ตอนนี้ใครๆก็ฮิตไปญี่ปุ่น เราเองไปมาแล้วสามรอบ โตเกียวกับเซนไดตั้งแต่สมัยญี่ปุ่นยังต้องทำวีซ่า ฮอกไกโดก็ไปเองรอบนึงช่วงหน้าร้อน หน้าหนาวคราวนี้เลยอยากไปเที่ยวฮอกไกโดอีกครั้ง เพราะค้นข้อมูลมาว่ามีไฮไลท์หลายอย่างโดยเฉพาะการล่องเรือตัดน้ำแข็งที่เมืองอาบาชิริ เทศกาลหิมะที่เมืองซัปโปโร ที่สำคัญเค้าว่าหน้าหนาวเนี่ยะปูอร่อยด้วยนะ คุยกันกับเพื่อน ตกลงว่าจะซื้อทัวร์ไปเพราะสัมภาระสำหรับกันหนาวเยอะกลัวลำบากตอนหอบขึ้นรถลงเรือ จากนั้นเราก็เสิร์ชหาทัวร์ที่ดูน่าเชื่อถือเพราะข่าวไม่ดีเยอะเหลือเกิน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(อันนี้เห็นเอารูปหุ้นส่วนมาโปรโมท เลยเอาวะเห็นหน้าออกทีวีบ่อยๆ) ดูแล้วโปรแกรมน่าสนใจและตรงกับวันลาของเราและเพื่อนได้เรียบร้อย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ได้ทัวร์ชื่อ the world r us จ่ายเงินแบบตุ๊มๆต่อมๆ กลัวโดนหลอกเพราะไม่เคยได้ยินชื่อและราคาโดดกว่าราคาตลาดพอควร แล้วก็มานั่งลุ้นว่าจะได้ไปหรือเปล่า สรุปเอาเป็นว่าได้ไปค่ะ แถมประทับใจมากกว่าหน้าร้อนจนต้องเอามาอวด งั้นตามมาเที่ยวแบบหนาววววสุดขั้วกับเรากันเลยจ้า (รูปชัดมั่งไม่ชัดมั่งเพราะใช้กล้องสลับกับมือถือค่ะ)

วันแรกออกจากสนามบินชิโตเสะ ตอนวิ่งไปขึ้นรถบัสเราก็ได้สัมผัสความหนาวยะเยือก ที่ต้องบอกว่าวิ่งเพราะมันหนาวมาก เราดันขี้เกียจใส่เสื้อหนาวเดี๋ยวบนรถก็ต้องถอดอีก เพราะไกด์บอกมีฮีทเตอร์ แล้วก็นั่งรถตียาวร่วม 4 ชม. เพื่อไปเที่ยวหมู่บ้านอะคังไอนุ ระหว่างเดินทางหิมะก็ตกโปรยปรายอยู่ตลอดเวลา ข้างทางเป็นวิวป่าสนสวยราวกับเมืองในนิทาน ซึ่งตอนนั้นเราคาดไม่ถูกว่าข้างนอกจะหนาวแค่ไหน รู้แต่คงหนาวนั่นแหละ



และแล้วก็มาถึงจุดหมายปลายทางเมืองอาโชโร ตามโปรแกรมเราทานอาหารกลางวันกันก่อน เป็นข้าวหน้าหมูย่างของขึ้นชื่อของเมืองนี้ หมูชิ้นโตสะใจ ผักดองและซุปใส่เส้นก็อร่อยมากค่ะ มีชีสให้ชิมด้วย อร่อยอีกนั่นแหละ


อิ่มแล้วก็นั่งรถต่อไปอีกเกือบชั่วโมงเพื่อมาเที่ยวหมู่บ้านไอนุซึ่งเป็นชนพื้นเมืองดั้งเดิมของฮอกไกโด ไกด์บอกให้แต่งตัวให้พร้อมบนรถเลยเพราะหนาวมาก พอลงรถไป คราวนี้แหละทั้งลมทั้งหิมะมาแบบจัดเต็ม วันแรกยังปรับตัวไม่ได้ หนาวถึงกระดูกเลย ลมแรงพัดหน้าชาไปหมด หิมะก็ปลิวเข้าตาเข้าปาก หมู่บ้านอะคังไอนุที่ว่าส่วนใหญ่เปิดเป็นร้านขายของที่ระลึกพวกไม้แกะสลัก งานหัตถกรรม  อันนี้เป็นหน้าตาหมู่บ้าน หิมะหนาท่วมมากค่ะ



เรามาเจอคนดังของที่นี่ด้วย ที่ว่าดังเพราะแกได้ออกรายการโทรทัศน์มากมายทั้งของไทยและญี่ปุ่น (อันนี้ไกด์บอก แต่แกก็มีรูปที่เคยลงนิตยสารติดข้างฝาโชว์นะ) อุดหนุนแกหน่อย สินค้าน่ารักดีค่ะ มีสลักชื่อให้ด้วย

วันนี้เราพักที่โรงแรมริมทะเลสาบอะคัง ซึ่งตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็งไปแล้ว ไกด์บอกปกติจะมีเรือล่องชมสาหร่ายโมริโมะหรือสาหร่ายก้อนกลมๆสีเขียวๆ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นลานขับสโนว์โมบิลซึ่งเราไม่พลาดที่จะลอง หัวละ 1500 เยน ไม่รวมในค่าทัวร์ ขี่ฝ่าลมหนาว สนุกมากค่ะ ลมแรงสุดๆ น้ำมูกน้ำตาไหลพรากเลย



นอกจากนี้ยังมีตกปลาน้ำแข็ง แต่กรุ๊ปเราทำบาปไม่ขึ้น ไม่มีใครยอมลอง อันนี้เต้นท์ที่ใช้ตกปลา

อาหารค่ำคืนนี้ กินในโรงแรมเป็นอาหารชุดที่เรียกว่าไคเซกิ ดูถ้วยเล็กถ้วยน้อยเหมือนจะไม่อิ่ม แต่เอาเข้าจริงอิ่มค่ะ ไม่อยากบอกว่าอร่อยอีกตามเคย

ที่พลาดไม่ได้อีกอย่างเวลามาญี่ปุ่น นั่นก็คือต้องลองแช่ออนเซน นี่ค่ะ ออนเซนส่วนตัวในห้อง (อันนี้ขอจ่ายเพิ่มอัพเกรดห้อง) ดูแค่รอบๆบ่อละกัน นางแบบใจไม่กล้าพอจะโชว์


และนี่คือโรงแรมที่พักคืนแรก ห้องกว้างดี เป็นที่นอนแบบญี่ปุ่น เดินออกไปช้อปปิ้งแบบหนาวทรมานได้

วิวมองจากหน้าต่างห้องพักค่ะ สวยยะเยือกนะคะ