คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
โดย : พระพยอม กัลยาโณ
คลิกฟังเสียง
การที่มีข่าวว่านายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผศ.) ออกมาบอกว่า คณะสงฆ์มีมติว่า “หลวงปู่พุทธะอิสระ” เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ทำผิดพระธรรมวินัยของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) เนื่องจากได้เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองและชักชวนประชาชนให้ทำผิดกฎหมาย ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งหมายเรียกให้หลวงปู่พุทธะอิสระมาให้ปากคำในข้อหากบฏ จึงถือว่าหลวงปู่พุทธะอิสระมีความผิดทั้งธรรมวินัยและกฎหมายอย่างชัดเจน หากมีการจับกุมได้สามารถทำการสึกได้ทันที
อาตมาอยากเตือนคนที่จะไปทำหน้าที่จับสึก เพราะในอดีตเคยมีเรื่องแบบนี้ พระผู้ใหญ่ที่เป็นที่ศรัทธาเชื่อถือย่อมมีบริวาร มีการ์ด และมีอะไรต่ออะไรที่จะปกป้องคุ้มครองท่าน ถ้าเราผลีผลามเข้าไปจัดการไม่ดีแน่ จะเกิดราวีกับสาวกผู้คนที่ศรัทธาหรือสานุศิษย์อะไรก็แล้วแต่ และทราบข่าวตามสายรายงานว่า ไม่ทราบว่าหน่วยไหนไปสืบค้นประวัติท่านเคยเป็นทหารสายบูรพาพยัคฆ์มาก่อน ทำให้คนเชื่อมโยงว่าท่านต้องมีลูกศิษย์เป็นทหาร เป็นปราชญ์ เป็นอะไรมากมาย
ดังนั้น คนที่จะเข้าไปทำก็อย่าผลีผลาม อย่านึกว่าง่าย เพราะในครั้งพุทธกาลเคยมีการไปจับพระที่มีความผิดแต่มีคนศรัทธามาก เป็นถึงพระผู้ใหญ่ จนเกิดกรณีพิพาทระหว่างชาวบ้าน 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่ไม่เอาพฤติกรรม รับพฤติกรรมพวกนี้ไม่ได้ กับฝ่ายที่เห็นดีเห็นงามจนมอบตัวเป็นศิษย์ ผิดถูกไม่สำคัญ จึงเกิดมีคดีใหญ่ๆฝ่ายสงฆ์เกิดขึ้น หรือคดีประวัติศาสตร์ของไทยเกี่ยวกับเรื่อง “พระพิมลธรรม” ซึ่งเป็นคดีหนักหนากว่านี้ และเกิดเรื่องวุ่นวายมากมายจนทหาร ตำรวจไปล็อกตัวจับสึก ซึ่งเกิดเรื่องแบบนี้ในวงการสงฆ์มากพอสมควรในขณะนั้น
บางทีก็เป็นพระต่อพระ แต่คราวนี้คงไม่ใช่พระต่อพระแล้ว เพราะท่านหลุดวงจรมาจากท่านเกษม เณรคำ หรือสมเด็จวัดปากน้ำ หรือพระผู้ใหญ่ เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด รู้สึกว่าท่านเปิดศึกหลายด้าน แต่ตอนนี้น่าจะเหลือด้านเดียวแล้วก็คือ ด้านไม่เอารัฐบาล ไม่เอาระบอบทักษิณอะไรทำนองนี้ ยังไงก็ขอให้อย่าผลีผลาม อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า ถึงแม้ว่าจะมีคนเชียร์ให้จับเยอะ แต่ก็มีคนคุ้มครองเขาเหมือนกัน ต้องระวังอย่าให้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว จนลุกลามขึ้นมา
คอยดูเถอะคดีใหญ่ๆ ใครทำตัวอย่างไร พูดอย่างไร ต้องมีคนเห็นด้วยอยู่เสมอ ใครจะมีกิจกรรมอะไรที่พิสดารโลดโผนอลหม่าน หรือแม้กระทั่งปิดกั้นขัดขวางบางเรื่องที่ไม่น่าทำ แต่ก็มีคนร่วมมือกระทำ แล้วก็อยากกระทำ พร้อมรับใช้เยี่ยงทาส ที่เขาด่าว่า “ทาสทักษิณ” ก็มีทาสตรงข้ามกับทักษิณเหมือนกัน เพราะฉะนั้นต้องระวัง
ขอให้ระวัง ชื่อท่านก็น่ากลัวอยู่แล้ว “พุทธะอิสระ” รู้สึกท่านก็จะตั้งตรงกับหลวงพ่อพุทธทาส หลวงพ่อพุทธทาสเป็นทาสรับใช้พระพุทธเจ้า พุทธะอิสระเป็นอิสระไม่เป็นทาสใคร ไม่รับใช้ใคร แต่บางครั้งท่านก็หลุดเหมือนกัน เราจะยอมตายเพื่อใครที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าก็มีออกมาเป็นข่าวอยู่เหมือนกัน
อาตมาอยากเล่าเรื่องนิทานที่ศึกษามาเรื่องจัดการกับพระกระจอกไม่มีคนนับหน้าถือตา ไม่มีบริวาร กับพระที่มีชื่อเสียง มีบริวารที่เป็นใหญ่เป็นโต ยิ่งเป็นนายพลด้วย ยิ่งไม่มีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน ถ้ามีคงจับไปนานแล้ว แม้กระทั่ง “ยันตระ” ก็จับยาก “เณรคำ” ยิ่งล่องหนเลย มีที่จับได้คือ “นิกร” คราวนี้หวังว่าคงไม่เกิดเหตุร้ายเพราะพระรูปนี้เป็นต้นเหตุ คงจะลงเอยด้วยความเรียบร้อย สงบ และปลอดภัย
เจริญพร
พระพยอมเผยจับพระอิสระสึก ไม่ว่าง(เส้นใหญ่)
โดย : พระพยอม กัลยาโณ
คลิกฟังเสียง
การที่มีข่าวว่านายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผศ.) ออกมาบอกว่า คณะสงฆ์มีมติว่า “หลวงปู่พุทธะอิสระ” เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ทำผิดพระธรรมวินัยของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) เนื่องจากได้เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองและชักชวนประชาชนให้ทำผิดกฎหมาย ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งหมายเรียกให้หลวงปู่พุทธะอิสระมาให้ปากคำในข้อหากบฏ จึงถือว่าหลวงปู่พุทธะอิสระมีความผิดทั้งธรรมวินัยและกฎหมายอย่างชัดเจน หากมีการจับกุมได้สามารถทำการสึกได้ทันที
อาตมาอยากเตือนคนที่จะไปทำหน้าที่จับสึก เพราะในอดีตเคยมีเรื่องแบบนี้ พระผู้ใหญ่ที่เป็นที่ศรัทธาเชื่อถือย่อมมีบริวาร มีการ์ด และมีอะไรต่ออะไรที่จะปกป้องคุ้มครองท่าน ถ้าเราผลีผลามเข้าไปจัดการไม่ดีแน่ จะเกิดราวีกับสาวกผู้คนที่ศรัทธาหรือสานุศิษย์อะไรก็แล้วแต่ และทราบข่าวตามสายรายงานว่า ไม่ทราบว่าหน่วยไหนไปสืบค้นประวัติท่านเคยเป็นทหารสายบูรพาพยัคฆ์มาก่อน ทำให้คนเชื่อมโยงว่าท่านต้องมีลูกศิษย์เป็นทหาร เป็นปราชญ์ เป็นอะไรมากมาย
ดังนั้น คนที่จะเข้าไปทำก็อย่าผลีผลาม อย่านึกว่าง่าย เพราะในครั้งพุทธกาลเคยมีการไปจับพระที่มีความผิดแต่มีคนศรัทธามาก เป็นถึงพระผู้ใหญ่ จนเกิดกรณีพิพาทระหว่างชาวบ้าน 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่ไม่เอาพฤติกรรม รับพฤติกรรมพวกนี้ไม่ได้ กับฝ่ายที่เห็นดีเห็นงามจนมอบตัวเป็นศิษย์ ผิดถูกไม่สำคัญ จึงเกิดมีคดีใหญ่ๆฝ่ายสงฆ์เกิดขึ้น หรือคดีประวัติศาสตร์ของไทยเกี่ยวกับเรื่อง “พระพิมลธรรม” ซึ่งเป็นคดีหนักหนากว่านี้ และเกิดเรื่องวุ่นวายมากมายจนทหาร ตำรวจไปล็อกตัวจับสึก ซึ่งเกิดเรื่องแบบนี้ในวงการสงฆ์มากพอสมควรในขณะนั้น
บางทีก็เป็นพระต่อพระ แต่คราวนี้คงไม่ใช่พระต่อพระแล้ว เพราะท่านหลุดวงจรมาจากท่านเกษม เณรคำ หรือสมเด็จวัดปากน้ำ หรือพระผู้ใหญ่ เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด รู้สึกว่าท่านเปิดศึกหลายด้าน แต่ตอนนี้น่าจะเหลือด้านเดียวแล้วก็คือ ด้านไม่เอารัฐบาล ไม่เอาระบอบทักษิณอะไรทำนองนี้ ยังไงก็ขอให้อย่าผลีผลาม อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า ถึงแม้ว่าจะมีคนเชียร์ให้จับเยอะ แต่ก็มีคนคุ้มครองเขาเหมือนกัน ต้องระวังอย่าให้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว จนลุกลามขึ้นมา
คอยดูเถอะคดีใหญ่ๆ ใครทำตัวอย่างไร พูดอย่างไร ต้องมีคนเห็นด้วยอยู่เสมอ ใครจะมีกิจกรรมอะไรที่พิสดารโลดโผนอลหม่าน หรือแม้กระทั่งปิดกั้นขัดขวางบางเรื่องที่ไม่น่าทำ แต่ก็มีคนร่วมมือกระทำ แล้วก็อยากกระทำ พร้อมรับใช้เยี่ยงทาส ที่เขาด่าว่า “ทาสทักษิณ” ก็มีทาสตรงข้ามกับทักษิณเหมือนกัน เพราะฉะนั้นต้องระวัง
ขอให้ระวัง ชื่อท่านก็น่ากลัวอยู่แล้ว “พุทธะอิสระ” รู้สึกท่านก็จะตั้งตรงกับหลวงพ่อพุทธทาส หลวงพ่อพุทธทาสเป็นทาสรับใช้พระพุทธเจ้า พุทธะอิสระเป็นอิสระไม่เป็นทาสใคร ไม่รับใช้ใคร แต่บางครั้งท่านก็หลุดเหมือนกัน เราจะยอมตายเพื่อใครที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าก็มีออกมาเป็นข่าวอยู่เหมือนกัน
อาตมาอยากเล่าเรื่องนิทานที่ศึกษามาเรื่องจัดการกับพระกระจอกไม่มีคนนับหน้าถือตา ไม่มีบริวาร กับพระที่มีชื่อเสียง มีบริวารที่เป็นใหญ่เป็นโต ยิ่งเป็นนายพลด้วย ยิ่งไม่มีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน ถ้ามีคงจับไปนานแล้ว แม้กระทั่ง “ยันตระ” ก็จับยาก “เณรคำ” ยิ่งล่องหนเลย มีที่จับได้คือ “นิกร” คราวนี้หวังว่าคงไม่เกิดเหตุร้ายเพราะพระรูปนี้เป็นต้นเหตุ คงจะลงเอยด้วยความเรียบร้อย สงบ และปลอดภัย
เจริญพร