ชะตากรรมของจิ้งจกตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง...ถ้าเป็นคุณจะปล่อยให้ตายหรือจะทำอย่างไร?

ขอเกริ่นนำก่อนนิดนึง ฉันทำธุรกิจเกี่ยวกับจำหน่ายเครื่องพิมพ์เคสและน้ำยาเรซิ่นเคลือบเคสกากเพชรที่กำลังนิยมอยู่ในตอนนี้

เมื่อวาน มีลูกค้าที่สนิทกันส่งภาพและวิดีโอนี้ให้ดู และบอกว่า พี่ๆ จะทำยังไงดี?

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


คือลูกจิ้งจกตกลงไปในแก้วน้ำยาเรซิ่นที่เหลืออยู่ ขาและท้องจมไปในน้ำยากาวเรซิ่น จนน้ำยาแห้งแข็งไป 95% แล้วเพิ่งมาเห็น
ลูกค้าท่านนี้ ชื่อ น้องเวย์กับน้องปู ก็สอบถามฉันว่า มีอะไรที่สามารถละลายน้ำยาที่แข็งแล้ว ช่วยจิ้งจกได้ไหม

ฉันก็ตอบว่า ลองเอาน้ำยาล้างเรซิ่นค่อยๆเช็ดออกไหม

น้องทั้งสองก็บอกว่า ไม่ออกพี่ มันแข็งแล้ว ผมลองแล้ว

ฉันก็มานั่งคิดว่า วิธีออกได้ น่าจะเป็นน้ำอุ่น ให้น้ำยามันนิ่มลงและค่อยๆ เอามีดแงะ เทาะๆเรซื่นให้แตก แล้วแงะจิ้งจกออก

แต่ก็เสี่ยงเหมือนกัน นึกถึงเนื้อนิ่มๆบางๆของจิ้งจก ถ้าเผลอไปเฉือนโดน ตายแน่ๆ

ฉันมาคุยกับพนักงานในออฟฟิซ หลายคนบอกว่า สงสัยคงต้องปล่อยมันแห้งตายไป คงมีบุญแค่นี้
ส่วนฉันก็หาข้อมูลในเน็ตว่า ถ้าทำแรงไป หางขาด จิ้งจกสามารถงอกหางมาใหม่ได้นะ หาข้อมูลส่งไปให้ลูกค้าสองคนนี้

น้องปูกับน้องเวย์ ก็ขอบคุณและก็เงียบหายไป

ในใจ ฉันคิดว่า คงไม่มีทางออกได้ ชะตากรรมของจิ้งจก คงสิ้นสุดเพียงแค่นี้....
และฉันก็ต้องหยุดคิดเรื่องนี้...ทำงานต่อไป

จนกระทั่งผ่านไป หนึ่งวัน





(เดี๋ยวมาต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คุณหมอบอกว่า...เป็นสัตว์ตัวเล็กที่สุดที่เคยช่วยชีวิตและรักษา

น้องปูเล่าให้ฟังคุณหมอใจดี ไม่คิดเงินเลยสักบาท

พอแงะจิ้งจกออกมาได้ ทุกคนร้องเย้กันหมดเลย

ฉันฟังแล้วก็แบบ ซึ้งอ่า.... จิ้งจกตัวเล็กๆตัวหนึ่ง..ที่พวกเขาไม่ปล่อยให้ตายไป
แต่พยายามช่วยชีวิตจนรอด...

น้องปูเล่าว่า พาลูกจิ้งจกกลับบ้าน เพราะเห็นจิ้งจกตัวใหญ่ที่คาดว่าน่าจะเป็นแม่มาด้อมๆมองๆหาลูก
จึงพาไปแปะผนังอยู่ใกล้แม่..

สองแม่ลูกได้เจอกัน ..คงดีใจ.. ลูกจิ้งจกยังดูอ่อนเปลี้ยเหมือนไม่ค่อยมีแรงอยู่

น้องปูบอก ต่อไปนี้คงต้องหาฝาชีมาครอบถ้วยน้ำยา เพื่อป้องกันจิ้งจกตกมาอีก

เป็นเรื่องราวเล็กๆที่สร้างความประทับใจอันยิ่งใหญ่ให้ฉันอย่างมาก..สุดๆ (น้ำตารื้นเลยอ่ะ)

ฉันคิดว่า..ความใจดีและการทำบุญครั้งนี้ของน้องทั้งสอง จะส่งผลบุญให้กิจการขายเคสเรซิ่นขายดียิ่งๆขึ้น (ปกติขายดีอยู่แล้ว)

และของร้านสัตว์แพทย์ที่ใจดี ไม่คิดเงินสักบาท ก็ขอให้ผลบุญนี้ มีกิจการที่ดีๆ ร่ำรวยๆ


ขอบคุณที่อ่านค่ะ อยากแบ่งปันเรื่องประทับใจน่ารักๆนี้ให้ทุกคนอ่านค่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
และฉันก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย..

จนน้องเวย์และน้องปูส่งรูปนี้มาให้


แล้วบอกว่า " พี่ เอาจิ้งจกออกมาได้แล้วคับ ปูพาไปโรงบาลสัตว์ให้หมอเอาออกให้"

ฉันก็เฮ้ยย ถามจริงงงงงงงงงงงง

มีคนในโลกนี้พาจิ้งจกไปหาสัตวแพทย์ด้วยเหรอเนี่ยยย ฉันประหลาดใจอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วก็แบบ ซึ้งอ่ะ บอกไม่ถูก

และน้องก็ส่งรูปต่อไปมาให้ดู
ความคิดเห็นที่ 2


รูปคูณหมอที่กำลังพยายามช่วยชีวิตลูกจิ้งจก!
ความคิดเห็นที่ 35
ผมขอชื่นชมเลยนะ ทำถูกแล้วครับ อย่างน้อยๆก็ยังได้ทำอะไรเพื่อช่วยมันแล้ว  ต่อให้ช่วยไม่ได้จริงๆก็คงยังดีกว่าจะปล่อยมันตายไปเฉยๆ

นึกไปถึงหนังฝรั่งเรื่องนึงที่เอ๊ดดี้ เมอร์ฟี่เล่น  เขาเล่าเป็นนิทานว่า  เช้าวันนึงริมชายหาด หลังจากที่มีพายุใหญ่พัดเข้าฝั่งอย่างรุนแรงมากเมื่อคืนนี้  ทำให้ริมหาดนั้นมีแต่ปลาดาวเป็นแสนตัวถูกพัดขึ้นมาเกลื่อนไปหมด   ณ ตรงนั้นมีเด็กหญิงเล็กๆคนนึงกำลังรีบหยิบปลาดาวโยนกลับลงไปในทะเล  เค้าก็แปลกใจแล้วเดินเข้าไปหาเด็กคนนั้น  ถามว่า "หนูทำแบบนี้นานรึยัง  ไม่เหนื่อยเหรอ  ปลาดาวมันเยอะขนาดนี้เราคงช่วยมันไม่หมดหรอก แบบนี้มันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกถ้าจะทิ้งมันไว้"   เด็กน้อยหันมายิ้มแล้วก็ชี้ไปในทะเลพลางตอบว่า "แต่กับตัวนั้น  มันต่าง... "  

เด็กคงหมายถึงปลาดาวตัวที่เพิ่งถูกโยนลงทะเลไปนั่นเอง  แน่นอนว่ามันเยอะมาก และคงช่วยได้แค่เท่าที่ทำได้จนเราคิดไปว่าเหมือนมันไม่ต่างกันเลย  จะช่วยหรือไม่ช่วยก็คงค่าเท่ากัน   แต่กับปลาดาวพวกนั้นมันต่างกันแน่นอนเพราะนั่นหมายถึงชีวิตของมันทั้งชีวิตที่จะรอดหรือไม่   ก็คงเหมือนกับจิ้งจกตัวนี้มั๊ง  ถ้าเราหมดหวังที่จะช่วยมัน  มันก็ต้องตายไปซึ่งคงน่าเสียดายมาก  ดีใจนะครับที่ยังพยายามช่วยมันจนรอดได้  ทำให้ได้รู้ว่า ชีวิตนั้นไม่ว่าจะดูเล็กแค่ไหนแต่มันก็มีคุณค่าของชีวิตที่เหมือนกัน เท่ากันนั่นแหละ
ความคิดเห็นที่ 3


คุณหมอกำลังเอาแอลกอฮอล์ค่อยๆเช็ดน้ำยาที่แข็งออก และเอามีดค่อยๆเทาะเรซิ่นออก และแงะตัวและขาลูกจิ้งจกออกจากเรซิ่น
มีเลือดออกนิดนึง...อ๊ากก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่