โจทย์มีอยู่ว่า        

นายเก่งกาจและนางสมใจ จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายมีบุตรด้วยกัน 4คนดังนี้
คนที่๑ กำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาเอก ภายในประเทศ
คนที่๒ กำลังศึกษาในระดับโท ภายในประเทศ
คนที่๓ กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี และยังมีรายได้พิเศษจากการเป็นนักแสดงในปีภาษี ๒๕๕๗ เป็นจำนวนเงิน ๗๐,๐๐๐ บาท โดยงบประมาณ
คนที่๔ กำลังศึกษาในระดับมัธยมตอนปลาย
    นายเก่งกาจมีรายได้ดังนี้
๑.ค่ารับเหมาก่อสร้างทั้งปี ๕,๐๐๐,๐๐๐บาทถูกหัก๓ษี ณ ที่จ่ายไว้แล้ว ๑๕๐,๐๐๐ บาท
๒.เงินปันผลจากการถือหุ้นในบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย แต่มิได้จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ เป็นเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายร้อยละ ๑๐ เป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท (บริษัทผู้จ่ายเงินปันผลเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ ๓๐ ของกำไรสุทธิ)
๓.มีบ้านให้ผู้อื่นเช่าได้รับค่าเช่าเดือนละ ๒๐,๐๐๐บาท เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากลางปีแล้วเป็นเงิน ๖๐๐บาท
    นางสมใจ มีเงินได้ดังนี้
๑.เงินเดือนทั้งปี ๕๗๐,๐๐๐บาท จ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ๓๒,๐๐๐บาท ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเดือนละ ๑๘,๕๐๐บาท
๒.ค่านายหน้าจากการเป็นตัวแทนขายประกันชีวิตทั้งปี ๕๐๐,๐๐๐บาท ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเป็นเงิน ๑๕,๐๐๐ บาท
๓.ดอกเบี้ยเงินฝากประจำจากธนาคารพาณิชย์เป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาทภาษีหัก ณ ที่จ่ายอัตราร้อยละ ๑๕เป็นเงิน ๔,๕๐๐บาท
๔.ค่ารับทำบัญชี ๑๕๐,๐๐๐บาท ค่าตรวจสอบบัญชี ๕๐๐,๐๐๐บาทภาษีหัก ณ ที่จ่าย ๑๕,๐๐๐บาท
    ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน ๒๕๕๗ นายเก่งกาจ ได้ทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทไทยประกันชีวิต จำกัดอายุกรมธรรม์ ๑๐ปีขึ้นไปจ่ายเบี้ยประกันปีละ ๔๒,๐๐๐บาทและได้ทำประกันชีวิตแบบบำนาญกับบริษัท เอไอเอ  (ประเทศไทย)จำกัด อายุกรมธรรม์ ๑๐ ปีขึ้นไปจ่ายเบี้ยประกันปีละ๖๕,๘๐๐ บาท และได้บริจาคเงินเพื่อซื้อตู้ทำน้ำเย็นให้แก่วิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรีเป็นจำนวนเงิน ๑๒,๐๐๐ บาท นอกจากนั้นยังบริจาคเงินให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนาอีก ๒๐,๐๐๐ บาท นายเก่งกาจต้องเลี้ยงดูบิดาอายุ ๖๕ ปีและไม่มีรายได้
    ระหว่างเดือนมกราคม- มิถุนายน ๒๕๕๗ นางสมใจได้ทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทไทยประกันชีวิต จำกัดอายุกรรมธรรม์ ๑๐ ปี ขึ้นไปจ่ายเบี้ยประกันปีละ ๒๕,๐๐๐ บาท และได้ฝากเงินประเภทสงเคราะห์ชีวิตและครอบครัวกับธนาคารออมสินปีละ ๗,๐๐๐ บาท อายุกรรมธรรม์ ๑๐ ปีขึ้นไป และได้บริจาคเงินเพื่อนเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนของวิทยาลัยอาชีวะศึกษาชลบุรี เป็นจำนวนเงิน ๕,๐๐๐ บาท นอกจากนั้นยังบริจาคเงินให้แก่กรมประชาสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในปี ๒๕๕๗ อีก ๒,๐๐๐ บาท นางสมใจต้องเลี้ยงดูบิดาอายุ ๖๑ ปี และมารดาอายุ ๕๗ ปี ทั้งบิดาและมารดาไม่มีรายได้ มารดานางสมใจเป็นผู้ทุพพลภาพตามความเป็นของแพทย์
    ให้ทำการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตอนสิ้นปี ประจำปีภาษี ๒๕๕๗ โดยวิธีรวมคำนวน


**ช่วยสอนวิธีคะนวนอย่างละเอียดทีนะครับ

รบกวนด้วยครับ ขอบคุณคับ