คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
ขอเกริ่นเลยนะคะ เราไม่ได้ เป็นคนรู้เรื่องมอเตอร์ไซค์มากนัก อาจมีการใช้ศัพท์ผิดถูกไปบ้างแต่ทุกๆคำมาจากผู้รู้ที่เราไปขอคำแนะนำ
และช่างที่แจ้งเรามาต้องขอออกตัวไว้ก่อน และมาแชร์ให้ฟัง ขำๆค่ะ
และไม่ได้หมายความว่า...DUKE 390 ทุกคัน จะต้องโดนปัญหาแบบนี้(มั้งคะ) เพียงแต่รถเราเป็น 1ในการได้รับสิทธิ์ แจ็คพ็อตครั้งนี้ เท่านั้นเอง
เป็นผู้หญิง ที่ตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์ด้วยอารมณ์ล้วนๆความพอใจล้วนๆเอาแต่ใจตัวเองล้วนๆ
ไม่หาข้อมูลมาก่อน ขี่ไม่เป็นมาก่อน เห็นปั๊ป ซื้อปุ๊ป ........ ยอมรับชะตากรรมค่ะ จากที่คิดจะซื้อเป็นของเล่นสนุกสนาน กลายเป็นเอาภาระมาเพิ่ม ถ้าเพิ่มภาระแล้วได้ใช้คงไม่รู้สึก แต่นี่เสียเงินไปแต่เทียวไล้เทียวขื่อ ซ่อม ...ไม่สนุกแล้วค่ะ
จำไว้ว่า " ทีหลัง คิดดีๆ ก่อนซื้ออะไร ...ซื้อมาเจอปัญหา มาเล่าในพันทิป เดี๋ยวจะโดนสมน้ำหน้าเอาอีก "
วันที่ 26 เดือน กค 2014 ได้รถคันนี้มาครอบครอง ความรู้สึกแรก ... การประกอบ หยาบ ดิบ น็อตต่างๆแถมตะกรันมาให้
เฟรมพ่นสีไม่ค่อยเสมอ....แต่ไม่เป็นไรคิดมโนไป .... อินดี้ ต้องดิบๆ
ปิ๊งปุง ++++สตาร์ทติดยาก อันนี้เบลอใส่ปัญหาเล็กๆ
อาการเกจ์น้ำมันเพี้ยน -- ซึ่งนั่นแรกๆพอเข้าใจได้ รถใหม่ๆ คงเพี้ยนๆ แต่ในที่สุด ไม่ไหว เติมเต็มถัง ขี่ไป 80 km. ไฟเตือนน้ำมันขึ้น
น้ำมันตกขีด ลองเติม 4ลิตรเต็มถัง(ถังจุ 11ลิตร) ดื้อลองไปอีก 2-3 ครั้ง ไม่ไหวชะนีไม่ชอบมโน เข้า 0 เปลียนเซนเซอร์ถังน้ำมัน
อาการนั้นหายไป ขี่ไปซักพัก เลขไมล์ ประมาณ 600กว่าๆเริ่มมีอาการ สะอึกๆเวลาขี่ความเร็ว50km/hr
พยายามถามพี่ๆเพื่อนๆหลายๆท่านที่ใช้รถรุ่นนี้ บางท่านก็ตอบว่าเป็นปกตินิสัยรถมันโหด มันดื้อ กระชากอยากจะไป
บางท่านตอบว่า ลองขี่ไปก่อน อาจเป็นเพราะยังไม่คุ้นชินกับรถ โอเค ชะนีขี่รถไม่เป็นเองสินะไม่เข้าใจรถ ทนไปกับอาการนี้เรื่อยๆ
แต่ในใจแอบคิด มันขนาดนั้นเชียวรึ สตาร์ทได้ใส่เกียร์ได้ต้องบิดหมดปลอกเลยรึ... เกินไป๊..
จนวันหนึ่ง ดับกลางถนน ด้วยอาการ สะอึกๆๆๆแบบเดิมแต่คราวนี้ แตกต่างตรงที่สะอึกๆแล้วดับ ไปเลย เรียกรถเซอร์วิสมายก
ส่งเข้า 0 เปลี่ยนปั๊มติ๊ก !!!
ด้วยความสงสัยเพราะปกติ ปั๊มติ๊กไม่น่าเสียง่ายๆ ( เปรียบเทียบเอากับรถยนต์ไปว่า รถที่เคยใช้มา บางทีขับจนขายรถทิ้ง ยังไม่เคยต้องเปลี่ยนปั๊มติ๊กด้วยซ้ำ) จึงเริ่มหาข้อมูลปัญหาของรถรุ่น นี้ พบว่า ..... รถรุ่นนี้มีปัญหาแบบนี้ "เกือบ" ทุกคัน
ย้ำนะคะ เกือบ ไม่ได้บอกว่าทุกคัน โอเค พอเข้าใจได้ ว่ารถรุ่นแรกๆต้องมีปัญหาบ้าง พอรับได้ ....ซ่อมหายก็ ไม่ติดใจ
อาการต่อมาช่วงต้นเดือน ธค 2014 - ปัจจุบัน เดือน กพ 2015 ......(ณ.ขณะนั้นเลขไมล์ ประมาณ 1,ุ500 )
เริ่มสังเกตุได้ว่า ความร้อนเริ่มผิดปกติ .....
เมื่อตอนเจออาการครั้งแรก ขี่ระยะทาง 3กิโลเมตร ถนนรามคำแหง หน้าจอเตือน HI TEMP แล้วเครื่องดับ ต้องรอประมาณครึ่งชั่วโมง ถึงจะสตาร์ทติด
กลับบ้านมา รีบดับเครื่อง แล้วรอซักพัก สตาร์ทเครื่องใหม่เอาไฟฉายส่องไปดูที่พัดลม...เง้ย...ความ ร้อนขึ้น พัดลมไม่ทำงานนี่นะ
ตอนนั้น โทรปรึกษาช่าง ให้มายกรถ ไป 0 อาการนี้ รถอยู่ 0 จำนวน 3วัน ได้รถกลับมา ...ได้รับแจ้งว่า หาสาเหตุไม่เจอ !!!!!!
เอ่อ ยังไงหล่ะไม่เจอ เออสงสัยโรคกลัวช่างเอากลับมาขี่ไป โดนอาการเดิมอีก พัดลมไม่ทำงาน ความร้อนขึ้น แต่คราวนี้ไม่ปล่อยให้ดับ
เรารีบจอดเองก่อนเลย แล้วโทรหาช่างเช็คคิวเข้าซ่อม เพราะเราว่าเรื่องนี้มันต้องมีอะไรสินะ มันจะปกติได้ไง
งานนี้รถอยู่ 0 ไป 1 สัปดาห์ 0 ช่างแจ้งว่าหาสาเหตุไม่เจอแต่เปลี่ยนพัดลมให้เพื่อความสบายใจของลูกค้า !!!!
ช่าง"ขี่รถมาส่งที่บ้าน" ไอ้เราก็ผวา เลยบอกช่างว่ารีบไม๊ พี่ขอเช็ดอาการก่อนนะ
เราก็จัดการเลย สตาร์ททิ้งไว้ รอจนเครื่องร้อน ครั้งแรก พัดลมติด....โอ้ยสบายใจคร่า เอาใหม่ ลองอีกที
สตาร์ทบึ้ม.....รอเครื่องร้อน คราวนี้พัดลมไม่ทำงานจ้า ..ดับเครื่อง ไม่เป็นไร เอาใหม่อีกทีนะ สตาร์ทบึ้ม แป็ดๆๆๆๆๆๆ(เสียงท่อ)
คราวนี้ ความร้อนพุ่งสุด หน้าจอโชว์ Hi TEMP ดับโชว์เลยจ้า ....รออีกพัก สตาร์ทใหม่ ติด คราวนี้ ให้ช่างเอากลับไปเลย ไม่ลองแล้ว
งานนี้รถอยู่ 0 ไปอีก 1สัปดาห์ ..... ช่างแจ้งว่า เปลี่ยนเซนเซอร์ พอเอากลับมาส่งบ้าน ลองแบบเดิม เป็นเหมือนเดิม
คราวนี้เลยบอกไปว่า เอารถทิ้งไว้บ้านนี่แหละนะ เพราะน้องช่างแจ้งว่า สงสัยต้องเปลี่ยน ลีเลย์ รออะไหล่ประมาณ 2อาทิตย์
โอเค มีอะไหล่แล้วแจ้งมาละกัน พี่ค่อยเอารถเข้า 0ไปเปลี่ยน (ให้มันจอดอยู่บ้านได้ชื่นชมบ้าง ถึงจะขี่ไม่ได้ก็ตาม.....เศร้าแพ้พ )
2สัปดาห์ผ่านไป โทรไปถาม อะไหล่มาแล้ว เอาเข้าไปเปลี่ยน นั่งรอ บ่ายโมงถึง6โมงกว่า ลองแล้วลองอีก ใน 0 ปกติดี ...น่าจะรอดแระ ดีใจน้ำตาไหล
ปรากฎว่า....ขี่ออกมาจาก 0ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มาถึง หน้าวัดพระรามเก้า กาญจนาภิเษก ดับจ้า....ดับกลางถนน กลางสะพานก่อนถึงโกลเด้นท์เพลส นึกภาพตามนะคะ ชะนีลงจากมอเตอร์ไซค์มาถอน สายบัว ของทางเข็นรถเข้าข้างถนนกลางสะพาน
หน้าจอโชว์ Hi TEMP เหมือนเดิม เหอะๆ เรียก0มารับรถกลับไป บัดเดี๋ยวนั้นค่ะ
จากอาการสุดท้ายได้รถออกจาก 0วันที่ 20 กพ 2015 หลังจากที่จอดหาสาเหตุอยู่ใน 0 ตั้งแต่วันที่ 6 กพ 2015
ช่างแจ้งว่ารอเช็ค Vehicle control และจบด้วยการเปลี่ยน ECU !!!
ปอ. ลิง. ไม่โทษช่างนะคะ น้องเค้าได้พยายามแล้ว
ไม่โทษแบรนด์นะคะ เราไม่ศึกษาข้อมูลเอง
ไม่เถียงค่ะ ถ้ารถไม่มีปัญหาจุกจิก และเรื่องอะไหล่ที่ต้องรอนาน ขี่สนุกมากค่ะ เรียกมาไล่ไป
ข้อควรจำ : รักจะอินดี้ใช้แบรนด์นี้ ต้องพร้อมรับทำใจกับปัญหาที่จะเจอค่ะ
ถ้าคิดว่าจะซื้อมาเพื่อเป็นรถใช้งานทุกวัน ต้องคิดใหม่ !!!! นิดนึง
แต่ถ้าซื้อมาเป็นของเล่น ให้คิดซะว่า เข้าๆออกๆ 0 สนุกดีค่ะ
อบอุ่น เข้า 0 บ่อยๆ จนคุ้นชินสนิทกับพนักงานและลูกค้าที่มา 0 ท่านอื่นๆ
และเข้าใจโลกนะคะ รถทุกยี่ห้อ ต่างมีปัญหาทั้งนั้น !!!! ไม่ใช่ KTM อย่างเดียว แต่บางทีก็นะ...
จริงๆ มันแอบมีรายละเอียดในการบริการเล็กๆน้อยๆอีกนะ แต่ขี้เกียจเล่า เอาเป็นว่า หลักๆไปก่อนละกันค่ะ
เพราะเกรงจะกลายเป็น กระทู้ดราม่า ว่าไปโจมตีใครเขา ยังยืนยันในฐานะผู้ครอบครอง DUKE 390 นะคะ ว่าชอบแบรนด์นี้
...........แต่ ต้องปรับปรุง 0อีกมากจริงๆค่ะ...........
และขอบคุณมิตรภาพต่างๆของชาวKTM นะคะ
ที่ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ ดีๆมาโดยตลอดๆ ก่อนที่เราจะตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ ... ขอบคุณมากๆค่ะ.... อินดี้ บาย อินเดีย..
และช่างที่แจ้งเรามาต้องขอออกตัวไว้ก่อน และมาแชร์ให้ฟัง ขำๆค่ะ
และไม่ได้หมายความว่า...DUKE 390 ทุกคัน จะต้องโดนปัญหาแบบนี้(มั้งคะ) เพียงแต่รถเราเป็น 1ในการได้รับสิทธิ์ แจ็คพ็อตครั้งนี้ เท่านั้นเอง
เป็นผู้หญิง ที่ตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์ด้วยอารมณ์ล้วนๆความพอใจล้วนๆเอาแต่ใจตัวเองล้วนๆ
ไม่หาข้อมูลมาก่อน ขี่ไม่เป็นมาก่อน เห็นปั๊ป ซื้อปุ๊ป ........ ยอมรับชะตากรรมค่ะ จากที่คิดจะซื้อเป็นของเล่นสนุกสนาน กลายเป็นเอาภาระมาเพิ่ม ถ้าเพิ่มภาระแล้วได้ใช้คงไม่รู้สึก แต่นี่เสียเงินไปแต่เทียวไล้เทียวขื่อ ซ่อม ...ไม่สนุกแล้วค่ะ
จำไว้ว่า " ทีหลัง คิดดีๆ ก่อนซื้ออะไร ...ซื้อมาเจอปัญหา มาเล่าในพันทิป เดี๋ยวจะโดนสมน้ำหน้าเอาอีก "
วันที่ 26 เดือน กค 2014 ได้รถคันนี้มาครอบครอง ความรู้สึกแรก ... การประกอบ หยาบ ดิบ น็อตต่างๆแถมตะกรันมาให้
เฟรมพ่นสีไม่ค่อยเสมอ....แต่ไม่เป็นไรคิดมโนไป .... อินดี้ ต้องดิบๆ
ปิ๊งปุง ++++สตาร์ทติดยาก อันนี้เบลอใส่ปัญหาเล็กๆ
อาการเกจ์น้ำมันเพี้ยน -- ซึ่งนั่นแรกๆพอเข้าใจได้ รถใหม่ๆ คงเพี้ยนๆ แต่ในที่สุด ไม่ไหว เติมเต็มถัง ขี่ไป 80 km. ไฟเตือนน้ำมันขึ้น
น้ำมันตกขีด ลองเติม 4ลิตรเต็มถัง(ถังจุ 11ลิตร) ดื้อลองไปอีก 2-3 ครั้ง ไม่ไหวชะนีไม่ชอบมโน เข้า 0 เปลียนเซนเซอร์ถังน้ำมัน
อาการนั้นหายไป ขี่ไปซักพัก เลขไมล์ ประมาณ 600กว่าๆเริ่มมีอาการ สะอึกๆเวลาขี่ความเร็ว50km/hr
พยายามถามพี่ๆเพื่อนๆหลายๆท่านที่ใช้รถรุ่นนี้ บางท่านก็ตอบว่าเป็นปกตินิสัยรถมันโหด มันดื้อ กระชากอยากจะไป
บางท่านตอบว่า ลองขี่ไปก่อน อาจเป็นเพราะยังไม่คุ้นชินกับรถ โอเค ชะนีขี่รถไม่เป็นเองสินะไม่เข้าใจรถ ทนไปกับอาการนี้เรื่อยๆ
แต่ในใจแอบคิด มันขนาดนั้นเชียวรึ สตาร์ทได้ใส่เกียร์ได้ต้องบิดหมดปลอกเลยรึ... เกินไป๊..
จนวันหนึ่ง ดับกลางถนน ด้วยอาการ สะอึกๆๆๆแบบเดิมแต่คราวนี้ แตกต่างตรงที่สะอึกๆแล้วดับ ไปเลย เรียกรถเซอร์วิสมายก
ส่งเข้า 0 เปลี่ยนปั๊มติ๊ก !!!
ด้วยความสงสัยเพราะปกติ ปั๊มติ๊กไม่น่าเสียง่ายๆ ( เปรียบเทียบเอากับรถยนต์ไปว่า รถที่เคยใช้มา บางทีขับจนขายรถทิ้ง ยังไม่เคยต้องเปลี่ยนปั๊มติ๊กด้วยซ้ำ) จึงเริ่มหาข้อมูลปัญหาของรถรุ่น นี้ พบว่า ..... รถรุ่นนี้มีปัญหาแบบนี้ "เกือบ" ทุกคัน
ย้ำนะคะ เกือบ ไม่ได้บอกว่าทุกคัน โอเค พอเข้าใจได้ ว่ารถรุ่นแรกๆต้องมีปัญหาบ้าง พอรับได้ ....ซ่อมหายก็ ไม่ติดใจ
อาการต่อมาช่วงต้นเดือน ธค 2014 - ปัจจุบัน เดือน กพ 2015 ......(ณ.ขณะนั้นเลขไมล์ ประมาณ 1,ุ500 )
เริ่มสังเกตุได้ว่า ความร้อนเริ่มผิดปกติ .....
เมื่อตอนเจออาการครั้งแรก ขี่ระยะทาง 3กิโลเมตร ถนนรามคำแหง หน้าจอเตือน HI TEMP แล้วเครื่องดับ ต้องรอประมาณครึ่งชั่วโมง ถึงจะสตาร์ทติด
กลับบ้านมา รีบดับเครื่อง แล้วรอซักพัก สตาร์ทเครื่องใหม่เอาไฟฉายส่องไปดูที่พัดลม...เง้ย...ความ ร้อนขึ้น พัดลมไม่ทำงานนี่นะ
ตอนนั้น โทรปรึกษาช่าง ให้มายกรถ ไป 0 อาการนี้ รถอยู่ 0 จำนวน 3วัน ได้รถกลับมา ...ได้รับแจ้งว่า หาสาเหตุไม่เจอ !!!!!!
เอ่อ ยังไงหล่ะไม่เจอ เออสงสัยโรคกลัวช่างเอากลับมาขี่ไป โดนอาการเดิมอีก พัดลมไม่ทำงาน ความร้อนขึ้น แต่คราวนี้ไม่ปล่อยให้ดับ
เรารีบจอดเองก่อนเลย แล้วโทรหาช่างเช็คคิวเข้าซ่อม เพราะเราว่าเรื่องนี้มันต้องมีอะไรสินะ มันจะปกติได้ไง
งานนี้รถอยู่ 0 ไป 1 สัปดาห์ 0 ช่างแจ้งว่าหาสาเหตุไม่เจอแต่เปลี่ยนพัดลมให้เพื่อความสบายใจของลูกค้า !!!!
ช่าง"ขี่รถมาส่งที่บ้าน" ไอ้เราก็ผวา เลยบอกช่างว่ารีบไม๊ พี่ขอเช็ดอาการก่อนนะ
เราก็จัดการเลย สตาร์ททิ้งไว้ รอจนเครื่องร้อน ครั้งแรก พัดลมติด....โอ้ยสบายใจคร่า เอาใหม่ ลองอีกที
สตาร์ทบึ้ม.....รอเครื่องร้อน คราวนี้พัดลมไม่ทำงานจ้า ..ดับเครื่อง ไม่เป็นไร เอาใหม่อีกทีนะ สตาร์ทบึ้ม แป็ดๆๆๆๆๆๆ(เสียงท่อ)
คราวนี้ ความร้อนพุ่งสุด หน้าจอโชว์ Hi TEMP ดับโชว์เลยจ้า ....รออีกพัก สตาร์ทใหม่ ติด คราวนี้ ให้ช่างเอากลับไปเลย ไม่ลองแล้ว
งานนี้รถอยู่ 0 ไปอีก 1สัปดาห์ ..... ช่างแจ้งว่า เปลี่ยนเซนเซอร์ พอเอากลับมาส่งบ้าน ลองแบบเดิม เป็นเหมือนเดิม
คราวนี้เลยบอกไปว่า เอารถทิ้งไว้บ้านนี่แหละนะ เพราะน้องช่างแจ้งว่า สงสัยต้องเปลี่ยน ลีเลย์ รออะไหล่ประมาณ 2อาทิตย์
โอเค มีอะไหล่แล้วแจ้งมาละกัน พี่ค่อยเอารถเข้า 0ไปเปลี่ยน (ให้มันจอดอยู่บ้านได้ชื่นชมบ้าง ถึงจะขี่ไม่ได้ก็ตาม.....เศร้าแพ้พ )
2สัปดาห์ผ่านไป โทรไปถาม อะไหล่มาแล้ว เอาเข้าไปเปลี่ยน นั่งรอ บ่ายโมงถึง6โมงกว่า ลองแล้วลองอีก ใน 0 ปกติดี ...น่าจะรอดแระ ดีใจน้ำตาไหล
ปรากฎว่า....ขี่ออกมาจาก 0ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มาถึง หน้าวัดพระรามเก้า กาญจนาภิเษก ดับจ้า....ดับกลางถนน กลางสะพานก่อนถึงโกลเด้นท์เพลส นึกภาพตามนะคะ ชะนีลงจากมอเตอร์ไซค์มาถอน สายบัว ของทางเข็นรถเข้าข้างถนนกลางสะพาน
หน้าจอโชว์ Hi TEMP เหมือนเดิม เหอะๆ เรียก0มารับรถกลับไป บัดเดี๋ยวนั้นค่ะ
จากอาการสุดท้ายได้รถออกจาก 0วันที่ 20 กพ 2015 หลังจากที่จอดหาสาเหตุอยู่ใน 0 ตั้งแต่วันที่ 6 กพ 2015
ช่างแจ้งว่ารอเช็ค Vehicle control และจบด้วยการเปลี่ยน ECU !!!
ปอ. ลิง. ไม่โทษช่างนะคะ น้องเค้าได้พยายามแล้ว
ไม่โทษแบรนด์นะคะ เราไม่ศึกษาข้อมูลเอง
ไม่เถียงค่ะ ถ้ารถไม่มีปัญหาจุกจิก และเรื่องอะไหล่ที่ต้องรอนาน ขี่สนุกมากค่ะ เรียกมาไล่ไป
ข้อควรจำ : รักจะอินดี้ใช้แบรนด์นี้ ต้องพร้อมรับทำใจกับปัญหาที่จะเจอค่ะ
ถ้าคิดว่าจะซื้อมาเพื่อเป็นรถใช้งานทุกวัน ต้องคิดใหม่ !!!! นิดนึง
แต่ถ้าซื้อมาเป็นของเล่น ให้คิดซะว่า เข้าๆออกๆ 0 สนุกดีค่ะ
อบอุ่น เข้า 0 บ่อยๆ จนคุ้นชินสนิทกับพนักงานและลูกค้าที่มา 0 ท่านอื่นๆ
และเข้าใจโลกนะคะ รถทุกยี่ห้อ ต่างมีปัญหาทั้งนั้น !!!! ไม่ใช่ KTM อย่างเดียว แต่บางทีก็นะ...
จริงๆ มันแอบมีรายละเอียดในการบริการเล็กๆน้อยๆอีกนะ แต่ขี้เกียจเล่า เอาเป็นว่า หลักๆไปก่อนละกันค่ะ
เพราะเกรงจะกลายเป็น กระทู้ดราม่า ว่าไปโจมตีใครเขา ยังยืนยันในฐานะผู้ครอบครอง DUKE 390 นะคะ ว่าชอบแบรนด์นี้
...........แต่ ต้องปรับปรุง 0อีกมากจริงๆค่ะ...........
และขอบคุณมิตรภาพต่างๆของชาวKTM นะคะ
ที่ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ ดีๆมาโดยตลอดๆ ก่อนที่เราจะตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ ... ขอบคุณมากๆค่ะ.... อินดี้ บาย อินเดีย..
ความคิดเห็นที่ 33
ขอ "พี่ใหญ่" ลงบ้างครับ. ไม่มีอะไรนอกจากรูป.
คันนี้ "เคลมไป สิบกว่ารายการ" ในรอบสองปีกว่า
แต่ละรอบ.. "เข็นกันแขนโป่ง"
ห่วยได้โล่ห์ ครับ ...
เฉพาะเคลมที่ "หนักหนาสาหัส" อันแรกนี่ "เปลี่ยนสายไฟเมน"ตอน 9900 ก.ม.
เคลมสอง วิ่งได้อีกสองพันกว่าโล พังอีก ขี่เป็นม้า กระดกหน้ากระดกหลัง เซนเซอร์เตือน
ต้องเปลี่ยนเซ็นเซอร์หัวฉีด ตอน12734
ใช้อีกประมาณสองพันโล เข็นอีกแระ อันนี้..เซ็นเซอร์ที่ "เกียร์"
ยังไม่ได้เอาเข้าศูนย์ครับ พึ่งเป็นเมื่อวาน.. ยัง "ขี้เกียจ" เอาเข้าศูนย์อยู่.
ไปงวดนี้ทำเสร็จว่าจะโพสขายแระดีมะ.
ปล. ถามศูนย์ดูคาตี้ผ่านหน้าจอนี้เลยแล้วกัน ตกลง Diavel นี่ ควรใช้แค่ในกรุงเทพ
ใช้แค่ใกล้ๆ บ้าน ไปซื้อเตี๋ยว ซื้อนมให้ลูกหรือเปล่า เพราะสองพันกว่าโล ต้องเข็น เข้าศูนย์ทีหนึ่งเนี่ย
ถ้าวิ่งไกลๆ ไปตายห่ ในป่าในเขา จะทำเยี่ยงไร.. รถคันละ "ล้าน".. ขี่ได้เหมือนจักรยานเลย..
ค่าซ่อมแต่ละทีก็ไม่ใช่ถูก ๆ ห๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
คันนี้ "เคลมไป สิบกว่ารายการ" ในรอบสองปีกว่า
แต่ละรอบ.. "เข็นกันแขนโป่ง"
ห่วยได้โล่ห์ ครับ ...
เฉพาะเคลมที่ "หนักหนาสาหัส" อันแรกนี่ "เปลี่ยนสายไฟเมน"ตอน 9900 ก.ม.
เคลมสอง วิ่งได้อีกสองพันกว่าโล พังอีก ขี่เป็นม้า กระดกหน้ากระดกหลัง เซนเซอร์เตือน
ต้องเปลี่ยนเซ็นเซอร์หัวฉีด ตอน12734
ใช้อีกประมาณสองพันโล เข็นอีกแระ อันนี้..เซ็นเซอร์ที่ "เกียร์"
ยังไม่ได้เอาเข้าศูนย์ครับ พึ่งเป็นเมื่อวาน.. ยัง "ขี้เกียจ" เอาเข้าศูนย์อยู่.
ไปงวดนี้ทำเสร็จว่าจะโพสขายแระดีมะ.
ปล. ถามศูนย์ดูคาตี้ผ่านหน้าจอนี้เลยแล้วกัน ตกลง Diavel นี่ ควรใช้แค่ในกรุงเทพ
ใช้แค่ใกล้ๆ บ้าน ไปซื้อเตี๋ยว ซื้อนมให้ลูกหรือเปล่า เพราะสองพันกว่าโล ต้องเข็น เข้าศูนย์ทีหนึ่งเนี่ย
ถ้าวิ่งไกลๆ ไปตายห่ ในป่าในเขา จะทำเยี่ยงไร.. รถคันละ "ล้าน".. ขี่ได้เหมือนจักรยานเลย..
ค่าซ่อมแต่ละทีก็ไม่ใช่ถูก ๆ ห๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ความคิดเห็นที่ 22
ขอเผือกหน่อย...
ผมเป็นหนึ่งคนที่ใช้รถรุ่นนี้ครับ ตัวรถยังไม่มีปัญหาอะไร และใช้งานปกติ (สงสัยโชคดี)
เพื่อนในกลุ่มหลายคัน รถมีปัญหาครับ
ตัวอย่าง : เพื่อนผมคุณ จ่xx ...ใช้งานไป 500 กม. เซ็นเซอร์หม้อน้ำรั่ว น้ำยาหล่อเย็นหยดตลอดทาง
เข้าศูนย์ แต่ก็เคลมได้เร็ว เปลี่ยนใหม่เลย (คงเพราะมีสต๊อกอะไหล่)
และอีกเครสที่หนักๆ ขอไม่พูด..รอเจ้าตัวมาโพสเองดีกว่า มหากาฬมากเลยคันนี้ (ส่งลิ้งคิ์นี้ให้เค้าอ่านละ)
ตัวรถ.. สำหรับผมถือว่าดีมาก ขี่สนุก น้ำหนักเบา ใช้งานในเมืองคล่องมาก (กว่าหลายคันที่ใช้มา)
แต่ที่รู้สึกไม่ประทับใจเลย.. คือบริการ ที่ศูนย์ กทม. พนักงานไม่มี Service mind เลย
ผมเข้าใช้บริการ ไม่ประทับใจตั้งแต่โทรนัดหมาย พนังงานปลายสายพูดจาก... มะนาวไม่มีน้ำเลย
"ผม : สวัสดีครับ อยากนัดหมายเข้าใช้บริการครับ
ปลายสาย ผู้ ญ : นัดวันไหน.. วันนี้คิวเต็ม !
ผม : งั้นขอนัดเป็นพรุ่งนี้ ไม่ทราบมีคิวว่างไหมครับ?
ปลายสาย ผู้ ญ : พรุ่งนี้... สักครู่นะ...
... ลูกค้าจะมากี่โมง ?
ผม : ประมาณ เที่ยงหรือบ่ายก็ได้ครับ
ปลายสาย ผู้ ญ : เที่ยงไม่ว่าง ว่างบ่ายโมง
ผม : ครับๆ บ่ายโมง
ปลายสาย ผู้ ญ : เข้ามาแจ้งชื่อและทะเบียนได้เลยคะ .... "
วันที่เข้าไปใช้บริการ ... ผมไปถึง 12.50 น. จอดรถตรงที่มีป้าย ที่จอด KTM
ยืนอยู่สักแปป ... มีน้อง ผู้ ญ. เดินมา.. ถามว่า พี่มาทำอะไรคะ ?
ผม : นำรถมาเช็คระยะ 5,000 กม.ครับ
น้อง ผู้ ญ. : ลูกค้านัดไว้ไหมคะ
ผม : นัดครับ นัดไว้บ่ายโมง
น้อง ผู้ ญ. : ลูกค้าเชิญด้านในคะ
ผม : เดินเข้าไปนั่งด้านใน
น้อง ผู้ ญ. : ขี่รถผมเข้าไปในห้อง Service
ตอนนั้นเห็นช่างอยู่ 5-6 คน มีคนนึงกำลังทำ DUKE390 คันอื่นอยู่ และอีกคนนึงกำลังจะทำรถผม
ส่วนคนที่เหลือกำลังรุม Honda CBR150 กันอยู่ คนที่ทำรถผม.. กำลังจะยกรถ ด้วยสแตนยกล้อหลัง
แต่ด้วยความที่เค้าเอียงแฮนไว้ พอกดสแตนขึ้น รถผมก็เอียงจะลม.. ผมก็เดินไปช่วยจับ จนตั้งรถเสร็จ
น้อง ผู้ ญ. คนเดิม...เดินมาบอก ลูกค้าเชิญข้างนอกคะ และก็ดึงฉากกั้นมาบังห้องไว้
...เอ่อ.. คือ ผมไม่เข้าไปช่วย รถผมคงล้มไปแล้ว ??? ช่างคนอื่นกำลังยุ่งกะ CBR อยู่เค้าเลยไม่ช่วย
ผม..เซงนิดนึง
อีกเรื่อง ผมถามช่างเรื่อง รอบเครื่อง รถผมรอบเครื่องอยู่ที่ 1,800 รอบ/นาที (ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเร่งเกินไป
จากการถามเพื่อนคันอื่นอยู่ที่ประมาณ 1,500-1,600รอบ/นาที)
ผม : ปกติรอบเครื่อง เจ้าตัว 390 นี่อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ครับ
ช่าง : ประมาณ 1,500-1,600รอบ/นาที ครับ
ผม : รถผมรอบมัน 1,800 แหนะ.. ผมว่ามันเร่งไปนะครับ จูนลดลงให้หน่อยได้ไหมครับ?
ช่าง : ลองสต๊าทเครื่อง และก็บิดคันเร่ง 2-3 ที แล้วก็ตอบว่า ... ปกตินะครับ รอบอยู่ประมาณนี้
ผม : @#$%#% งงๆ ครับๆ ปกติก็ปกติ.. (เซง เพิ่มมาอีก.. ระดับ)
เวลาผ่านไป 2 ชม.กว่าๆ ผมก็เดินไปเดินมา ดูนั่น ดูนี่.. น้อง ผู้ ญ.คนเดิม เดินมาเรียก.. ให้จ่ายเงิน
ค่าบริการ+น้ำมันเครื่อง+ใส้กรอง+กรองอากาศ เป็นเงิน 19xx บาท (ถือว่าโอเคครับรับได้)
จ่ายเงินเสร็จ..ก็ให้ไปรับรถด้านนอก.. กำลังจะขี่รถออก.. ช่างวิ่งออกมา บอกว่าลืม Reset code
ระยะ Service ที่ตัวรถ .... >*< ไม่ติดใจอะไร ... ลืมกันได้
แต่ที่ติดใจ คือ... ไม่มีการแจ้ง ลค. ว่าทางศูนย์จะเปลี่ยนอะไรบ้างตอนระยะ 5,000 กม.?
และมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่? ตรวจเช็คอะไรให้บ้าง? เรื่องพวกนี้.. เค้าแจ้งกันทุกศูนย์บริการนี่ครับ
ไม่ว่าจะรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ลูกค้าควรทราบนะครับ หรืออย่างน้อยก็น่าจะถามลูกค้าว่า
ตัวรถมีปัญหาอะไรให้ตรวจเช็คเพิ่มไหม? (บางศูนย์ มีโทรมาถามความพอใจด้วย หลังจากออกจากศูนย์ไป)
แต่ที่นี่ไม่มี... >*<
เท่าที่สอบถามจากเพื่อนๆ ที่ใช้บริการศูนย์ตาม ตจว. ได้รับการดูแลดีกว่าครับ
ผมเลยอยากแนะนำ ศูนย์ใหญ่ กทม. ควรพัฒนาระบบการให้บริการ และพัฒนาบุคลากร
ในองค์กรของท่านให้ดีกว่านี้นะครับ ไม่งั้น.. จะมีผลเสียระยะยาวถึงตัวรถยี่ห้อ KTM นะครับ
ผมเป็นหนึ่งคนที่ใช้รถรุ่นนี้ครับ ตัวรถยังไม่มีปัญหาอะไร และใช้งานปกติ (สงสัยโชคดี)
เพื่อนในกลุ่มหลายคัน รถมีปัญหาครับ
ตัวอย่าง : เพื่อนผมคุณ จ่xx ...ใช้งานไป 500 กม. เซ็นเซอร์หม้อน้ำรั่ว น้ำยาหล่อเย็นหยดตลอดทาง
เข้าศูนย์ แต่ก็เคลมได้เร็ว เปลี่ยนใหม่เลย (คงเพราะมีสต๊อกอะไหล่)
และอีกเครสที่หนักๆ ขอไม่พูด..รอเจ้าตัวมาโพสเองดีกว่า มหากาฬมากเลยคันนี้ (ส่งลิ้งคิ์นี้ให้เค้าอ่านละ)
ตัวรถ.. สำหรับผมถือว่าดีมาก ขี่สนุก น้ำหนักเบา ใช้งานในเมืองคล่องมาก (กว่าหลายคันที่ใช้มา)
แต่ที่รู้สึกไม่ประทับใจเลย.. คือบริการ ที่ศูนย์ กทม. พนักงานไม่มี Service mind เลย
ผมเข้าใช้บริการ ไม่ประทับใจตั้งแต่โทรนัดหมาย พนังงานปลายสายพูดจาก... มะนาวไม่มีน้ำเลย
"ผม : สวัสดีครับ อยากนัดหมายเข้าใช้บริการครับ
ปลายสาย ผู้ ญ : นัดวันไหน.. วันนี้คิวเต็ม !
ผม : งั้นขอนัดเป็นพรุ่งนี้ ไม่ทราบมีคิวว่างไหมครับ?
ปลายสาย ผู้ ญ : พรุ่งนี้... สักครู่นะ...
... ลูกค้าจะมากี่โมง ?
ผม : ประมาณ เที่ยงหรือบ่ายก็ได้ครับ
ปลายสาย ผู้ ญ : เที่ยงไม่ว่าง ว่างบ่ายโมง
ผม : ครับๆ บ่ายโมง
ปลายสาย ผู้ ญ : เข้ามาแจ้งชื่อและทะเบียนได้เลยคะ .... "
วันที่เข้าไปใช้บริการ ... ผมไปถึง 12.50 น. จอดรถตรงที่มีป้าย ที่จอด KTM
ยืนอยู่สักแปป ... มีน้อง ผู้ ญ. เดินมา.. ถามว่า พี่มาทำอะไรคะ ?
ผม : นำรถมาเช็คระยะ 5,000 กม.ครับ
น้อง ผู้ ญ. : ลูกค้านัดไว้ไหมคะ
ผม : นัดครับ นัดไว้บ่ายโมง
น้อง ผู้ ญ. : ลูกค้าเชิญด้านในคะ
ผม : เดินเข้าไปนั่งด้านใน
น้อง ผู้ ญ. : ขี่รถผมเข้าไปในห้อง Service
ตอนนั้นเห็นช่างอยู่ 5-6 คน มีคนนึงกำลังทำ DUKE390 คันอื่นอยู่ และอีกคนนึงกำลังจะทำรถผม
ส่วนคนที่เหลือกำลังรุม Honda CBR150 กันอยู่ คนที่ทำรถผม.. กำลังจะยกรถ ด้วยสแตนยกล้อหลัง
แต่ด้วยความที่เค้าเอียงแฮนไว้ พอกดสแตนขึ้น รถผมก็เอียงจะลม.. ผมก็เดินไปช่วยจับ จนตั้งรถเสร็จ
น้อง ผู้ ญ. คนเดิม...เดินมาบอก ลูกค้าเชิญข้างนอกคะ และก็ดึงฉากกั้นมาบังห้องไว้
...เอ่อ.. คือ ผมไม่เข้าไปช่วย รถผมคงล้มไปแล้ว ??? ช่างคนอื่นกำลังยุ่งกะ CBR อยู่เค้าเลยไม่ช่วย
ผม..เซงนิดนึง
อีกเรื่อง ผมถามช่างเรื่อง รอบเครื่อง รถผมรอบเครื่องอยู่ที่ 1,800 รอบ/นาที (ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเร่งเกินไป
จากการถามเพื่อนคันอื่นอยู่ที่ประมาณ 1,500-1,600รอบ/นาที)
ผม : ปกติรอบเครื่อง เจ้าตัว 390 นี่อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ครับ
ช่าง : ประมาณ 1,500-1,600รอบ/นาที ครับ
ผม : รถผมรอบมัน 1,800 แหนะ.. ผมว่ามันเร่งไปนะครับ จูนลดลงให้หน่อยได้ไหมครับ?
ช่าง : ลองสต๊าทเครื่อง และก็บิดคันเร่ง 2-3 ที แล้วก็ตอบว่า ... ปกตินะครับ รอบอยู่ประมาณนี้
ผม : @#$%#% งงๆ ครับๆ ปกติก็ปกติ.. (เซง เพิ่มมาอีก.. ระดับ)
เวลาผ่านไป 2 ชม.กว่าๆ ผมก็เดินไปเดินมา ดูนั่น ดูนี่.. น้อง ผู้ ญ.คนเดิม เดินมาเรียก.. ให้จ่ายเงิน
ค่าบริการ+น้ำมันเครื่อง+ใส้กรอง+กรองอากาศ เป็นเงิน 19xx บาท (ถือว่าโอเคครับรับได้)
จ่ายเงินเสร็จ..ก็ให้ไปรับรถด้านนอก.. กำลังจะขี่รถออก.. ช่างวิ่งออกมา บอกว่าลืม Reset code
ระยะ Service ที่ตัวรถ .... >*< ไม่ติดใจอะไร ... ลืมกันได้
แต่ที่ติดใจ คือ... ไม่มีการแจ้ง ลค. ว่าทางศูนย์จะเปลี่ยนอะไรบ้างตอนระยะ 5,000 กม.?
และมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่? ตรวจเช็คอะไรให้บ้าง? เรื่องพวกนี้.. เค้าแจ้งกันทุกศูนย์บริการนี่ครับ
ไม่ว่าจะรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ลูกค้าควรทราบนะครับ หรืออย่างน้อยก็น่าจะถามลูกค้าว่า
ตัวรถมีปัญหาอะไรให้ตรวจเช็คเพิ่มไหม? (บางศูนย์ มีโทรมาถามความพอใจด้วย หลังจากออกจากศูนย์ไป)
แต่ที่นี่ไม่มี... >*<
เท่าที่สอบถามจากเพื่อนๆ ที่ใช้บริการศูนย์ตาม ตจว. ได้รับการดูแลดีกว่าครับ
ผมเลยอยากแนะนำ ศูนย์ใหญ่ กทม. ควรพัฒนาระบบการให้บริการ และพัฒนาบุคลากร
ในองค์กรของท่านให้ดีกว่านี้นะครับ ไม่งั้น.. จะมีผลเสียระยะยาวถึงตัวรถยี่ห้อ KTM นะครับ
แสดงความคิดเห็น
KTM คุณค่า . . ที่คุณคู่ควร จริงหรือ ?
เห็นช่วงนี้กระแส KTM มาแรงมาก เพราะมีการเปิดตัว RC 200, RC 390 กันไป เห็นได้รับมอบรถเร็วมาก
ขอแสดงความยินดีกับคนที่ได้รถแล้วนะครับ ขอให้ขับขี่ปลอดภัย และ สนุกกับการขับขี่ครับ
ผมออกตัวก่อนเลยนะครับว่า ผมขับรถยี่ห้อนี้อยู่ รุ่น Duke 390 เป็นรถที่ดี ขับสนุกมาก ผมชอบมันมาก
แต่ผมอยากจะมาเตือน กันสักนิดว่า ใครจะซื้อรถยี่ห้อนี้ คิดดี ๆ หน่อยนะครับ คิดถึงเรื่องศูนย์บริการให้มาก ๆ
เพราะว่า รถผมได้เสียตอนประมาณ อายุ 3500 กิโลเมตรครับ ตอนนั้นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรอบแรกไปไม่นาน
เปลี่ยนยางใหม่ เพราะจะไปออกทริปกับเพื่อน ๆ ทัวร์อีสาน ขับไปอยู่ดี ๆ รถมีอาการวูบ เร่งไม่ขึ้นเหมือนรถดับ
ซึ่งก็เป็นปัญหาของ Duke 390 ที่บางทีขับมาแล้วดับเฉยเลย ผมก็ลองสตาท แต่ไม่มีเสียงสตาท แปลว่ารถไม่ได้ดับ
ผมก็ได้ย้ำคันเร่ง และความเร็วก็เพิ่มขึ้นมา แต่น้องที่ขับตามมาบอกให้จอดข้างทาง เนื่องจากควันขาวออกท่อเยอะมาก
หลังจากนั้นก็ได้จอดเพราะได้ยินเสียงเครื่องแปลก ๆ และส่งเคลม
ช่างแกะเครื่องออกมา แล้วปรากฏว่า ลูกสูบละลายนะครับ เปิดเคลมให้ผม เนื่องจากรถใหม่ ยังอยู่ในประกัน ผมก็เคลมได้ตามระเบียบ
แต่ติดที่ว่า ผมเคลมรถยี่ห้อนี้ตั้งแต่ กลาง พฤศจิกายน 2557 ตอนนี้ผมยังไม่ได้ความคืบหน้าเลยครับ
ผมก็เกรงใจนะครับ ที่จะโทรไปถามไปเช็คทุกวัน ผมก็พยายามเช็คผ่านหลาย ๆ ช่องทาง เปลี่ยน ๆ กันไป
ผมโทรถามศูนย์ใหญ่ก็บอกว่าจะเช็คให้แล้วโทรกลับมาแจ้ง ก็ไม่เห็นโทรมา
ผม message หา fanpage ก็ไม่มีการตอบแต่อย่างไร
ผม post หน้า fanpage ก็ไม่ตอบอีกตามเคย
ผมก็ได้แต่ลุ้นให้อะไหล่ผมมาเร็ว ๆ นะครับ ตอนนี้จะหมดฤดูหนาวแล้ว หวังว่าคงไม่มาตอน ฤดูฝน นะครับ
ใครที่เคยเคลมรถยี่ห้อนี้แล้วรอนาน ๆ บ้างครับ รบกวนช่วยแชร์ข้อมูลหน่อยครับ เผื่อผมจะได้มีกำลังใจรอขึ้นมาบ้าง