วาเลนไทน์ห้ามว่าง หนีไปที่ที่ไม่ค่อยมีสัญญาน จะได้ไม่ต้องรับรู้ความหวานของคนอื่น เลยเลือกมาที่เกาะพยาม
ป่าว นี่ไม่ใช่เหตุผลหลัก เหตุผลจริงๆ คือ ขับมอไซไม่เป็น ในเมื่อเพื่อนขับเป็น เพื่อนชวนมา เราต้องใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ 5555
เริ่มที่ขึ้นรถทัวร์ที่สายใต้ ของ นิวมิตรทัวร์ นั่งเรื่อยๆเมื่อยก็ลุก ราคา 500 บาท จองในเน็ต รอบสามทุ่ม นั่งไปเรื่อยๆถึงตอนตี5 ลงที่จุดจอดของบริษัทรถทัวร์เลย มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำด้วย สะอาดใช้ได้ ถึงปุ๊ป เคว้ง อ้าวรถสองแถวอยู่ไหน มีแต่พี่วินมาชวนไป 50 น้องถึงท่าเรือเลย
ใจแข็งเดินออกมา ไปกดตังที่ธนาคารไทยพาณิชย์ก่อน แล้วเดินไปเรื่อยๆไปเจอร้านขายข้าวแกง เลยแวะถามคุณลุงเจ้าของร้าน คุณลุงใจดี บอกเดี๋ยวโบกรถให้ แต่รถมาตอนหกโมงครึ่งนะ เอิ่ม เดินย้อนไปท่ารถล้างหน้าแปรงฟัน แล้วกลับมาร้านคุณลุง กินข้าวก่อน กินเสร็จรถมาพอดี ส่งถึงท่าเรือสปีดโบ้ทเลย 20 บาท
ราคาค่าเรือไป 350 แต่ถ้าจองแบบไปกลับ เหลือรอบล่ะ 300 มีเรือไปรอบ7 โมงด้วย เลยรีบจ่ายตัง กระโดดขึ้นเรือเลยจ้า 45 นาทีถึง
ถึงเกาะพยามปุ๊ป หาเช่ามอไซก่อนเลย ได้ราคา 200 แนะนำให้เอาแบบมีเกียร์ดีกว่าออโต้ บางช่วงทางชันสูงอยู่ เราเกือบล้มแหนะ
ที่แรกที่ไปเลยคือ วัดเกาะพยาม มีโบสถ์ขาวกลางน้ำ มองจากท่าเรือก็เห็น ทำบุญเรียบร้อยก็ ไปที่พักสิ
ที่พัก คือ Phayam Sport Bungalow เบอโทร จคุ--/-ภภ- อ้าวเบอไร อยากรู้หลังไมค์มาล่ะกันเดี๋ยวหาว่าโฆษณา ที่พักอยู่ที่อ่าวใหญ่ ขับจากท่าเรือตรงไปก่อน ไปเจอแยกแรก ให้เลี้ยวขวา ขับตรงไปเลย ไกลอยู่จนกว่าจะเจอป้ายอ่าวใหญ่ ก็เลี้ยวซ้าย ขับตรงๆๆๆๆๆ จนเลยซอยที่จะไปอ่าวเขาควาย ตรงไปเรื่อยๆ เจอ 4 แยก ถ้าขับตรงไปจะไปอ่าวใหญ่ จะเจอทะเล แต่เราต้องเลี้ยวซ้าย ขับไปเรื่อยๆแปปเดียว(แต่ที่ผ่านมานี่นานมาก)ก็จะเจอที่พัก อยู่ซ้ายมือ ที่พักคืนละ 500 น้ำไหลดี ไฟมีตอนหกโมงเย็นถึงตีสอง สัญญานโทรศัพท์ไม่ค่อยมีถึงไม่มีเลย ห้องพักใหญ่กว่าเตียงเล็กน้อย หน้าบ้านมีเปล ที่นั่ง เชือกขึงตากผ้า สรุปเลย คือ ชอบ ออ ถ้าไปเอาปลั๊กพ่วงไปด้วยนะ
เอาของไปกอง ทากันแดดแล้วก็ขับมอไซไปอ่าวเขาควาย หาดหอยเยอะ เจ็บเท้า ไปถึงก็เอารถไปจอดไว้แล้วเดินตัดพวกที่พักตรงไปหาดเลย เราขับไปถนนเกือบสุดทาง งง ไม่มีทางไปต่อแถมไม่เจอทะเล เลยไปถามนักท่องเที่ยวแถวนั้น ได้ความว่าให้เดินทะลุที่พักไปเลย พอเดินจากจุดที่จอดรถตัดออกไปจะเป็นโซนที่มีหอยสีชมพู หาดเลยดูเป็นสีชมพู ด้านซ้ายมีป่าโกงกางด้วย เดินเมื่อยก็ถึงเวลาที่นัดกับเพื่อน
ขับรถมุ่งหน้าสู่ท่าเรือ เรือที่มาจากระนองมีหลายเจ้า แต่ล่ะเจ้าก็ออกเรือต่างเวลากัน ถ้ามาช่วงไหนก็ลองไล่หาดู เพื่อนมาถึงก็มากินข้าวเที่ยงก่อน ไปกินที่ร้านชาวเกาะซีฟู้ด ร้านนี้ประทักใจมาก ของสด ราคาไม่แพง แนะนำๆ หลังจากนั้นก็ พากันเช่ามอไซ เข้าที่พัก แล้วไปเที่ยวที่อ่าวใหญ่ต่อ
อ่าวใหญ่หาดเป็นทรายสีดำแต่ละเอียดนุ่มเท้ามาก เป็นจุดมาชมพระอาทิตตก แต่ไม่ได้ชมหรอก ต้องไปซื้อของ คืนนี้จะทำอาหารกินกันเอง
เช้าวันต่อมา 14 Feb 15 ตื่นตีห้า มุ่งหน้าสู่อ่าวแม่หม้าย ก็ท่าเรืออ่ะแหละ กว่าจะถึงก็ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงจากที่พัก พกเสื้อแขนยาวมาด้วยก็ดีลมแรงนิดหน่อย พระอาทิตย์ขึ้นสวยมากเลย เจอนกเหยี่ยว ปลาสิงโต ปลานี่เจอตรงใต้สะพาน ตื่นเต้นๆ 55555 ถ่ายรูปจนหิวแล้วก็กลับที่พัก วันนี้เราจะไปดำน้ำรอบเกาะพยามกับพี่หนึ่ง ราคาเหมา 2500 มีอุปกรณ์ให้แต่ใช้ไม่ค่อยดี พอถูไถ ไม่ได้แบบทัวร์ใหญ่ๆนี่เนอะ ปะการังนี่ก็เห็นอยู่ สวย ชอบ อาจไม่สวยเท่าที่อื่น แต่ได้ไปแบบไพรเวท พี่หนึ่งจะดำน้ำไปด้วย จุดไหนสวยแกก็จะเรียกเราไปดู ได้เจอหลายอย่างเลย ประทับใจ ถ้าไปครั้งหน้าอยากลองไปเกาะกำ เกาะค้างคาว ค่าทัวร์คนละ 1000 ออ ตอนไปดำน้ำเจอชาวมอแกนมาจับหอยเม่นทะเลด้วย เลยซื้อมา สด โลละสามร้อยกว่าบาท แต่เพื่อนๆกินกันไม่เป็น ตอนชิมก็อร่อย แต่ดันซื้อมาโลนึงเยอะเกิน ถ้าเจอซื้อมาแค่ขีดเดียวก็พอ 5555 สักบ่ายสี่ก็เข้าฝั่ง เจอนกเงือกด้วย นั่งพักแปป ค่อยขับมอไซกลับบังกะโล อาบน้ำแต่งตัวไปดูพระอาทิตย์ตกที่อ่าวใหญ่ ต่อด้วยดินเนอร์ที่บลูสกาย ที่นี่ไม่พูดไรมากแค่ แพง อาหารที่สั่งมีอร่อยอย่างเดียวคือ กุ้งซอสมะขาม ทั้งหมดเชคบิลมา 3500 แต่ราคาปูไม่ตรงกับที่บอกตอนแรกเลยได้ลดมาเหลือ 3000 ก็ยังแพงงง 555  ไม่เป็นไรไปกินเป็นประสบการณ์ กลับบังกะโล นั่งกินหอยเม่นนิดหน่อย กินไม่ไหวผูกเก็บถุงฝากใส่ตู้แช่ของบังกะโลไว้ก่อน นอนพัก หมดไปอีกวัน
เช้าวันต่อมาตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่วันนี้เมฆเยอะไม่สวยเลย แอบแวะเข้าไปถ่ายรูปในบลูสกายด้วย กลับมาอาบน้ำแต่งตัว ออกไปกินข้าวเช้า พาเพื่อนไปวัด รอขึ้นเรือรอบ 12.30 เรือออกตามเวลาเป๊ะ แนะนำให้โทรจองเรือก่อนหนึ่งวัน นั่งเรือกลับ 45 นาทีเหมือนเดิม
จบล่ะทริปเกาะพยาม สงบดี ใครที่อยากหนีความวุ่นวายแนะนำเลยค่ะ แต่ถ้าไปแล้วอย่าไปทำลายสิ่งแวดล้อม ช่วยกันดูแล ตอนนี้ดูขยะเริ่มเยอะๆล่ะ
ยังไงก็ฝากเกาะนี้ไว้ไปปักหมุดกันด้วยนะคะ