เรื่องนี้เป็นเรื่องของลูกพี่ลูกน้องครับ เป็นสาวโสด อาชีพเป็นข้าราชการขอแทนว่าพี่ A นะครับ ทำงานมา10กว่าปีแล้ว ซีไม่ได้สูงมาก ปกติจะเป็นคนใช้เงินชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว อาจเนื่องจากเงินเดือน และการใช้จ่าย จึงทำให้ต้องหยิบยืมเพื่อนฝูง (เพื่อนเลิกคบเพราะเรื่องเงินครับ) และหยิบยืมพี่น้องและครอบครัวบ่อยๆครับ ครอบครัวฐานะปานกลาง คือยังไม่มีใครเป็นหลักได้ซักคน พ่อแม่เค้าแก่แล้วด้วยนะครับ
แล้วก็มีญาติ มาชวนทำบัตรเครดิต เพราะเค้าทำงานเกี่ยวกับหาคนสมัครบัตรเครดิตแล้วได้ค่าคอมฯ แบบที่โทรๆหาคนสมัครตามโทรศัพท์นั่นล่ะครับ
แล้วแฟนเค้าเพิ่งมาทำงาน อยากได้ค่าคอมมากๆ เลยมาชวนพี่Aทำ ทั้งที่ทราบว่าพี่Aมักมีปัญหาทางการเงิน เข้าใจว่าเค้าอาจอยากช่วยพี่A
แต่เค้าสมัครบัตรให้พี่Aทั้งหมด 7 ใบครับ ในรวดเดียว เป็นบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดของธนาคารต่างๆ แต่ผมไม่ทราบว่าของสถาบันไหนบ้าง เพราะเค้าหยิบออกมาให้ดูแล้วถามว่า บัตรอะไรบ้างไม่รู้ เยอะแยะไปหมดเลย ใช้ไงบ้างก็ไม่รู้ ผมเองก็ไม่ได้สนใจเพราะเค้าถามแบบไม่ได้ต้องการคำตอบ ผมเลยเตือนไปว่า ให้ใช้อย่างระมัดระวังและมีสตินะ
หลังจากนั้น การใช้เงินก็พี่Aก็เปลี่ยนไปครับ พี่Aจะใช้บัตรตลอด ไม่ว่าจะซื้อของ กินอาหาร หรือกิจกรรมต่างๆ พี่Aจะใช้บัตรจ่าย หรือถามก่อนเลยว่าจ่ายบัตรได้ไหม
มีครั้งนึงผมขับรถไปส่งที่ทำงาน พี่Aไม่มีรถนะครับ แต่พี่Aมีน้ำใจจะจ่ายค่าน้ำมันให้ โดยยื่นบัตรใบนึงมาให้ผม
ผมนี่รีบปฏิเสธเลยครับ ไม่อยากยุ่งจริงๆ เพราะเห็นลางหายนะมาลิบๆ
พี่A ก็ใช้บัตรเครดิต และ บัตรกดเงินสด จนเริ่มต้องจ่ายขั้นต่ำ ผมได้ยินเค้าถามกับคนที่ทำบัตรให้ครับ และตอนเจอกัน ผมรู้สึกว่า พี่Aเริ่มเครียด พี่Aนั่งโยกตัวครับ คือพี่Aเคยเป็น ไทรอยด์เป็นพิษ และเคยมีอาการผิดปกติด้านอารมณ์นิดหน่อย ต้องทานยา เพราะเกิดจากความเครียด และหายไปแล้ว คือจะเป็นบ้างเวลาเครียด แต่ตอนนี้ผมกับคุณแม่เค้า รู้สึกเลยว่าเค้ากลับมาเครียดครับ
คนที่ทำบัตรเลยคุยกับพี่Aอ้อมๆ ก็ทราบว่าเรื่องหนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่เค้ากังวลด้วย พี่Aไปเข้าคอสทำหน้ารักษาฝ้า ก็โดนไปเยอะครับ ก็ไม่หายไม่ได้ยามา ก็กังวลว่าโดนหลอก เสียเงินฟรี แต่ตอนทำเค้าไม่ได้ปรึกษาใครครับ ตอนนี้ชัดเลยว่าพี่Aมีปัญหา ภาระหนี้สินล้นพ้นตัว ใช้ระยะเวลาเพียง 3-4เดือนเท่านั้น
ตอนนี้ที่บ้านเค้ากังวลว่าเค้าจะเครียดจนคิดสั้นหรือไม่ เพราะปกติเป็นคนที่มีปัญหาจะไม่ยอมปรึกษาที่บ้านเลยครับ
และผมได้โทรไป ถาม คนที่ทำบัตรให้พี่A เพราะผมคิดว่าเค้าคิดแต่ว่าอยากได้ค่าคอมฯ โดยไม่นึกถึงผลที่จะตามมา
เค้าบอกว่าพี่Aเต็มใจทำเอง และพี่Aก็บริหารเงินและมีปัญหาเอง
ผมเลยบอกว่า ควรจะคิดว่า คุณเองยังไม่ใช้บัตรถึง 7-8 ใบเลย แต่ทำไมสมัครให้เค้าขนาดนั้น ทั้งที่คุณก็รู้ว่าเค้ามีปัญหาด้านการบริหารเงิน และเค้าเองยังไม่รู้วิธีใช้บัตรเลย บัตรไหนเป็นอย่างไร ดอกเบี้ยยังไง
ผมไม่รู้ว่า ถ้าติดแบล็คลิสบูโร จะมีผลต่องานพี่Aรึป่าวครับ เพราะพี่Aพูด เกริ่นๆว่า จะโดนออกในอีก3เดือน ไม่ก็โดนย้าย
พี่Aมีบุญคุณกับผมครับ ถ้าเค้าตกที่นั่งลำบาก ผมคงต้องทดแทนบุญคุณครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย
ปล. ฝากเตือนใจคนที่คิดจุใช้บัตรเครดิตต่างๆนะครับ ผมเองก็ใช้บัตร แต่ไม่เคยมีปัญหา ถ้าเราใช้มันอย่างถูกวิธี มันก็ช่วยเราได้เยอะครับ แต่ถ้าใช้อย่างขาดสติ อย่างไม่รู้ จะมีปัญหาตามมาแน่นอน
ปัญหาชีวิต หนี้บัตรเครดิตคิดฆ่าตัวตาย
แล้วก็มีญาติ มาชวนทำบัตรเครดิต เพราะเค้าทำงานเกี่ยวกับหาคนสมัครบัตรเครดิตแล้วได้ค่าคอมฯ แบบที่โทรๆหาคนสมัครตามโทรศัพท์นั่นล่ะครับ
แล้วแฟนเค้าเพิ่งมาทำงาน อยากได้ค่าคอมมากๆ เลยมาชวนพี่Aทำ ทั้งที่ทราบว่าพี่Aมักมีปัญหาทางการเงิน เข้าใจว่าเค้าอาจอยากช่วยพี่A
แต่เค้าสมัครบัตรให้พี่Aทั้งหมด 7 ใบครับ ในรวดเดียว เป็นบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดของธนาคารต่างๆ แต่ผมไม่ทราบว่าของสถาบันไหนบ้าง เพราะเค้าหยิบออกมาให้ดูแล้วถามว่า บัตรอะไรบ้างไม่รู้ เยอะแยะไปหมดเลย ใช้ไงบ้างก็ไม่รู้ ผมเองก็ไม่ได้สนใจเพราะเค้าถามแบบไม่ได้ต้องการคำตอบ ผมเลยเตือนไปว่า ให้ใช้อย่างระมัดระวังและมีสตินะ
หลังจากนั้น การใช้เงินก็พี่Aก็เปลี่ยนไปครับ พี่Aจะใช้บัตรตลอด ไม่ว่าจะซื้อของ กินอาหาร หรือกิจกรรมต่างๆ พี่Aจะใช้บัตรจ่าย หรือถามก่อนเลยว่าจ่ายบัตรได้ไหม
มีครั้งนึงผมขับรถไปส่งที่ทำงาน พี่Aไม่มีรถนะครับ แต่พี่Aมีน้ำใจจะจ่ายค่าน้ำมันให้ โดยยื่นบัตรใบนึงมาให้ผม
ผมนี่รีบปฏิเสธเลยครับ ไม่อยากยุ่งจริงๆ เพราะเห็นลางหายนะมาลิบๆ
พี่A ก็ใช้บัตรเครดิต และ บัตรกดเงินสด จนเริ่มต้องจ่ายขั้นต่ำ ผมได้ยินเค้าถามกับคนที่ทำบัตรให้ครับ และตอนเจอกัน ผมรู้สึกว่า พี่Aเริ่มเครียด พี่Aนั่งโยกตัวครับ คือพี่Aเคยเป็น ไทรอยด์เป็นพิษ และเคยมีอาการผิดปกติด้านอารมณ์นิดหน่อย ต้องทานยา เพราะเกิดจากความเครียด และหายไปแล้ว คือจะเป็นบ้างเวลาเครียด แต่ตอนนี้ผมกับคุณแม่เค้า รู้สึกเลยว่าเค้ากลับมาเครียดครับ
คนที่ทำบัตรเลยคุยกับพี่Aอ้อมๆ ก็ทราบว่าเรื่องหนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่เค้ากังวลด้วย พี่Aไปเข้าคอสทำหน้ารักษาฝ้า ก็โดนไปเยอะครับ ก็ไม่หายไม่ได้ยามา ก็กังวลว่าโดนหลอก เสียเงินฟรี แต่ตอนทำเค้าไม่ได้ปรึกษาใครครับ ตอนนี้ชัดเลยว่าพี่Aมีปัญหา ภาระหนี้สินล้นพ้นตัว ใช้ระยะเวลาเพียง 3-4เดือนเท่านั้น
ตอนนี้ที่บ้านเค้ากังวลว่าเค้าจะเครียดจนคิดสั้นหรือไม่ เพราะปกติเป็นคนที่มีปัญหาจะไม่ยอมปรึกษาที่บ้านเลยครับ
และผมได้โทรไป ถาม คนที่ทำบัตรให้พี่A เพราะผมคิดว่าเค้าคิดแต่ว่าอยากได้ค่าคอมฯ โดยไม่นึกถึงผลที่จะตามมา
เค้าบอกว่าพี่Aเต็มใจทำเอง และพี่Aก็บริหารเงินและมีปัญหาเอง
ผมเลยบอกว่า ควรจะคิดว่า คุณเองยังไม่ใช้บัตรถึง 7-8 ใบเลย แต่ทำไมสมัครให้เค้าขนาดนั้น ทั้งที่คุณก็รู้ว่าเค้ามีปัญหาด้านการบริหารเงิน และเค้าเองยังไม่รู้วิธีใช้บัตรเลย บัตรไหนเป็นอย่างไร ดอกเบี้ยยังไง
ผมไม่รู้ว่า ถ้าติดแบล็คลิสบูโร จะมีผลต่องานพี่Aรึป่าวครับ เพราะพี่Aพูด เกริ่นๆว่า จะโดนออกในอีก3เดือน ไม่ก็โดนย้าย
พี่Aมีบุญคุณกับผมครับ ถ้าเค้าตกที่นั่งลำบาก ผมคงต้องทดแทนบุญคุณครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย
ปล. ฝากเตือนใจคนที่คิดจุใช้บัตรเครดิตต่างๆนะครับ ผมเองก็ใช้บัตร แต่ไม่เคยมีปัญหา ถ้าเราใช้มันอย่างถูกวิธี มันก็ช่วยเราได้เยอะครับ แต่ถ้าใช้อย่างขาดสติ อย่างไม่รู้ จะมีปัญหาตามมาแน่นอน