(เราอยู่ญี่ปุ่นแล้วลืมบัตรประชาชนไว้ที่ไทยเลยยืนยันตัวไม่ได้ เลยตั้งเป็นกระทู้คำถามแทนอะค่ะ ถ้าผิดกฎลบได้เลยนะคะ)

สวัสดีค่ะ คือตอนนี้ จขกท อยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะ
ปกติเวลาซื้อเครื่องสำอางค์ใช้ก็จะซื้อตามร้านขายยาทั่วไปใช่มั้ยคะ
ทีนี้ รองพื้นหมด! ก็ต้องไปซื้อใหม่ใช่ม๊าา
แหม รองพื้นนี่มันเป็นพื้นฐานของการแต่งหน้าเชียวนะ ถ้าพลาดขึ้นมานี่ชีวิตดับเลย
แถมไอ้เราก็เป็นคนผิวคล้ำอีก สาวญี่ปุ่นเค้าก็ผิวขาวๆกันด้วย จะหาซื้อรองพื้นให้เข้ากับตัวเองที่นี่คงไม่ใช่เรื่องง่ายซะแล้ว
คิดไปคิดมา หลังจากศึกษาข้อมูลต่างๆนาๆก็เลยตกลงปลงใจว่าจะเอารองพื้น lunasol ค่ะ

ว่าแล้ว ฤกษ์งามยามดี วันเสาร์ที่ผ่านมาก็เข้าเมืองเข้าห้างไปลุยซะเลย
เดินพุ่งตรงปรี่ไปเคาน์เตอร์lunasol ไปยืนด้อมๆมองๆอยู่พักนึง พนักงานก็เดินเข้ามาทักทาย
"เอ่ออ อยากได้รองพื้นที่เป็นลิควิดอะค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นรุ่นไหน"
พนักงานก็อธิบายให้อย่างละเอียดละออดีมากค่ะ แล้วคุณพี่บีเอก็บอกว่า "พอจะมีเวลามั้ยคะ จะได้หารองพื้นที่เข้ากับผิวคุณลูกค้ากันค่ะ"
อิชั้นมองนาฬิกา ตอนนี้ 16.15 นัดเพื่อนไว้ 17.00 เห้ยย ชิวๆ เวลาเหลือเยอะแยะ เลยตอบตกลงไป

ว่าแล้วพนักงานก็เลยพาไปนั่งที่เก้าอี้ เอาที่วางกระเป๋ามาให้ เอาโค้ทไปแขวนให้ แล้วก็เอาผ้ากันเปื้อนที่คล้ายๆตอนตัดผมมาคลุมให้ แต่ว่าอันนี้ทำจากกระดาษนุ่มๆ แล้วพนักงานก็เก็บผมด้านหน้าให้

"ขออนุญาตเช็ดเครื่องสำอางออกนะคะ เพื่อจะได้ตรวจสภาพผิวได้ค่ะ" เมื่อสิ้นคำพูด พนักงานนก็บรรจงใช้สำลีที่ชุ่มไปด้วยครีมเช็ดเครื่องสำอาง เช็ดออกให้ เช็ดแบบเบามือมากมากกกกกกก รู้สึกดีมากกอะ พี่บีเอก็เช็ดไปบรรยายสรรพคุณสินค้าไป เช็ดตัวครีมนี้เสร็จก็เอาอะไรอีกไม่รู้ที่คล้ายๆโทนเนอร์มาเช็ดให้ ทุกขั้นตอนค่อยๆทำและบรรจงมากๆ

"จะขอตรวจสภาพผิวนะคะ" แล้วพี่บีเอก็เอาเครื่องมาตรวจสภาพผิวให้เรา แล้วก็อธิบายสภาพผิวอย่างละเอียด
"ผิวคุณลูกค้า เป็นอย่างนี้ๆๆๆๆๆๆๆ(ย่อมานะ)นะคะ เพราะฉะนั้นรองพื้นที่เหมาะกับผิวคุณลูกค้าคิดว่าเป็นตัวนี้ค่ะ"
โอเค เราเลือกรองพื้นกันได้แล้ว ต่อไปก็ "จะขอตรวจสภาพสีผิวนะคะ" แล้วพี่บีเอก็ใช้เครื่องอีกเครื่องมาบรรจงตรวจสภาพสีผิวเรา
"ผิวคุณลูกค้า เหมาะกับรองพื้นสี oc03 กับ oc04ค่ะ" แล้วเราก็คุยตกลงกันว่าเอาสีอะไรดี คุยไปคุยมาก็ยังลังเล
"งั้นเดี๋ยวจะลองให้ทั้งสองสีดูก่อนนะคะ ข้างละสีค่ะ" แล้วพี่บีเอก็เอารองพื้นสี oc03มาลองให้ที่แก้มข้างซ้าย oc04มาลองให้ที่แก้มข้างขวา
เรามองหน้าเรา เอ่อ ตรูแยกไม่ออก หนูไม่รู้ หนูลังเลลลลลลลลล
พี่บีเอก็ค่อยๆแนะนำ บอกว่า "04จะดูเข้ากับผิวคุณลูกค้ามากกว่านะคะ 03จะสว่างกว่าผิวไปหน่อย อาจทำให้หน้าลอยแล้วดูหน้าแก่ได้นะคะ พี่ว่า" "แต่ถ้าอยากให้หน้าสว่างขึ้นอีกหน่อย ก่อนลงรองพื้นก็ใช้เบสปรับสีผิวก็ได้ค่ะ"
อาาา ได้ฟังพี่บีเอแนะนำ ก็เชื่อเค้า ก็เลยเอาสี04แล้วกัน

พอตกลงปลงใจสีที่ใช่แล้ว พี่บีเอบอกว่า "งั้นขออนุญาตลบเครื่องสำอางค์ออกนะคะ"
อ๋ออออ ขุ่นพี่คงลบข้างที่สี03ให้สีนะ   ที่ไหนได้ ปล่าวค๊าาาา พี่แกลบทั้งหน้า
กลับไปนับหนึ่งใหม่ ค่อยๆลบละเอียดทุกสเต็ปเหมือนทีแรก โอ้วววว
ก้มมองเวลา 16.45 ทันมั้ยฟระ

"ขออนุญาตลงบำรุงผิวนะคะ"  ว้ากก ลงเลยค่าา ไม่ต้องขออนุญาตแล้วค่าาา
พวกเทอวคงคิดว่า เค้าจะลงครีมอะไรให้แบบปกติสินะ ไม่ย่ะ บริการทุกระดับประทับใจแบบนี้
"เนื่องจากเมื่อกี้ที่ตรวจสภาพผิวไป ผิวคุณลูกค้าค่อนข้างเย็นนะคะ อากาศหนาวๆแบบนี้ถ้าได้มาร์คอุ่นๆจะดีมากเลย ลองดูนะคะ"
แล้วก็บรรจงมาร์คอุ่น นวดหน้าให้ดิชั้นค่ะ โอ้ววว มันเพลินจริงๆนะคุณขา
มารค์หน้าเสร็จคุณพี่ก็เช็ดออกให้ ย้อนกลับไปเหมือนสเต็ปลบเครื่องสำอางทีแรกค่ะ 555
แล้วคุณพี่ก็ลงบำรุงผิวให้ ลงอะไรให้มั่งไม่รู้ รู้แต่เยอะมาก หลายสเต็ปมาก แต่ก็เพลินมากก ขุ่นพี่มือเบามากอะ รู้สึกเหมือนเค้าลงบำรุงไปนวดหน้าเราไป ระหว่างลงผลิตภัณท์ให้ก็อธิบายสินค้าแต่ละชนิดให้ด้วย คือ อธิบายดีแต่ไม่รู้สึกว่าเค้ายัดเยียดจะขายนะ บอกไม่ถูก

ผ่านไปสามปีแสง ลงบำรุงเสร็จละ เย้ๆ ได้เวลาแต่งหน้าซะที
ว่าแล้วขุ่นพี่ก็ลงเบสให้ เพราะอธิบายว่าเบสสีไหนเหมาะกับผิวเราที่สุด ตามด้วยรองพื้น คอนซีลเลอร์ แป้งฝุ่น ปัดแก้ม ทาดา มาสคาร่า คิ้ว ปาก โอเค ครบละ ทุกขั้นตอนแต่งไปอธิบายสินค้าไปบ้างบางตัวค่ะ แบบ ใส่ใจมากก มีบอกว่า วันนี้จะแต่งหน้าโทนส้มให้เพราะเราใส่เสื้อสีเหลือง
โชคดีไปที่ญี่ปุ่นเค้าแต่งหน้าสไตล์ใสๆ ไม่งั้นอิชั้นได้ค้างที่เคาน์เตอร์แน่ค่ะ (เวอร์)

ก้มมองนาฬิกา ตายละ 17.15 แล้วแกกกก นัดเพื่อนคนญี่ปุ่นไว้ด้วย ชั้นโดนด่าแน่
รีบไลน์ไปบอกเพื่อนก่อน ว่าเลทนะ

กลับมาที่รองพื้น อีนี่อยากรีบตัดบทมาก
เอ่อ สวยมากค่ะ(คนอะไรชมตัวเอง)  ขอบคุณค่ะ งั้นเอาตัวนี้เลยค่ะ
คุณพี่หายไปกลับมาพร้อมสินค้าแล้วอะไรซักอย่างเต็มมือ เทสเตอร์นั่นเอง เอง เองงง
มีเทสเตอร์ เบส คอนซีลเลอร์ แล้วก็ บำรุงผิวอีกสองสามตัวแน่ะ เนื่องจากขุ่นพี่ใจดี คงกลัวเราอ่านคันจิไม่ออก เลยอธิบายวิธีการใช้เทสเตอร์แต่ละตัวให้ซะละเอียดเชียว

ว่าแล้วก็ จะซื้อแล้วค่า จะได้จ่ายตังค์ซะที ก็ตกลงปลงใจซื้อ จ่ายตังค์
คุณพี่หายไปพักนึง กลับมาพร้อมเอกสารอะไรไม่รู้เยอะแยะ เป็นบัตรสมาชิกของlunasol กับ ของห้างค่ะ เพราะทีแรกตอนเค้าถามเราบอกว่าเราไม่มี
คุณพี่บอกว่า สมัครฟรีนะคะ สามารถใช้สิทธิบลาๆๆๆๆๆๆได้ โอ้ย เย้ว ก็ขอบคุณค่ะ สรุปคือยังไปไม่ได้สินะ
นั่งกรอกเอกสารใบสมัครสมาชิกทั้งสอง รอรับบัตรมา เย้ ได้บัตรสมาชิกมาแล้วว ไปได้แล้วสินะ
ยังค่ะ คุณคิดผิด เนื่องจากห้างใจดี สมัครสมาชิกใหม่ก็มีของกำนัลให้
เราต้องเอาเอกสารขึ้นไปชั้น7เพื่อไปรับของกำนัล ( ซึ่งตอนนี้อยู่ชั้นหนึ่ง)
อีกใจก็แบบ เห้ยยย เอาไงดีวะ เพื่อนก็รอ แต่อีกใจก็งก
ความงกครอบงำ รู้ตัวอีกทีอยู่ชั้น7ละ  555
แลกของขวัญอะไรเสร็จสรรพ ไปเจอเพื่อน ตอน 17.40 ทีแรกเพื่อนจะวีน แต่พอเล่าให้ฟัง ขำกันใหญ่
ตอนแรกทีเจอหน้าเพื่อนทักด้วย ว่าหน้าวิ้งดูเป็นสาวญี่ปุ่นมั่กๆ อิอิ ไม่เสียแรงที่ใช้เวลานาน

สรุป เซอร์วิสญี่ปุ่นนี่เค้าดีจริงๆนะเออ สมกับเป็นญี่ปุ่นจริงๆ
ถามว่าชอบมั้ยแบบนี้ ถ้าไม่มีนัดก็คงนั่งไปเรื่อยๆ เพลินๆดี แต่ถ้าเป็นกรณีที่เรายังไม่แน่ใจว่าจะซื้อรึเปล่า คงแอบเกรงใจอ่าาา
ไม่รู้เค้าบริการดีแบบนี้ทุกที่มั้ยเนอะ แต่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกก็เลยเอามาแชร์ค่ะ
________________________________
เพิ่มเติม อันนี้เอามาแชร์แต่ไม่ได้ว่าของไทยไม่ดีน๊าา ของไทยด็มีทั้งที่ที่บริการดีและไม่ดีเนาะ
อย่าเอามาเปรียบเทียบแล้วว่าของไทยเลยดีกว่า ดูเป็นร้านๆไปดีกว่าค่ะ