BEAUTY AND THE BEAST THE ORIGINAL BROADWAY MUSICAL SPECTACULAR
ถึงกับต้องกลับมาหาข้อมูลโปรดักชั่นของบรอดเวย์ชินนี้ก่อนเขียนงานเลยทีเดียวโปรดักชั่นของบรอดเวย์เริ่มต้นในปี 1994 ได้ Tony Award มาแค่งานคอสตูม ส่วนสาขาอื่นๆได้แค่เข้าชิงรางวัล (รวมถึงบรอดเวย์ยอดเยี่ยม) ซึ่งพอได้ดูจริงๆแล้วเราพบว่าความ "ฮิต" ของมันที่เล่นได้ยาวนานกว่า 20 ปีนี้เป็นผลมาจากงานแอนิเมชั่นล้วนๆ
ถ้าเราได้ดูละครเวทีนี้เมื่อ 20 ปีที่แล้วมันจะ SPECTACULAR สมชื่องาน แต่พอเราได้มาดูละครเรื่องนี้ในยุค 2015 เราจะได้พบว่า Traditional หรือ "เชย" ในแง่ของละครเวทีมาก และฉากที่ควรตื่นตาตื่นใจที่สุดอย่างฉากอสูรกลายร่างเป็นเจ้าชายนั้น รอบที่ได้ไปดูเรียกได้ว่าผิดคิวและพังพินาศที่สุดเมื่อคิวเฟสไฟดันไวกว่าการเปลี่ยนชุดของนักแสดงบนเวที!
ความเชยที่เราได้เกริ่นไว้ในตอนแรกคือละครใช้ฉากผ้าเป็นฉากหลังในการบอกว่าตัวละครอยู่ที่ไหน ซึ่งหลักๆเลยในเรื่องใช้แค่ 2 ฉากก็คือหมู่บ้านของเบลล์กับปราสาทของอสูร และพร็อพที่ใช้เปลี่ยน "สถานที่ในปราสาท" มีแค่บันได 3 ชิ้นที่หมุนเคลื่อนไปตามเวทีและให้คนดูจินตนการต่อเอาเองว่าตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ที่ไหนของปราสาท
ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าละครมันถูกเซตติ้งมาแบบการ์ตูนแล้วมาเล่าเรื่องแบบมนุษย์ พอมันเล่นใหญ่แบบเว่อร์ไปหมดเราเลยไม่ Touching กับตัวละครเลย จริงอยู่ที่เราเคยดูมานับครั้งไม่ถ้วนกับเวอร์ชั่นการ์ตูนยิ่งน่าจะเข้าถึงตัวละครได้ไม่ยาก แต่เรากลับรู้สึกว่าเราสัมผัสกับสิ่งที่ตัวละครแสดงออกมาไม่ได้ เพราะตัวละครมันดูไม่ค่อยมีเลือดมีเนื้อหรือด้วยเพราะบทเพลงที่มันไม่ได้เป็นวิธีการสื่อสารแบบ "บทละครร้องเพื่อส่งอารมณ์ของตัวละคร" แต่เพลงในละครเหมือนคอนเสิร์ตเพลงพ๊อพมากกว่า
ฉากที่คนดูควรจะตื่นตาตื่นใจที่สุดสำหรับเราเราคาดหวังไว้กับเพลง Beauty and the Beast ไว้สูงมาก แต่กลับกลายเป็นฉาก "ธรรมดามาก" และจืดชืดมากเมื่อมันไม่สามารถส่งอารมณ์ "โรแมนติก" ของฉากนี่ได้แม้แต่ครึ่งเดียวของเวอร์ชั่นการ์ตูน และความ "เชย" ของโปรดักชั่นละคร รวมไปถึงคอสตูมปลอมๆของเจ้าชายอสูรนี่แหละที่เป็นตัว "ทำร้าย" ความพาฝันของฉากนี้แบบราบคาบ
ในขณะทีเพลง Be Our Guest ที่เราก็รู้ดีว่าเมื่อมันมาอยู่ในละครเพลงมันคงไม่สามารถ "อลังการ" ได้เท่าการ์ตูน แต่ปัญหาของมันอยู่ตรงที่เราไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ "หมู่มวล" เอาชุดจาน ช้อน ส้อม มาใส่เต้นนั้นจะทำให้เราเชื่อมโยงไปถึงว่าเบลล์กำลังจะได้ทานอาหารมื้อสำคัญ ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว ที่เรารับรู้ได้แค่ว่านี่เป็นฉากเต้นและฉากยิงเปเปอร์ชู้ดเพื่อเรียกเสียงปรบมือ
พูดถึงตัวนักแสดง อันนี้เราว่าเป็นสิ่งที่โอเคที่สุดในโชว์คือพลังการร้อง การแสดงส่งถึงคนดูพอสมควร แม้ว่าหลายตัวละครจะถูกกำหนดให้เล่นแบบ "เว่อร์เข้าว่า" (จริงๆทุกตัวนั่นแหละ รวมถึงอสูรด้วย) คงมีเบลล์คนเดียวที่พอจะดูเป็นมนุษย์อยู่บ้าง
* ข้อแนะนำ ไม่ควรซื้อบัตร 1000 บาทโดยประการทั้งปวง เนื่องจากเซตติ้งของโรงละคร ข้างหลังโซน 1000 มีการตั้งไฟสปอตไลท์ไว้ อากาศร้อนและการยิงสปอตไลท์ข้ามหัวคนดูโซนนี้มันยังไม่พ้นระยะสายตาเท่าไหร่ นั่นหมายความว่า คนในโซนนี้จะโดนรบกวนด้วยแสงที่ยิงมาข้างหลังตลอดเวลา และโปรดักชั่นละครนี้เหมาะกับการดูที่ "พื้นราบที่ชั้น 1" เท่านั้นเนื่องจากตัวโปรดักชั่นใช้เวทีด้านซ้าย - ขวา แค่ครึ่งนึงของโรงละครรัชดาลัยทั้ง มุมซ้ายขวาและบน ยิ่งนั่งสูงเท่าไหร่ ยิ่งไม่มีโอกาสมองความลึกในบางฉากได้เท่านั้น ฉากองค์แรกตอนอสูรปีนขึ้นไปบนบันได้เรียกได้ว่า "มองไม่เห็นกันเลยทีเดียว" เพราะขอบของฉากละครนั้นบังไปครึ่งตัว" !
อ่านบทวิจารณ์ภาพยนตร์ ละครเวที และคอนเสิร์ตได้ที่
https://www.facebook.com/EntertainmentBite
[CR] [วิจารณ์] BEAUTY AND THE BEAST THE ORIGINAL BROADWAY MUSICAL SPECTACULAR
ถึงกับต้องกลับมาหาข้อมูลโปรดักชั่นของบรอดเวย์ชินนี้ก่อนเขียนงานเลยทีเดียวโปรดักชั่นของบรอดเวย์เริ่มต้นในปี 1994 ได้ Tony Award มาแค่งานคอสตูม ส่วนสาขาอื่นๆได้แค่เข้าชิงรางวัล (รวมถึงบรอดเวย์ยอดเยี่ยม) ซึ่งพอได้ดูจริงๆแล้วเราพบว่าความ "ฮิต" ของมันที่เล่นได้ยาวนานกว่า 20 ปีนี้เป็นผลมาจากงานแอนิเมชั่นล้วนๆ
ถ้าเราได้ดูละครเวทีนี้เมื่อ 20 ปีที่แล้วมันจะ SPECTACULAR สมชื่องาน แต่พอเราได้มาดูละครเรื่องนี้ในยุค 2015 เราจะได้พบว่า Traditional หรือ "เชย" ในแง่ของละครเวทีมาก และฉากที่ควรตื่นตาตื่นใจที่สุดอย่างฉากอสูรกลายร่างเป็นเจ้าชายนั้น รอบที่ได้ไปดูเรียกได้ว่าผิดคิวและพังพินาศที่สุดเมื่อคิวเฟสไฟดันไวกว่าการเปลี่ยนชุดของนักแสดงบนเวที!
ความเชยที่เราได้เกริ่นไว้ในตอนแรกคือละครใช้ฉากผ้าเป็นฉากหลังในการบอกว่าตัวละครอยู่ที่ไหน ซึ่งหลักๆเลยในเรื่องใช้แค่ 2 ฉากก็คือหมู่บ้านของเบลล์กับปราสาทของอสูร และพร็อพที่ใช้เปลี่ยน "สถานที่ในปราสาท" มีแค่บันได 3 ชิ้นที่หมุนเคลื่อนไปตามเวทีและให้คนดูจินตนการต่อเอาเองว่าตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ที่ไหนของปราสาท
ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าละครมันถูกเซตติ้งมาแบบการ์ตูนแล้วมาเล่าเรื่องแบบมนุษย์ พอมันเล่นใหญ่แบบเว่อร์ไปหมดเราเลยไม่ Touching กับตัวละครเลย จริงอยู่ที่เราเคยดูมานับครั้งไม่ถ้วนกับเวอร์ชั่นการ์ตูนยิ่งน่าจะเข้าถึงตัวละครได้ไม่ยาก แต่เรากลับรู้สึกว่าเราสัมผัสกับสิ่งที่ตัวละครแสดงออกมาไม่ได้ เพราะตัวละครมันดูไม่ค่อยมีเลือดมีเนื้อหรือด้วยเพราะบทเพลงที่มันไม่ได้เป็นวิธีการสื่อสารแบบ "บทละครร้องเพื่อส่งอารมณ์ของตัวละคร" แต่เพลงในละครเหมือนคอนเสิร์ตเพลงพ๊อพมากกว่า
ฉากที่คนดูควรจะตื่นตาตื่นใจที่สุดสำหรับเราเราคาดหวังไว้กับเพลง Beauty and the Beast ไว้สูงมาก แต่กลับกลายเป็นฉาก "ธรรมดามาก" และจืดชืดมากเมื่อมันไม่สามารถส่งอารมณ์ "โรแมนติก" ของฉากนี่ได้แม้แต่ครึ่งเดียวของเวอร์ชั่นการ์ตูน และความ "เชย" ของโปรดักชั่นละคร รวมไปถึงคอสตูมปลอมๆของเจ้าชายอสูรนี่แหละที่เป็นตัว "ทำร้าย" ความพาฝันของฉากนี้แบบราบคาบ
ในขณะทีเพลง Be Our Guest ที่เราก็รู้ดีว่าเมื่อมันมาอยู่ในละครเพลงมันคงไม่สามารถ "อลังการ" ได้เท่าการ์ตูน แต่ปัญหาของมันอยู่ตรงที่เราไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ "หมู่มวล" เอาชุดจาน ช้อน ส้อม มาใส่เต้นนั้นจะทำให้เราเชื่อมโยงไปถึงว่าเบลล์กำลังจะได้ทานอาหารมื้อสำคัญ ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว ที่เรารับรู้ได้แค่ว่านี่เป็นฉากเต้นและฉากยิงเปเปอร์ชู้ดเพื่อเรียกเสียงปรบมือ
พูดถึงตัวนักแสดง อันนี้เราว่าเป็นสิ่งที่โอเคที่สุดในโชว์คือพลังการร้อง การแสดงส่งถึงคนดูพอสมควร แม้ว่าหลายตัวละครจะถูกกำหนดให้เล่นแบบ "เว่อร์เข้าว่า" (จริงๆทุกตัวนั่นแหละ รวมถึงอสูรด้วย) คงมีเบลล์คนเดียวที่พอจะดูเป็นมนุษย์อยู่บ้าง
* ข้อแนะนำ ไม่ควรซื้อบัตร 1000 บาทโดยประการทั้งปวง เนื่องจากเซตติ้งของโรงละคร ข้างหลังโซน 1000 มีการตั้งไฟสปอตไลท์ไว้ อากาศร้อนและการยิงสปอตไลท์ข้ามหัวคนดูโซนนี้มันยังไม่พ้นระยะสายตาเท่าไหร่ นั่นหมายความว่า คนในโซนนี้จะโดนรบกวนด้วยแสงที่ยิงมาข้างหลังตลอดเวลา และโปรดักชั่นละครนี้เหมาะกับการดูที่ "พื้นราบที่ชั้น 1" เท่านั้นเนื่องจากตัวโปรดักชั่นใช้เวทีด้านซ้าย - ขวา แค่ครึ่งนึงของโรงละครรัชดาลัยทั้ง มุมซ้ายขวาและบน ยิ่งนั่งสูงเท่าไหร่ ยิ่งไม่มีโอกาสมองความลึกในบางฉากได้เท่านั้น ฉากองค์แรกตอนอสูรปีนขึ้นไปบนบันได้เรียกได้ว่า "มองไม่เห็นกันเลยทีเดียว" เพราะขอบของฉากละครนั้นบังไปครึ่งตัว" !
อ่านบทวิจารณ์ภาพยนตร์ ละครเวที และคอนเสิร์ตได้ที่ https://www.facebook.com/EntertainmentBite