จันทบุรี เมืองเงียบๆ เนิบๆ มักจะเป็นทางผ่านที่ดูไม่ค่อยมีอะไรให้แวะ แต่หลังจากพี่ๆเพื่อนๆหลายคนมา แล้วบอกว่า จันทบุรีนี่ไม่ธรรมดานะ เลยอาศัยจังหวะว่าง เสาร์ - อาทิตย์ จัดโร้ดทริปไปสำรวจที่จันทบุรีดู ล้ะก็พบว่าจังหวัดที่หลายๆคนมักขับรถผ่าน หรือมาไม่ถึง (หรือมากสุดคือแวะกินไก่แถวน้ำตกพริ้ว) อย่างจันทบุรีนี้มีอะไรเด็ดกว่าผลไม้ เส้นจันทร์ผัดปู หรือหมูชะมวง เพราะทริปนี้ เราตามหาตั้งแต่โรงแรมดี ร้านกาแฟเก๋ ยันไข่ปลาฉลาม ! พร้อมแล้ว ลุยยยยย



ทริปนี้เป็นทริปสั้นๆ เราเลือกมาพักกันแถวย่านชุมชนเก่าริมแม่น้ำจันทบูรณ์ ชุมชนโบราณเล็กๆในตัวเมืองจันทร์ที่ชุมชนแถวนั้นกำลังจะพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวกึ่งประวัติศาตร์ แต่ที่ต่างออกไปจากที่อื่นๆคือ ชุมชนที่นี่ถูกพัฒนาให้ร่วมสมัยสุดด เก๋สุดด ไม่ได้ขายแต่มุมไท๊ยไทยอย่างเดียว ย่านนี้จึงเหมาะกับใครที่อยากหาที่อยู่สงบๆ เงียบๆ ไม่วุ่นวาย ให้เรานั่งคิดไรเรื่อยเปื่อยโน่นนี่ ที่ที่เราพักเป็นบ้านเก่าของคุณหลวงที่ถูกปรับปรุงให้เป็นที่พักขนาดเล็ก ตกแต่งสวยสลบ แถมด้านหลังอยู่ติดริมแม่น้ำพอดิบพอดี ชื่อว่า บ้านหลวงราชไมตรี







เพราะที่นี่เป็นโรงแรมกึ่งพิพิธพันธ์ที่ให้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ห้องที่เราพักจึงถูกตกแต่งตามแบบห้องของทูตฝรั่งที่เคยมาทำการค้าที่จันทบุรี ซึ่งออกแนวเอ็กซอติกและฝรั่งๆหน่อย เราชอบดีเทลนู่นนี่ของที่นี่มาก เตียงสี่เสาแบบเก่า ม่านลายทาง ในห้องฟีลไม้ๆ แต่บอกก่อนว่าแต่ละห้องของที่นี่ตกแต่งไม่เหมือนกันเลย





อันนี้เป็นอีกห้องของเพื่อน ที่ต่างออกไป คือเราได้นอนบนฟูกที่อยู่บนชั้นลอย ก็จะเป็นฟีลขาวๆ โล่งๆโปร่งๆ จะโมเดิร์นขึ้นมานิดนึง



อย่างที่บอกว่าโรงแรมติดริมแม่น้ำ เราเลยได้กินข้าวเช้าริมแม่น้ำอย่างที่เห็นนี่แหละะ







เดินออกมาจากโรงแรมมาสำรวจชุมชนกันบ้าง ในช่วงกลางๆถนนจะมีแผนที่ของชุมชนริมน้ำจันทบูรณ์นี้ ให้เราดูว่า เราอยู่ตรงไหน มีสถานที่น่าสนใจอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง เอาจริงๆลุคมันอาจดูคล้ายพวกปาย หรือเชียงคาน แต่เราว่าที่นี่ยังไม่คอมเมอร์เชียลมากขนาดนั้น ชุมชนยังเป็นชุมชนอยู่มากๆ และมากๆ



ถนนเมนในชุมชนเล็กนิดเดียว เริ่มมีการเอางานศิลปะ หรือภาะอะไรแบบนี้ มาไว้ตามมุมต่างๆด้วย มันเลยทำให้ที่นี่ไม่ได้เก่าา จนเชย



เพราะว่าชุมชนแถวนี้มีการค้าขาย ติดต่อกับชาวต่างชาติในสมัยก่อน เลยทำให้มีบ้านทรงขนมปังขิงนี้เรียงรายไปทั้งถนน ซึ่งบางที่ก็ยังคงเป็นที่อยู่อาศัย หรือบางที่ก็ถูกปรับไปให้เป็นร้านกาแฟบ้าง ร้านขายของบ้างตามสมัย







นี่คือชุมชนเมื่อมองมาจากอีกฝั่งของแม่น้ำ



ล้ะนี่คือคุณหมู คุณหมูคือผู้ดูแล บ้านหลวงราชไมตรี นอกจากดูแลพวกเราแล้ว คุณหมูยังคอยบอกทาง แนะนำร้านต่างๆ ให้ความรู้และข้อมูลดีๆเกี่ยวกับที่มาที่ไปของการพัฒนาของชุมชนริมน้ำจันทบูรณ์แห่งนี้อีกด้วย ต่อให้ไม่ได้มาพัก คุณหมูและพี่ๆสตาฟฟ์ก็คอนสแตนด์บายให้ความรู้ที่พิพิธพันธ์ขนาดเล็ก ด้านล่างของบ้าน



และต่อมากับอีกที่ที่เราไม่คิดว่าจะมาอยู่ในย่านชุ่มชนเก่าละมุนแห่งนี้
CAP : ร้านกาแฟที่เราไม่คิดว่าจะเจอ เป็นที่ที่อยู่ดีดีก็โผล่มาเก๋เฉยยยยยย คาดว่าเก๋สุดในย่าน ใครที่ติดว่าต้องกินกาแฟสด ชงดีดี มาอยู่แถวนี้ไม่ต้องกลัวอดกาแฟตาย ที่นี่นอกจากกาแฟ จะมีเมนูจากผลไม้ที่ชื่อ มะปี๊ด คล้ายๆน้ำส้มผสมมะนาว อร่อยดี รับรองว่าหากินไม่ได้ในกรุงเทพ จากการสังเกตุ คนแถวนี้ และคนที่มาเที่ยวก็แวะเข้ามาร้านนี้กันเรื่อยๆเลยนะ ขอเดาว่าเป็น The next ร้านเก๋ของจันทร์แน่ๆ 555555







ใครกลัวว่า เอ้ะ มาถึงจันทร์ ไหนทะเล???? อย่าพึ่งใจร้อน ขับรถออกจากตัวเมืองจันทร์ (ตาม GPS ไปเรื่อย) จนชนกับชายหาด ขับรถเลียบหาดไปเรื่อยๆ ก็จะเจอที่นี่
หน่วยสาธิตการเลี้ยงสัตว์น้ำ, อ่าวคุ้งกระเบน : ที่สาธิตการเลี้ยงปลาของกรมประมง และที่ชื่อคุ้งกระเบน เพราะอ่าวเล็กๆแหล่งนี้ มองจากมุมสูงหน้าตาเหมือนปลากระเบนเด้ะ ซึ่งที่นี่จะแบ่งเป็นกระชังๆ เลี้ยงปลา และเต่าตัวใหญ่ยักษ์ หลายกระชัง เรามันเป็นชอบพวกอควาเรียมกะสัตว์น้ำ เลยไม่อยากพลาด







ความพีคของที่นี่คือการให้อาหารฉลาม เราจำชื่อพันธ์น้องไม่ได้ แต่มันไม่ดุ เสียดายที่ตอนเราไปมันดูอิ่มแล้ว น้องเลยว่ายเอื่อยๆ ไม่สนใจใคร (ถ่ายมาได้ตัวเดียว จิงๆในบ่อมีเยอะมาก ตอนลงไปแอบกลัว บอกเลอ 55555)



ที่เห็นนี่ไม่ใช้ต้นไม้หรืออะไร มันคือ "ไข่ฉลาม" นั่นแหละ ใช่ ถ้าดูเผินๆจะเหมือนท่อนไม้อะไรไม่รู้ คุณลุงที่ดูแลศูนย์บอกให้เราเอามันขึ้นจากน้ำมาส่องแดด จะเห็นน้องฉลามเล็กดุ๊กดิ๊กอยู่ข้างใน คือตื่นเต้นน้ะ แต่ก็กลัวน้องคลอดคามือ 555555 (เพราะลุงบอกน้องกำลังจะคลอดแล้ว)



สถานที่ต่อไปเราขับรถออกจากจันทบุรีย้อนกลับค่อนมาทางระยอง ก็จะเจอกับสถานที่เที่ยวอีกที่ที่ไม่อยากให้พลาด โดยเฉพาะคนชอบโลเคชั่นแบบ ทุ่งๆ หินๆ หญ้าๆ สไตล์ เขาช้างเผือก แต่ที่นี่เปลี่ยนแบ็คกราวน์จากสันเขา เป็นทะเลสุดลูกหูลูกตา
อุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า : เขาแหลมหญ้าเสียค่าเข้า 40 บาท ต้องขับรถขึ้นเขสลงเขาเล็กน้อย จนในที่สุดเราก็เจอทางหินยาวเดินไปปลายแหลม แนะนำว่าถ้ามาวันธรรมดาที่นี่จะโปร่งโล่งมาก เราไปเสาร์อาทิตย์ คนก้จะเยอะหน่อย





เราต้องเดินลัดเลาะไปตามภูเขา แอดเวนเจอร์นิดหน่อย แต่ไม่ลำบากมากเพราะมีสะพานไม้เชื่อมไปตลอดทางที่ยากลำบาก เป้าหมายเราคือสุดปลายแหลมที่เห็นอยู่ลิบลิบ





พอใกล้จะถึงปลาย ก็จะมีทางเล็กๆ ให้เดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวส่วนปลาย สองข้างทางเป็นหญ้าสีส้มตลอดทาง สมชื่อ เขาแหลมหญ้า



เอาเป็นว่าปีนมาสุดล้ะสวยมาก ไม่รู้จะเก็บยังไงให้หมด โครตแนะนำสำหรับคนที่ชอบโลเคชั่นสไตล์ทุ่งหญ้า หิน ทะเล ปีนมาเพื่อเมคโปรไฟล์พิคอย่างเดียวยังคุ้มมมม พูดเลยค่าาาา 55555555





จบแล้วสำหรับทริปนี้ ขอบคุณที่อ่านกันถึงจุดนี้นะคะ ผิดพลาดอะไรก็ขออภัยด้วย หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ อ่านจบรับรองว่าฟอลโล่วได้ง๊ายง่าย เสาร์- อาทิตย์นี้ เก็บเสื้อผ้า ตามไปได้เล้ยยยย

รีวิวอื่นๆ สามารถติดตาม หรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับทริปนี้ ได้ที่ https://www.facebook.com/coundsheckjourney นะค๊า

ปล. ใครอยากลองมาพักที่เดียวกับเรา สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.baanluangrajamaitri.com/ ค่า
ปล. 2 ขออณุญาตแทคห้องกล้อง ภาพทั้งหมดถ่ายด้วยกล้อง FUJIx20 โปรเสสภาพใน Lightroom ค่ะ



หรือใครเล็งว่าจะไปเที่ยวเกาหลร หรือญี่ปุ่น ไปตามกันได้ที่กระทู้เก่าๆที่เคยโพสไป
1th รีวิว: สะพายกล้องเที่ยว Seoul เวอร์ชั่น hipster. (แบบที่ทัวร์ไม่พาไป ในหนังสือไม่มีบอก อิอิ) > http://ppantip.com/topic/31974652
Summer in Seoul : สะพายกล้องเที่ยว Seoul เวอร์ชั่น hipster. (รอบที่สอง!) > http://ppantip.com/topic/32405681
Kansai Sakura Guide! : สถานที่ที่น่าไปวิ่งไล่ดอกซากุระ ในเกียวโต & โอซาก้า! > http://ppantip.com/topic/32734894