หนุ่มโรงน้ำแข็งเปิดใจ! เหตุผลที่ต้องยอมรับสารภาพข่มขืนหญิงชรา ทั้งที่ไม่ได้ทำ
จากกรณีที่มีกระแสข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีข่มขืนหญิงชราต่อเนื่อง พื้นที่ จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังพบหนุ่มโรงน้ำแข็ง ที่มีลักษณะและพฤติกรรมคล้ายกับผู้ต้องหาที่ตามไล่ล่าจับกุมอยู่ ก่อนจะถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา เนื่องจากผลตรวจดีเอ็นเอไม่ตรงกับหลักฐานที่ปรากฎ
นายตะวัน หนุ่มคนงานโรงน้ำแข็ง ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน หลังถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวและตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุคดีสะเทือนขวัญข่มขืนหญิงชรา ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัวไป ตนกำลังทำงานส่งน้ำแข็งตามปกติ ต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 นาย เข้ามาพูดคุย พร้อมกับนำเอาภาพถ่ายมาเปรียบเทียบกับใบหน้าคน และพาตนเข้าไปที่เมืองนครราชสีมา
นายตะวัน อ้างว่า ระหว่างทางเจ้าหน้าที่พูดตลอดว่า
"ยอมรับสารภาพซะ โทษจะได้ไม่หนัก"
นายตะวัน ยังได้เล่าต่อว่า ช่วงเวลานั้นตนยังไม่รู้ว่าเกิดอะไร ตนรู้สึกกลัว และติดต่อใครไม่ได้ เพราะถูกยึดโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะเดินทางมาถึงตัวเมืองนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ยังบีบคันให้ตนรับสารภาพ จนตนจำยอมรับสารภาพออกไป จึงถูกนำตัวไปตรวจดีเอ็นเอ กระทั่งผลตรวจออกมาว่าไม่ตรงกัน จึงถูกปล่อยตัวออกมา แบบสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายตะวัน ต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรม เพราะอยู่ๆ ก็ตกเป็นจำเลยของสังคม กลายเป็นผู้ต้องสงสัยคดีอาชญากรรมที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังถูกข่มขู่และตกใจกลัว พร้อมกับยืนยันว่าไม่เคยมีพฤติกรรมหรือก่อเหตุใดๆ ตามที่ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่มา: http://hot.ohozaa.com/hot-5-15-144785
คิดว่าเรื่องนี้ควรจะดำเนินการต่อไปอย่างไรดีคะ?
เราว่าในหลายๆคดีต้องมีแพะอยู่แล้ว แต่กรณีนี้โชคดีที่ตรวจดีเอ็นเอแล้วไม่ตรง
มีความเห็นอย่างไรบ้างคะ หรือ จะดำเนินการอะไรกับตำรวจเหล่านั้นได้บ้าง
อยากทราบความเห็นหลายๆคนค่ะ
คิดเห็นอย่างไรกับกรณีที่หนุ่มโรงน้ำแข็งต้องจำยอมรับว่าข่มขืนคนชราทั้งที่ไม่ได้ทำคะ?
จากกรณีที่มีกระแสข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีข่มขืนหญิงชราต่อเนื่อง พื้นที่ จ.นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังพบหนุ่มโรงน้ำแข็ง ที่มีลักษณะและพฤติกรรมคล้ายกับผู้ต้องหาที่ตามไล่ล่าจับกุมอยู่ ก่อนจะถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา เนื่องจากผลตรวจดีเอ็นเอไม่ตรงกับหลักฐานที่ปรากฎ
นายตะวัน หนุ่มคนงานโรงน้ำแข็ง ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน หลังถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวและตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุคดีสะเทือนขวัญข่มขืนหญิงชรา ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัวไป ตนกำลังทำงานส่งน้ำแข็งตามปกติ ต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 นาย เข้ามาพูดคุย พร้อมกับนำเอาภาพถ่ายมาเปรียบเทียบกับใบหน้าคน และพาตนเข้าไปที่เมืองนครราชสีมา
นายตะวัน อ้างว่า ระหว่างทางเจ้าหน้าที่พูดตลอดว่า "ยอมรับสารภาพซะ โทษจะได้ไม่หนัก"
นายตะวัน ยังได้เล่าต่อว่า ช่วงเวลานั้นตนยังไม่รู้ว่าเกิดอะไร ตนรู้สึกกลัว และติดต่อใครไม่ได้ เพราะถูกยึดโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะเดินทางมาถึงตัวเมืองนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ยังบีบคันให้ตนรับสารภาพ จนตนจำยอมรับสารภาพออกไป จึงถูกนำตัวไปตรวจดีเอ็นเอ กระทั่งผลตรวจออกมาว่าไม่ตรงกัน จึงถูกปล่อยตัวออกมา แบบสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายตะวัน ต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรม เพราะอยู่ๆ ก็ตกเป็นจำเลยของสังคม กลายเป็นผู้ต้องสงสัยคดีอาชญากรรมที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังถูกข่มขู่และตกใจกลัว พร้อมกับยืนยันว่าไม่เคยมีพฤติกรรมหรือก่อเหตุใดๆ ตามที่ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คิดว่าเรื่องนี้ควรจะดำเนินการต่อไปอย่างไรดีคะ?
เราว่าในหลายๆคดีต้องมีแพะอยู่แล้ว แต่กรณีนี้โชคดีที่ตรวจดีเอ็นเอแล้วไม่ตรง
มีความเห็นอย่างไรบ้างคะ หรือ จะดำเนินการอะไรกับตำรวจเหล่านั้นได้บ้าง
อยากทราบความเห็นหลายๆคนค่ะ