คุณต้องทราบก่อนว่า แฟนเก่าคุณต้องการอะไร?
1> ถ้าเค้าต้องการเงินส่วนที่เค้าได้ช่วยออกไปบางส่วนคืน "คุณควรจะเจรจา" ถ้าเค้าไม่คุยกับคุณ คุณคงต้องหาคนที่แฟนเก่าคุณเคารพให้ช่วยเข้ามาไกล่เกลีย...เพราะถ้ายังปล่อยให้คดีความยืดออกไปแบบนี้ คุณและแฟนเก่าจะไม่เหลืออะไรเลย เพราะคุณทั้งสองต้องเสียค่าทนาย ค่าร่างเอกสารของทนาย ค่าเดินทาง ตามคดี และเสียเวลา อาจต้องเสียงานประจำที่ทำไปด้วย หรือเคสนี้ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะคดีความ คุณก็จะไม่ได้ส่วนแบ่งคืนตามที่ควรจะได้เพราะคุณต้องแบ่งเปอร์เซนต์ให้กับทนายอีก แล้วที่สำคัญ หลังจากชนะคดีแล้วอีกฝ่ายไม่จ่ายตามคำสั่งศาล process ต่อไปคือต้องฟ้องบังคับคดี และ ยึดทรัพย์ ซึ่งใช้เงินเป็นค่าทนายและศาลเช่นกัน คหสต เราคิดว่า มีแต่เสียกับเสียนะ....

2> แต่ถ้าเค้าเจ็บแค้นจากการเลิกราและต้องการแก้แค้น "อยากให้คุณติดคุก" คุณคงต้องสู้คดีสถานเดียว พิสูจน์ให้ได้ว่าเราไม่ได้ยักยอก แต่อยากจะบอกให้ทำใจได้เลยว่า คุณจะต้องเสียเวลา เสียเงิน และเสียจิตไปอีกนาน....เพราะระบบกล่าวหาและไตร่สวน มันเป็นอะไรที่ต้องพิสูจน์ด้วยหลังฐานและต้องใช้เวลา....

เรามีประสบการณ์เรื่องการถูกกล่าวหาในคดีความอาญามาแล้ว...เราสู้คดีจนชนะและพยายามถามหาความยุติธรรมและเรียกร้องจ่ายใช้จ่ายที่ต้องสูญเสียไปคืนกลับมา แต่เราก็ต้องยุติมันลง และไม่ได้ดำเนินการใดๆต่อเพราะระบบความยุติธรรมที่มีจริงแต่ต้องรอเวลาและต้องฟ้องบังคับคดี เราเลยปล่อยให้ระบบผิดชอบชั่วดีและเวรกรรมเป็นตัวช่วยดีกว่า เราสบายใจที่คิดแบบนี้....

ที่สำคัญเคสคดีเรา จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าจุดเริ่มต้นจากคนที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้รักษากฎหมายไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน ไม่เห็นแก่เพื่อนพ้องและพรรคพวก.... ถ้าเค้าทำตามหน้าที่และทำตามคำสัตย์ปฎิญาณต์ที่ได้ให้ไว้ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ขอให้เวรกรรมมีจริง ....อิอิอิ แอบระบายนิดนึงนะ