สำหรับฟุตบอล ทัวร์นาเมนต์ระดับสโมสรที่ยิ่งใหญ่สำหรับโลกลูกหนัง คงหนีไม่พ้น การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่นำสุดยอดคลับลูกหนังชั้นแนวหน้าทั่วทวีปยุโรปมาประจัญหน้ากันจนเป็นที่น่าอิจฉา
ขณะเดียวกัน ทวีปเอเชียของเรา ก็มีฟุตบอลในระดับสโมสรที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่เชิดหน้าชูตาสำหรับคนภูมิภาคนี้ นั่นก็คือ “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก” ความเป็นมาเป็นเช่นไรนั้น ผมขอนำข้อมูลบางส่วนมานำเสนอ
แต่ละฤดูกาลเรามักจะพบเห็นทีมชั้นนำต่างๆมากมาย มายลโฉมฝีเท้ากันอย่างสนุกสนาน ประเทศไทยของเราก็มีตัวแทนที่เข้าร่วมรายการมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น บีอีซี เทโรศาสน, โอสถสภา, ธนาคารกรุงไทย, ม.กรุงเทพ, ชลบุรี, เมืองทอง และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งทีมหลังถือเป็นขาประจำรายการนี้ไปแล้ว
นับตั้งแต่สถาปนาตัวเอง จนเป็นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกถึง 3 สมัย ในปี 2011, 2013, 2014 พวกผ่านเข้ามาในสังเวียนนี้ จนเป็นที่ยอมรับจากสโมสรชั้นนำมากมาย
มาตรฐานแต่ละปีสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ลูกทีมของ ”บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ แข็งแกร่งขึ้นอยู่เสมอ ประสบการณ์ใน 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา น่าจะเป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี
ทีมข่าวฮอตสกอร์ จึงได้ขอนำข้อมูลและสถิติที่ผ่านมา ในเวทีเอซีแอล ของ “ปราสาทสายฟ้า” ตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทย ที่ได้เข้ามาโม่แข้งในเวทีเอเชีย เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน 3 ครั้งที่ผ่านมาผลงานเป็นเช่นไรนั้น เชิญติดตาม
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2012
หลังจากที่สามารถประกาศศักดาคว้าแชมป์ไทยลีก 2011 มาครองได้เป็นสมัยแรก ทำให้สโมสรจากอีสานใต้ ได้สิทธิ์เข้ามาเล่นในรอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องผ่านรอบคัดเลือกเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากการประเมินของเอเอฟซี ในเวลานั้น ผ่านเกณฑ์ข้อบังคับแบบเฉียดฉิว
การเข้ามาลับแข้งในเวทีเอเชียในปีนั้น "ปราสาทสายฟ้า" ถูกจับสลากให้อยู่ในกลุ่ม H โดยมีคู่ต่อกร ชั้นนำจาก 3 ประเทศ ได้แก่ คาชิวะ เรย์โซล, กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ และ ชอนบุค ฮุนได มอเตอร์
การประเดิมสนามถ้วยเอเชีย ในประวัติศาสตร์สโมสร คือการลงเล่นในสนามไอโมบาย สเตเดี้ยม รับมือ คาชิวะ เรย์โซล และสามารถคว้าชัยชนะเหนือ “เดอะ ซันคิงส์” ไปได้อย่างสนุก 3-2 จากการทำประตูของ จิรวัฒน์ มัครมย์ ที่เหมาคนเดียว 2 ลูก และ อัสคาร์ จาดิเกรอฟ ดาวเตะชาวอุซเบกิสถาน เก็บ 3 คะแนนมาครองได้สำเร็จ
นัดต่อมาพวกเขาเดินทางไปเยือน มหาอำนาจลูกหนังแดนมังกร กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ที่มีอุดมไปด้วยนักเตะทีมชาติจีนค่อนทีม แต่สุดท้ายกับกลายเป็น “ปราสาทสายฟ้า” ที่สามารถสู้ได้อย่างสูสี ก่อนจะบุกมายัดเยียดความปราชัยให้เศรษฐีเมืองจีน จากประตูของ สุเชาว์ นุชนุ่ม และ แฟรงค์ อาเชียมปง
ผ่านไปแค่สองแมตช์แรกนำจ่าฝูงได้อย่างสง่างาม โมเมนตั้มดูน่าจะเป็นใจพวกเขา แต่สุดท้ายจุดเปลี่ยนก็มาเกิดขึ้น การรับมือกับทีมดังเกาหลีใต้ ชอนบุค ฮุนได มอเตอร์ ทั้งสองเกมไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง เมื่อพ่ายแพ้ทั้งไปและกลับ
เกมนัดต่อมาพวกเขาออกไปพ่าย เรย์โซล ที่เมืองชิบะ ด้วยสกอร์ 0-1 และเกมสุดท้ายพวกเขาแพ้คารังให้กับ “เสื้อใต้แดนมังกร" กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ 1-2 จบอันดับสุดท้ายในกลุ่มด้วยสถิติ ชนะ 2 แพ้ 4 เก็บแต้มได้ 6 คะแนน
อเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013
ยักษ์ใหญ่จากอีสานใต้ มาสัมผัสฟุตบอลเอเชีย เป็นหนที่สอง พวกเขามาในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ 2012 รอบเพลย์ออฟ ฝ่าด่านอรหันต์ ด้วยการชนะจุดโทษ บริสเบน โรอาร์ ของออสเตรเลียมาได้ ทำให้พวกเขาถูกจับสลากอยู่ในกลุ่มอี โดยมีเพื่อนร่วมสหาย จาก 3 ประเทศได้แก่ เอฟซี โซล, เจียงซู เซียนตี้ และ เวกัลตะ เซนได
แมตช์แรกประเดิมสนามด้วยการออกไปเยือน ทีมดังเมืองเซนได เกมในวันนี้เต็มไปด้วยอากาศที่หนาวเย็น แต่สุดท้ายพวกเขาได้ผลเสมอกลับออกมา จากประตูของ ออสมาร์ อิบาเญซ
เกมนัดต่อมาคือการรับมือ เอฟซี โซล เกมในวันนี้จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 เข้าสู่เกมที่สามต้องมาเจอ เจียงซู เซียนตี้ ซึ่งพวกเขาออกไปพ่ายด้วยสกอร์ 0-2
นัดที่สี่ บุรีรัมย์ โคจรมาพบกับ ทีมดังจากเมืองจีนอีกครั้ง มาหนนี้ “ปราสาทสายฟ้า” เดินหน้าบุกเข้าใส่และมาได้ 2 ประตูจาก สุเชาว์ นุชนุ่ม และ ชาริล ชัปปุยส์ แก้แค้นทีมดังจากแดนมังกรไปได้สำเร็จ
เกมนัดที่ห้าพวกเขารับมือทีมดังจากเมืองเซนได อีกครั้ง แต่สุดท้ายไม่สามารถปิดเกมลงได้ จบลงไปด้วยผลเสมอ 1-1
ทำให้เกมนัดสุดท้ายที่บุกไปเยือนมหาอำนาจจากแดนโสมขาว พวกเขาต้องคว้าชัยชนะให้ได้ ก่อนที่บทสรุปในวันนี้จบด้วยสกอร์ 2-2 แต่สุดท้ายทีมที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายตาม เอฟซี โซล ไปกลับกลายเป็น บุรีรัมย์
รอบน็อคเอาท์ โคจรมาเจอกับ บุนยอดกอร์ ทีมดังของอุซเบกิสถาน ก่อนจะเอาชนะได้ในเกมแรก 2-1 และบุกไปยันเสมอที่บ้านฝ่ายหลังได้ในเกมนัดที่สอง เดินหน้าเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ
ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ได้เจอยอดทีมของอิหร่านอย่าง เอสเตกัลห์ ด้วยพวกเขาไม่สามารถสู้ประสบการณ์ความเขี้ยว แพ้ไปทั้งไปและกลับ ยุติเส้นทางไว้ที่รอบนี้
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2014
การกลับมาเล่นถ้วยใหญ่ใบโตหนนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 โดยที่เป้าหมายคือต้องไปให้ไกลกว่าเดิมจากปีก่อน หนนี้เพื่อนร่วมสายมี โปฮัง สตีลเลอร์, เซเรโซ โอซาก้า, ซานตง ลู่เนิ่ง หนนี้กลับไม่เป็นอย่างที่หวังเอาเสียเลย
ปราสาทสายฟ้า ร่วงตกรอบแบ่งกลุ่มไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อผลงานทั้ง 6 นัด จบด้วยการเสมอ ซานตง ลู่เนิ่ง 1-1, แพ้ โปฮัง สตีลเลอร์ 1-2, แพ้ เซเรโซ โอซาก้า 0-4, เสมอ ทีมดังจากโอซาก้า ในบ้านตัวเอง 2-2, คว้าชัยเหนือ ซานตง ลูเนิ่ง 1-0 และเสมอ ออกไปเสมอ โปฮังฯ ด้วยสกอร์ 0-0
จบด้วยอันดับที่ 3 พร้อมสถิติ ชนะ 1 เสมอ 3 และ แพ้ 2 เก็บคะแนนเพียงแค่ 5 แต้มเท่านั้น
ที่มา
http://sport.sanook.com/134813
ส่วนตัวครับ
เกมส์ที่ประทับใจที่สุดในacl 2012 บุรีรัมย์ ออกไปเยือน กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ เพราะใครๆก็มองว่าบุรีรัมย์จะแพ้ เพราะค่าตัวคอนก้าตัวเดียว ก็ทำทีมบุรีรัมย์ได้ทั้งปี
เกมส์ที่ประทับใจที่สุดในacl 2013 มีสองเกมส์ที่ผมประทับใจ
รอบเพลย์ออฟ ชนะจุดโทษ บริสเบน โรอาร์ กับ บุรีรัมย์เปิดบ้านตอนรับ บุนยอดกอร์ ยอดทีมอุซเบกิสถาน
ย้อนรอย “บุรีรัมย์” กับเวที ACL สำหรับแฟนบอลไทยที่เพิ่งรู้จักบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ขณะเดียวกัน ทวีปเอเชียของเรา ก็มีฟุตบอลในระดับสโมสรที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่เชิดหน้าชูตาสำหรับคนภูมิภาคนี้ นั่นก็คือ “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก” ความเป็นมาเป็นเช่นไรนั้น ผมขอนำข้อมูลบางส่วนมานำเสนอ
แต่ละฤดูกาลเรามักจะพบเห็นทีมชั้นนำต่างๆมากมาย มายลโฉมฝีเท้ากันอย่างสนุกสนาน ประเทศไทยของเราก็มีตัวแทนที่เข้าร่วมรายการมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น บีอีซี เทโรศาสน, โอสถสภา, ธนาคารกรุงไทย, ม.กรุงเทพ, ชลบุรี, เมืองทอง และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งทีมหลังถือเป็นขาประจำรายการนี้ไปแล้ว
นับตั้งแต่สถาปนาตัวเอง จนเป็นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกถึง 3 สมัย ในปี 2011, 2013, 2014 พวกผ่านเข้ามาในสังเวียนนี้ จนเป็นที่ยอมรับจากสโมสรชั้นนำมากมาย
มาตรฐานแต่ละปีสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ลูกทีมของ ”บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ แข็งแกร่งขึ้นอยู่เสมอ ประสบการณ์ใน 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา น่าจะเป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี
ทีมข่าวฮอตสกอร์ จึงได้ขอนำข้อมูลและสถิติที่ผ่านมา ในเวทีเอซีแอล ของ “ปราสาทสายฟ้า” ตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทย ที่ได้เข้ามาโม่แข้งในเวทีเอเชีย เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน 3 ครั้งที่ผ่านมาผลงานเป็นเช่นไรนั้น เชิญติดตาม
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2012
หลังจากที่สามารถประกาศศักดาคว้าแชมป์ไทยลีก 2011 มาครองได้เป็นสมัยแรก ทำให้สโมสรจากอีสานใต้ ได้สิทธิ์เข้ามาเล่นในรอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องผ่านรอบคัดเลือกเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากการประเมินของเอเอฟซี ในเวลานั้น ผ่านเกณฑ์ข้อบังคับแบบเฉียดฉิว
การเข้ามาลับแข้งในเวทีเอเชียในปีนั้น "ปราสาทสายฟ้า" ถูกจับสลากให้อยู่ในกลุ่ม H โดยมีคู่ต่อกร ชั้นนำจาก 3 ประเทศ ได้แก่ คาชิวะ เรย์โซล, กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ และ ชอนบุค ฮุนได มอเตอร์
การประเดิมสนามถ้วยเอเชีย ในประวัติศาสตร์สโมสร คือการลงเล่นในสนามไอโมบาย สเตเดี้ยม รับมือ คาชิวะ เรย์โซล และสามารถคว้าชัยชนะเหนือ “เดอะ ซันคิงส์” ไปได้อย่างสนุก 3-2 จากการทำประตูของ จิรวัฒน์ มัครมย์ ที่เหมาคนเดียว 2 ลูก และ อัสคาร์ จาดิเกรอฟ ดาวเตะชาวอุซเบกิสถาน เก็บ 3 คะแนนมาครองได้สำเร็จ
นัดต่อมาพวกเขาเดินทางไปเยือน มหาอำนาจลูกหนังแดนมังกร กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ที่มีอุดมไปด้วยนักเตะทีมชาติจีนค่อนทีม แต่สุดท้ายกับกลายเป็น “ปราสาทสายฟ้า” ที่สามารถสู้ได้อย่างสูสี ก่อนจะบุกมายัดเยียดความปราชัยให้เศรษฐีเมืองจีน จากประตูของ สุเชาว์ นุชนุ่ม และ แฟรงค์ อาเชียมปง
ผ่านไปแค่สองแมตช์แรกนำจ่าฝูงได้อย่างสง่างาม โมเมนตั้มดูน่าจะเป็นใจพวกเขา แต่สุดท้ายจุดเปลี่ยนก็มาเกิดขึ้น การรับมือกับทีมดังเกาหลีใต้ ชอนบุค ฮุนได มอเตอร์ ทั้งสองเกมไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง เมื่อพ่ายแพ้ทั้งไปและกลับ
เกมนัดต่อมาพวกเขาออกไปพ่าย เรย์โซล ที่เมืองชิบะ ด้วยสกอร์ 0-1 และเกมสุดท้ายพวกเขาแพ้คารังให้กับ “เสื้อใต้แดนมังกร" กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ 1-2 จบอันดับสุดท้ายในกลุ่มด้วยสถิติ ชนะ 2 แพ้ 4 เก็บแต้มได้ 6 คะแนน
อเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013
ยักษ์ใหญ่จากอีสานใต้ มาสัมผัสฟุตบอลเอเชีย เป็นหนที่สอง พวกเขามาในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ 2012 รอบเพลย์ออฟ ฝ่าด่านอรหันต์ ด้วยการชนะจุดโทษ บริสเบน โรอาร์ ของออสเตรเลียมาได้ ทำให้พวกเขาถูกจับสลากอยู่ในกลุ่มอี โดยมีเพื่อนร่วมสหาย จาก 3 ประเทศได้แก่ เอฟซี โซล, เจียงซู เซียนตี้ และ เวกัลตะ เซนได
แมตช์แรกประเดิมสนามด้วยการออกไปเยือน ทีมดังเมืองเซนได เกมในวันนี้เต็มไปด้วยอากาศที่หนาวเย็น แต่สุดท้ายพวกเขาได้ผลเสมอกลับออกมา จากประตูของ ออสมาร์ อิบาเญซ
เกมนัดต่อมาคือการรับมือ เอฟซี โซล เกมในวันนี้จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 เข้าสู่เกมที่สามต้องมาเจอ เจียงซู เซียนตี้ ซึ่งพวกเขาออกไปพ่ายด้วยสกอร์ 0-2
นัดที่สี่ บุรีรัมย์ โคจรมาพบกับ ทีมดังจากเมืองจีนอีกครั้ง มาหนนี้ “ปราสาทสายฟ้า” เดินหน้าบุกเข้าใส่และมาได้ 2 ประตูจาก สุเชาว์ นุชนุ่ม และ ชาริล ชัปปุยส์ แก้แค้นทีมดังจากแดนมังกรไปได้สำเร็จ
เกมนัดที่ห้าพวกเขารับมือทีมดังจากเมืองเซนได อีกครั้ง แต่สุดท้ายไม่สามารถปิดเกมลงได้ จบลงไปด้วยผลเสมอ 1-1
ทำให้เกมนัดสุดท้ายที่บุกไปเยือนมหาอำนาจจากแดนโสมขาว พวกเขาต้องคว้าชัยชนะให้ได้ ก่อนที่บทสรุปในวันนี้จบด้วยสกอร์ 2-2 แต่สุดท้ายทีมที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายตาม เอฟซี โซล ไปกลับกลายเป็น บุรีรัมย์
รอบน็อคเอาท์ โคจรมาเจอกับ บุนยอดกอร์ ทีมดังของอุซเบกิสถาน ก่อนจะเอาชนะได้ในเกมแรก 2-1 และบุกไปยันเสมอที่บ้านฝ่ายหลังได้ในเกมนัดที่สอง เดินหน้าเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ
ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ได้เจอยอดทีมของอิหร่านอย่าง เอสเตกัลห์ ด้วยพวกเขาไม่สามารถสู้ประสบการณ์ความเขี้ยว แพ้ไปทั้งไปและกลับ ยุติเส้นทางไว้ที่รอบนี้
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2014
การกลับมาเล่นถ้วยใหญ่ใบโตหนนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 โดยที่เป้าหมายคือต้องไปให้ไกลกว่าเดิมจากปีก่อน หนนี้เพื่อนร่วมสายมี โปฮัง สตีลเลอร์, เซเรโซ โอซาก้า, ซานตง ลู่เนิ่ง หนนี้กลับไม่เป็นอย่างที่หวังเอาเสียเลย
ปราสาทสายฟ้า ร่วงตกรอบแบ่งกลุ่มไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อผลงานทั้ง 6 นัด จบด้วยการเสมอ ซานตง ลู่เนิ่ง 1-1, แพ้ โปฮัง สตีลเลอร์ 1-2, แพ้ เซเรโซ โอซาก้า 0-4, เสมอ ทีมดังจากโอซาก้า ในบ้านตัวเอง 2-2, คว้าชัยเหนือ ซานตง ลูเนิ่ง 1-0 และเสมอ ออกไปเสมอ โปฮังฯ ด้วยสกอร์ 0-0
จบด้วยอันดับที่ 3 พร้อมสถิติ ชนะ 1 เสมอ 3 และ แพ้ 2 เก็บคะแนนเพียงแค่ 5 แต้มเท่านั้น
ที่มา http://sport.sanook.com/134813
ส่วนตัวครับ
เกมส์ที่ประทับใจที่สุดในacl 2012 บุรีรัมย์ ออกไปเยือน กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ เพราะใครๆก็มองว่าบุรีรัมย์จะแพ้ เพราะค่าตัวคอนก้าตัวเดียว ก็ทำทีมบุรีรัมย์ได้ทั้งปี
เกมส์ที่ประทับใจที่สุดในacl 2013 มีสองเกมส์ที่ผมประทับใจ
รอบเพลย์ออฟ ชนะจุดโทษ บริสเบน โรอาร์ กับ บุรีรัมย์เปิดบ้านตอนรับ บุนยอดกอร์ ยอดทีมอุซเบกิสถาน