[แปล] ชีล่า คาสโตร หลังชิงแชมป์โลก, อนาคตข้างหน้า และดราม่าการเมือง

กระทู้ข่าว

ในตอนนี้ถ้าคุณติดตามวอลเลย์บอลหญิงแทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก ชีล่า คาสโตร สูง 185 เซนติเมตร รูปร่างหน้าตาดี ว่องไว การบุกแม่นยำและรุนแรง ในตอนนี้เธอสะสมเหรียญทองแชมป์รายการต่างๆราวกับสแตมป์ เมื่อย้อนกลับไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เธอเป็นนักกีฬาทำแต้มหลักของทีมบราซิลซึ่งคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในปี 2008 และ 2012 แชมป์ WGP และแชมป์อเมริกาใต้ 5 สมัย รวมถึงแชมป์ Grand Championship อีกสองสมัย เธอจึงกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล ยกเว้นแชมป์รายการเดียวที่เธออาจจะยังไม่เคยได้ แชมป์โลก

ในปี 2006 และ 2010 เธอเกือบจะคว้ามันมาได้ แต่พลาดให้กับทีมรัสเซียแบบฉิวเฉียด 3:2 เซ็ตทั้งสองครั้ง แม้ทีมบราซิลแทบจะเป็นแชมป์ทุกๆรายการ แต่ทีมนี้กลับไม่เคยได้เหรียญทองชิงแชมป์โลกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ปีนี้เธออายุ 31 โค้ชทีมชาติกล่าวถึงเธอว่า “เธอสมควรที่จะได้เหรียญทองแชมป์โลกซักครั้ง เธอเป็นตัวหลักที่ทำแต้มได้ 5 จาก 6 แต้มของการดิวส์กับทีมชาติรัสเซียในรายการโอลิมปิกที่ผ่านมา แม้ว่าวอลเลย์บอลจะเป็นกีฬาประเภททีม แต่ก็มีหลายครั้งที่มีนักกีฬาบางคนโดดเด่นกว่าเพื่อนเสมอ”

แม้ว่าเธอจะเป็นตัวหลักของทีม เธอก็ชื่นชมเพื่อนๆของเธอ “ฉันอยากมอบเครดิตให้กับเพื่อนๆของฉัน เพราะวอลเลย์บอลต้องเล่นเป็นทีม” เธอยังกล่าวอีกว่าอยากอุทิศรางวัลต่างๆที่ได้ให้แก่ย่า ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเริ่มต้นอาชีพของเธอ “ฉันถูกเลี้ยงมาโดยย่าของฉัน เทรีส ตั้งแต่ฉันอายุ 3 ขวบ แม่ของฉันต้องทำงาน และย่าก็ไม่อยากให้ฉันอยู่กับพี่เลี้ยง เธอเลยพาฉันกับน้องมาอาศัยอยู่ที่เดียวกับเธอ” หลังจากนั้นทุกๆการแข่งขันเธอจะโทรไปคุยกับย่าก่อนเสมอ

เริ่มต้นอาชีพ ช่วงปี 2004 ถึง 2008 เธอเข้ามาเล่นลีคอาชีพให้กับสโมสร Scavolini Pesaro ในอิตาลี แม้กระทั่งทุกวันนี้ เธอก็ยังชื่นชอบอาหารอิตาเลี่ยน เมื่อถามว่าอะไรที่ทำให้เธอเล่นวอลเลย์บอลได้ดี เธอตอบว่า “วอลเลย์บอลคือชีวิตของฉัน ฉันมีความสุขในทุกช่วงเวลาของการเล่น”

พลาดเข้าชิงเหรียญทองชิงแชมป์โลก

รอบไขว้สี่ทีมสุดท้าย ทีมสหรัฐพลิกล็อคเอาชนะบราซิลไปได้ 3:0 เซ็ต ทำให้บราซิลต้องไปชิงเหรียญทองแดงแทน ถือเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดทั้งโค้ชและนักกีฬา พวกเธอกล่าวว่าคืนนั้นร้องไห้และนอนไม่หลับกันทั้งคืน

หลังจากพ่ายแพ้ได้หนึ่งวัน ชีล่ายังอยู่ในอารมณ์เศร้าและยังไม่มีสมาธิเพียงพอที่จะแข่งกับอิตาลี “มันเป็นหนึ่งในแมตช์ที่โหดที่สุดในชีวิตของฉัน ไม่มีใครได้นอนเลย ตัวฉันเองก็ร้องไห้หนักมาก เรายอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้เลย จนกระทั่งอีกหนึ่งชั่วโมงเราจะแข่งกับอิตาลีแล้ว การยอมรับความพ่ายแพ้เป็นเรื่องยาก แต่เราก็ต้องสู้เพื่อเหรียญทองแดงต่อไป” หลังจากที่บราซิลสามารถเอาชนะอิตาลี 3:2 เซ็ตและคว้าเหรียญทองแดงได้สำเร็จ เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “นี่อาจจะเป็นแมตช์ที่ลำบากที่สุดในชีวิตของฉัน เมื่อวานฉันว่าจะเขียนอะไรบางอย่างบนโซเชี่ยลมีเดีย แล้วฉันก็ต้องประหลาดใจเมื่อเข้าไปดู มีแค่สองคนจากพันกว่าคนที่ต่อว่าฉัน เกือบทั้งหมดให้กำลังใจ ฉันเลยเขียนไปว่าฉันจะสู้ให้เต็มที่เพื่อคว้าเอาที่สามให้ได้ คุณรู้ไหมบางครั้งการชิงที่สามมันก็ยากกว่าชิงที่หนึ่งซะอีก เพราะว่าเราต้องยอมรับความพ่ายแพ้เมื่อวานแล้วสู้ต่อไป”

หลังจากชิงแชมป์โลกจบ ชีล่าไม่เชิงปฏิเสธแต่ก็ไม่ยืนยันชัดเจนว่าจะกลับมาแข่งชิงแชมป์โลกอีกหรือไม่ “ฉันไม่แน่ใจว่านี่อาจจะเป็นชิงแชมป์โลกครั้งสุดท้ายของฉันรึเปล่า คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ ฉันคงบอกได้แค่ว่าอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ฉันและเพื่อนๆอยากได้เหรียญทอง เราเป็นทีมที่แข็งแกร่ง” ในช่วงหลังๆมานี้ เธอมักจะพูดกับสื่อว่ามีแผนที่จะเริ่มมีลูกในอนาคตเร็วๆนี้ ซึ่งนั่นจะทำให้เธอหายหน้าไปจากวงการวอลเลย์บอลระยะหนึ่ง “บอกตามตรงว่าฉันก็อยากได้แชมป์แน่นอน แต่มันช่วยไม่ได้ ในตอนนี้ฉันคงต้องทุ่มเทไปกับเหรียญโอลิมปิกในครั้งหน้า”

บทบาทใหม่ในฐานะดีไซเนอร์

ถ้าคุณติดตาม FB ของเธอ จะพบว่าช่วงนี้เธอจะถ่ายรูปคู่กับสินค้าหลากหลายชนิด ไม่ต้องประหลาดใจเพราะเธอกำลังโปรโมตสินค้าที่เธอร่วมดีไซน์ ซึ่งเธอบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่อง Saw, Star Trek และ Lion King(มันช่างคนละแนวกันเลย) สินค้าที่เธอออกแบบมีตั้งแต่เสื้อยืด กรอบโทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่ขวดน้ำ “ที่ออกแบบเอาไว้ค่อนข้างกว้าง เข้าได้กับทุกคน งานนี้ฉันสามารถทำได้โดยไม่ต้องออกจากวงการกีฬา แรงบันดาลใจมาจากหลากหลายที่ ภาพยนตร์ เพลง เกม ศิลปะและประสบการณ์ที่ฉันเจอมา ชีวิตฉันไม่ได้มีอยู่แต่ในสนาม หลังจากแข่งขันเสร็จฉันก็ออกไปทานอาหารเย็นบ้าง ดูภาพยนตร์บ้าง”

เธอจับมือร่วมกับบริษัท 3 Wishes ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านการออกแบบ ในตอนนี้สินค้าของเธอมีขายแค่เฉพาะทางอินเตอร์เน็ต เข้าไปชมได้ที่ http://www.3desejos.com.br/sheilla13-s27/ สนนราคาสินค้าอยู่ที่ 600 - 1000 บาท แต่ถ้าใครอยากซื้อคงต้องรอไปก่อนเพราะจัดส่งเฉพาะในบราซิลเท่านั้น ในตอนนี้เธอยังเป็นแค่ผู้ออกแบบแต่ในอนาคตเธออยากก้าวสู่วงการนี้อย่างเต็มตัว

“เวลาเรานึกถึงวอลเลย์บอล คนส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่การแข่งขัน แต่สำหรับพวกเราและแฟนๆวอลเลย์บอล มันคือไลฟ์สไตล์ ฉันเดินทางไปหลายที่ และพบเจอคนมากมายที่ชื่นชอบวอลเลย์บอล สินค้าเกี่ยวกับวอลเลย์บอล ไม่ใช่สินค้าแฟชั่น ถ้าฉันมีโอกาส ฉันจะเริ่มต้นจากสิ่งนี้” ในตอนนี้เธอเริ่มโครงการ ถ่ายวิดีโอและรูปกับสินค้าต่างๆของเธอ การเริ่มแบรนด์ของเธอเองถือเป็นก้าวแรกของการเป็นนักธุรกิจอย่างเต็มตัว ซึ่งเธอตั้งใจไว้ว่าหลังเลิกเล่นวอลเลย์บอล เธอจะศึกษาต่อและเดินทางเข้าสู่วงการนี้อย่างเต็มตัว “ฉันอยากที่จะเรียนรู้มากกว่านี้ ฉันยังไม่รู้มากนักในตอนนี้ มันเป็นเรื่องของธุรกิจ”

ดราม่าเมื่อนักกีฬาวิจารณ์การเมือง

วันที่ 26 ตุลาคมปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิล ผลคือนาง Dilma Rousseff ได้รับชัยชนะเหนือ Aecio Neves ทำให้เธอเป็นประธานาธิบดีของบราซิลอีก 1 สมัย ชีล่าได้โพสคำวิจารณ์ของเธอถึงผลการเลือกตั้งลงใน twitter ว่า “ไม่อยากจะกลับบราซิล คงไม่มีวันเจริญอีกแล้ว” พร้อมกับติด Hashtag ว่า #อีกไม่นานเราคงเป็นคิวบา ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ในทันที โดยเฉพาะฝ่ายสื่อมวลชนที่เข้าข้างนาง Dilma

ประเด็นแรก สื่อมวลชนมองว่าเป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสมและชีล่าเองควรลบออกแล้วออกมาขอโทษ อย่างไรก็ตามแม้จะถูกต่อว่า เธอก็ยังเก็บข้อความนี้เอาไว้จนถึงปัจจุบัน https://twitter.com/sheillacastro/status/526496998946787328 คนที่วิจารณ์เธอมองว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมสำหรับนักกีฬาที่เป็นตัวแทนของประเทศ แต่กลับออกมาด่าประเทศตัวเองแบบนี้ เพียงเพราะคนที่เธอชอบไม่ได้เป็นประธานาธิบดี ทางที่ดีเธอควรจะหัดยอมรับผลการโหวตแล้วรออีก 4 ปี ดีกว่าจะมาโวยวายให้น่าเกลียด

ประเด็นที่สอง สื่อมวลชนมองว่าทำไมต้องด่ากระทบคิวบา ซึ่งถูกมองว่าเป็นเรื่องน่าอายและยอมรับไม่ได้ สำหรับนักกีฬาที่ตัวเองก็เล่นแข่งด้วยในสนามอยู่เป็นประจำ นักกีฬาที่ดีควรมีความเคารพและไม่ดูถูกประเทศอื่น นี่ถือเป็นการดูถูกโดยไม่จำเป็นและเธอควรถูกลงโทษ สมาคมวอลเลย์บอลควรแถลงการณ์ว่าพวกเค้าไม่สนับสนุนความคิดแบบนี้ พวกเค้าเรียกร้องแบนเธอไม่ให้เล่นโอลิมปิกปี 2016 เลยทีเดียว

กระแสวิจารณ์มีสองฝ่าย ฝ่ายที่ชื่นชมนาง Dilma สาบส่งให้เธอออกนอกประเทศไปอยู่ตุรกีซะเลย ถ้าไม่ชอบดีนัก พร้อมกับคำวิจารณ์ว่าช่วงหลังๆก็เล่นไม่เห็นจะได้เรื่อง ไม่เล่นก็ไม่เห็นจะมีใครสังเกต บางคนก็วิจารณ์ว่าไม่ฉลาด คงจะเพราะมัวแต่เล่นกีฬา เลยไม่รู้สถานการณ์บ้านเมือง ส่วนอีกด้านซึ่งน่าจะชื่นชอบ Aetius พากันรีทวีตไปกว่า 1,300 ครั้ง พร้อมเข้าข้างเธอว่า เธอมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น ไม่เกี่ยวกับว่าเธอเป็นนักกีฬาทีมชาติหรือไม่ เธอมีสิทธิวิจารณ์ในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง นี่เป็นประเทศประชาธิปไตยไม่ใช่เผด็จการ

แล้วพวกเราคิดว่ายังไง? เชิญวิจารณ์

เครดิต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้