เนื้อเรื่องย่อ : เรื่องราวเล่าถึงชีวประวัติช่วงหนึ่งของ Louis Zamperini , นักวิ่งโอลิมปิกดาวรุ่งที่ถูกโชคชะตาพัดพาให้ไปเป็นเชลยศึกของ
ญี่ปุ่นในช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่สอง เรื่องราวของชายผู้สู้ชีวิตด้วยแนวคิดที่ว่า ไม่ยอม ไม่แพ้ ไม่ตาย..ซึ่งเป็นผลงานของผู้กำกับหน้า
ใหม่อย่าง Angelina Jolie ด้วย.
- ด้านตัวละคร
เริ่มต้นที่เจ้าของชีวิตประวัติพระเอกหนุ่มสู้ชีวิตอย่าง Louis Zamperini (Jack O'Connell) ที่เรื่องนี้นับว่าเป็นผลงานที่น่าประทับใจได้พอสมควรเลยทีเดียว ด้วยใบหน้าและการสื่ออารมณ์กร้านโลกได้อย่างชัดเจนในทุกๆฉากสำคัญ ทำให้หนังเรื่องนี้บรรลุจุดประสงค์ได้สวยงาม ถึงแม้ว่าในแง่ของอารมณ์อื่นๆของตัวเอก ที่ไม่ค่อยชัดเจนเสียเท่าไหร่จะเป็นข้อด้อยของพ่อหนุ่มแจ็คคนนี้ แต่ก็ยังถัวๆกันไปได้นะ
ส่วนด้านผู้คุมค่ายกักกันแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง Watanabe (Takamasa Ishihara) เชื่อว่าหลายๆคนจะต้องติดตาตรึงใจกับการแสดงของพ่อหนุ่มคนนี้แน่นอน ซึ่งโดยส่วนตัวผู้เขียนชื่นชอบบทบาทในช่วงต้น-กลางเรื่องมาก แววตาของความชิงชังที่ปนเปกับความนับถือ ถือว่าสื่อได้ชนะเลิศมาก .... แม้ในบางครั้งคราว ไอ้สายตาเจ้าปัญหาของพ่อหนุ่มคนนี้มันจะกลายเป็นแววตาจิกเกินงามไปนิด จนผู้เขียนแอบรู้สึกขนลุก (เชื่อว่าคนอื่นๆคงสัมผัสได้) ซึ่งนั่นก็เป็นข้อดีและข้อเสียที่ผสานกันอยู่ในจุดเดียวนี่แหละ
- ด้านการดำเนินเรื่อง
ถึงแม้ช่วงนี้หนังธีม World War 2 จะค่อนข้างถี่ไปนิด แต่โชคดีด้วยความที่ Unbroken เคลื่อนย้ายแง่มุมของสงครามมาที่ค่ายเชลยในญี่ปุ่นแทน ดังนั้นสิ่งเราจะได้สัมผัสตลอดเรื่องจะเป็นความทุลักทุกเลของพระเอกในการที่จะเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ต่างๆ, เช่นเครื่องบินตกต้องลอยคออยู่กลางทะเล/โดนซ้อมในค่ายเชลย เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจพอสมควร
ถึงแม้ประเด็นในเรื่องการ 'สู้ชีวิต' ของพระเอกนั้นจะถูกขับกล่อมออกมาได้เป็นอย่างดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วงเวลา 'เอื่อยเฉื่อย' ที่ปรากฏออกมาหลายต่อหลายครั้งในเรื่องนั้น เป็นอะไรที่ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ ความรู้สึกราวกับว่าผู้กำกับเกิดอาการ 'รักพี่เสียดายน้อง' ไม่ยอมคัทฉากสร้อยทั้งหลายออกไป หากจะกล่าวถึงจุดเสียของหนังเรื่องนี้ คงต้องยกให้เป็น dead air ในหลายๆช่วงนี่แหละ
แต่ส่วนแทรกที่น่าสนใจในระหว่างเรื่องราวกว่าเดือนครึ่งบนท้องทะเล ก็เป็นช่วงที่น่าสนใจและเหนือความคาดหมายมาก (keyword ฉลาม) และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างความนับถือมิตรสหาย กับทัศนคติต่อศัตรูของชาติ ซึ่งเกิดขึ่นระหว่าง Louis กับ Watanabe นั้นเป็นประเด็นที่เล่นได้ตรงจุดมาก แต่ก็อย่างที่กล่าวว่าด้วยแววตาที่สื่อออกมา 'เกิน' หนังไปนิด ทำให้บรรยากาศมันเปลี่ยนไปจาก bromance เป็นแบบอื่นเสียมากกว่า..
- ด้านงานภาพ-เพลงประกอบ
ความดีงามที่ตาเห็น คือการวางองค์ประกอบภาพที่ลงตัวสวยงามในหลายๆฉากสำคัญ ซึ่งมีส่วนช่วยให้อารมณ์ของหนังไม่กระเจิดกระเจิงไปไหนไกล และการใช้แสงที่เจือฝุ่นบ่อยๆทำให้ความรู้สึกดิบของภาพเพิ่มขึ้นมหาศาล
"Unbroken เป็นผลงานกำกับที่น่าสนใจสำหรับผกก.ใหม่อย่าง Angelina Jolie ที่นำเสนอความทรหดของผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาตนเองได้อย่างราบรื่น และเนิบนาบสมกับเป็นเชิงชีวประวัติ และมีกลิ่นอายของความสัมพันธ์ที่ผสมผสานกันได้อย่างน่าสนใจ ถึงแม้การเล่าเรื่องในบางช่วงบางตอนจะไม่เฉียบคมบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็เป็นหนังที่น่าไปทดลองอย่างยิ่ง"
คะแนนความเห็นส่วนตัว : 8.5/10
นายเป็นศัตรูของญี่ปุ่น..นายก็ต้องถูกปฏิบัติแบบนั้น by Jayz Hunhaboon
ติดตามรีวิวเก่าๆได้ที่ :
https://www.facebook.com/jayz.hunhaboon/media_set?set=a.560682527308058.1073741825.100000989470695&type=1
[REVIEW] Unbroken - นายทหารค่ายตัวร้าย กับเชลยชายเจี๋ยมเจี้ยม
ญี่ปุ่นในช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่สอง เรื่องราวของชายผู้สู้ชีวิตด้วยแนวคิดที่ว่า ไม่ยอม ไม่แพ้ ไม่ตาย..ซึ่งเป็นผลงานของผู้กำกับหน้า
ใหม่อย่าง Angelina Jolie ด้วย.
- ด้านตัวละคร
เริ่มต้นที่เจ้าของชีวิตประวัติพระเอกหนุ่มสู้ชีวิตอย่าง Louis Zamperini (Jack O'Connell) ที่เรื่องนี้นับว่าเป็นผลงานที่น่าประทับใจได้พอสมควรเลยทีเดียว ด้วยใบหน้าและการสื่ออารมณ์กร้านโลกได้อย่างชัดเจนในทุกๆฉากสำคัญ ทำให้หนังเรื่องนี้บรรลุจุดประสงค์ได้สวยงาม ถึงแม้ว่าในแง่ของอารมณ์อื่นๆของตัวเอก ที่ไม่ค่อยชัดเจนเสียเท่าไหร่จะเป็นข้อด้อยของพ่อหนุ่มแจ็คคนนี้ แต่ก็ยังถัวๆกันไปได้นะ
ส่วนด้านผู้คุมค่ายกักกันแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง Watanabe (Takamasa Ishihara) เชื่อว่าหลายๆคนจะต้องติดตาตรึงใจกับการแสดงของพ่อหนุ่มคนนี้แน่นอน ซึ่งโดยส่วนตัวผู้เขียนชื่นชอบบทบาทในช่วงต้น-กลางเรื่องมาก แววตาของความชิงชังที่ปนเปกับความนับถือ ถือว่าสื่อได้ชนะเลิศมาก .... แม้ในบางครั้งคราว ไอ้สายตาเจ้าปัญหาของพ่อหนุ่มคนนี้มันจะกลายเป็นแววตาจิกเกินงามไปนิด จนผู้เขียนแอบรู้สึกขนลุก (เชื่อว่าคนอื่นๆคงสัมผัสได้) ซึ่งนั่นก็เป็นข้อดีและข้อเสียที่ผสานกันอยู่ในจุดเดียวนี่แหละ
- ด้านการดำเนินเรื่อง
ถึงแม้ช่วงนี้หนังธีม World War 2 จะค่อนข้างถี่ไปนิด แต่โชคดีด้วยความที่ Unbroken เคลื่อนย้ายแง่มุมของสงครามมาที่ค่ายเชลยในญี่ปุ่นแทน ดังนั้นสิ่งเราจะได้สัมผัสตลอดเรื่องจะเป็นความทุลักทุกเลของพระเอกในการที่จะเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ต่างๆ, เช่นเครื่องบินตกต้องลอยคออยู่กลางทะเล/โดนซ้อมในค่ายเชลย เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจพอสมควร
ถึงแม้ประเด็นในเรื่องการ 'สู้ชีวิต' ของพระเอกนั้นจะถูกขับกล่อมออกมาได้เป็นอย่างดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าช่วงเวลา 'เอื่อยเฉื่อย' ที่ปรากฏออกมาหลายต่อหลายครั้งในเรื่องนั้น เป็นอะไรที่ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ ความรู้สึกราวกับว่าผู้กำกับเกิดอาการ 'รักพี่เสียดายน้อง' ไม่ยอมคัทฉากสร้อยทั้งหลายออกไป หากจะกล่าวถึงจุดเสียของหนังเรื่องนี้ คงต้องยกให้เป็น dead air ในหลายๆช่วงนี่แหละ
แต่ส่วนแทรกที่น่าสนใจในระหว่างเรื่องราวกว่าเดือนครึ่งบนท้องทะเล ก็เป็นช่วงที่น่าสนใจและเหนือความคาดหมายมาก (keyword ฉลาม) และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างความนับถือมิตรสหาย กับทัศนคติต่อศัตรูของชาติ ซึ่งเกิดขึ่นระหว่าง Louis กับ Watanabe นั้นเป็นประเด็นที่เล่นได้ตรงจุดมาก แต่ก็อย่างที่กล่าวว่าด้วยแววตาที่สื่อออกมา 'เกิน' หนังไปนิด ทำให้บรรยากาศมันเปลี่ยนไปจาก bromance เป็นแบบอื่นเสียมากกว่า..
- ด้านงานภาพ-เพลงประกอบ
ความดีงามที่ตาเห็น คือการวางองค์ประกอบภาพที่ลงตัวสวยงามในหลายๆฉากสำคัญ ซึ่งมีส่วนช่วยให้อารมณ์ของหนังไม่กระเจิดกระเจิงไปไหนไกล และการใช้แสงที่เจือฝุ่นบ่อยๆทำให้ความรู้สึกดิบของภาพเพิ่มขึ้นมหาศาล
"Unbroken เป็นผลงานกำกับที่น่าสนใจสำหรับผกก.ใหม่อย่าง Angelina Jolie ที่นำเสนอความทรหดของผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาตนเองได้อย่างราบรื่น และเนิบนาบสมกับเป็นเชิงชีวประวัติ และมีกลิ่นอายของความสัมพันธ์ที่ผสมผสานกันได้อย่างน่าสนใจ ถึงแม้การเล่าเรื่องในบางช่วงบางตอนจะไม่เฉียบคมบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็เป็นหนังที่น่าไปทดลองอย่างยิ่ง"
คะแนนความเห็นส่วนตัว : 8.5/10
นายเป็นศัตรูของญี่ปุ่น..นายก็ต้องถูกปฏิบัติแบบนั้น by Jayz Hunhaboon
ติดตามรีวิวเก่าๆได้ที่ : https://www.facebook.com/jayz.hunhaboon/media_set?set=a.560682527308058.1073741825.100000989470695&type=1