Kingsman: The Secret Service (2015)
1) คำนิยามถึงหนังเรื่องนี้สั้น ๆ คงต้องบอกว่ามันคือ "old-school 007 ผสมกับแอ็คชั่นสวย ๆ ขายความรุนแรงเหมือน Kick-Ass"
2) พอบอกว่า old-school 007 หลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออก ลองนึกถึงสายลับสุภาพบุรุษจ๋า ฉากแอ็คชั่นโม้ ๆ แล้วก็ตัวร้ายที่มีแผนการเว่อร์วังอลังการ ส่วนความรุนแรงในหนังก็ผ่าครึ่งตัว, ตัดแขน, ตัดขา, เสียบหัว ที่ประเคนมาเพียบแต่กลับดูสวยมากกว่าชวนแหวะ
3) นับตั้งแต่การมาของ '
เจสัน บอร์น' ทำให้โลกหนังแอ็คชั่นสายลับยุคใหม่ปรับตัวให้กลายเป็นสายลับที่น่าเชื่อถือว่ามีอยู่ในโลกนี้จริง ฉากแอ็คชั่นก็เน้นความสมจริง แผนการตัวร้ายก็ลดสเกลลงจากหมกหมุ่นในการครองโลกให้เหลือเพียงเรื่องการเมือง/การทหาร ไม่ว่าจะเป็น
Casino Royale หรือ
Salt เพราะรสนิยมคนดูสมัยใหม่จะอินกับอะไรที่ดูจับต้องได้ ดูเรียล ดูน่าเชื่อถือ ยิ่งการ reboot '
เจมส์ บอนด์' นี่บ่งบอกชัดเจนว่า old-fashion อันยิ่งใหญ่ของ 007 ได้ตายจากไปแล้ว แต่ใครจะคาดคิดว่าแมทธิว วอห์นจะปัดฝุ่นเทรนด์สูตรเดิม ๆ ของเจมส์ บอนด์ยุคเก่ามาล้อเลียนเชิงเคารพได้อย่างยอดเยี่ยม
4) คือเวลาคนพูดถึง
เจมส์ บอนด์สมัยก่อนเนี่ย ไม่ค่อยมีใครมาพูดถึงความเป็นฮีโร่ของบอนด์กันสักเท่าไร เพราะจริง ๆ แล้วเสน่ห์มันอยู่ที่ตัวร้ายที่ต้องพิการหรือมีอะไรแปลก ๆ สักอย่าง และอาจจะรวมถึงการลุ้นว่าสาวบอนด์จะโดนฟาดตอนไหนด้วย คือสูตรตายตัวอันเป็นสัญลักษณ์ของบอนด์มาช้านานเนี่ย มันถูกรื้อทิ้งตอนทำ
Casino Royale +
Quantum of Solace ก่อนจะพยายามดึงเสน่ห์เดิม ๆ กลับมาใน
Skyfall คือมี Q, M, Moneypenny แต่ก็ยังทำฉากแอ็คชั่นตามยุคสมัยอยู่และยังไม่กล้าใช้ของเล่นขี้โม้แบบยุคเก่า
5) ขณะเดียวกัน
Kingsman เนี่ยมันเล่นเอา 007 สมัยก่อนกลับมาแบบเต็มตัวเลยไม่ว่าจะเป็นสายลับสุดเนี้ยบแต่งสูทผูกไท, ฉาก sexy ของสาวบอนด์, gadget ล้ำโคตรๆ, ฉากแอ็คชั่นขี้โม้สุดๆ, ตัวร้ายแผนการเว่อร์ๆดูไม่ค่อยเป็นคนปกติ คือเป็น old-fashion เต็มตัวเลย จะมีอะไรตามสมัยนิยมหน่อยก็เห็นจะเป็นแผนการของตัวร้ายที่ออกแนว anti-hero มากกว่าเป็น villian
6) ความเป็น 007 สมัยก่อนไม่ได้แค่สิ่งที่บอกข้างต้น แต่มันส่งอิทธิพลถึงกระทั่งบทหนังที่เป็นการประลองระหว่าง สายลับกับตัวร้ายโดยตรง เอาเข้าจริงแล้วการเขียนบทให้ออกมารูปแบบนี้มันก็เป็นทั้งผลดีผลเสีย ในแง่ดีคือมันเป็นเอกลักษณ์ของหนังบอนด์ยุคเก่าเป๊ะมาก โดยใส่ความใหม่ให้ไม่เชยก็คือพวกมุกน่าเบื่อทั้งหลายสมัยก่อน แถมตัวละครก็ไม่ใช่จะมามัวเก็กหล่ออย่างเดียวเพราะมันเป็นหนังคอเมดี้ แต่อีกมุมคือมันย่ำอยู่กับที่ ไหน ๆ จะทำ old-school ทั้งทีก็มาแค่สิ่งเด่น ๆ แล้วมาพัฒนาบทเชือดเฉือนไหวพริบให้ดูเป็นสายลับยุคใหม่ได้ไหม
7) ชอบฉากแข่งกันจีบสาวมาก ไม่ได้ชอบมุกที่ใช้ชวนคุยนะ แต่ชอบการวิเคราะห์เทคนิคต่าง ๆ ในการชวนคุยมากกว่า ทำให้ฉากนี้ดูฉลาดล้อเลียนขนบฉากหลีสาวของสายลับพราวเสน่ห์ได้เก๋ไก๋สไลเดอร์ทีเดียว
8) หนังจัดเต็มฉากแอ็คชั่นเยอะมาก โดยส่วนตัวยังชอบไอเดียความสร้างสรรค์ใน
Kick-Ass มากกว่า อย่างไรก็ตาม
Kingsman ก็จัดเต็มลูกบ้าเยอะมาก บ้าทั้งเทคนิคการถ่าย บ้าทั้งคิวบู๊ บ้าความรุนแรง บ้าที่กล้าจัดเต็มฉากนี้แบบทะลุพิกัดคลั่งกันไปเลย ตัวอย่างเด่นชัดคงยกให้ฉากในโบสถ์กับในบาร์ที่โดดเด่นยอดเยี่ยมจนทำให้ฉากแอ็คชั่นท้ายเรื่องโคตรกร่อยไปเลย
9) แล้วจะบอกอีกอย่างว่าหนังโคตรฮา ถึงจะยัดมุกฮามาแบบจงใจก็เถอะแต่มันไหลลื่น ไม่เล่นพร่ำเพรื่อมีเซอไพรส์มุกตลกเรียงเสียงหัวเราะได้ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบคือแอ็คชั่นสะใจ เดินเรื่องรวดเร็ว และยังสร้างเสียงหัวเราะได้ตลอด
10) หนังหยิบกิมมิคหนังสายลับมาใช้ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสายลับที่ดูแล้วคิดถึง
The Recruit (อัล ปาชิโนฝึกฟาเรลล์ให้เป็นสายลับ), ฉากสลับแก้วนี่เอามาจากฉากไคลแม็กซ์ของ
Confessions of a Dangerous Mind ชัดเจนมาก, ท่าถือปืนของเฮียมาร์คนี่ก็เหมือน
แดเนียล เคร็กเป๊ะมาก, ไหนจะตัวร้ายที่ชอบเสียทีเพราะมัวแต่พล่ามแผนการ
11) ไม่แน่ใจว่าวอห์นจงใจจะพูดถึงสถาบันกษัตริย์หรือเปล่า ประเด็นที่น่าสนใจคือการพูดถึงสถานะของควีนในหนัง อย่างน้อย 2 ฉากคือตอนพูดถึงสถาบันกษัตริย์อังกฤษที่ปรับตัวตามยุคสมัย (ตัวอย่างจริงคือสำนักราชวังเปิดวังบัคกิ้งแฮมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมโดยเก็บรายได้นำไปชดเชยภาษีประชาชนที่เสียไปจากการซ่อมแซมวังอื่น ๆ), มีตัวละครเป็นนักการเมืองที่ถูกจี้จุดถามถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน
12) ถ้าบอกว่า
North by Northwest คือเจมส์ บอนด์ของ
อัลเฟรด ฮิตช์ค็อก,
Indiana Jones คือเจมส์ บอนด์ของ
สตีเว่น สปีลเบิร์ก ก็ต้องบอกว่า
Kingsman: The Secret Service คือเจมส์ บอนด์ของ
แมทธิว วอห์นนั่นแหละ
13) บอกได้เลยว่า
แมทธิว วอห์นคือผู้กำกับที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้ หน้าหนังที่ดูเหมือนจะเจ๊งแต่กลับเจ๋งทุกเรื่อง ตั้งแต่
Sturdust ที่เป็นล้อเลียนแฟนตาซีเจ้าหญิงผสมขนบใหม่,
Kick-Ass ลอกเลียนฮีโร่ในสไตล์ใหม่ จนถึง
Kingsman ที่ล้อเลียนสายลับได้เก๋มาก เพียงแต่สไตล์เขาอาจไม่เด่นเฉพาะทางไปเลยเหมือนเอ็ดการ์ ไรท์เวลาล้อเลียนหนังซอมบี้, หนังตำรวจคู่หู หรือหนังไซไฟมนุษย์ต่างดาว
ป.ล. ท้ายเครดิตมีของแถมอีกฉาก ชอบทีเดียว
Director:
Matthew Vaughn
Genre: action, adventure, comedy
8/10
ติดตามรีวิวเรื่องอื่น ๆ ได้ที่
หนังโปรดของข้าพเจ้า
https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms
รีวิว Kingsman: The Secret Service หนังเจมส์ บอนด์สไตล์ดั้งเดิม ผสมความเกรียนแบบ Kick-Ass !
1) คำนิยามถึงหนังเรื่องนี้สั้น ๆ คงต้องบอกว่ามันคือ "old-school 007 ผสมกับแอ็คชั่นสวย ๆ ขายความรุนแรงเหมือน Kick-Ass"
2) พอบอกว่า old-school 007 หลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออก ลองนึกถึงสายลับสุภาพบุรุษจ๋า ฉากแอ็คชั่นโม้ ๆ แล้วก็ตัวร้ายที่มีแผนการเว่อร์วังอลังการ ส่วนความรุนแรงในหนังก็ผ่าครึ่งตัว, ตัดแขน, ตัดขา, เสียบหัว ที่ประเคนมาเพียบแต่กลับดูสวยมากกว่าชวนแหวะ
3) นับตั้งแต่การมาของ 'เจสัน บอร์น' ทำให้โลกหนังแอ็คชั่นสายลับยุคใหม่ปรับตัวให้กลายเป็นสายลับที่น่าเชื่อถือว่ามีอยู่ในโลกนี้จริง ฉากแอ็คชั่นก็เน้นความสมจริง แผนการตัวร้ายก็ลดสเกลลงจากหมกหมุ่นในการครองโลกให้เหลือเพียงเรื่องการเมือง/การทหาร ไม่ว่าจะเป็น Casino Royale หรือ Salt เพราะรสนิยมคนดูสมัยใหม่จะอินกับอะไรที่ดูจับต้องได้ ดูเรียล ดูน่าเชื่อถือ ยิ่งการ reboot 'เจมส์ บอนด์' นี่บ่งบอกชัดเจนว่า old-fashion อันยิ่งใหญ่ของ 007 ได้ตายจากไปแล้ว แต่ใครจะคาดคิดว่าแมทธิว วอห์นจะปัดฝุ่นเทรนด์สูตรเดิม ๆ ของเจมส์ บอนด์ยุคเก่ามาล้อเลียนเชิงเคารพได้อย่างยอดเยี่ยม
4) คือเวลาคนพูดถึงเจมส์ บอนด์สมัยก่อนเนี่ย ไม่ค่อยมีใครมาพูดถึงความเป็นฮีโร่ของบอนด์กันสักเท่าไร เพราะจริง ๆ แล้วเสน่ห์มันอยู่ที่ตัวร้ายที่ต้องพิการหรือมีอะไรแปลก ๆ สักอย่าง และอาจจะรวมถึงการลุ้นว่าสาวบอนด์จะโดนฟาดตอนไหนด้วย คือสูตรตายตัวอันเป็นสัญลักษณ์ของบอนด์มาช้านานเนี่ย มันถูกรื้อทิ้งตอนทำ Casino Royale + Quantum of Solace ก่อนจะพยายามดึงเสน่ห์เดิม ๆ กลับมาใน Skyfall คือมี Q, M, Moneypenny แต่ก็ยังทำฉากแอ็คชั่นตามยุคสมัยอยู่และยังไม่กล้าใช้ของเล่นขี้โม้แบบยุคเก่า
5) ขณะเดียวกัน Kingsman เนี่ยมันเล่นเอา 007 สมัยก่อนกลับมาแบบเต็มตัวเลยไม่ว่าจะเป็นสายลับสุดเนี้ยบแต่งสูทผูกไท, ฉาก sexy ของสาวบอนด์, gadget ล้ำโคตรๆ, ฉากแอ็คชั่นขี้โม้สุดๆ, ตัวร้ายแผนการเว่อร์ๆดูไม่ค่อยเป็นคนปกติ คือเป็น old-fashion เต็มตัวเลย จะมีอะไรตามสมัยนิยมหน่อยก็เห็นจะเป็นแผนการของตัวร้ายที่ออกแนว anti-hero มากกว่าเป็น villian
6) ความเป็น 007 สมัยก่อนไม่ได้แค่สิ่งที่บอกข้างต้น แต่มันส่งอิทธิพลถึงกระทั่งบทหนังที่เป็นการประลองระหว่าง สายลับกับตัวร้ายโดยตรง เอาเข้าจริงแล้วการเขียนบทให้ออกมารูปแบบนี้มันก็เป็นทั้งผลดีผลเสีย ในแง่ดีคือมันเป็นเอกลักษณ์ของหนังบอนด์ยุคเก่าเป๊ะมาก โดยใส่ความใหม่ให้ไม่เชยก็คือพวกมุกน่าเบื่อทั้งหลายสมัยก่อน แถมตัวละครก็ไม่ใช่จะมามัวเก็กหล่ออย่างเดียวเพราะมันเป็นหนังคอเมดี้ แต่อีกมุมคือมันย่ำอยู่กับที่ ไหน ๆ จะทำ old-school ทั้งทีก็มาแค่สิ่งเด่น ๆ แล้วมาพัฒนาบทเชือดเฉือนไหวพริบให้ดูเป็นสายลับยุคใหม่ได้ไหม
7) ชอบฉากแข่งกันจีบสาวมาก ไม่ได้ชอบมุกที่ใช้ชวนคุยนะ แต่ชอบการวิเคราะห์เทคนิคต่าง ๆ ในการชวนคุยมากกว่า ทำให้ฉากนี้ดูฉลาดล้อเลียนขนบฉากหลีสาวของสายลับพราวเสน่ห์ได้เก๋ไก๋สไลเดอร์ทีเดียว
8) หนังจัดเต็มฉากแอ็คชั่นเยอะมาก โดยส่วนตัวยังชอบไอเดียความสร้างสรรค์ใน Kick-Ass มากกว่า อย่างไรก็ตาม Kingsman ก็จัดเต็มลูกบ้าเยอะมาก บ้าทั้งเทคนิคการถ่าย บ้าทั้งคิวบู๊ บ้าความรุนแรง บ้าที่กล้าจัดเต็มฉากนี้แบบทะลุพิกัดคลั่งกันไปเลย ตัวอย่างเด่นชัดคงยกให้ฉากในโบสถ์กับในบาร์ที่โดดเด่นยอดเยี่ยมจนทำให้ฉากแอ็คชั่นท้ายเรื่องโคตรกร่อยไปเลย
9) แล้วจะบอกอีกอย่างว่าหนังโคตรฮา ถึงจะยัดมุกฮามาแบบจงใจก็เถอะแต่มันไหลลื่น ไม่เล่นพร่ำเพรื่อมีเซอไพรส์มุกตลกเรียงเสียงหัวเราะได้ทั้งเรื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบคือแอ็คชั่นสะใจ เดินเรื่องรวดเร็ว และยังสร้างเสียงหัวเราะได้ตลอด
10) หนังหยิบกิมมิคหนังสายลับมาใช้ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสายลับที่ดูแล้วคิดถึง The Recruit (อัล ปาชิโนฝึกฟาเรลล์ให้เป็นสายลับ), ฉากสลับแก้วนี่เอามาจากฉากไคลแม็กซ์ของ Confessions of a Dangerous Mind ชัดเจนมาก, ท่าถือปืนของเฮียมาร์คนี่ก็เหมือนแดเนียล เคร็กเป๊ะมาก, ไหนจะตัวร้ายที่ชอบเสียทีเพราะมัวแต่พล่ามแผนการ
11) ไม่แน่ใจว่าวอห์นจงใจจะพูดถึงสถาบันกษัตริย์หรือเปล่า ประเด็นที่น่าสนใจคือการพูดถึงสถานะของควีนในหนัง อย่างน้อย 2 ฉากคือตอนพูดถึงสถาบันกษัตริย์อังกฤษที่ปรับตัวตามยุคสมัย (ตัวอย่างจริงคือสำนักราชวังเปิดวังบัคกิ้งแฮมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมโดยเก็บรายได้นำไปชดเชยภาษีประชาชนที่เสียไปจากการซ่อมแซมวังอื่น ๆ), มีตัวละครเป็นนักการเมืองที่ถูกจี้จุดถามถึงความจงรักภักดีต่อสถาบัน
12) ถ้าบอกว่า North by Northwest คือเจมส์ บอนด์ของอัลเฟรด ฮิตช์ค็อก, Indiana Jones คือเจมส์ บอนด์ของสตีเว่น สปีลเบิร์ก ก็ต้องบอกว่า Kingsman: The Secret Service คือเจมส์ บอนด์ของแมทธิว วอห์นนั่นแหละ
13) บอกได้เลยว่าแมทธิว วอห์นคือผู้กำกับที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้ หน้าหนังที่ดูเหมือนจะเจ๊งแต่กลับเจ๋งทุกเรื่อง ตั้งแต่ Sturdust ที่เป็นล้อเลียนแฟนตาซีเจ้าหญิงผสมขนบใหม่, Kick-Ass ลอกเลียนฮีโร่ในสไตล์ใหม่ จนถึง Kingsman ที่ล้อเลียนสายลับได้เก๋มาก เพียงแต่สไตล์เขาอาจไม่เด่นเฉพาะทางไปเลยเหมือนเอ็ดการ์ ไรท์เวลาล้อเลียนหนังซอมบี้, หนังตำรวจคู่หู หรือหนังไซไฟมนุษย์ต่างดาว
ป.ล. ท้ายเครดิตมีของแถมอีกฉาก ชอบทีเดียว
Director: Matthew Vaughn
Genre: action, adventure, comedy
8/10
ติดตามรีวิวเรื่องอื่น ๆ ได้ที่ หนังโปรดของข้าพเจ้า
https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms