กำลังเซ็งกับธนาคารกสิกรไทย คือเราทำธุรกิจส่วนตัว แล้วก็ตัดสินใจขอวงเงินโอดีกับธนาคารกสิกรไทย เมื่อ ปลายปี 2554 ตอนทำเราเป็นผู้ติดต่อ ยื่นเรื่อง เตรียมเอกสาร ทุกอย่าง การขอโอดีของเราต้องใช้โฉนดบ้านค้ำประกัน ทางธนาคารก็ดำเนินการให้ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่าย ประเมินบ้าน จดจำนอง ภาษี ทำประกันการใช้วงเงิน 5 ปี ซึ่งอันนั้นเราทราบข้อมูลอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร ได้วงเงิน 7 แสนบาท พอเอกสารเรียบร้อยส่งสำเนามาให้เก็บ กลายเป็นชื่อผู้กุ้เป็นสามีเรา และค่าประกันวงเงินโอดีเกือบ 5 หมื่นบาท (ไม่ได้แจ้งเราเลย แต่เอาชื่อสามีเพราะผู้ชายเบี้ยประกันแพงกว่าผู้หญิง) นั่นก็เอาเปรียบเราไปแล้ว พอเมื่อเดือนที่แล้วเราไปทำเรื่องขอยกเลิกวงเงินโอดี เพราะต้องการไถ่ถอนโฉนดออก ซึ่งเราไม่ได้มีหนี้ค้างชำระอะไรกับธนาคารเลย เพราะระยะหลัง ๆ ธุรกิจเข้าที่แล้ว เราก็ไม่ค่อยได้ใช้วงเงินสักเท่าไร ทางธนาคารแจ้งเราว่า เราต้องเสียดอกเบี้ยในการไถ่ถอนโฉนด 3% ของวงเงินโอดี แม่เจ้า ปรี๊ดแตกเลยเรา ต้องเสีย 21000 บาท นี่เงินแค่ 7 แสน เราถามว่าเสียทำไม ทำไมต้องเสีย เราปิดเกิน 3 ปีแล้ว ธนาคารสาขาบอกว่า ในสัญญาระบุไว้ เราบอกว่าตอนทำสัญญา ธนาคารไม่ได้แจ้งเราเลยว่าเป็นแบบนี้ และแม้แต่ธนาคารสาขาเองก็ไม่มีใครรู้ว่าต้องเสีย แต่ตอนทำเอกสาร สาขาทำระบุว่าเราต้องเสียดอกเบี้ย งงสิที่นี่เรา เราก็บอกผู้จัดการว่า ถ้าธนาคารแจ้งว่าเราต้องเสียดอกเบี้ยแบบนี้ตั้งแต่แรก เราก็คงไม่ทำ สรุปธนาคารบอกจะทำเรื่องขอยกเลิกกับสำนักงานใหญ่ ซึ่งท่าทางว่าคงจะไม่ได้ คิดว่าเราก็คงต้องจำยอมต้องจ่าย แล้วแถมต้องเสียเบี้ยประกันอีก 16000 บาท ไปก่อน แล้วค่อยเอากรมธรรม์ไปเวนคืน สรุปว่าถ้าจะเอาโฉนดออก ต้องจ่ายเงินเกือบ 4 หมื่นบาท ทั้ง ๆ ที่การใช้วงเงินโอดี ต่างกับการกู้เงิน การกู้เงิน เมื่อทำเรื่องผ่าน ธนาคารโอนเงินเข้าบัญชี แล้วเราผ่อนคืนเป็นรายเดือนพร้อมดอกเบี้ย จะกี่ปีก็แล้วแต่สัญญา แต่โอดี เราไม่ได้เงิน แต่เราสามารถเบิกถอนเงินสดได้ตลอดเวลาตามวงเงิน และธนาคารก็คิดดอกเบี้ยตามเงินที่เราใช้ เวรกรรมของลูกค้าจริง ๆ สงสัยคงต้องฟ้อง สคบ หรือพึ่งศูนย์ดำรงธรรมบ้าง ปล่อยให้ธนาคารพวกนี้ทำแบบนี้ได้ยังไง แล้วจะมาแจ้งผลคืบหน้านะคะ แต่คงเลิกทำธุรกรรมใด ๆ กับธนาคารกสิกรไทยแน่ ๆ แล้วก็คงปิดบัญชีทุกบัญชีที่มี
แหม่มนครศรีธรรมราช
ใครเคยเจอบ้างคะ ปิดโอดีกับกสิกรไทย ธนาคารแจ้งว่าต้องเสีย 3% ทั้ง ๆ ที่เกิน 3 ปีแล้ว
แหม่มนครศรีธรรมราช