เราเขียนรีวิวนี้เป็นครั้งแรก หากอ่านแล้วไม่ถูกใจก็ผ่านไปได้ ไม่ว่ากันค่า
มีหลายคนเคยบอกไว้ว่า คุณลักษณะของคนที่จะเป็นนางเอก นอกจากจะต้อง “ดื่มน้ำส้ม ชื่นชมเด็กๆ นิสัยเรียบร้อย เพียบพูนด้วยเสน่ห์ (แอบเจ้าเล่ห์นิดๆ) ฉลาดและแสนดี” แล้ว ยุคนี้นางเอกต้องขยันจดบันทึก วาดรูปเป็นด้วย (แหมมมม ตัวช้านนนนเลยนะเนี่ยยยยย) ดังนั้น อย่าได้รอช้า หาที่ไปเที่ยวและสเก็ตรูปกันดีกว่า ที่ไหนดีที่ไม่ไกลมากนัก จะได้มีเวลาเที่ยวและสเก็ตนานๆ
นางเอกมีเวลาว่างแค่ 2-3 วัน อยากหาที่เที่ยวใกล้ๆกรุงเทพฯ บรรยากาศสบาย สงบ ก่อนที่ลมร้อนจะมาเยือนให้หัวใจร้อนผ่าว อยากไปเที่ยวน้ำตก ป่าเขาลำเนาไพร ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามที่สายลมหนาวจะจากลาฤดูกาลของปี ง้านนน…เลือกไปเขาใหญ่กันดีกว่านะเธอว์ อากาศยังหนาวเย็นพอให้ได้ชื่นฉ่ำใจเหมือนได้ไปเยือนเมืองเหนือ ขับรถไม่ไกล ไม่เหนื่อยและไม่ใช้เวลามากนัก ตรงตามความต้องการของนางเอกกับบรรดานางอิจฉา(เพื่อนๆนางเอก) เป๊ะเลย
ก่อนออกเดินทางนางเอกก็ต้องจัดกระเป๋าก่อนนะคะ (ละครแบบไทยๆต้องเยิ่นเย้อให้มากๆ จะได้ออนแอร์นานๆ ได้ค่าโฆษณาเยอะๆ แฮ่….) อ้าว!!! บรรดานางอิจฉามาสู่รู้แอบดูกระเป๋านางหน่อยว่าพกอะไรไปบ้าง ชุดเลิศแค่ไหน? อย่าให้นางแย่งซีนไปเสียหมดละกัน
นางอิจฉาบอกว่า “แกลืมที่ถอนขนหน้าแข้งย่ะ” อัย…ยะ ไม่ลืมจ้า อยู่ในกระเป๋าแชมพูไง แต่ถึงจะลืม ไปใกล้ๆแค่ 2-3 วันแค่นี้เอง ขนหน้าแข้งคงยังไม่ทันแพรมหน้าออกมาฟ้องชาวบ้านนะ
มาช่วยนางเอกดูหน่อยนะคร้า ว่าจัดกระเป๋าเสร็จแล้วยังลืมอะไรอีกบ้าง?
ลืมบอกไปว่าก่อนที่จะได้จัดกระเป๋า ก็ต้องหาที่พักให้เรียบร้อยซะก่อน (งานนี้นางเอกไม่กางเต๊นนอนบนเขานะจ๊ะ) ส่องหาทางเวบมาลงตัวที่
คอนโด 23 องศา เขาใหญ่ by Sansiri เพราะตรงใจหลายอย่างทั้งที่พัก ที่เที่ยว ที่กิน อยู่ไม่ไกลเกินไปนัก
เช้าวันเดินทางก็ตื่นสายๆสัก 8 โมงเช้าได้แบบสบายๆ หมดยุคนางเอกแม่พระแบบนางซินเดอเรล่าแล้วนะจ๊ะเธอว์ ที่ต้องตื่นมาก่อนไก่ขัน เข้าครัวหุงหาอาหารให้ยัยแม่เลี้ยงและลูกสาวหน้าตาน่าเกลียดทั้ง 2 ยุคนี้นางเอกล้วนคุณหนูไฮโซโอ่อ่าฟู่ฟ่า สวยเริดเชิดหยิ่งกันทั้งน้าน น้องนางบ้านนาอย่าได้มาแหยม หมดสิทธิ์จ้า ตื่นมาแล้วก็จิบกาแฟละเลียดอาหารเช้าแบบชิลๆ แล้วค่อยออกจากบ้านตอนประมาณ 10 โมงกว่าๆ
เส้นทางการเดินทางหลักก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรีก่อนเป็นจุดหมายแรก
ถ้าออกจากกรุงเทพฯทางตอนเหนือ ก็ขับรถบนถนนวิภาวดี - รังสิต - วังน้อย - สระบุรี
ถ้าออกจากกรุงเทพฯทางด้านตะวันออก/ตะวันตก ก็เข้าถนนวงแหวน (กาญจนาภิเษก) มุ่งหน้าวังน้อย - สระบุรี
ถ้าออกจากกรุงเทพฯด้านทิศใต้ ขับรถขึ้นทางด่วนขั้นที่ 2 ตรงสุขุมวิท 50 แล้วขับยาวมาลงวงแหวนตะวันออก (กาญจนาภิเษก) มุ่งหน้าวังน้อย - สระบุรี
เราขับรถแบบสบายๆเหยียบไม่เกิน 100 กม./ชม. เวลาแค่ชั่วโมงเศษๆก็ถึงสระบุรีแระ เราจะแวะหาอาหารอร่อยในเมืองหระรีรับประทานกันก่อนนะคะ (อย่าเพิ่งใจร้อนเลี้ยวขวาไปโคราชก่อนนะ) จะเที่ยวให้สนุก ท้องต้องอิ่มก่อนค่า
ขับรถมาตามทางเรื่อยๆจนเข้าตัวเมืองหระรี (สระบุรี) เจอสี่แยกไฟแดงถนนพหลโยธินตัดกับถนนพิชัยณรงค์สงคราม ก็ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนพิชัยณรงค์สงคราม ไปประมาณ 700-800 เมตร หา
วัดศรีบุรีรัตนาราม (วัดปากเพรียว) อยู่ฝั่งซ้ายมือ หาที่จอดรถริมถนนแถวนี้ได้เลยค่า (ดูป้ายห้ามจอดวันคู่วันคี่ให้ดีๆด้วยน้า เดี๋ยวอาหารกลางวันราคาจะแพงเกิ๊นนนนนนนนน)
ตอนเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพิชัยณรงค์สงครามมาแล้วเห็นเสาไฟฟ้ารูปหงส์ร่อนมังกรรำ ตามรูปนี้ก็ถูกทาง ใช่เลย!!!!
(เสาสวยตั้งเด่นเป็นสง่าแบบนี้จะมีแทบทุกจังหวัด จังหวัดไหนไม่มี นักการเมืองท้องถิ่นจะรู้สึกอับอายหรือไรไม่ทราบแน่ชัด จึงตั้งมาแข่งประชันกันทุกจังหวัด เอ่อเฮ้อออออ ขออย่าไปผิดจังหวัดนะคะ เดี๋ยวจะงงว่า หาตามที่รีวิวบอกไม่เจอ)
ป้ายวัดศรีบุรีรัตนาราม (วัดปากเพรียว) อาจจะต้องส่องๆหาหน่อย เสาไฟฟ้ามันบดบังทัศนวิสัยน์อ่าาาาาาาจ้า
มื้อกลางวันวันนี้ขอแนะนำเมนูอร่อย ราคาย่อมเยา ดังนี้ค่า (ดูแผนที่จากรูปสเก็ตประกอบด้วยค่า)
1. ผัดไทยเจ๊เกียว อยู่ติดกับทางเข้าวัดเลยค่ะ
2. บะหมี่ทิพย์สุนีย์ อยู่เยี้ยงๆผัดไทย (ร้านนี้เจ้าของร้านบอกสรรพคุณว่าอยู่คู่เมืองหระรีมา 50 กว่าปีแล้ว)
3. ขนมหวานเจ๊ดำ อยู่เยื้องๆผัดไทยอีกด้าน ฝั่งเดียวกับบะหมี่ทิพย์สุนีย์
4. ขนมสอดไส้ คุณลุงนั่งขายริมถนน (เจ้านี้ลืมถ่ายรูปไว้เลย)

ขนมหวานเจ๊ดำ อร่อยและราคาย่อมเยา (ถุงละ 10 บาท)
เรือนแถวไม้ริมถนน ที่ยังคงเหลืออยู่
ร้านเสริมสวยยุค 60's
อิ่มหนำสำราญพุงแล้ว เราก็ขับรถย้อนกลับมาทางเดิม เพื่อจะเลี้ยวซ้ายมุ่งไปทางจังหวัดนครราชสีมา (โคราช) แต่ช้านิดนึงค่า พอขับข้ามทางรถไฟมาปุ๊บต้องจอดรถแวะซื้อขนม

พั้บเจ้าดัง ติดไปกินที่ที่พักสักกล่อง สองกล่อง น่าจะดี
จากนั้นขับรถมาตามป้ายที่บอกว่าไปนครราชสีมา (ช่วงนี้ต้องขับรถด้วยความระมัดระวังกันหน่อย เพราะรถบรรทุกค่อนข้างหนาแน่น) ประมาณไม่เกิน 35 กิโลเมตร เราจะแวะเที่ยวสวนรุกขชาติมวกเหล็กกันก่อนค่ะ
เพลิดเพลินสวนรุกชาติและน้ำตกมวกเหล็กสักพักใหญ่ เราก็ขับรถขึ้นไปทางเหนือประมาณ 10 กม. กว่าๆ เพื่อไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อยกันค่ะ
พวงครามงามอร่ามตาที่น้ำตกเจ็ดสาวน้อย
เพลินชมธรรมชาติจนชื่นฉ่ำใจแล้ว เราก็ขับรถกลัมาที่ตลาดหมวกเหล็ก พอดีมีติดตลาดนัดเย็นใกล้หอนาฬิกา เลยกลายร่างเป็นพระยาน้อยชมตลาดกันซักแพร๊บบบบบบ พอเพลินใจ ซื้อของกินอาหารคาว/หวาน และต้องไม่ลืมซื้อน้ำติดเข้าไปที่พักด้วย เพราะที่พักที่จองไว้จะเป็นบรรยากาศแบบบ้าน/ห้องพัก มีครัวให้ทำอาหารได้ ซึ่งถ้าพักแบบโรงแรมจะไม่ได้อารมณ์แบบนี้ จึงเตรียมน้ำ/อาหารปรุงสำเร็จเผื่อเข้าไปด้วย น่าจะดี
ออกจากตลาดมวกเหล็ก ขับรถกลับเข้าถนนมิตรภาพ อึดใจเดียวก็จะเห็นป้ายแดรี่โฮมทางด้านขวามือ ให้ขับรถยูเทิร์นเพื่อไปเข้าถนนผ่านศึก-กุดเค้า (แดรี่โฮมอยู่ปากทาง) จากนั้นขับไปตามทางประมาณ 13 กม. ก็ถึงที่พัก คอนโด 23 องศา เขาใหญ่ by Sansiri
ด้านหน้าของคอนโดจะเป็นโรงแรม Escape เราต้องขับรถผ่านโรงแรมนี้เข้าไปค่ะ
ทางเข้าคอนโดค่ะ
แล้วเราก็มาถึงห้องพักตอน 6 โมงเย็นพอดี มาสำรวจห้องพักกันค่ะ ห้องที่จองมาเป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
# ห้องนอนแรกมีห้องน้ำในตัวและเชื่อมต่อกับระเบียงภายนอก
# ห้องนอนที่ 2 เชื่อมต่อกับห้องพักผ่อนจึงทำให้ส่วนนี้กว้างขวางมาก สามารถนั่งเล่นเกลือกกลิ้ง/ลั้ลลาไปได้ทั่วเลย
# มีมุมครัว (Pantry) และโต๊ะอาหาร อุปกรณ์เครื่องครัวมีครบครัน
# มีตู้เก็บรองเท้าและอุปกรณ์ทำความสะอาดแยกเป็นสัดเป็นส่วนดีมาก
ทำให้รู้สึกได้ว่าบรรยากาศเหมือนอยู่กับบ้านของเราเอง ที่เราสามารถทำครัว ทำความสะอาดเล็กๆน้อยๆ นั่งเล่น นอนเล่น ได้อย่างตามสบายไม่คับแคบหรืออึดอัด มากันเป็นกลุ่มหรือเป็นครอบครอบก็สามารถใช้พื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่นทำกิจกรรมร่วมกันได้เป็นอย่างดี เช่น คุยสังสรรค์ ดูทีวี/ละคร เล่นเกมส์ ฯลฯ ซึ่งถ้าเราเลือกพักแบบโรงแรมเราคงไม่สามารถมีกิจกรรมสังสรรค์กลุ่มได้แบบนี้ เพราะถึงที่พักในโรงแรมก็ต้องแยกย้ายห้องใครห้องมัน แต่พักแบบนี้ให้ความรู้สึกดีกว่าเพราะได้มีโอกาสสังสรรค์ทำกิจกรรมร่วมกัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นส่วนตัว ห้องนอนใครห้องนอนมันแยกกันไป หรืออยุ่ด้วยกันแต่ทำกิจกรรมอยู่คนละมุมได้ไม่รู้สึกอึดอัด จึงเหมาะมากที่จะมาพักผ่อนพร้อมกันทั้งครอบครัว หรือมากับเพื่อนเป็นกลุ่ม จะได้เฮฮากันได้เต็มที่
แปลนห้องพักค่ะ
ภาพสเก็ตทางเข้าคอนโดและห้องพัก
หน้าห้องพัก
ภาพภายในห้องพัก
หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ท้องเริ่มร้องว่าหิว แต่เนื่องจากเดินทางมาแล้วทั้งวัน และเริ่มค่ำแล้ว เราจึงตัดสินใจเลือกรับประทานอาหารเย็นที่ห้องอาหาร
green oak bistro ที่โรงแรม
Escape น่าจะสะดวกที่สุด ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะได้อิ่มทั้งอาหารกาย อาหารตา (วิวสวย) และอาหารใจ (รื่นรมย์กับบรรยากาศในห้องอาหารและฟังเสียงเพลงอันไพเราะ)
อิ่มมื้อเย็นแล้วก็เดินเล่นชมดาวเดือนยามค่ำ แพร๊บเดียวก็ถึงที่พักที่อยู่ติดๆกัน ยังไม่ดึกยังไม่ง่วง ก็ต่างคนต่างลั้ลลากันตามอัธยาศัย เราก้สเก็ตภาพอย่างมีความสุข ในบรรยากาศค่ำคืนอันแสนรื่นรมย์ที่
คอนโด 23 องศา เขาใหญ่
จบทริปเขาใหญ่วันที่ 1 หลับและฝันดีค่า
ดึกๆค่อยมารีวิวทริปวันต่อไปนะคะ
[CR] เที่ยวไป สเก็ตไป หัวใจเบิกบาน @คอนโด 23 องศา เขาใหญ่
มีหลายคนเคยบอกไว้ว่า คุณลักษณะของคนที่จะเป็นนางเอก นอกจากจะต้อง “ดื่มน้ำส้ม ชื่นชมเด็กๆ นิสัยเรียบร้อย เพียบพูนด้วยเสน่ห์ (แอบเจ้าเล่ห์นิดๆ) ฉลาดและแสนดี” แล้ว ยุคนี้นางเอกต้องขยันจดบันทึก วาดรูปเป็นด้วย (แหมมมม ตัวช้านนนนเลยนะเนี่ยยยยย) ดังนั้น อย่าได้รอช้า หาที่ไปเที่ยวและสเก็ตรูปกันดีกว่า ที่ไหนดีที่ไม่ไกลมากนัก จะได้มีเวลาเที่ยวและสเก็ตนานๆ
นางเอกมีเวลาว่างแค่ 2-3 วัน อยากหาที่เที่ยวใกล้ๆกรุงเทพฯ บรรยากาศสบาย สงบ ก่อนที่ลมร้อนจะมาเยือนให้หัวใจร้อนผ่าว อยากไปเที่ยวน้ำตก ป่าเขาลำเนาไพร ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามที่สายลมหนาวจะจากลาฤดูกาลของปี ง้านนน…เลือกไปเขาใหญ่กันดีกว่านะเธอว์ อากาศยังหนาวเย็นพอให้ได้ชื่นฉ่ำใจเหมือนได้ไปเยือนเมืองเหนือ ขับรถไม่ไกล ไม่เหนื่อยและไม่ใช้เวลามากนัก ตรงตามความต้องการของนางเอกกับบรรดานางอิจฉา(เพื่อนๆนางเอก) เป๊ะเลย
ก่อนออกเดินทางนางเอกก็ต้องจัดกระเป๋าก่อนนะคะ (ละครแบบไทยๆต้องเยิ่นเย้อให้มากๆ จะได้ออนแอร์นานๆ ได้ค่าโฆษณาเยอะๆ แฮ่….) อ้าว!!! บรรดานางอิจฉามาสู่รู้แอบดูกระเป๋านางหน่อยว่าพกอะไรไปบ้าง ชุดเลิศแค่ไหน? อย่าให้นางแย่งซีนไปเสียหมดละกัน
นางอิจฉาบอกว่า “แกลืมที่ถอนขนหน้าแข้งย่ะ” อัย…ยะ ไม่ลืมจ้า อยู่ในกระเป๋าแชมพูไง แต่ถึงจะลืม ไปใกล้ๆแค่ 2-3 วันแค่นี้เอง ขนหน้าแข้งคงยังไม่ทันแพรมหน้าออกมาฟ้องชาวบ้านนะ
มาช่วยนางเอกดูหน่อยนะคร้า ว่าจัดกระเป๋าเสร็จแล้วยังลืมอะไรอีกบ้าง?
ลืมบอกไปว่าก่อนที่จะได้จัดกระเป๋า ก็ต้องหาที่พักให้เรียบร้อยซะก่อน (งานนี้นางเอกไม่กางเต๊นนอนบนเขานะจ๊ะ) ส่องหาทางเวบมาลงตัวที่ คอนโด 23 องศา เขาใหญ่ by Sansiri เพราะตรงใจหลายอย่างทั้งที่พัก ที่เที่ยว ที่กิน อยู่ไม่ไกลเกินไปนัก
เช้าวันเดินทางก็ตื่นสายๆสัก 8 โมงเช้าได้แบบสบายๆ หมดยุคนางเอกแม่พระแบบนางซินเดอเรล่าแล้วนะจ๊ะเธอว์ ที่ต้องตื่นมาก่อนไก่ขัน เข้าครัวหุงหาอาหารให้ยัยแม่เลี้ยงและลูกสาวหน้าตาน่าเกลียดทั้ง 2 ยุคนี้นางเอกล้วนคุณหนูไฮโซโอ่อ่าฟู่ฟ่า สวยเริดเชิดหยิ่งกันทั้งน้าน น้องนางบ้านนาอย่าได้มาแหยม หมดสิทธิ์จ้า ตื่นมาแล้วก็จิบกาแฟละเลียดอาหารเช้าแบบชิลๆ แล้วค่อยออกจากบ้านตอนประมาณ 10 โมงกว่าๆ
เส้นทางการเดินทางหลักก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรีก่อนเป็นจุดหมายแรก
ถ้าออกจากกรุงเทพฯทางตอนเหนือ ก็ขับรถบนถนนวิภาวดี - รังสิต - วังน้อย - สระบุรี
ถ้าออกจากกรุงเทพฯทางด้านตะวันออก/ตะวันตก ก็เข้าถนนวงแหวน (กาญจนาภิเษก) มุ่งหน้าวังน้อย - สระบุรี
ถ้าออกจากกรุงเทพฯด้านทิศใต้ ขับรถขึ้นทางด่วนขั้นที่ 2 ตรงสุขุมวิท 50 แล้วขับยาวมาลงวงแหวนตะวันออก (กาญจนาภิเษก) มุ่งหน้าวังน้อย - สระบุรี
เราขับรถแบบสบายๆเหยียบไม่เกิน 100 กม./ชม. เวลาแค่ชั่วโมงเศษๆก็ถึงสระบุรีแระ เราจะแวะหาอาหารอร่อยในเมืองหระรีรับประทานกันก่อนนะคะ (อย่าเพิ่งใจร้อนเลี้ยวขวาไปโคราชก่อนนะ) จะเที่ยวให้สนุก ท้องต้องอิ่มก่อนค่า
ขับรถมาตามทางเรื่อยๆจนเข้าตัวเมืองหระรี (สระบุรี) เจอสี่แยกไฟแดงถนนพหลโยธินตัดกับถนนพิชัยณรงค์สงคราม ก็ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนพิชัยณรงค์สงคราม ไปประมาณ 700-800 เมตร หาวัดศรีบุรีรัตนาราม (วัดปากเพรียว) อยู่ฝั่งซ้ายมือ หาที่จอดรถริมถนนแถวนี้ได้เลยค่า (ดูป้ายห้ามจอดวันคู่วันคี่ให้ดีๆด้วยน้า เดี๋ยวอาหารกลางวันราคาจะแพงเกิ๊นนนนนนนนน)
ตอนเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพิชัยณรงค์สงครามมาแล้วเห็นเสาไฟฟ้ารูปหงส์ร่อนมังกรรำ ตามรูปนี้ก็ถูกทาง ใช่เลย!!!!
(เสาสวยตั้งเด่นเป็นสง่าแบบนี้จะมีแทบทุกจังหวัด จังหวัดไหนไม่มี นักการเมืองท้องถิ่นจะรู้สึกอับอายหรือไรไม่ทราบแน่ชัด จึงตั้งมาแข่งประชันกันทุกจังหวัด เอ่อเฮ้อออออ ขออย่าไปผิดจังหวัดนะคะ เดี๋ยวจะงงว่า หาตามที่รีวิวบอกไม่เจอ)
ป้ายวัดศรีบุรีรัตนาราม (วัดปากเพรียว) อาจจะต้องส่องๆหาหน่อย เสาไฟฟ้ามันบดบังทัศนวิสัยน์อ่าาาาาาาจ้า
มื้อกลางวันวันนี้ขอแนะนำเมนูอร่อย ราคาย่อมเยา ดังนี้ค่า (ดูแผนที่จากรูปสเก็ตประกอบด้วยค่า)
1. ผัดไทยเจ๊เกียว อยู่ติดกับทางเข้าวัดเลยค่ะ
2. บะหมี่ทิพย์สุนีย์ อยู่เยี้ยงๆผัดไทย (ร้านนี้เจ้าของร้านบอกสรรพคุณว่าอยู่คู่เมืองหระรีมา 50 กว่าปีแล้ว)
3. ขนมหวานเจ๊ดำ อยู่เยื้องๆผัดไทยอีกด้าน ฝั่งเดียวกับบะหมี่ทิพย์สุนีย์
4. ขนมสอดไส้ คุณลุงนั่งขายริมถนน (เจ้านี้ลืมถ่ายรูปไว้เลย)
ขนมหวานเจ๊ดำ อร่อยและราคาย่อมเยา (ถุงละ 10 บาท)
เรือนแถวไม้ริมถนน ที่ยังคงเหลืออยู่
ร้านเสริมสวยยุค 60's
อิ่มหนำสำราญพุงแล้ว เราก็ขับรถย้อนกลับมาทางเดิม เพื่อจะเลี้ยวซ้ายมุ่งไปทางจังหวัดนครราชสีมา (โคราช) แต่ช้านิดนึงค่า พอขับข้ามทางรถไฟมาปุ๊บต้องจอดรถแวะซื้อขนม
จากนั้นขับรถมาตามป้ายที่บอกว่าไปนครราชสีมา (ช่วงนี้ต้องขับรถด้วยความระมัดระวังกันหน่อย เพราะรถบรรทุกค่อนข้างหนาแน่น) ประมาณไม่เกิน 35 กิโลเมตร เราจะแวะเที่ยวสวนรุกขชาติมวกเหล็กกันก่อนค่ะ
เพลิดเพลินสวนรุกชาติและน้ำตกมวกเหล็กสักพักใหญ่ เราก็ขับรถขึ้นไปทางเหนือประมาณ 10 กม. กว่าๆ เพื่อไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อยกันค่ะ
พวงครามงามอร่ามตาที่น้ำตกเจ็ดสาวน้อย
เพลินชมธรรมชาติจนชื่นฉ่ำใจแล้ว เราก็ขับรถกลัมาที่ตลาดหมวกเหล็ก พอดีมีติดตลาดนัดเย็นใกล้หอนาฬิกา เลยกลายร่างเป็นพระยาน้อยชมตลาดกันซักแพร๊บบบบบบ พอเพลินใจ ซื้อของกินอาหารคาว/หวาน และต้องไม่ลืมซื้อน้ำติดเข้าไปที่พักด้วย เพราะที่พักที่จองไว้จะเป็นบรรยากาศแบบบ้าน/ห้องพัก มีครัวให้ทำอาหารได้ ซึ่งถ้าพักแบบโรงแรมจะไม่ได้อารมณ์แบบนี้ จึงเตรียมน้ำ/อาหารปรุงสำเร็จเผื่อเข้าไปด้วย น่าจะดี
ออกจากตลาดมวกเหล็ก ขับรถกลับเข้าถนนมิตรภาพ อึดใจเดียวก็จะเห็นป้ายแดรี่โฮมทางด้านขวามือ ให้ขับรถยูเทิร์นเพื่อไปเข้าถนนผ่านศึก-กุดเค้า (แดรี่โฮมอยู่ปากทาง) จากนั้นขับไปตามทางประมาณ 13 กม. ก็ถึงที่พัก คอนโด 23 องศา เขาใหญ่ by Sansiri
ด้านหน้าของคอนโดจะเป็นโรงแรม Escape เราต้องขับรถผ่านโรงแรมนี้เข้าไปค่ะ
ทางเข้าคอนโดค่ะ
แล้วเราก็มาถึงห้องพักตอน 6 โมงเย็นพอดี มาสำรวจห้องพักกันค่ะ ห้องที่จองมาเป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
# ห้องนอนแรกมีห้องน้ำในตัวและเชื่อมต่อกับระเบียงภายนอก
# ห้องนอนที่ 2 เชื่อมต่อกับห้องพักผ่อนจึงทำให้ส่วนนี้กว้างขวางมาก สามารถนั่งเล่นเกลือกกลิ้ง/ลั้ลลาไปได้ทั่วเลย
# มีมุมครัว (Pantry) และโต๊ะอาหาร อุปกรณ์เครื่องครัวมีครบครัน
# มีตู้เก็บรองเท้าและอุปกรณ์ทำความสะอาดแยกเป็นสัดเป็นส่วนดีมาก
ทำให้รู้สึกได้ว่าบรรยากาศเหมือนอยู่กับบ้านของเราเอง ที่เราสามารถทำครัว ทำความสะอาดเล็กๆน้อยๆ นั่งเล่น นอนเล่น ได้อย่างตามสบายไม่คับแคบหรืออึดอัด มากันเป็นกลุ่มหรือเป็นครอบครอบก็สามารถใช้พื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่นทำกิจกรรมร่วมกันได้เป็นอย่างดี เช่น คุยสังสรรค์ ดูทีวี/ละคร เล่นเกมส์ ฯลฯ ซึ่งถ้าเราเลือกพักแบบโรงแรมเราคงไม่สามารถมีกิจกรรมสังสรรค์กลุ่มได้แบบนี้ เพราะถึงที่พักในโรงแรมก็ต้องแยกย้ายห้องใครห้องมัน แต่พักแบบนี้ให้ความรู้สึกดีกว่าเพราะได้มีโอกาสสังสรรค์ทำกิจกรรมร่วมกัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นส่วนตัว ห้องนอนใครห้องนอนมันแยกกันไป หรืออยุ่ด้วยกันแต่ทำกิจกรรมอยู่คนละมุมได้ไม่รู้สึกอึดอัด จึงเหมาะมากที่จะมาพักผ่อนพร้อมกันทั้งครอบครัว หรือมากับเพื่อนเป็นกลุ่ม จะได้เฮฮากันได้เต็มที่
แปลนห้องพักค่ะ
ภาพสเก็ตทางเข้าคอนโดและห้องพัก
หน้าห้องพัก
ภาพภายในห้องพัก
หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ท้องเริ่มร้องว่าหิว แต่เนื่องจากเดินทางมาแล้วทั้งวัน และเริ่มค่ำแล้ว เราจึงตัดสินใจเลือกรับประทานอาหารเย็นที่ห้องอาหาร green oak bistro ที่โรงแรม Escape น่าจะสะดวกที่สุด ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะได้อิ่มทั้งอาหารกาย อาหารตา (วิวสวย) และอาหารใจ (รื่นรมย์กับบรรยากาศในห้องอาหารและฟังเสียงเพลงอันไพเราะ)
อิ่มมื้อเย็นแล้วก็เดินเล่นชมดาวเดือนยามค่ำ แพร๊บเดียวก็ถึงที่พักที่อยู่ติดๆกัน ยังไม่ดึกยังไม่ง่วง ก็ต่างคนต่างลั้ลลากันตามอัธยาศัย เราก้สเก็ตภาพอย่างมีความสุข ในบรรยากาศค่ำคืนอันแสนรื่นรมย์ที่ คอนโด 23 องศา เขาใหญ่
จบทริปเขาใหญ่วันที่ 1 หลับและฝันดีค่า
ดึกๆค่อยมารีวิวทริปวันต่อไปนะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น