สายวันนี้ (1 มี.ค.) พ.ต.ท.วัฒนา มายุรส พงส.สภ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุพระถูกยิงเสียชีวิตที่กลางสวนยางพารา ก่อนถึงทางเข้าวัดป่าบ้านตอสีเสียด ต.บ้านตาด อ.เมือง จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม พบศพพระอาจารย์บัณฑิต สุบัณฑิโต หรือนายแพทย์บัณฑิต สงวนแก้ว อายุ 48 ปี พระลูกวัดป่าบ้านตอสีเสียด หมู่ 15 ต.บ้านตาด มรณภาพคาผ้าเหลือง ห่างจากวัดประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีพระภิกษุอีกรูปทราบชื่อคือ หลวงปู่สุข ซึ่งเป็นพระพ่อของพระที่มรณภาพ นั่งกำมือของพระลูกชายอยู่ตลอดเวลา ท่ามกลางชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบเรื่องเดินทางมามุงดู และต่างร้องไห้ด้วยความเสียใจ
ผลการชันสูตรเบื้องต้น พบว่า ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่แผ่นหลังขวา 1 นัด กระสุนฝังใน และแผ่นหลังซ้าย 1 นัด กระสุนทะลุหน้าท้อง
สอบสวน นางสังวาลย์ โมกงาน อายุ 31 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า พระอาจารย์บัณฑิต ออกบิณฑบาตในหมู่บ้านทุกวัน โดยจะมีชาวบ้าน 1 คน และเด็กวัด 1 คน มาช่วยถือถุงอาหารที่ชาวบ้านใส่บาตรเป็นประจำ วันนี้ก็เช่นเดียวกัน หลังบิณบาตในหมู่บ้านเสร็จและจะกลับวัด มีคนร้ายขับรถกระบะมาสด้า สีขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน ตามหลังมา จากนั้นได้จอดรถผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ได้เปิดประตูรถโดยไม่ได้ลงจากรถใช้ปืนยิง 2 นัดจนล้มฟุบลง แล้วขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า ยังไม่ทราบประเด็นการสังหารโหด เพราะพระอาจารย์บัณทิต จบแพทย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับราชการครั้งแรกที่โรงพยาบาลโนนสะอาด จ.อุดรธานี ย้ายมาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอนายูง โรงพยาบาลอำเภอไชยวาน จ.อุดรธานี และลาออกมาบวชเมื่อปี 2540
ซึ่ง พระอาจารย์บัณฑิต หรืออาจารย์หมอ จะมีหน้าที่ดูแล และตรวจรักษาพระสายวัดป่า เช่น หลวงตามหาบัว หลวงปู่ลี และพระผู้ใหญ่สายวัดป่าทั้งหมดใน จ.อุดรธานี และเป็นพระเลขาและสมุห์บัญชีพระอุดมญาณโมลี (จันทร์ศรี จนฺททีโป) หรือหลวงปู่ใหญ่ เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์(พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.อุดรธานี
ทั้งนี้ ก่อนเข้าพรรษาปีที่ผ่านมา พระอาจารย์บัณฑิต เคยถูกชายฉกรรจ์เข้ามาข่มขู่ในวัด และวางเรือใบทางเข้าวัดทุกเส้นทาง เพื่อไม่ให้ชาวบ้าน หรือประชาชนมาทำบุญ จึงได้ขอกำลังตำรวจจาก สภ.เมือง และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ต.บ้านตาด จัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยที่วัดนานร่วม 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนทั้งของจังหวัด และ สภ.เมือง เร่งสืบสวนสอบติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว เนื่องจากว่าเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญประชาชน พร้อมกันนี้ ได้รายงานเบื้องต้นไปยังตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อขอให้ทีมสืบสวนสอบสวนภาคลงพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย
ที่มา
http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000024468
มือปืนโหด! ลอบยิงพระอุปัฏฐากเกจิดังวัดป่าดับ ขณะกลับจากบิณฑบาต
ผลการชันสูตรเบื้องต้น พบว่า ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่แผ่นหลังขวา 1 นัด กระสุนฝังใน และแผ่นหลังซ้าย 1 นัด กระสุนทะลุหน้าท้อง
สอบสวน นางสังวาลย์ โมกงาน อายุ 31 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า พระอาจารย์บัณฑิต ออกบิณฑบาตในหมู่บ้านทุกวัน โดยจะมีชาวบ้าน 1 คน และเด็กวัด 1 คน มาช่วยถือถุงอาหารที่ชาวบ้านใส่บาตรเป็นประจำ วันนี้ก็เช่นเดียวกัน หลังบิณบาตในหมู่บ้านเสร็จและจะกลับวัด มีคนร้ายขับรถกระบะมาสด้า สีขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน ตามหลังมา จากนั้นได้จอดรถผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ได้เปิดประตูรถโดยไม่ได้ลงจากรถใช้ปืนยิง 2 นัดจนล้มฟุบลง แล้วขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า ยังไม่ทราบประเด็นการสังหารโหด เพราะพระอาจารย์บัณทิต จบแพทย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับราชการครั้งแรกที่โรงพยาบาลโนนสะอาด จ.อุดรธานี ย้ายมาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอนายูง โรงพยาบาลอำเภอไชยวาน จ.อุดรธานี และลาออกมาบวชเมื่อปี 2540
ซึ่ง พระอาจารย์บัณฑิต หรืออาจารย์หมอ จะมีหน้าที่ดูแล และตรวจรักษาพระสายวัดป่า เช่น หลวงตามหาบัว หลวงปู่ลี และพระผู้ใหญ่สายวัดป่าทั้งหมดใน จ.อุดรธานี และเป็นพระเลขาและสมุห์บัญชีพระอุดมญาณโมลี (จันทร์ศรี จนฺททีโป) หรือหลวงปู่ใหญ่ เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์(พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.อุดรธานี
ทั้งนี้ ก่อนเข้าพรรษาปีที่ผ่านมา พระอาจารย์บัณฑิต เคยถูกชายฉกรรจ์เข้ามาข่มขู่ในวัด และวางเรือใบทางเข้าวัดทุกเส้นทาง เพื่อไม่ให้ชาวบ้าน หรือประชาชนมาทำบุญ จึงได้ขอกำลังตำรวจจาก สภ.เมือง และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ต.บ้านตาด จัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยที่วัดนานร่วม 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนทั้งของจังหวัด และ สภ.เมือง เร่งสืบสวนสอบติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว เนื่องจากว่าเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญประชาชน พร้อมกันนี้ ได้รายงานเบื้องต้นไปยังตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อขอให้ทีมสืบสวนสอบสวนภาคลงพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย
ที่มา http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000024468