[จขกท. รีวิวท่องเที่ยวเป็นครั้งแรกในพันทิปค่ะ ขาดตกบกพร่องอะไร ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ]
สวัสดีค่ะ เมื่อวันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปเที่ยวสิงคโปร์มาค่ะ
แต่ว่ารีวิวสิงคโปร์มีมากมาย ถ้ารีวิวอีกมันก็ซ้ำๆ อยากจะแปลกออกไปหน่อย
เลยเลือกที่จะรีวิวสิงคโปร์แบบแมวๆ ค่ะ โดยจะพาไปเที่ยว 2 สถานที่คือ
1. The Lion City Kitty Cat Museum
2. Meomi Cat Cafe
อธิบายก่อนนิดนึงค่ะ จริงๆ ทริปนี้นอกจากเที่ยวสิงคโปร์แล้ว เราอยากไป Lion Kitty Cat มากๆ
เนื่องจากเมื่อสักเดือนม.ค.ที่ผ่านมา มีข่าวเกี่ยวกับ museum ตัวนี้เผยแพร่ในไทยค่อนข้างเยอะ
ตัวอย่างตามลิงค์ข้างล่างค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/33088970
เลยไปหาข้อมูลเรื่องสถานที่นี้ เจอคลิปนี้ค่ะ
(อยากให้ดูกันนะคะ จะได้เข้าใจถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของพิพิธภัณฑ์)
และด้วยความที่เราเป็นคนด้อยภาษาอังกฤษ แต่ทริปนี้มีนักแปลไปด้วย เลยเป็นล่ามจำเป็นไปในตัว
หากข้อมูลส่วนไหนเราอาจจะรับสารมาผิดหรืออย่างไร สามารถเพิ่มเติมกันได้นะคะ
The Lion City Kitty Cat Museum หรือพิพิธภัณฑ์แมว
เป็นการร่วมมือกันกับเจ้าของและองค์กรสังคมสงเคราะห์แมว
เพื่อเป็นสถานที่หาผู้อุปการะให้กับแมวจรจัด แต่ถ้าแค่หาบ้านก็จะดูธรรมดาเกินไป
เลยเปิดให้คนสามารถเข้ามาเล่นกับแมวได้ด้วย มีการจัดสถานที่ให้เหมือนในบ้าน และให้แมวได้วิ่งเล่น
ผู้ที่มาเข้าชมสามารถเล่นกับแมวได้ ถ่ายรูปได้ อุ้มได้ แต่ต้องทำตามกฏอย่างเคร่งครัด (ห้ามกวนแมวตอนหลับ ตอนกิน หรือแกล้งแมว)
ถ้าใครอยากลองเลี้ยงแมว แต่ไม่รู้ว่ารับมาเลี้ยงแล้วจะเป็นยังไง ลองใช้เวลาสัก 2-3 ชม.อยู่ที่นี่ดูได้ จำลองว่ากำลังเลี้ยงแมวไปเลย
มีอุปกรณ์ให้เล่นกับแมว มีเจลล้างมือป้องกันเชื้อโรคไว้บริการ มีสต๊าฟ (พูด eng) คอยให้คำแนะนำหรือเกร็ดความรู้ต่างๆ
เนื่องจากพิพิธภัณฑ์เพิ่งเปิดใหม่ จึงเปิดแค่บางวัน นั่นคือศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ค่ะ
เวลาเปิด-ปิด วันศุกร์ : 4.30-9.30 pm และวันเสาร์อาทิตย์ : 12.00-9.30 pm (ปิดให้แมวพักช่วง 3.30-4.30 pm ค่ะ)
ค่าเข้า คนละ : 9$ (คิดจากเรทช่วงที่ไป ประมาณ 25 บาท = 225 บาท)
สถานที่ตั้งอยู่บนถนน Purvis Rd., Bugis, Singapore
ตอนเราไปก็หลงเหมือนกันค่ะ แต่เปิดซิมใส่มือถือที่นู่นด้วย เลยโทรถามทางกับเจ้าหน้าที่เลย
ข้อมูลต่างๆ ของพิพิธภัณฑ์ดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์นะคะ :
http://thecatmuseum.com.sg/
ตอนแรกหา museum ไม่เจอค่ะ เพราะป้ายเล็กมาก นี่คือซูมถ่ายแบบไกลมาก เพราะป้ายจะอยู่บริเวณชั้น 2 ของตึก
ตึกเลขที่ 8 บริเวณหน้าตึกจะเป็นร้านอาหารค่ะ ทางขึ้นไป museum จะขึ้นที่บันไดด้านขวาของร้าน
พร้อมหรือยังงง ไปกันเถอะ go go!
ตรงทางขึ้นบันได ก็จะมีแผนที่ของ museum ให้ดูก่อนค่ะ
โดยชั้นที่ 2 จะเป็นห้องจำหน่ายตั๋วค่าเข้า และมีประวัติแมวในมุมต่างๆ
ชั้นที่ 3 จะเป็นชั้นแมวจรจัดที่หาบ้าน
ชั้นที่ 4 จะเป็นชั้นแมวที่เจ้าของพิพิธภัณฑ์เลี้ยงไว้
ระหว่างทางเดิน จะมีรูปภาพแมวตลกๆ อยู่เยอะค่ะ
อยากให้ลองอ่านทุกรูป เจ้าของมุกเยอะจริงๆ
ก่อนเข้าพิพิธภัณฑ์ จะต้องถอดรองเท้า โดยจะมีล็อกเกอร์ให้ใช้ฟรี
แต่ต้องหยอดเหรียญเพื่อใช้ในการดึงกุญแจออกจากล็อกเกอร์ แต่เมื่อไปไขเปิด ก็จะได้รับเงินคืนในช่องหยอดด้านในค่ะ
มีแค่ล็อกเกอร์ฝากรองเท้านะคะ ส่วนของอื่นๆ ต้องหิ้วขึ้นไป อย่างตอนเช้าเราไปช้อปปิ้งมาก็หิ้วยาวเลยทั้งงาน = ='
เมื่อเดินเข้ามาในห้องแล้ว ก็จะเจอจุดจำหน่ายตั๋วค่ะ มีของที่ระลึกเล็กน้อยวางจำหน่ายอยู่
ราคา ถ้าเทียบกับค่าครองชีพของ SG แล้ว ถือว่าไม่แพง โดยของที่ขายจะเป็นการ Donate ให้กับสมาคมค่ะ
เราซื้อสติ๊กเกอร์มา 1 ซอง ในซองมี 2 แผ่น ราคา 4$ (100 บาท)
ตรงจุดเคาท์เตอร์ก็จะมีเจลล้างมือบริการค่ะ ซึ่งจะมีหน้าห้องในทุกๆ ชั้น ป้องกันโรคติดต่อทั้งคนและแมว
ดาราคนนี้หน้าคุ้นๆ เนอะ ^^
ตามกำแพงจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับแมวค่ะ
อย่างในห้องนี้พูดถึงเรื่อง Power of Purr ก็จะมีเรื่องราวที่เคยเป็นข่าวต่างๆ อย่างหมู่บ้าน Cat Village ที่ไต้หวัน
ก็เกิดจากคนรักแมวเข้าไปดูแล จนตอนนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของไต้หวันไปเลย
(ที่ไต้หวันนี่เราก็เคยไปแล้วค่ะ แต่ยังไม่ว่างรีวิวเลย แต่เป็นสถานที่ดีมากๆ ใครจะไปเที่ยวแนะนำให้แทรกลงในทริปด่วนๆ เลยค่ะ)
ของตกแต่งต่างๆ ก็จะเกี่ยวกับแมวทั้งหมด รวมถึงภาพที่ศิลปินคนต่างๆ วาดให้ ก็จะถูกประดับบน wall
พิพิธภัณฑ์แมวนี้ สามารถนำอุปกรณ์วาดรูปเข้าไปนั่งวาดได้นะคะ ทีแรกเราก็อยากจะเข้าไปวาดรูปเหมือนกัน
แต่เห็นว่าคนเยอะจำนวนนึงเลย ไม่ค่อยสะดวกที่จะนั่งวาดเท่าไหร่ค่ะ ^^"
เมื่อเข้ามาในอีกห้อง ก็จะมีโปรเจคเตอร์ฉายคลิปแมวน่ารักๆ ต่างๆ
ห้องนี้ก็จะมีแมวต้อนรับอยู่ 2 ตัวค่ะ แต่ตอนเราเข้าไปเห็นหลับอยู่ เลยยังไม่เล่นด้วย ไว้ตอนลงมาว่าจะแวะอีกที
มีต่อนะคะ...
พิมพ์สด กำลังนั่งไล่เรียงเรื่องราวด้วย แต่ไม่นานเกินรอค่ะ ขอสัญญา!
[CR] เที่ยวสิงคโปร์แบบแมวๆ (พิพิธภัณฑ์แมวและ Meomi Cat Cafe)
สวัสดีค่ะ เมื่อวันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปเที่ยวสิงคโปร์มาค่ะ
แต่ว่ารีวิวสิงคโปร์มีมากมาย ถ้ารีวิวอีกมันก็ซ้ำๆ อยากจะแปลกออกไปหน่อย
เลยเลือกที่จะรีวิวสิงคโปร์แบบแมวๆ ค่ะ โดยจะพาไปเที่ยว 2 สถานที่คือ
1. The Lion City Kitty Cat Museum
2. Meomi Cat Cafe
อธิบายก่อนนิดนึงค่ะ จริงๆ ทริปนี้นอกจากเที่ยวสิงคโปร์แล้ว เราอยากไป Lion Kitty Cat มากๆ
เนื่องจากเมื่อสักเดือนม.ค.ที่ผ่านมา มีข่าวเกี่ยวกับ museum ตัวนี้เผยแพร่ในไทยค่อนข้างเยอะ
ตัวอย่างตามลิงค์ข้างล่างค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เลยไปหาข้อมูลเรื่องสถานที่นี้ เจอคลิปนี้ค่ะ
(อยากให้ดูกันนะคะ จะได้เข้าใจถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของพิพิธภัณฑ์)
และด้วยความที่เราเป็นคนด้อยภาษาอังกฤษ แต่ทริปนี้มีนักแปลไปด้วย เลยเป็นล่ามจำเป็นไปในตัว
หากข้อมูลส่วนไหนเราอาจจะรับสารมาผิดหรืออย่างไร สามารถเพิ่มเติมกันได้นะคะ
The Lion City Kitty Cat Museum หรือพิพิธภัณฑ์แมว
เป็นการร่วมมือกันกับเจ้าของและองค์กรสังคมสงเคราะห์แมว
เพื่อเป็นสถานที่หาผู้อุปการะให้กับแมวจรจัด แต่ถ้าแค่หาบ้านก็จะดูธรรมดาเกินไป
เลยเปิดให้คนสามารถเข้ามาเล่นกับแมวได้ด้วย มีการจัดสถานที่ให้เหมือนในบ้าน และให้แมวได้วิ่งเล่น
ผู้ที่มาเข้าชมสามารถเล่นกับแมวได้ ถ่ายรูปได้ อุ้มได้ แต่ต้องทำตามกฏอย่างเคร่งครัด (ห้ามกวนแมวตอนหลับ ตอนกิน หรือแกล้งแมว)
ถ้าใครอยากลองเลี้ยงแมว แต่ไม่รู้ว่ารับมาเลี้ยงแล้วจะเป็นยังไง ลองใช้เวลาสัก 2-3 ชม.อยู่ที่นี่ดูได้ จำลองว่ากำลังเลี้ยงแมวไปเลย
มีอุปกรณ์ให้เล่นกับแมว มีเจลล้างมือป้องกันเชื้อโรคไว้บริการ มีสต๊าฟ (พูด eng) คอยให้คำแนะนำหรือเกร็ดความรู้ต่างๆ
เนื่องจากพิพิธภัณฑ์เพิ่งเปิดใหม่ จึงเปิดแค่บางวัน นั่นคือศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ค่ะ
เวลาเปิด-ปิด วันศุกร์ : 4.30-9.30 pm และวันเสาร์อาทิตย์ : 12.00-9.30 pm (ปิดให้แมวพักช่วง 3.30-4.30 pm ค่ะ)
ค่าเข้า คนละ : 9$ (คิดจากเรทช่วงที่ไป ประมาณ 25 บาท = 225 บาท)
สถานที่ตั้งอยู่บนถนน Purvis Rd., Bugis, Singapore
ตอนเราไปก็หลงเหมือนกันค่ะ แต่เปิดซิมใส่มือถือที่นู่นด้วย เลยโทรถามทางกับเจ้าหน้าที่เลย
ข้อมูลต่างๆ ของพิพิธภัณฑ์ดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์นะคะ : http://thecatmuseum.com.sg/
ตอนแรกหา museum ไม่เจอค่ะ เพราะป้ายเล็กมาก นี่คือซูมถ่ายแบบไกลมาก เพราะป้ายจะอยู่บริเวณชั้น 2 ของตึก
ตึกเลขที่ 8 บริเวณหน้าตึกจะเป็นร้านอาหารค่ะ ทางขึ้นไป museum จะขึ้นที่บันไดด้านขวาของร้าน
พร้อมหรือยังงง ไปกันเถอะ go go!
ตรงทางขึ้นบันได ก็จะมีแผนที่ของ museum ให้ดูก่อนค่ะ
โดยชั้นที่ 2 จะเป็นห้องจำหน่ายตั๋วค่าเข้า และมีประวัติแมวในมุมต่างๆ
ชั้นที่ 3 จะเป็นชั้นแมวจรจัดที่หาบ้าน
ชั้นที่ 4 จะเป็นชั้นแมวที่เจ้าของพิพิธภัณฑ์เลี้ยงไว้
ระหว่างทางเดิน จะมีรูปภาพแมวตลกๆ อยู่เยอะค่ะ
อยากให้ลองอ่านทุกรูป เจ้าของมุกเยอะจริงๆ
ก่อนเข้าพิพิธภัณฑ์ จะต้องถอดรองเท้า โดยจะมีล็อกเกอร์ให้ใช้ฟรี
แต่ต้องหยอดเหรียญเพื่อใช้ในการดึงกุญแจออกจากล็อกเกอร์ แต่เมื่อไปไขเปิด ก็จะได้รับเงินคืนในช่องหยอดด้านในค่ะ
มีแค่ล็อกเกอร์ฝากรองเท้านะคะ ส่วนของอื่นๆ ต้องหิ้วขึ้นไป อย่างตอนเช้าเราไปช้อปปิ้งมาก็หิ้วยาวเลยทั้งงาน = ='
เมื่อเดินเข้ามาในห้องแล้ว ก็จะเจอจุดจำหน่ายตั๋วค่ะ มีของที่ระลึกเล็กน้อยวางจำหน่ายอยู่
ราคา ถ้าเทียบกับค่าครองชีพของ SG แล้ว ถือว่าไม่แพง โดยของที่ขายจะเป็นการ Donate ให้กับสมาคมค่ะ
เราซื้อสติ๊กเกอร์มา 1 ซอง ในซองมี 2 แผ่น ราคา 4$ (100 บาท)
ตรงจุดเคาท์เตอร์ก็จะมีเจลล้างมือบริการค่ะ ซึ่งจะมีหน้าห้องในทุกๆ ชั้น ป้องกันโรคติดต่อทั้งคนและแมว
ดาราคนนี้หน้าคุ้นๆ เนอะ ^^
ตามกำแพงจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับแมวค่ะ
อย่างในห้องนี้พูดถึงเรื่อง Power of Purr ก็จะมีเรื่องราวที่เคยเป็นข่าวต่างๆ อย่างหมู่บ้าน Cat Village ที่ไต้หวัน
ก็เกิดจากคนรักแมวเข้าไปดูแล จนตอนนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของไต้หวันไปเลย
(ที่ไต้หวันนี่เราก็เคยไปแล้วค่ะ แต่ยังไม่ว่างรีวิวเลย แต่เป็นสถานที่ดีมากๆ ใครจะไปเที่ยวแนะนำให้แทรกลงในทริปด่วนๆ เลยค่ะ)
ของตกแต่งต่างๆ ก็จะเกี่ยวกับแมวทั้งหมด รวมถึงภาพที่ศิลปินคนต่างๆ วาดให้ ก็จะถูกประดับบน wall
พิพิธภัณฑ์แมวนี้ สามารถนำอุปกรณ์วาดรูปเข้าไปนั่งวาดได้นะคะ ทีแรกเราก็อยากจะเข้าไปวาดรูปเหมือนกัน
แต่เห็นว่าคนเยอะจำนวนนึงเลย ไม่ค่อยสะดวกที่จะนั่งวาดเท่าไหร่ค่ะ ^^"
เมื่อเข้ามาในอีกห้อง ก็จะมีโปรเจคเตอร์ฉายคลิปแมวน่ารักๆ ต่างๆ
ห้องนี้ก็จะมีแมวต้อนรับอยู่ 2 ตัวค่ะ แต่ตอนเราเข้าไปเห็นหลับอยู่ เลยยังไม่เล่นด้วย ไว้ตอนลงมาว่าจะแวะอีกที
มีต่อนะคะ...
พิมพ์สด กำลังนั่งไล่เรียงเรื่องราวด้วย แต่ไม่นานเกินรอค่ะ ขอสัญญา!