ถ้าย้อนไปปีแรกสุดตอนบุรีรัมย์เป็นน้องใหม่บอลถ้วยเอเชีย บรรดาสโมสรชั้นนำที่ร่วมสายคิดว่า  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด. ทีมจากแดนอีสานใต้ของเมืองไทย เป็นน้องใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นขนมคบเขี้ยวเล่นเพื่อเก็บแต้มเป็นแน่แท้ แต่เมื่อถึงเวลาสู้ศึกจริง ทีมที่มาเจอบุรีรัมย์ถึงกับผงะเงิบกันไปตามๆ กัน ซึ่งปีนั้นคาชิว่าเรโชออกจากรังเหย้าของบุรีรัมย์ถึงกับเป๋พ่ายออกไปสุดมันส์ 3-2 และสุดช็อคยำคาบ้านทีมยักษ์ใหญ่แดนมังกร กว่างโจวเอเวอร์แกรนด์ ตะลึงแฟนบอลเจ้าบ้านทั้งสนาม ซึ่งเวลาต่อมากว่างโจวก็คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกของเอเชียได้สำเร็จ และอีกหลายๆ ทีมในเอเชียที่เจอบุรีรัมย์ไม่ใช่งานง่ายเลย รูปเกมบุรรีรัมย์แทบจะไม่เสียเปรียบสู้ได้เกือบทุกทีม
โปรไฟล์แชมป์เหนือแชมป์กวาดทุกถ้วยในการแข่งขันฟุตบอลในประเทศก็เป็นที่การันตีผลงานแล้วว่าสโมสรจากไทยสโมสรนี้ไม่ได้ฟลุ๊คแต่มาจากฝีมือการบริหารแบบขงเบ้งล้วนๆ ประธานบุรีรัมย์ที่มีวิสัยทัศน์มองไกลคิดใหญ่วางแผนเป็นสเตป
บรีรัมย์ถือว่าเป็นทีมฉลาดลงทุน เมื่อเทียบกับสโมสรชั้นนำในเอเชียด้วยกันแล้ว บุรีรัมย์ถือว่าเป็นทีมที่ใช้เม็ดเงินลงทุนน้อยกว่าทีมอื่นๆในเอเชียอยู่มากในการซื้อนักเตะมาใช้และขายทำกำไรเมื่อนักเตะสร้างมูลค่าราคาดันขึ้นเพดานและสโมสรจากต่างประเทศสนใจก็ไม่ปล่อยโอกาสที่จะปล่อยตัวนักเตะได้ราคาดีๆ ออกไป และหาซื้อนักเตะอายุน้อยคมในฝักราคาถูกมาบ่มเพาะใหม่
ต้องเข้าใจว่าบุรีรัมย์ลงทุนหลักสิบล้านร้อยล้านในแต่ละปี ซึ่งต่างจากสโมสรชั้นนำในเอเชียที่ลงทุนมหาศาลเป็นหลักหลายพันล้านเลยทีเดียว
นี่คือความต่างของบุรีรัมย์ที่มีศักยภาพบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิผล

"กูบ้า แต่กูไม่ได้โง่" คำกล่าวของท่านประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ไม่ใช่เพียงคำพูดเอามันส์แต่มีนัยยะที่ล้ำลึกอยู่ในตัวมันอยู่แล้วว่า บุรีรัมย์ยูไนเต็ด ทำทีมฟุตบอลแบบมีเป้าหมายและมีกลยุทธ์รอบด้านเสมอ


ณ จุดๆ นี้ สโมสรเอเชียอื่นๆ ที่ร่วมสายกับบุรีรัมย์จะประมาทไม่ได้ เพราะในวงการฟุตบอลเอเชียไม่มีทีมไหนในสโมสรเอเชียไม่รู้จักทีมจากแดนอิสานใต้แห่งเมืองไทยนี้ได้เลย