สวัสดีค่าา ใกล้จะถึงฤดูชมซากุระที่ญี่ปุ่นกันอีกแล้วว (ปี 2015 นี้ที่โตเกียวพยากรณ์ว่าเริ่มบานปลายเดือนมีนา full bloom อาทิตย์แรกเดือนเมษา) เอารีวิวโรงแรมสไตล์เรียวกังที่ฮาโกเน่มาฝาก เผื่อใครมีแผนจะไปชมซากุระ+ชมภูเขาไฟฟูจิที่ฮาโกเน่ จะได้เก็บไว้เป็นตัวเลือกค่ะ



การเดินทางจากโตเกียวไปฮาโกเน่

เราไปด้วยรถไฟของ Odakyu (ซื้อ Hakone Freepass ด้วย) ค่ะ ขึ้นที่สถานีชินจูกุ ซื้อตั๋วเอาหน้างานเลย แต่เราก้ดูตารางไว้ก่อนคร่าวๆ นั่งมาถึงสถานี Hakone-Yumoto แต่หลังจากนั้นในการเที่ยวฮาโกเน่เราจะได้ขึ้น transportation ทุกรูปแบบ!! เริ่มด้วยรถไฟช้า รถไฟขึ้นเขา เคเบิ้ลคาร์ (อย่าลืมลงไปชมฟูจิ กินไข่ดำที่สถานี Owakudani) ต่อด้วยลงเรือโจรสลัด และรถบัสกลับมาที่สถานี Hakone-Yumoto ค่ะ!! (เหนื่อย!!) เหมือนจะยุ่งยากแต่จิงๆมันเป็น route ของมันอยุ่แล้ว เราก้ตามฝูงชนไปเรื่อยค่ะ ใบรายละเอียด Hakone freepass มีเป็นภาษาไทยด้วยค่ะ เอาได้ที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วที่ตึก odakyu เลย สะดวกมากค่ะ

ดูรายละเอียดที่นี่ http://www.odakyu.jp/english/deels/freepass/hakone/

Hotel Senkei
จากที่อ่านรีวิวในนี้กะบล็อกอื่นๆมากมาย สุดท้ายก้ตัดสินใจเลือก Hotel Senkei ค่ะ http://www.senkei.net/eng/senkei/ เราจองผ่าน japanican ค่ะ จะถูกกว่าเว็บฝรั่งพวก agoda หรือ booking นิดนึงค่ะ free cancellation แล้วก็สามารถเลือกจ่ายภายหลังได้ค่ะ

โรงแรมแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
1. Hotel Senkei ที่เราอยู่
2. Senkei Plaza Inn อันนี้จะราคาประหยัดกว่า ห้องแบบ western หมด
3. Yamagaso อยากอยู่มากก สวยมากกก แต่ว่าแพงมากก เป็นเหมือน villa ส่วนตัวเลยค่ะ นี่แหละเรียวกังในฝันนนน เหมือนในการ์ตูนเลย ฮือๆ ราคาเกินเอื้อมไปหน่อย

จริงๆที่สถานีรถไฟฮาโกเน่เค้าจะมีรสบัสเล็กๆขับรับส่งผู้โดยสารตามเรียวกังต่างๆในเมืองค่ะ เนื่องจากเราไม่รู้เรื่องว่าโรงแรมเราเค้าก้ส่ง เราจึง เดิน ค่ะ 555 แต่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ไกลจากสถานีมาก ตอนจองก้พยายามเลือกอันที่พอเดินได้ พอดีมี pocket wifi เลยเดินตามแผนที่ดูในมือถือเอาเลย ประมาณ 15 นาทีก้ถึงค่ะ เดินผ่านร้านรวงต่างๆ เข้าซอย วิวสวยมากผ่านลำธารเล็กๆ ผ่านเรียวกังอื่นๆนิดหน่อย ซักพักก้ถึงค่ะ เดินบนฟุตบาททางไม่ลำบากค่ะ



ถึงแล้วประมาณบ่ายแก่ๆ เข้าไปเช็คอินเลยค่ะ



เช็คอิน smooth มาก รอไม่นาน แล้วเค้าก้พาไปที่ห้องค่ะ ของเราจองห้อง Japanese-style Room 1 คืน พร้อมอาหาร 2 มื้อเสิร์ฟในห้องค่ะ โดนไป  JPY 38,880 ค่ะ ต่อ 2 คน ซีดไป แพงอยู่แต่คิด (เอาเอง) ว่าคุ้ม เพราะว่าอาหารอลังการสองมื้อ ตื่นเต้นมากอยากนอนเรียวกังมานานอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นมากไป ที่นี่ไม่เหมือนในการ์ตูนเพราะค่อนข้างใหญ่โต มีห้องแบบ Western ด้วย แต่ไม่ได้ ระดับเราต้องเลือกฟูกปูบนเสื่อทาทามิเท่านั้น!! ชอบมากแต่คนที่ไปด้วยไม่ค่อยเห็นด้วย เดี๋ยวจะเฉลยว่าทำไม ฮ่าๆๆๆ



เข้าประตูมาห้องน้ำกะห้องส้วมอยู่ด้านซ้ายกับขวา มีประตูเลื่อนแบบญี่ปุ่นอีกชั้นนึง เลื่อนออกมาก้เจอแบบในรูปนี้เลย!! ตื่นเต้น เหมือนในการ์ตูนเลยค่ะ ถูกใจจ แต่คนที่ไปด้วยเกิดอาการ culture shock โพล่งออกมาว่า "เตียงอยู่ไหนอ่ะ??" 5555



ชุดเก้าอี้ริมหน้าต่าง เปลี่ยนยูคาตะแล้วมานั่งจิบเบียร์ (ซื้อมาเองจากแถวสถานี) ตรงนี้ตอนเย็นๆ ชิวมากก



เห็นตู้แบบนี้นึกถึงโดเรม่อนมากกก แอบเข้าไปนั่งถ่ายรูปในตู้ด้วย 5555



อันดับแรกเค้าจะมาเสิร์ฟชาเขียวต้อนรับค่ะ พร้อมกับสอบถามว่าวันนี้จะกินข้าวเย็นกี่โมง เราก้เลือกแบบเอาเร็วๆเลย ซัก 6 โมง จะได้ไปเข้าออนเซ็นต่อ (คิดว่าไปเร็วๆจะได้ไม่มีคน) อีกอย่างคือหิววววด้วย



วิวจากห้องเราค่ะ ประทับใจมาก ชั้นบนสุดของตึกข้างๆจะเป็น Outdoor onsen ซึ่งเค้าจะแบ่งเป็นเวลาแยกชาย-หญิง ตอนเช้าผู้ชายแช่ได้ ช่วงบ่ายปิด ส่วนตอนเย็นกลางคืนเป็นเวลาของผู้หญฺิงค่ะ ถ้าอยากแช่เวลาอื่นๆต้องไป indoor onsen ที่มีแยกชายหญิงอยู่แล้ว ไปได้ทุกเวลา (ที่ไม่ได้ปิดทำความสะอาด!)



มาแล้วว พอใกล้ๆถึงเวลาที่เราเลือกไว้ ประมาณ 15 นาทีก่อน คุณยูโกะ (แต่งเอง จำชื่อเค้าไม่ได้อ่าา) ก้จะเข้ามาจัดแจงอาหารบนโต๊ะให้ สวยงามอลัง (รอดูมื้อเช้าสิคู๊ณณ) เค้าจะพูดภาษาอังกิดปนๆกะญี่ปุ่นค่ะ คือต้องพอมีความเข้าใจสำเนียงญี่ปุ่นและวิธีการที่เค้าพูดอังกิดพอสมควร ไม่งั้นคงภาษาใบ้กันอีกนาน น่ารักมากเลยค่ะ เค้าจะมีคุณลุงผู้ชายคนนึงมาช่วยขนของเข้ามาให้ก่อนด้วย แล้วเค้าก้จะจัดๆๆ แล้วก้บอกวิธีกินด้วย ทำท่าทำทางประกอบกลัวเราไม่เข้าใจ



หลังจากกินข้าวเสร็จ เค้าก้จะเข้ามาเก็บโต๊ะค่ะ ได้เวลาไปแช่ออนเซ็นของเราล้าวว ต้องรีบๆๆ กลัวคนอื่นมาแช่ด้วย 5555 เปลี่ยนยูคาตะที่เค้ามีให้ใส่ฟรีแล้วบึ่งไปเลย มีทางเดินเชื่อมจากตึกเราไปตึกที่มีออนเซ็นค่ะ ไม่ต้องออกไปข้างนอกตึก

ไปถึงไม่มีคนเล๊ยยย ดีใจมากกก ดีนะที่แอบพกกล้องไปด้วยได้ถ่ายร่งถ่ายรูป มาศึกษาวิธีการแช่ออนเซ็นกันก่อนค่ะ (รูปฮามากก)



เข้าไปถึงมี area ให้อาบน้ำก่อนค่ะ หลังจากเอะอะก้โป๊แล้วก้ถือผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆเข้าไป (คือถ้ามีคนแช่อยู่แล้วจะเป็นอะไรที่เขินมากกก)  เข้าไปล้างตัวให้สะอาดก่อนค่ะ



วู้วฮู้ววววว มืดหน่อยแต่มองเห็นฟ้าข้างนอกค่ะ ถ้ามีดวงจันทร์กลมๆนี่จะฟินมาก น้ำร้อนมากกกกก ด้วยความที่ปกติไม่ค่อยอาบน้ำร้อนมากอยู่แล้ว กว่าจะเอาตัวลงไปได้นี่เป็นนาที ต้องค่อยๆลงนะคะ เดี๋ยวจะอันตรายต่อร่าง ไม่ควรแช่นานมากไปด้วยค่ะ



คือหลังจากแช่อยู่ไม่ถึง 10 นาทีดีก้มีเสียงกลุ่มคนเดินเข้ามา กรี๊สสส เค้าก้เข้ามาร่วมแช่ด้วย 2-3 คน เป็นคนที่ค่อนข้างมีอายุแล้วแบบ 40+ ค่ะ มีเด็กๆซัก 30 อยู่ซักคน มาจากฮาวาย,แคลิฟอร์เนีย เหมือนที่ทำงานพามาเที่ยวค่ะ แต่เจ๊คนที่มาจากฮาวายนี่พื้นเพเป็นคนญี่ปุ่นแน่ๆๆ หน้านี่ใช่เลย พูดออกมาสำเนียงอเมริกันแปลกดีเหมือนกัน ตอนคุยๆนี่แช่มิดไหล่เลยค่ะ แต่เขินสุดตรงที่แช่ไม่ไหวแล้วต้องลุกออกมาจากอ่าง หลับหูหลับตาลุกๆออกมาเลยละกันน

อ้อ กลุ่มนี้เค้าเอาผ้าผืนเล็กๆลงมาแช่ในอ่างด้วย!! ซึ่งผิด!!! สงสัยไม่ได้อ่านวิธีใช้ก่อนเข้าแน่เลย! ไอ้เราก้ปากหนักไม่กล้าบอก เดี๋ยวเค้าจะแบบ แหมม เอ็งเป็นคนญี่ปุ่นรึไง จะมาทำรู้มาก จิงๆก้ควรจะบอกเค้านะคะว่าแบบนี้มันไม่ถูก oh well..

กลับห้องดีกว่า หลังจากแช่แล้วตัวอุ่นมากเลยค่ะ คืออุ่นหลังจากนั้นเป็นชั่วโมงเลย เข้าห้องไปคนที่ไม่ได้แช่บ่นหนาวๆ เราแบบ หนาวไรอ่ะ ออกไปเดินเล่นข้างนอกแป๊ปนึง ใส่แค่ยูคาตะเฉยๆไปยังรู้สึกสบายมากๆเลยค่ะ ดีจริงๆ



เตียงเราเรียบร้อยล้าววว คือหลังจากกินข้าว คุณยูโกะจะเลื่อนโต๊ะไปข้างๆ แล้วเอาฟูกจากตู้โดเรม่อนออกมาปูให้เรากลางห้อง ผิดฮวงจุ้ยไปหน่อยแต่ก้หลับสบายยย นอนพื้นเราชอบอยู่แล้ว ฟูกก้นุ่มๆ ส่วนคนที่ไปด้วยน่ะเรอะ เกิดมาไม่เคยนอนพื้น ตัวก้สูงเกินผ้าห่มดึงขึ้นเท้าก้โผล่ ถึงลงก้หนาว สรุปนอนแทบไม่หลับทั้งคืน...เรื่องของแก 5555555

ตอนหลังจากดินเนอร์เค้าจะถามไวเลยค่ะว่าจะกินข้าวกี่โมง เราเลือกไว้ซัก 8 โมงแต่ตั้งนาฬิกาไว้เลย 7.30 ลุกมาล้างหน้าล้างตาแปรงฟันก่อนเลย ตรงเวลามากๆ 7.45 มาเคาะประตูห้องเพื่อตั้งโต๊ะเลยค่ะ! ไม่มีการ snooze นอนเล่นบนเตียงใดๆ ฟูกถูกพับเก็บเข้าตู้โดเรม่อน โต๊ะลากมากลางห้อง แล้วอาหารก้เรียงออกมาอย่างส่วยงามมม กี๊สส





ปลาย่างมาทีหลังค่ะ เพิ่งย่างเส็ดมาแบบร้อนๆเลย



หลังจากกินเสร็จต้องไปโดนออนเซ็นอีกซักที ช่วงเช้าเราต้องไป indoor ค่ะ รีบพุ่งไปเลยกลัวมีคนอีกแล้ว



แต่ว่ายังไม่มีใครมาเลยยย หลังฉากกั้นก้จะเป็นอ่างใหญ่ๆ ใหญ่กว่าแบบ outdoor อีกค่ะ น้ำร้อนเหมือนกัน ต้องนี้มีแชมพู ครีมนวด สบู่แบบวางให้ใช้ทั้งขวด เหมือนเป็นการโฆษณายี่ห้อด้วยมีคำบรรยายเสร็จสรรพว่าใช้แล้วดียังไง ลองแล้วใช้ดีซะด้วยสิ แต่! อย่าไปทำตัวกากขโมยกลับบ้านมาทั้งขวดนะคะ! ถ้าใช้แล้วชอบใจก้จำยี่ห้อไว้ไปหาซื้อเอาค่ะ



ก่อนเวลาเช็คเอาท์เราก้ใส่ยูคาตะออกมาเดินเล่นถ่ายรูปกันค่ะ ขอให้คุณลุงที่ฟรอนท์ถ่ายรูปให้เค้าก้จริงจังกับงานมาก เดินออกมาพาไปชี้ชุดหน้าโรงแรมที่มีจุดถ่ายรูปสวยๆ ถ่ายให้หลายมุมหลายรูปมากเลยค่ะ ประทับใจอีกแล้ว



หลังจากนั้นเราก้มาเก็บของเช็คเอาท์ค่ะ ตอนจ่ายเงินเหมือนจะมีเก็บ hotel tax หรืออะไรซักอย่างเพิ่มอีกนิดหน่อยค่ะ คนละไม่กี่ร้อยเยน ซึ่งเค้าจะเขียนบอกไว้แล้วตอนบุ๊คกับเว็บ japanican ค่ะ

โดยรวมแล้วเราประทับใจมาก ได้มาตามฝันการอยู่เรียวกังแบบการ์ตูนญี่ปุ่น! เดินทางสะดวก บริการดี อาหารอร่อยค่ะ recommend สำหรับคนที่จะมาเที่ยวฮาโกเน่เลยค่ะ


เคล็ดลับการถ่ายรูปฟูจิซังจากบนฟ้า



วันที่เราไปฮาโกเน่อากาศไม่ดีเลย (จะร้องไห้) แต่ตอนนั่งเครื่องบินขากลับได้เห็นฟูจิซังแบบเต็มๆๆ อากาศสดใสสุดๆๆ ดีใจมากกก (แทบร้องไห้เหมือนกัน) เลยจะมาบอกว่าทำยังไงถึงจะได้เห็นฟูจิมุมสวยๆแบบนี้บ้างค่ะ

1. ต้องโชคดีก่อน สวดมนต์ไหว้พระ ปักตะไคร้ ให้อากาศแจ่มใสก่อนค่ะ
2. ตอนเช็คอินให้เลือกที่นั่งริมหน้าต่าง ถ้าหันหน้าไปทางหัวเครื่องบินให้นั่งริมด้านขวามือค่ะ** เรานั่งกลางเครื่องแต่เป็นแถวแรกเลย (ที่ริมหน้าต่างจะมีแค่ 2 ที่นั่ง)
3. ตอนเครื่องขึ้นอย่านิ่งดูดายค่ะ ชมวิวนอกหน้าต่างให้ตลอด ซักพักจะเริ่มเห็นทะเลสาบ Hachi ที่เราไปนั่งล่องเรือโจรสลัดกันที่ฮาโกเน่ ณ จุดนั้นเราควักมือถือขึ้นมาเลยค่ะ! (จริงๆไม่แน่ใจว่ากล้อง/มือถือใช้ได้ไม๊เพราะเป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ แต่มือถือเรา airplane mode ก้เลยเอาขึ้นมาถ่าย) ซักพักจะเห็นฟูจิมาอวดโฉมเต็มๆเลยค่ะ เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากก เราแบบตื่นเต้นมาก คนที่นั่งตรงแถวกลางเค้าถามเลยว่ามีอะไรกันเหรอ พอบอกดูฟูจิเค้านี่แทบจะอยากลุกมาดูบ้าง แต่ยังมีวินัยเพราะสัญญาณรัดเข็มขัดยังไม่ดับค่ะ สงสารเหมือนกัน 5555

**หมายเหตุ ขากลับเราบินกลับจากสนามบินนาริตะ กลับเซี่ยงไฮ้ ค่ะ ถ้าจากสนามบินอื่น route อื่นไม่รู้นั่งตรงนี้จะเห็นรึป่าวนะคะ



ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ หากอยากดูรีวิวอื่นๆหรืออ่านรีวิวนี้ที่เป็นภาษาอังกฤษ เข้าไปดูได้ที่ blog 2 ภาษาของเราได้ที่นี่ค่ะ

https://www.facebook.com/Bridgetology

ถ้าขี้เกียจมาตามหารีวิวในนี้ ก็ติดตามได้ที่บล็อกเลยค่ะ แต่เราจะพยายามมาลงในนี้บ่อยๆด้วยค่ะ

มีอะไรสอบถามได้เลยนะคะ ขอบคุณมากค่า