หลังจากที่กลับมากแอบไปเล่น Wifi ฟรีเราก็รีบกลับหอเพราะรู้สึกปวดขามาก ด้วยความกลัวเดินเที่ยววันสุดท้ายไม่ไหวเราจะเข้าห้องน้ำแล้วเปิดน้ำครึ่งอ่างเพื่อแช่และนวดขาแก้เมื่อยกัน บอกได้เลยว่าฟินมากกกก และก็วางแผนเที่ยวในวันพรุ้งนี้กันว่าเราจะไปถ่ายรูปกันที่ Dong daemun Gate ให้ได้เพราะวันนั้นที่ไปไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไปด้วย เลยไม่ได้รูปที่พอใจ
และก็ถึงเช้าวันสุดท้ายของการเที่ยวแบบเต็มๆที่เกาหลี เมื่อเดินออกมาจากคอนโดเท่านั้นแระ โฮ้วววววววว!!
คนเยอะมาก ไม่ร็แห่มาจากที่ไหนกันเต็มไปหมด
แล้วก็นึกได้ว่าวันนี้วันหยุด ตลาดมือสองคงมีคนมาขายของกันเยอะแยะแน่นอน
ขอกินก็เยอะ เสื้อผ้าก็สวย ของใช้ก็มี กระเป๋า รองเท้า เยอะเต็มไปหมดจนลายตา เราจึงตัดสินใจไปหาข้าวกินก่อนแล้วค่อยย้อนกับมาเดินที่ตลาดกันเพื่อรอถึงเย็นๆ เราค่อยได้ถ่ายรูปกัน
ส่วนร้านอาหารเราก็กลับมากินกันที่ร้านหมูทอดหนาว เพราะด้วยความที่ว่าเมื่อคืนเราไม่ได้กินหมูทอดทงทัสสึกันนั้นเอง ไม่รอช้าที่จะสั่งกันเลย
แต่ด้วยราคาที่ถ้าสั่งมากินกัน2คนต้องเกินงบแน่ๆเลย เราเลยสั่งมาแค่1ชุดและสั่งข้าวเพิ่มอีก1ถ้วย เท่ากับกลายเป็นหมู1จาน
และข้าวอีก2ถ้วย เจ้าของร้านนี่ งง สักพักเลยคะ เค้าคงไม่เคยเห็นแบบนี้แต่ไม่เป็นไรฟังเค้าพูดไม่รู้เรื่องหรอก เราก็กินแบบไทยนี่แระไม่แคร์เท่าไหร่คะ ค่าเสียหายของมื้อนี้ก็รวมอยู่ที่ 5000วอนเอง ซึ่งไม่แพงอิ่มมากอีกตังหาก
หลังจากนั้นเราก็เดินย้อนกลับไปที่ตลาดมือสองอีก เพื่อไปเดินดูเสื้อหรือของฝากไปให้เพื่อนตอนกลับกัน ซึ่งพอเดินจริงๆแล้ว.....
แบบ โอ้แม่เจ้า!! จะเยอะไปไหนนี่ มีร้านทุกตรอกซอกซอย ทุกซอยมีแต่ร้านค้าตั้งไปไหนพร้อมกับเสียงเรียนลูกค้าให้เข้าไปซื้อของร้านตัวเองที่ดังมาก เราก็เอาเลยคะเจ้าแม่ช๊อปของมือสองเข้าสิง เดินทุกซอยเพื่อหาของให้ได้ที่ถูกที่สุด ต่อลองราคาให้ตายกันได้ข้างหนึ่งเลย
ของที่ตลาดนี้มีเยอะมาก คุณต้องเลือกดีๆและเร็ว! ถ้าคุณคิดจะซื้อให้ซื้อเลยเพราะมันก็ไม่ได้แพงเพราะทันทีที่คุณปล่อยของลง
ก็จะมีมนุษย์บริเวณนั้นอีกร้อยชีวิตจ้องแย่งกันหยิบสิ่งที่คุณได้วางลงไป
เรานี่โดนมาแล้วกับตัวคะ เพราะความลังเลเลยเสียเสื้อบาสเกตบอลเท่ๆ สภาพ95%ไปอย่างหน้าเสียดาย บางคนคุณแค่วางไว้ใกล้ๆตัวเพื่อหาเพิ่มก็อาจโดนขโมยไปได้ บอกได้เลยตลาดนี้เปรียบเสมือนสงครามของผู้หญิงเวลาเจอของ Sale กันเลยก็ว่าได้
ยิ่งให้ค้นเจอของเป็นเบรนเมน ถ้าคุณชอบจงรีบจ่ายเงินทันที ไม่เช่นนั้นไปแน่เลย
ของมือสองที่นี้ไม่ใช่จะกระจอกเหมือนที่เราคิดกันนะ เพราะของที่นี้คุณดีมาก ของมียี่ห้อ ของแบรนเนมก็มี กางเกงลีวายนี่เยอะเลย
เสื้อทหาร ของใช้หรือกระเป๋าทหารของแต่ละประเทศสวยๆทั้งนั้น รับรองว่าถูกใจคนที่ชอบแน่นอน แนะนำให้ไปให้ได้เลยคะช่วงวันหยุดแต่เป็นวันอาทิตย์จะดีที่สุดเพราะมีแน่ๆ
บางคนถึงขั้นปีนขึ้นไปบนกองเสื้อเพื่อค้นหาเสื้อที่ตัวเองอยากได้เลยก็มีคะ
หลังจากเดินกันอยู่นานเราก็เจอกับขนมปิ้งใส่ถั่วแดงรูปปลาที่อยากกินมานาน มันมีขายทั่วไปตามขางถนนคะ
แต่ด้วยความที่ว่าร้านที่เจอมันแพงมากและได้น้อยไม่กี่ตัวเลยไม่คิดจะซื้อกินเลย แต่พอมีเจอร้านเท่านั้นแระ ซื้อคะ ซื้อ!!!
ร้านนี่ตัวใหญ่มาก ไส้เยอะแถมราคา 5 ตัวเพียงแค่1000วอน
ขนมปังปบาร้อนๆ บวกกับอากาศที่หนาวในตอนนั้น บอกได้คำเดียวเลยว่า อร่อยมากกก ฟินสุดๆ
กินหมดแล้วเรานี่พยายามกลับไปซื้ออีกแต่ร้านก็ทำไม่ทัน คนก็รอเยอะมากเราเลยตัดใจเดินไปหาซื้อของต่อ
และแล้วในการตะเวนทั่วตลาดเราก็ได้ของกลับมาเยอะมากหลายอย่างแต่เงินที่เสียไปไม่ถึง15000วอน ถือว่าคุ้มสุดๆ
ทั้งเสื้อเรา เสื้อแฟน ของฝากสำหรับคน15คน ขนมที่ซื้อมากินเล่นอีก โอ๊ยยย บอกได้คำเดียวคุ้ม!
น้ำบลูเบอร์รี่แท้100% คุณก็สามารหาซื้อแบบราคาถูกได้ที่นี่เช่นกัน นำไปเป็นของฝากให้เพื่อนก็ได้เหมือนเรา
วันนี้เราถือว่าเป็นวันที่โชดดีสำหรับเรามากกก เพราะหิมะได้ตกลงมาอีกครั้งหลังจากตกวันที่เราไปบ้านพี่กานต์กัน
และวันนี้ก็ตกเยอะมากไม่ยอมหยุด แต่มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเราหรือร้านค้าเลย ทุกร้านกลางร่มและยังทำการขายกันต่อไป
พอเราได้ของที่พอใจแล้วก็กลับเอาของที่ซื้อมาวันนี้กลับมาเก็บที่หอ แล้วก็ออกไปหาอะไรกินกันต่อข้างนอกเพื่อรอไปถ่ายรูป
ร้านต่อไปที่เราไปกินกันคือร้านไส้หมูย่างผัดซอส ซึ่งอยู่ใกล้กับหอพักเราเลย นั่งมองกันมาหลายวันแรกตั้งแต่มาว่าอยากเข้าไปกินกันสักครั้ง
แต่ด้วยงบที่น้อยเลยไม่กล้าเข้ากันเพราะราคาก็เป็นหมื่น แต่ไหนๆวันสุดท้ายแล้วเงินเราก็พอเหลือ เอาวะ!!! เข้าไปกินกันเหอะ
เราเลือกร้านที่มีคนเข้าน้อยเพราะไม่ชอบคนเยอะๆ จนมาเจอร้านๆหนึ่งคือร้าน "ป้ากาแฟ" เพราะร้านป้าแกมีบริการกาแฟร้อนให้กดเองบริการตัวเองได้ตลอดเวลา ซึ่งพอเราเข้าร้านไปแล้ว โอ้วววววว น่ากินมากเลยคะ!
ซึ่งตอนนั้นที่เราเข้าไปในร้าน รายการรันนิ่งแมนก็กำลังฉายอยู่พอดีเลย บอกได้คำเดียวเลยว่าฟินคะ
เพราะเราชอบดูรายการนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้มาดูสดๆที่นี่
หลังจากนั้นไส้หมูย่างผัดซอสที่เราสั่งไส้ก็มาถึง เรานี่นิ่งเลยคะเพราะว่าแบบว่า ง่ออออออออออออ น่ากินสุดๆไปเลย
เสริฟมาพร้อมกับผัก กระเทียม ซอสและข้าว ซึ่งร้านแบบนี้เราจะเห็นได้ทั่วไปในซีรี่ย์ คือ ร้านที่คนชอบมานั่งกินโซจูพร้อมหมูย่าง ไส้ย่างนั้นแระ
หลังจากนั้นก็มีคนเกาหลีวัยทำงานมากินกัน นั่งโต๊ะข้างๆเราและชอบนั่งมองแต่พวกเรา ด้วยที่ว่าเราเป็นคนต่างชาติกินก็ผิดๆถูกๆ
เค้ากินแบบห่อผักใส่ข้าวบ้าง จิ้มซอสหน่อย ไอเราก็คีบไส้ใส้ถ้วยข้ามใช้ช้อนตักนั่งกินแบบคนบ้านเราเลย พอรู้สึกโดยมองบ่อย ก็เลยจองกลับแล้วกินตามเค้า เอาผักวาง ใส่ไส้ลงไป ใส่น้ำจิ้มปั้นเป็นก้อนกลมๆแล้วเอาใส่ปาก ผลคือเค้ายิ้มคะ แล้วยกนิ้วให้ จ้าๆ เอาเลยจ้า ที่นั่งมองเรานานก็เพื่อสิ่งนี้กันเลยใช่ไหมจ๊ะ
ซึ่งหลังใช้เวลานานมากในการกินเราก็จ่ายเงินแล้วลุกขึ้นไปกดกาแฟที่มีบริการฟรีและเดินออกจากร้านไป ออกมาปุ๊บ! หนาวคะ หนาว
หิมะที่ตกตั้งแต่บ่ายๆ ณ ตอนี้ก็ยังตกอยู่ ตกจนถนนขาวโพลนเหมือนคนขับรถบรรทุกเกลือมาทำหกแถวนี้ รถกลางเป็นสีขาวทุกอย่างดูโอเคมากสำหรับคนที่อยากเห็นและเล่นหิมะอย่างเรา จากที่คิดไว้ว่าจะไปถ่ายรูปกัน ไม่ไปมันแระเล่นหิมะกันดีกว่า
สิ่งที่รอคอยมากนาน ในที่สุดก่อนกลับก็ได้เล่น สัมผัสของจริงกันสักที
เราเล่นกันอยู่นานมากคะ แล้วก็แวะเข้า Emart เพื่อไปคุยนัดพวกพี่กานต์ไปกินหมูย่างเกาหลีในตอนเช้าพรุ้งนี้ก่อนเราจะ เรื่องเราออกประมาณ16.30เลยมีเวลาในช่วงเช้ากันนิดหน่อย แล้วก็เข้าไปซ์้อครีมที่อยากได้ ของฝากให้ป๊า ม๊าที่บ้าน ขนมอีกเยอะแยะ
ครีมที่ฮิตในไทย ซึ่งที่โน้นขายถูกมากกกก และเปอร์เซ็นมากกว่าเยอะ
ครีมของ Etude ซึ่งตอนที่เราไปซื้อลดราคาและซื้อ1แถม1อยู่จ้า
บุหรี่แรนดอมรสชาติและกลิ่นที่ซื้อเป็นของฝากให้ป๊า
ขนมขาไก่เหมือนบ้านเรา แต่ใหญ่กว่าและเป็นรสต๊อกบ๊กกี
นมลดราคาที่ซื้อ1แถมหนึ่ง และของเยอะแยะอีกมากกว่า ที่ไม่ได้เอามาให้ดูกัน หลังจากนั้นเราก็จัดกระเป๋าเตรียมกลับไทยกันแล้วในวันพรุ้งนี้
และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของการใช้ชีวิตในเกาหลี แต่วันนี้เราดันตื่นสายกันมากเพราะเมื่อวานเดินเยอะมากไปหน่อย
บวกกัยไปเล่นหิมะกันอยู่นาน ทำให้เหมือนกันจะไม่สบายกันและตื่นสายนัดที่ได้ได้นัดพวกพี่ๆไว้เลยถูกยกเลิกไป TT..TT
เมื่อเราบอกลาและเช็คเอ้าออกจากคอนโดของเบอร์รี่แล้ว เราก็ไปเพิ่มพลังจากที่ร้านของอปป้าหน้าหล่อกันอีก ถึงมื้อนี้จะเป็นมื้อสุดท้ายในเกาหลีเราก็ยังไม่ลืมที่จะสั่งอาหารแบบราคาประหยัด และได้เยอะอีกตามเคย
ข้าวหมูทงทัสสึที่ขึ้นชื่อของร้านเพราะชิ้นที่ใหญ่มากกก ข้าวผัดกิมจิและมาม่าต้มกับต๊อกบ๊กกี กินกันแบบราชาแต่ค่าเสียหายแค่ 10000วอน ราคาตามจริงแล้ว 12000วอนแต่อปป้าได้ลดราคาให้เรากันนั้นเอง
บรรยากาศภายในร้านก็สวยด้วย
เมื่อกินเสร็จเราก็ลากกระเป๋าออกจากร้านเพื่อไปสนามบินกันต่อ แต่ระหว่าทางด้วยความที่ผู้หญิงชอบช้อปของSale ร้านเครื่องสำอาง
ตามสถานที่ Subway ดันเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ ลดราคากันใหญ่ทุกร้านแบบ 50-80% ไอเราก็เห็นแล้วอยู่นิ่งไม่ได้ก็เลยไปสอยครีมมาอีก3-4กระปุกใหญ่ ส่วนค่าเสียหายอ่ะหรอ ไม่ถึง15000วอนเลยจ้า เพราะมันลดราคากันอยู๋ จกนั้นเราก็ขึ้นรถไฟใต้ดินและเตรียมตัวให้เตรียม เช็คอิน เตรียมกลับเมืองไทย.......
ลาก่อนเกาหลี.......เดี๋ยวเราจะเก็บเงินมาเที่ยวอีกนะ
ทริปมาแบบประหยัดครั้งนี้เราประทับใจมาก อาจเป็นเพราะด้วยเราโชดดีมาก โชดดีแล้วโชดดีอีกที่ได้เจอแต่คนใจดี ค่อยช่วยเหลือตลอดเวลา กับคนเกาหลีถึงสื่อสารกันคนละภาษาไม่รู้เรื่องบาง รู้เรื่องบางเค้าก็ยังใจดีและไม่คิดจะโกงเราแถมยังแถมของกิน ลดราคาให้เยอะแยะ ส่วนแอนดูร์ว ถ้าเราไม่ได้เจอเค้าเราก็คงจะไปเที่ยวเชยๆแบบเป้าหมายที่ได้จดไว้แบบน่าเบื่อ
คงไม่ได้มีประสบการณ์แปลกใหม่ที่ตื่นเต้นแบบนี้หรอก
แถมนายยังแนะนำที่เที่ยว เป็นไกด์ พาไปหาของที่ถูกสุดๆให้พวกเรารู้กันอีก
ส่วนพี่คนไทยทั้ง4คน คือพี่กานต์ พี่อ๊ะ พี่โอ๋และพี่พร ต้องบอกเลยถ้าไม่ได้เจอ เราลำบากมากแน่ในทุกๆเรื่องและคงไม่สนุกแบบนี้นอน ขอบคุณที่สอนอะไรหลายๆอย่างให้กับพวกหนูในการใช้ชีวิตที่โน้น พวกหนูโชดดีมาก ๆ ๆ จนไม่รู้จะเรียกว่าอะไรที่ได้มาเจอพวกพี่ ทั้งที่เราพึ่งเคยเจอกันเองแท้แต่พี่กลับไม่กลัวและไว้ใจพวกเราตลอดมา ทำให้เราได้ประสบการณ์ใหม่ๆเยอะแยะมากมาย......ขอบคุณค่ะที่ไว้ใจพวกเราและทำให้เรารู้ว่าคนไทยใจดีในต่างแดนมีจริง..... กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่อยากแชร์ประสบการณ์ในต่างแดนและต้องการจะขอบคุณทุกๆคนในต่างแดนที่ได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ในปีนี้คะ
ขอบคุณที่เข้ามานั่งอ่านและเรื่องราวการเที่ยว Backpack กรุงโซลด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกกันจนจบนะคะ
กระทู้นี้เป็นครั้งแรกที่เขียนหากมีอะไรผิดพลาดไปต้องขออภัยด้วยนะคะ หากมีข้อสงสัยหรืออยากทราบอะไรเพิ่มเติมได้นะคะ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นด้วยนะคะ
เราจะนำไปปรับแก้ในกระทู้ต่อๆไปคะ
สามารถดูค่าใช้จ่ายทั้งหมดแบบรวมได้ที่นี่เลยคะ
http://ppantip.com/topic/33280867 ต้องเพิ่มกระทู้เพราะไม่พอจริง
ทริป Backpack ตะลุยทั่วกรุงโซล กินอยู่อย่างราชาแต่งบอย่างยางก 10วันด้วยเงินไม่ถึงหมื่น!!! 11-20 มกราคม ตอนที่5 (จบจริง)
และก็ถึงเช้าวันสุดท้ายของการเที่ยวแบบเต็มๆที่เกาหลี เมื่อเดินออกมาจากคอนโดเท่านั้นแระ โฮ้วววววววว!!
คนเยอะมาก ไม่ร็แห่มาจากที่ไหนกันเต็มไปหมด
แล้วก็นึกได้ว่าวันนี้วันหยุด ตลาดมือสองคงมีคนมาขายของกันเยอะแยะแน่นอน
ขอกินก็เยอะ เสื้อผ้าก็สวย ของใช้ก็มี กระเป๋า รองเท้า เยอะเต็มไปหมดจนลายตา เราจึงตัดสินใจไปหาข้าวกินก่อนแล้วค่อยย้อนกับมาเดินที่ตลาดกันเพื่อรอถึงเย็นๆ เราค่อยได้ถ่ายรูปกัน
ส่วนร้านอาหารเราก็กลับมากินกันที่ร้านหมูทอดหนาว เพราะด้วยความที่ว่าเมื่อคืนเราไม่ได้กินหมูทอดทงทัสสึกันนั้นเอง ไม่รอช้าที่จะสั่งกันเลย
แต่ด้วยราคาที่ถ้าสั่งมากินกัน2คนต้องเกินงบแน่ๆเลย เราเลยสั่งมาแค่1ชุดและสั่งข้าวเพิ่มอีก1ถ้วย เท่ากับกลายเป็นหมู1จาน
และข้าวอีก2ถ้วย เจ้าของร้านนี่ งง สักพักเลยคะ เค้าคงไม่เคยเห็นแบบนี้แต่ไม่เป็นไรฟังเค้าพูดไม่รู้เรื่องหรอก เราก็กินแบบไทยนี่แระไม่แคร์เท่าไหร่คะ ค่าเสียหายของมื้อนี้ก็รวมอยู่ที่ 5000วอนเอง ซึ่งไม่แพงอิ่มมากอีกตังหาก
หลังจากนั้นเราก็เดินย้อนกลับไปที่ตลาดมือสองอีก เพื่อไปเดินดูเสื้อหรือของฝากไปให้เพื่อนตอนกลับกัน ซึ่งพอเดินจริงๆแล้ว.....
แบบ โอ้แม่เจ้า!! จะเยอะไปไหนนี่ มีร้านทุกตรอกซอกซอย ทุกซอยมีแต่ร้านค้าตั้งไปไหนพร้อมกับเสียงเรียนลูกค้าให้เข้าไปซื้อของร้านตัวเองที่ดังมาก เราก็เอาเลยคะเจ้าแม่ช๊อปของมือสองเข้าสิง เดินทุกซอยเพื่อหาของให้ได้ที่ถูกที่สุด ต่อลองราคาให้ตายกันได้ข้างหนึ่งเลย
ของที่ตลาดนี้มีเยอะมาก คุณต้องเลือกดีๆและเร็ว! ถ้าคุณคิดจะซื้อให้ซื้อเลยเพราะมันก็ไม่ได้แพงเพราะทันทีที่คุณปล่อยของลง
ก็จะมีมนุษย์บริเวณนั้นอีกร้อยชีวิตจ้องแย่งกันหยิบสิ่งที่คุณได้วางลงไป
เรานี่โดนมาแล้วกับตัวคะ เพราะความลังเลเลยเสียเสื้อบาสเกตบอลเท่ๆ สภาพ95%ไปอย่างหน้าเสียดาย บางคนคุณแค่วางไว้ใกล้ๆตัวเพื่อหาเพิ่มก็อาจโดนขโมยไปได้ บอกได้เลยตลาดนี้เปรียบเสมือนสงครามของผู้หญิงเวลาเจอของ Sale กันเลยก็ว่าได้
ยิ่งให้ค้นเจอของเป็นเบรนเมน ถ้าคุณชอบจงรีบจ่ายเงินทันที ไม่เช่นนั้นไปแน่เลย
ของมือสองที่นี้ไม่ใช่จะกระจอกเหมือนที่เราคิดกันนะ เพราะของที่นี้คุณดีมาก ของมียี่ห้อ ของแบรนเนมก็มี กางเกงลีวายนี่เยอะเลย
เสื้อทหาร ของใช้หรือกระเป๋าทหารของแต่ละประเทศสวยๆทั้งนั้น รับรองว่าถูกใจคนที่ชอบแน่นอน แนะนำให้ไปให้ได้เลยคะช่วงวันหยุดแต่เป็นวันอาทิตย์จะดีที่สุดเพราะมีแน่ๆ
บางคนถึงขั้นปีนขึ้นไปบนกองเสื้อเพื่อค้นหาเสื้อที่ตัวเองอยากได้เลยก็มีคะ
หลังจากเดินกันอยู่นานเราก็เจอกับขนมปิ้งใส่ถั่วแดงรูปปลาที่อยากกินมานาน มันมีขายทั่วไปตามขางถนนคะ
แต่ด้วยความที่ว่าร้านที่เจอมันแพงมากและได้น้อยไม่กี่ตัวเลยไม่คิดจะซื้อกินเลย แต่พอมีเจอร้านเท่านั้นแระ ซื้อคะ ซื้อ!!!
ร้านนี่ตัวใหญ่มาก ไส้เยอะแถมราคา 5 ตัวเพียงแค่1000วอน
ขนมปังปบาร้อนๆ บวกกับอากาศที่หนาวในตอนนั้น บอกได้คำเดียวเลยว่า อร่อยมากกก ฟินสุดๆ กินหมดแล้วเรานี่พยายามกลับไปซื้ออีกแต่ร้านก็ทำไม่ทัน คนก็รอเยอะมากเราเลยตัดใจเดินไปหาซื้อของต่อ
และแล้วในการตะเวนทั่วตลาดเราก็ได้ของกลับมาเยอะมากหลายอย่างแต่เงินที่เสียไปไม่ถึง15000วอน ถือว่าคุ้มสุดๆ
ทั้งเสื้อเรา เสื้อแฟน ของฝากสำหรับคน15คน ขนมที่ซื้อมากินเล่นอีก โอ๊ยยย บอกได้คำเดียวคุ้ม!
น้ำบลูเบอร์รี่แท้100% คุณก็สามารหาซื้อแบบราคาถูกได้ที่นี่เช่นกัน นำไปเป็นของฝากให้เพื่อนก็ได้เหมือนเรา
วันนี้เราถือว่าเป็นวันที่โชดดีสำหรับเรามากกก เพราะหิมะได้ตกลงมาอีกครั้งหลังจากตกวันที่เราไปบ้านพี่กานต์กัน
และวันนี้ก็ตกเยอะมากไม่ยอมหยุด แต่มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเราหรือร้านค้าเลย ทุกร้านกลางร่มและยังทำการขายกันต่อไป
พอเราได้ของที่พอใจแล้วก็กลับเอาของที่ซื้อมาวันนี้กลับมาเก็บที่หอ แล้วก็ออกไปหาอะไรกินกันต่อข้างนอกเพื่อรอไปถ่ายรูป
ร้านต่อไปที่เราไปกินกันคือร้านไส้หมูย่างผัดซอส ซึ่งอยู่ใกล้กับหอพักเราเลย นั่งมองกันมาหลายวันแรกตั้งแต่มาว่าอยากเข้าไปกินกันสักครั้ง
แต่ด้วยงบที่น้อยเลยไม่กล้าเข้ากันเพราะราคาก็เป็นหมื่น แต่ไหนๆวันสุดท้ายแล้วเงินเราก็พอเหลือ เอาวะ!!! เข้าไปกินกันเหอะ
เราเลือกร้านที่มีคนเข้าน้อยเพราะไม่ชอบคนเยอะๆ จนมาเจอร้านๆหนึ่งคือร้าน "ป้ากาแฟ" เพราะร้านป้าแกมีบริการกาแฟร้อนให้กดเองบริการตัวเองได้ตลอดเวลา ซึ่งพอเราเข้าร้านไปแล้ว โอ้วววววว น่ากินมากเลยคะ!
ซึ่งตอนนั้นที่เราเข้าไปในร้าน รายการรันนิ่งแมนก็กำลังฉายอยู่พอดีเลย บอกได้คำเดียวเลยว่าฟินคะ
เพราะเราชอบดูรายการนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้มาดูสดๆที่นี่
หลังจากนั้นไส้หมูย่างผัดซอสที่เราสั่งไส้ก็มาถึง เรานี่นิ่งเลยคะเพราะว่าแบบว่า ง่ออออออออออออ น่ากินสุดๆไปเลย
เสริฟมาพร้อมกับผัก กระเทียม ซอสและข้าว ซึ่งร้านแบบนี้เราจะเห็นได้ทั่วไปในซีรี่ย์ คือ ร้านที่คนชอบมานั่งกินโซจูพร้อมหมูย่าง ไส้ย่างนั้นแระ
หลังจากนั้นก็มีคนเกาหลีวัยทำงานมากินกัน นั่งโต๊ะข้างๆเราและชอบนั่งมองแต่พวกเรา ด้วยที่ว่าเราเป็นคนต่างชาติกินก็ผิดๆถูกๆ
เค้ากินแบบห่อผักใส่ข้าวบ้าง จิ้มซอสหน่อย ไอเราก็คีบไส้ใส้ถ้วยข้ามใช้ช้อนตักนั่งกินแบบคนบ้านเราเลย พอรู้สึกโดยมองบ่อย ก็เลยจองกลับแล้วกินตามเค้า เอาผักวาง ใส่ไส้ลงไป ใส่น้ำจิ้มปั้นเป็นก้อนกลมๆแล้วเอาใส่ปาก ผลคือเค้ายิ้มคะ แล้วยกนิ้วให้ จ้าๆ เอาเลยจ้า ที่นั่งมองเรานานก็เพื่อสิ่งนี้กันเลยใช่ไหมจ๊ะ
ซึ่งหลังใช้เวลานานมากในการกินเราก็จ่ายเงินแล้วลุกขึ้นไปกดกาแฟที่มีบริการฟรีและเดินออกจากร้านไป ออกมาปุ๊บ! หนาวคะ หนาว
หิมะที่ตกตั้งแต่บ่ายๆ ณ ตอนี้ก็ยังตกอยู่ ตกจนถนนขาวโพลนเหมือนคนขับรถบรรทุกเกลือมาทำหกแถวนี้ รถกลางเป็นสีขาวทุกอย่างดูโอเคมากสำหรับคนที่อยากเห็นและเล่นหิมะอย่างเรา จากที่คิดไว้ว่าจะไปถ่ายรูปกัน ไม่ไปมันแระเล่นหิมะกันดีกว่า
สิ่งที่รอคอยมากนาน ในที่สุดก่อนกลับก็ได้เล่น สัมผัสของจริงกันสักที
เราเล่นกันอยู่นานมากคะ แล้วก็แวะเข้า Emart เพื่อไปคุยนัดพวกพี่กานต์ไปกินหมูย่างเกาหลีในตอนเช้าพรุ้งนี้ก่อนเราจะ เรื่องเราออกประมาณ16.30เลยมีเวลาในช่วงเช้ากันนิดหน่อย แล้วก็เข้าไปซ์้อครีมที่อยากได้ ของฝากให้ป๊า ม๊าที่บ้าน ขนมอีกเยอะแยะ
ครีมที่ฮิตในไทย ซึ่งที่โน้นขายถูกมากกกก และเปอร์เซ็นมากกว่าเยอะ
ครีมของ Etude ซึ่งตอนที่เราไปซื้อลดราคาและซื้อ1แถม1อยู่จ้า
บุหรี่แรนดอมรสชาติและกลิ่นที่ซื้อเป็นของฝากให้ป๊า
ขนมขาไก่เหมือนบ้านเรา แต่ใหญ่กว่าและเป็นรสต๊อกบ๊กกี
นมลดราคาที่ซื้อ1แถมหนึ่ง และของเยอะแยะอีกมากกว่า ที่ไม่ได้เอามาให้ดูกัน หลังจากนั้นเราก็จัดกระเป๋าเตรียมกลับไทยกันแล้วในวันพรุ้งนี้
และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของการใช้ชีวิตในเกาหลี แต่วันนี้เราดันตื่นสายกันมากเพราะเมื่อวานเดินเยอะมากไปหน่อย
บวกกัยไปเล่นหิมะกันอยู่นาน ทำให้เหมือนกันจะไม่สบายกันและตื่นสายนัดที่ได้ได้นัดพวกพี่ๆไว้เลยถูกยกเลิกไป TT..TT
เมื่อเราบอกลาและเช็คเอ้าออกจากคอนโดของเบอร์รี่แล้ว เราก็ไปเพิ่มพลังจากที่ร้านของอปป้าหน้าหล่อกันอีก ถึงมื้อนี้จะเป็นมื้อสุดท้ายในเกาหลีเราก็ยังไม่ลืมที่จะสั่งอาหารแบบราคาประหยัด และได้เยอะอีกตามเคย
ข้าวหมูทงทัสสึที่ขึ้นชื่อของร้านเพราะชิ้นที่ใหญ่มากกก ข้าวผัดกิมจิและมาม่าต้มกับต๊อกบ๊กกี กินกันแบบราชาแต่ค่าเสียหายแค่ 10000วอน ราคาตามจริงแล้ว 12000วอนแต่อปป้าได้ลดราคาให้เรากันนั้นเอง
บรรยากาศภายในร้านก็สวยด้วย
เมื่อกินเสร็จเราก็ลากกระเป๋าออกจากร้านเพื่อไปสนามบินกันต่อ แต่ระหว่าทางด้วยความที่ผู้หญิงชอบช้อปของSale ร้านเครื่องสำอาง
ตามสถานที่ Subway ดันเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ ลดราคากันใหญ่ทุกร้านแบบ 50-80% ไอเราก็เห็นแล้วอยู่นิ่งไม่ได้ก็เลยไปสอยครีมมาอีก3-4กระปุกใหญ่ ส่วนค่าเสียหายอ่ะหรอ ไม่ถึง15000วอนเลยจ้า เพราะมันลดราคากันอยู๋ จกนั้นเราก็ขึ้นรถไฟใต้ดินและเตรียมตัวให้เตรียม เช็คอิน เตรียมกลับเมืองไทย.......
ลาก่อนเกาหลี.......เดี๋ยวเราจะเก็บเงินมาเที่ยวอีกนะ ทริปมาแบบประหยัดครั้งนี้เราประทับใจมาก อาจเป็นเพราะด้วยเราโชดดีมาก โชดดีแล้วโชดดีอีกที่ได้เจอแต่คนใจดี ค่อยช่วยเหลือตลอดเวลา กับคนเกาหลีถึงสื่อสารกันคนละภาษาไม่รู้เรื่องบาง รู้เรื่องบางเค้าก็ยังใจดีและไม่คิดจะโกงเราแถมยังแถมของกิน ลดราคาให้เยอะแยะ ส่วนแอนดูร์ว ถ้าเราไม่ได้เจอเค้าเราก็คงจะไปเที่ยวเชยๆแบบเป้าหมายที่ได้จดไว้แบบน่าเบื่อ
คงไม่ได้มีประสบการณ์แปลกใหม่ที่ตื่นเต้นแบบนี้หรอก แถมนายยังแนะนำที่เที่ยว เป็นไกด์ พาไปหาของที่ถูกสุดๆให้พวกเรารู้กันอีก
ส่วนพี่คนไทยทั้ง4คน คือพี่กานต์ พี่อ๊ะ พี่โอ๋และพี่พร ต้องบอกเลยถ้าไม่ได้เจอ เราลำบากมากแน่ในทุกๆเรื่องและคงไม่สนุกแบบนี้นอน ขอบคุณที่สอนอะไรหลายๆอย่างให้กับพวกหนูในการใช้ชีวิตที่โน้น พวกหนูโชดดีมาก ๆ ๆ จนไม่รู้จะเรียกว่าอะไรที่ได้มาเจอพวกพี่ ทั้งที่เราพึ่งเคยเจอกันเองแท้แต่พี่กลับไม่กลัวและไว้ใจพวกเราตลอดมา ทำให้เราได้ประสบการณ์ใหม่ๆเยอะแยะมากมาย......ขอบคุณค่ะที่ไว้ใจพวกเราและทำให้เรารู้ว่าคนไทยใจดีในต่างแดนมีจริง..... กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่อยากแชร์ประสบการณ์ในต่างแดนและต้องการจะขอบคุณทุกๆคนในต่างแดนที่ได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ในปีนี้คะ
ขอบคุณที่เข้ามานั่งอ่านและเรื่องราวการเที่ยว Backpack กรุงโซลด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกกันจนจบนะคะ กระทู้นี้เป็นครั้งแรกที่เขียนหากมีอะไรผิดพลาดไปต้องขออภัยด้วยนะคะ หากมีข้อสงสัยหรืออยากทราบอะไรเพิ่มเติมได้นะคะ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นด้วยนะคะ
เราจะนำไปปรับแก้ในกระทู้ต่อๆไปคะ
สามารถดูค่าใช้จ่ายทั้งหมดแบบรวมได้ที่นี่เลยคะ http://ppantip.com/topic/33280867 ต้องเพิ่มกระทู้เพราะไม่พอจริง