Boyhood ที่รัก
เป็นหนังที่มีจุดที่ดูแล้ว ฉุกคิดกับการใช้ชีวิตขึ้นมา
อย่างตอนนึง ที่แม่พระเอกบอกว่า
"I've spent the
first half of my life acquiring all this crap
and now I'm gonna spend the
second half of my life getting rid of all this stuff"
"แม่ใช้เวลา
ครึ่งแรกของชีวิตไปกับการ
ซื้อข้าวของบ้าบอคอแตกนี่มา (บ้านที่ใหญ่เกินผ่อน รถ ข้าวของฟุ่มเฟือย)
และตอนนี้แม่ก็กำลังจะต้องใช้อีก
ครึ่งชีวิตที่เหลือ ในการ
กำจัดสิ่งของพวกนี้" (สุดท้ายก็ต้องมานั่งใช้หนี้ ขายบ้านทิ้ง)
ทำให้เรานึกถึงชีวิตเราเลยค่ะ คิดว่าอนาคตคงซื้อ/สร้างบ้านไม่ใหญ่เกินตัว ให้พอใช้สอยได้
และซื้อสิ่งของที่มีประโยชน์กับเราจริงๆเท่านั้น
หนังไม่มีเอฟเฟ็คอะไรเลย แต่ดูเพลิน ดำเนินเรื่องไปแบบลื่นๆ
นักแสดงที่ค่อยๆโตขึ้น
อีกจุดนึงที่ชอบมากของ Boyhood คือความ REAL
อย่างพระเอกเนี่ย เค้ามาเล่นตั้งแต่เด็ก เลยเห็นว่าบุคลิกเค้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามวัย
อย่างช่วงที่เค้าเพิ่งเข้าสู่วัยรุ่นเนี่ย พระเอกดู Awkward เก้ๆกังๆมากกกกกกก
ซึ่งมันเรียลลลลลอ่ะ คือเค้าจะดูไม่ค่อยมั่นใจ เก้ๆกังๆ (not comfortable in his own skin)
ตัวพี่สาวพระเอกก็เหมือนกัน เข้าวัยรุ่นแล้วดูขี้อายซะงั้น
มันเหมือนคนเราตอนเพิ่งเข้าสู่วัยรุ่นจริงๆเลย ซึ่งไม่ได้เห็นในหนังทั่วไป
เพราะถ้าคนที่บุคลิกเก้ๆกังๆแบบนี้ เค้าคงมาแคสหนังไม่ผ่านแน่ 555555 แต่คือพระเอกแคสตั้งแต่เด็ก
จุดนี้มันเลยเรียลลลลลลลลมาก เพราะเค้าไม่ได้แสดง แต่เค้าเป็นไปตามอายุจริงๆ
สนุกดีที่ได้เห็นตัวละครเป็นแบบนี้
ไม่ได้ว่า Birdmanไม่ดีนะคะ Birdmanดีมากสมรางวัล
แต่เราแค่แอบเอาใจช่วย+รัก Boyhood เท่านั้นเอง เลยเสียใจค่ะ
อยากให้ได้ Best picture หรือ Best directing จังเลยยย
#เสียดาย BOYHOOD หนัง Real ที่ถ่ายทำถึง 12 ปี กระซิกๆ#
Boyhood ที่รัก
เป็นหนังที่มีจุดที่ดูแล้ว ฉุกคิดกับการใช้ชีวิตขึ้นมา
อย่างตอนนึง ที่แม่พระเอกบอกว่า
"I've spent the first half of my life acquiring all this crap
and now I'm gonna spend the second half of my life getting rid of all this stuff"
"แม่ใช้เวลาครึ่งแรกของชีวิตไปกับการซื้อข้าวของบ้าบอคอแตกนี่มา (บ้านที่ใหญ่เกินผ่อน รถ ข้าวของฟุ่มเฟือย)
และตอนนี้แม่ก็กำลังจะต้องใช้อีกครึ่งชีวิตที่เหลือ ในการกำจัดสิ่งของพวกนี้" (สุดท้ายก็ต้องมานั่งใช้หนี้ ขายบ้านทิ้ง)
ทำให้เรานึกถึงชีวิตเราเลยค่ะ คิดว่าอนาคตคงซื้อ/สร้างบ้านไม่ใหญ่เกินตัว ให้พอใช้สอยได้
และซื้อสิ่งของที่มีประโยชน์กับเราจริงๆเท่านั้น
หนังไม่มีเอฟเฟ็คอะไรเลย แต่ดูเพลิน ดำเนินเรื่องไปแบบลื่นๆ
นักแสดงที่ค่อยๆโตขึ้น
อีกจุดนึงที่ชอบมากของ Boyhood คือความ REAL
อย่างพระเอกเนี่ย เค้ามาเล่นตั้งแต่เด็ก เลยเห็นว่าบุคลิกเค้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามวัย
อย่างช่วงที่เค้าเพิ่งเข้าสู่วัยรุ่นเนี่ย พระเอกดู Awkward เก้ๆกังๆมากกกกกกก
ซึ่งมันเรียลลลลลอ่ะ คือเค้าจะดูไม่ค่อยมั่นใจ เก้ๆกังๆ (not comfortable in his own skin)
ตัวพี่สาวพระเอกก็เหมือนกัน เข้าวัยรุ่นแล้วดูขี้อายซะงั้น
มันเหมือนคนเราตอนเพิ่งเข้าสู่วัยรุ่นจริงๆเลย ซึ่งไม่ได้เห็นในหนังทั่วไป
เพราะถ้าคนที่บุคลิกเก้ๆกังๆแบบนี้ เค้าคงมาแคสหนังไม่ผ่านแน่ 555555 แต่คือพระเอกแคสตั้งแต่เด็ก
จุดนี้มันเลยเรียลลลลลลลลมาก เพราะเค้าไม่ได้แสดง แต่เค้าเป็นไปตามอายุจริงๆ
สนุกดีที่ได้เห็นตัวละครเป็นแบบนี้
ไม่ได้ว่า Birdmanไม่ดีนะคะ Birdmanดีมากสมรางวัล
แต่เราแค่แอบเอาใจช่วย+รัก Boyhood เท่านั้นเอง เลยเสียใจค่ะ
อยากให้ได้ Best picture หรือ Best directing จังเลยยย