (วัดผลจากครั้งนี้ที่ขาดทุน) และการจัดการของเค้าก็ไม่ถูกใจเรา เราคงไม่อยากร่วมงานด้วยแล้ว และอีกข้อนึงคือเราไปฟรีก็จริง แต่เราเสียค่าโอทีให้ พนง. เราค่ะ เสียเวลาจัดของไปขายเพราะปกติเราไม่ได้ออกบูธค่ะ ขายออนไลน์อย่างเดียว อันนี้เป็นเหตุผลของเราค่ะ