คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
สามารถทำได้ครับ แต่จะปลอดภัยเพียงพอสำหรับการบริโภคหรือไม่นั่นเป็นอีกประเด็น
ทั้งนี้ขอให้ท่านจขกทลองพิจารณา เพื่อเทียบกับแหล่งวัตถุดิบที่เข้าถึงได้ และความเชี่ยวชาญในการใช้วิชาเคมี ครับ
ขอยกตัวอย่างให้คิดทีละประการครับ
ประการที่1: เอาเฉพาะตามตำราก่อน คือ ผสมสารได้ถูกต้องแค่ไหนครับ
เช่น NaOH ชั่งมาได้ถูกต้องแม่นยำแค่ไหน และ HCl เติมลงไปเท่าไหร่
ประการที่2: ต้องใช้ความรู้จักสมบัติของสารที่ใช้
อย่างเช่น เรื่องที่ NaOH เป็นสารดูดความชื้น ทิ้งไว้แล้วจะเหลว ทำให้ได้น้ำหนักสารจริงที่มี น้อยกว่าที่ชั่งมา
แม้แต่ NaOH เปิดขวดใหม่ๆ ก็ยังไม่แห้งนะครับ มีน้ำอยู่ราว 1-5% เลยเชียว ยิ่งเจออากาศชื้นๆยิ่งละลายจนหนึบ
และ บางส่วน ยังกลายเป็นน้ำหนักผิดๆ จากการเกิดปฏิกิริยากับคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ(อย่างรวดเร็ว)ได้ NaHCO3 และ Na2CO3
หรือกรณีที่ HCl เวลาเปิดไว้ จะระเหยหนีออกไปในอากาศ ทำให้ความเข้มข้นลดลงกว่าความเป็นจริง
รวมไปถึง conc HCl ขวดเปิดใหม่ที่ 12.5M นั้น มีความเข้มข้นจริงเท่าไรก็ไม่ทราบนะครับ
ประการที่3: ต้องใช้ความรู้จักสมบัติของสารที่ใช้-2
นอกจากนี้ ยังควรรู้ว่า HCl ที่ซื้อกันทั่วไปนั้น มักจะมี ion ของโลหะ ละลายปนเปื้อนอยู่ ซึ่งโลหะที่พบบ่อยคือเหล็ก
ในรูป Fe3+ ละลายอยู่ ซึ่งทำให้กรดนี้บางทีซื้อมาเป็นสีเหลืองจางๆ ทั้งนี้เหล็กก็มาจากกระบวนการผลิตในโรงงานนั่นเอง
(การกัดกร่อนของ reactor โดย HCl(g)) ไอออนอื่นๆ ที่อาจจะพบก็มี Mn2+ Cr3+ Ni2+
ยกเว้นท่านใช้พวก AR Grade/Food Grade/Pharma Grade แต่จะมีราคาแพง
ประการที่4: วิธีเลือกสารที่จะใช้ ถ้าจะให้กินได้
ทั้งนี้จาก 2,3 เราจึงต้องรู้จักวิธีเลือกสารมาใช้ให้ถูกจะได้กินได้ แหล่ง NaOH และ HCl ก็ควรจะเป็นเกรดต่างๆ ที่มีใบรับรอง(CoA)
ถึงความบริสุทธิ์และสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ และพอได้มา เราก็นำมาทำการไทเทรตอย่างถูกวิธีเพื่อหาความเข้มข้นที่แน่นอน
แล้วชั่งให้ถูกผสมให้ถูก
ประการที่5: ประยุกต์ใช้ความรู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เช่น พอผสมจริง เราสามารถติดตามด้วย pH ก็ได้ เพราะเรารู้ว่าเกลือแกงละลายน้ำแล้วเป็นกลาง ดังนั้นที่จุดยุติควรได้ pH=7
ยิ่งวิธีวัดเราแม่นยำก็ยิ่งดี และถ้าไม่7 ก็ค่อยๆ ปรับค่าได้
หรือว่า ถ้าปรับขึ้นๆลงๆ เติมไม่พอดี ยังไงก็ไม่ 7 ซะที ก็ควรปรับ ลง ให้มาอยู่ฝั่งกรดเหลือ
ทั้งนี้เพราะว่าในขั้นระเหยหรือต้มให้แห้งนั้น ถ้าเหลือ HCl มันสามารถระเหยหนีออกไปเป็นแก๊สได้ ทำให้ท้ายสุดแล้วสารก็บริสุทธิ์
แต่ถ้า NaOH เหลือ จะกลายเป็นดูดความชื้น แล้วกลายเป็นเกลือที่จับเป็นก้อน ผิวเหนียวๆ ดูดความชื้น แถมเค็มอมฝาดอีก
หลังจากทำเสร็จแล้ว จะกล้ากินหรือไม่ก็ขึ้นกับท่าน จขกท ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทั้งนี้ขอให้ท่านจขกทลองพิจารณา เพื่อเทียบกับแหล่งวัตถุดิบที่เข้าถึงได้ และความเชี่ยวชาญในการใช้วิชาเคมี ครับ
ขอยกตัวอย่างให้คิดทีละประการครับ
ประการที่1: เอาเฉพาะตามตำราก่อน คือ ผสมสารได้ถูกต้องแค่ไหนครับ
เช่น NaOH ชั่งมาได้ถูกต้องแม่นยำแค่ไหน และ HCl เติมลงไปเท่าไหร่
ประการที่2: ต้องใช้ความรู้จักสมบัติของสารที่ใช้
อย่างเช่น เรื่องที่ NaOH เป็นสารดูดความชื้น ทิ้งไว้แล้วจะเหลว ทำให้ได้น้ำหนักสารจริงที่มี น้อยกว่าที่ชั่งมา
แม้แต่ NaOH เปิดขวดใหม่ๆ ก็ยังไม่แห้งนะครับ มีน้ำอยู่ราว 1-5% เลยเชียว ยิ่งเจออากาศชื้นๆยิ่งละลายจนหนึบ
และ บางส่วน ยังกลายเป็นน้ำหนักผิดๆ จากการเกิดปฏิกิริยากับคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ(อย่างรวดเร็ว)ได้ NaHCO3 และ Na2CO3
หรือกรณีที่ HCl เวลาเปิดไว้ จะระเหยหนีออกไปในอากาศ ทำให้ความเข้มข้นลดลงกว่าความเป็นจริง
รวมไปถึง conc HCl ขวดเปิดใหม่ที่ 12.5M นั้น มีความเข้มข้นจริงเท่าไรก็ไม่ทราบนะครับ
ประการที่3: ต้องใช้ความรู้จักสมบัติของสารที่ใช้-2
นอกจากนี้ ยังควรรู้ว่า HCl ที่ซื้อกันทั่วไปนั้น มักจะมี ion ของโลหะ ละลายปนเปื้อนอยู่ ซึ่งโลหะที่พบบ่อยคือเหล็ก
ในรูป Fe3+ ละลายอยู่ ซึ่งทำให้กรดนี้บางทีซื้อมาเป็นสีเหลืองจางๆ ทั้งนี้เหล็กก็มาจากกระบวนการผลิตในโรงงานนั่นเอง
(การกัดกร่อนของ reactor โดย HCl(g)) ไอออนอื่นๆ ที่อาจจะพบก็มี Mn2+ Cr3+ Ni2+
ยกเว้นท่านใช้พวก AR Grade/Food Grade/Pharma Grade แต่จะมีราคาแพง
ประการที่4: วิธีเลือกสารที่จะใช้ ถ้าจะให้กินได้
ทั้งนี้จาก 2,3 เราจึงต้องรู้จักวิธีเลือกสารมาใช้ให้ถูกจะได้กินได้ แหล่ง NaOH และ HCl ก็ควรจะเป็นเกรดต่างๆ ที่มีใบรับรอง(CoA)
ถึงความบริสุทธิ์และสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ และพอได้มา เราก็นำมาทำการไทเทรตอย่างถูกวิธีเพื่อหาความเข้มข้นที่แน่นอน
แล้วชั่งให้ถูกผสมให้ถูก
ประการที่5: ประยุกต์ใช้ความรู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
เช่น พอผสมจริง เราสามารถติดตามด้วย pH ก็ได้ เพราะเรารู้ว่าเกลือแกงละลายน้ำแล้วเป็นกลาง ดังนั้นที่จุดยุติควรได้ pH=7
ยิ่งวิธีวัดเราแม่นยำก็ยิ่งดี และถ้าไม่7 ก็ค่อยๆ ปรับค่าได้
หรือว่า ถ้าปรับขึ้นๆลงๆ เติมไม่พอดี ยังไงก็ไม่ 7 ซะที ก็ควรปรับ ลง ให้มาอยู่ฝั่งกรดเหลือ
ทั้งนี้เพราะว่าในขั้นระเหยหรือต้มให้แห้งนั้น ถ้าเหลือ HCl มันสามารถระเหยหนีออกไปเป็นแก๊สได้ ทำให้ท้ายสุดแล้วสารก็บริสุทธิ์
แต่ถ้า NaOH เหลือ จะกลายเป็นดูดความชื้น แล้วกลายเป็นเกลือที่จับเป็นก้อน ผิวเหนียวๆ ดูดความชื้น แถมเค็มอมฝาดอีก
หลังจากทำเสร็จแล้ว จะกล้ากินหรือไม่ก็ขึ้นกับท่าน จขกท ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
goddance ทึ่ง, Nomention ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 1375696 ถูกใจ, JoeMai ถูกใจ, aoopee ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2001842 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 780807 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1952151 ทึ่ง
แสดงความคิดเห็น
เราจะทำ NaCl จากสารเคมีได้หรือไม่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้