สวัสดีครับ ผมเองได้แต่มานั่งอ่านกระทู้ของคนอื่นๆ วันนี้เลยอยากจะมาเป็นผู้เล่าฟังเองในเรื่องความรักที่ไม่ค่อยเข้าใจ
เท้าความก่อนน่ะครับ ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบฟังครอบครัว หรือพูดได้ว่า ลูกแง่ ทำอะไร ต้องปรึกษาทางบ้านตลอด ตอนนี้ผมอายุ 30 แล้วก้อยังเขื่อว่าผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนน่ะจะเป็นที่ให้คำแน่ะนำที่ดี
ครับมาถึงเรื่องผมจะเล่าให้ฟัง ผมเป็นคนบ้านนนอกเข้า กทม. รู้จักผู้ ญ คนหนึ่งได้ก็เพราะบ้านเช่าเราใกล้กันที่ในหมู่บ้าน ครอบครับผู้ ญ เค้ามีอาชีพค้าขายรถกับข้าว ส่วนผมอาศัยอยู่กะน้า เลยได้มาเจอกันเพราะเค้าช่วยทางบ้านขายของ ผมเองยังเรียนอยู่แล้วน้าก้อชอบใช้ไปซื้อตลอด ด้วยความมีมิตรไมตรีต่อกัน จะได้รู้จักกันมาขึ้น ตอนนี้ผมเองเป็นคนรูปร่างใหญ่ อ้วน ดำ จีบยังงัยเค้าก้อได้แค่คุยด้วย พ่อแม่เค้าก้อไม่ได้ว่าอาไร เพราะเราเข้าตามตรอก ออกตามประตู โดยไม่มีอะไรผิด พ่อกะแม่เค้าก็ชอบเราน่ะ แต่ส่วนตัวเค้ายังไม่ได้คิดอะไรเลยมั่ง
จากนั้นผมเริ่มสนิทกับครอบครัวเค้ามากขึ้น พ่อกะแม่เค้าก้อดี ยังมีมาช่วนไปเที่ยวบ้านนอกเค้าด้วย ไปดูบังไฟพญานาค โอยดีใจจังได้ไปเที่ยวด้วย แต่ผู้ ญ คนนั้นก้อยังไม่มีทีท่าคิดกะเราเลย เอ้ทำงัยดี เลยตัดสินใจลองมาทำความรู้จักกันมั่ย ขอเบอร์มา ได้คุยกันบ้างตอนดึกทางโทรสับกันมา 2-3 ปี
เกิดเหตุขึ้นล่ะคราวนี้ มีคนมาซื้อของมาจีบเค้า เอายังงัยดีล่ะที่นี้ หล่อ สูง จะสู้เค้าได้ป่าวน้อ ไอ้เราอ้วน ดำก็ดำ ไม่เป็นไร เราคิดว่าเค้าคงชอบแบบนี้มั่ง ก็แอบคิดน้อยใจอยู่เหมือนกัน ไม่ได้เราต้องไม่เลิกล้มความตั้งใจ
พอเข้าสู่ปีที่รู้จัก 5-6 เราร็สึกว่าผู้ ญ คนนี้มีอำนาจกะเราซะเหลือเกิน คงขาดไม่ได้แน่ๆ อายุเรา 24 ส่วนเค้า 23 เราจะเรียนจบวิศวะในปีสุดท้าย เกิดอาการไม่คาดคิด ผู้ ญ มาถามเรา แล้วบอกกะเราว่าไม่ชอบเราน่ะ (ตอนนั่นทำงานเซเว่นแล้ว) แค่นั้นแหล่ะ การเรียนปีสุดท้าย จะไม่รอดเลย อกหัก โทรสับโยนลงตู้ปลาห้องเพื่อน กินเหล้า 3 วัน ไม่กลับบ้านน้าเลย เพียงบอกว่า วันหยุดไม่ได้เรียนจะไปนอนห้องเพื่อน
ต่อมาปีที่ 6-7 เริ่มยังอยากจะไปเจอเค้าอีก เลยไปหาพ่อแม่เค้าตลอด ได้ไปเจอเค้ามีแฟนใหม่ หล่อ สูง ขาว แต่ไม่ได้เข้ามายู่ในบ้านนน่ะ เจอเพียงอยู่ข้างนอกตลอด เฮ้อคงหมดหวังแล้วล่ะ แต่ตอนนี้เราเริ่มมีการงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ พ่อแม่เค้าก้อถามอยู่เป็นประจำ อ้อลืม ผู้ ญ เค้าคนนั้นทำงานเป็นพนักงานเซเว่น อยู่มาได้ 4-5 ปีเหมือนกัน เราเองไปหา แต่เค้าก้อไม่ยอมให้เจอเลย แล้วอีกไม่นาน เค้าก้อเลิกกะผู้ ช คนนั้นแล้ว เราก้อไม่ได้รีรอ ขอเป็นแฟนเลยคราวนี้ เค้าก้อตอบตกลง ร็สึกดีใจจริงๆ 555+
แร่ะก้อต่อมา ได้ไปรับ ไปส่งบ้างไปหาบ้าง พอมาตอนหลังบอกกะเราไม่ต้องไปรับไปส่ง เดี๋ยวขับมอไซไปเอง ตอนนั้นเราก้อแอบไปบ้างไปดูท่าที่ มันคืออะไร ปากฏว่า มีผู้ชายคนหนึ่ง เค้าเป็น ผู้จัดการร้านเซเว่นเลยคราวนี้ แย่แน่เรา 555+ เตรียมตัวเตรียมใจอีกแร่ะ ผู้ ญ เค้าก็บอกเพียงว่าไว้ปรึกษาเรื่องงานอ่ะน่ะ ไม่มีไรหรอก มีอยู่วันนึง แอบไปหา เห็นเค้าซื้อของฝากให้กันกะตาเลยที่เดียว ไอ้เราไม่ได้จู่โจมเข้าไปหรอก เพียงรอให้เลิกงานก่อนจะถามว่ามันคืออะไร พอเลิกงานเสร็จเท่านั้นแร่ะ ขับรถไปบ้านแล้วไม่ยอมคุยกะเราเลย เรารอออยู่หน้าบ้าน ก้อยังไม่ยอมลงมาคุย เลยคิดดูว่าท่าทางอกหักแน่เรา หรือว่าเราจะเดือดใส่เค้าเลยกว่ามั่ง ก็งง ใจก็หาย ที่ไม่ได้คำตอบ เลยตัดสิ้นใจหยุดสักพัก
ปีที่ 8 - 11 เราก็วนเวียนไปหาก้อไปเจอกันบ้างยังไปรอรับที่เซเว่นบ้าง(แบบห่างๆ ไม่ได้สนิทเหมือนเก่าเพียงแค่รอเวลา) ตอนนี้เลยถามว่า ยังคุยกะคนนั้นอยู่มั่ย เค้าก็ตอบน่ะว่า คุยกะพี่เค้ารู้สึกดี เค้าตามใจทุกอย่าง (อ้าวแล้วเราล่ะ ก็ตามใจเหมือนกันนิ) มาคราวนี้ ทางบ้านผู้ ญ เค้ากำลังจะมีงานบวชน้องชาย อยู่ๆเค้ามาถามว่าจะไปงานมั่ย ไอ้เราก็ดีใจทันทีทันใดตอบเลยว่าไปซิไปยังงัย ผู้ ญ บอกเพียงว่า พาหนูกลับบ้านได้มั่ย ได้ซิได้เลย เรามีรถอะน่ะ พาไปได้เลย พอจะถึงวันงานเราเตรียมของเสร็จ ไปรับเค้าที่บ้าน นั่งขับรถยนต์ไป 10 ชม. (โอ้ยอารายนานปานนั้น) พอไปถึง ฝ่ายญาติพี่น้องดีใจที่เห็นเราพาลูกสาว หลานสาวเค้ากลับไปด้วย (ก็หยั่งว่าอ่ะน่ะ พ่อแม่เค้าชอบเรา ไม่ได้เข้าข้างตัวเองเลยเนาะ) งานก็เริ่ม ไอ้เราก็เข้าไปช่วยทุกอย่าง 4-5 วัน ลางานไป 7 วัน แต่เมื่ออยู่ในงานผู้ ญ เค้าคุยโทรสับกับคนพี่ที่บอกมา โอ้ยอยู่กะเราคุยกะใคร คุยไปคุยมา พี่สาวก็รู้ว่าคุยกะใคร พี่สาวด่าซะยับ (ทำมั่ยถึงรู้ล่ะ เจ้าตัวบอกมาว่าโดนด่าไม่ให้คุย บอกว่าคนทางนี้คือเราที่ดีกว่าทำมัยไม่เลือก) พอถึงเวลาขับรถกลับเมื่อวาน 15-02-58 ขับไปใจสั่นมาก เค้าบอกว่า ยังไม่ได้รักใคร อยากอยู่แบบนี้ แร่ะคุยกะพี่คนนั่น ก็รู้สึกดีเค้าตามใจทุกอย่าง ก็ว่าเนาะ ใจไม่ชอบ คนที่ใช่มันก็ใช่ คนไม่ใช่ก็ไม่ใช่
เอาล่ะไม่ได้แร่ะ ตัดสิ้นใจเลยบอกว่าเดี๋ยวให้แม่ไปขอปลายปีน่ะ (คราวนี้แร่ะ สงสัยว่าวัดดวงกันเลย ถ้าไม่ตกลงปรงใจ จะได้ไม่ต้องไปยุ่งกันอีก) ผู้ ญ ก็มาถามเราน่ะว่ารักเค้ามั่ย (งง 11ปี นี่ไม่เห็นเลยหรอ) ตอบไปว่ารักซิ ไม่รักจะมาอยู่ตรงนี้หรอ 11 ปีแล้วน่ะที่เรารู้จักกันมา ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ขอโอกาสได้มั่ยให้เรารู้จักกันมากขึ้นก่อนจะตัดสิ้นใจในปลายปีว่าเทอจะตอบฉันว่ายังงัย
(อยากรู้ว่าเค้าจะตัดสิ้นใจยังงัยน้อ)
น่าจะโดนบังคับหรือกดดันจากทางบ้านบ้างแน่ๆ กลัวจังแต่งไปใจไม่รัก
1.มีมั่ยที่จะไม่ชอบเลยคนอ้วน(เลือกคนอื่นที่เอาใจตัวเค้า)
2.ชอบผอมๆขาวๆตี๋ เป็นสเปคที่มั่นคงต่อตัวเค้าเอง(ก็ยังไม่รักใครจะรอจนกว่าจะเจอ)
3.เลือกความเหมาะสมหน้าที่การกันเพียงพอแล้ว(เลือกตัวผมเอง)
***ขอบคุณที่รักการอ่าน แร่ะยังอ่านจนจบเรื่องของผม (มีเยอะกว่านี้แต่ตัดลงมา)***
เรื่องเดิมๆกับความรักที่รู้จักมา 12 ปีจะแสนดีหรือแสนเศร้า
เท้าความก่อนน่ะครับ ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบฟังครอบครัว หรือพูดได้ว่า ลูกแง่ ทำอะไร ต้องปรึกษาทางบ้านตลอด ตอนนี้ผมอายุ 30 แล้วก้อยังเขื่อว่าผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนน่ะจะเป็นที่ให้คำแน่ะนำที่ดี
ครับมาถึงเรื่องผมจะเล่าให้ฟัง ผมเป็นคนบ้านนนอกเข้า กทม. รู้จักผู้ ญ คนหนึ่งได้ก็เพราะบ้านเช่าเราใกล้กันที่ในหมู่บ้าน ครอบครับผู้ ญ เค้ามีอาชีพค้าขายรถกับข้าว ส่วนผมอาศัยอยู่กะน้า เลยได้มาเจอกันเพราะเค้าช่วยทางบ้านขายของ ผมเองยังเรียนอยู่แล้วน้าก้อชอบใช้ไปซื้อตลอด ด้วยความมีมิตรไมตรีต่อกัน จะได้รู้จักกันมาขึ้น ตอนนี้ผมเองเป็นคนรูปร่างใหญ่ อ้วน ดำ จีบยังงัยเค้าก้อได้แค่คุยด้วย พ่อแม่เค้าก้อไม่ได้ว่าอาไร เพราะเราเข้าตามตรอก ออกตามประตู โดยไม่มีอะไรผิด พ่อกะแม่เค้าก็ชอบเราน่ะ แต่ส่วนตัวเค้ายังไม่ได้คิดอะไรเลยมั่ง
จากนั้นผมเริ่มสนิทกับครอบครัวเค้ามากขึ้น พ่อกะแม่เค้าก้อดี ยังมีมาช่วนไปเที่ยวบ้านนอกเค้าด้วย ไปดูบังไฟพญานาค โอยดีใจจังได้ไปเที่ยวด้วย แต่ผู้ ญ คนนั้นก้อยังไม่มีทีท่าคิดกะเราเลย เอ้ทำงัยดี เลยตัดสินใจลองมาทำความรู้จักกันมั่ย ขอเบอร์มา ได้คุยกันบ้างตอนดึกทางโทรสับกันมา 2-3 ปี
เกิดเหตุขึ้นล่ะคราวนี้ มีคนมาซื้อของมาจีบเค้า เอายังงัยดีล่ะที่นี้ หล่อ สูง จะสู้เค้าได้ป่าวน้อ ไอ้เราอ้วน ดำก็ดำ ไม่เป็นไร เราคิดว่าเค้าคงชอบแบบนี้มั่ง ก็แอบคิดน้อยใจอยู่เหมือนกัน ไม่ได้เราต้องไม่เลิกล้มความตั้งใจ
พอเข้าสู่ปีที่รู้จัก 5-6 เราร็สึกว่าผู้ ญ คนนี้มีอำนาจกะเราซะเหลือเกิน คงขาดไม่ได้แน่ๆ อายุเรา 24 ส่วนเค้า 23 เราจะเรียนจบวิศวะในปีสุดท้าย เกิดอาการไม่คาดคิด ผู้ ญ มาถามเรา แล้วบอกกะเราว่าไม่ชอบเราน่ะ (ตอนนั่นทำงานเซเว่นแล้ว) แค่นั้นแหล่ะ การเรียนปีสุดท้าย จะไม่รอดเลย อกหัก โทรสับโยนลงตู้ปลาห้องเพื่อน กินเหล้า 3 วัน ไม่กลับบ้านน้าเลย เพียงบอกว่า วันหยุดไม่ได้เรียนจะไปนอนห้องเพื่อน
ต่อมาปีที่ 6-7 เริ่มยังอยากจะไปเจอเค้าอีก เลยไปหาพ่อแม่เค้าตลอด ได้ไปเจอเค้ามีแฟนใหม่ หล่อ สูง ขาว แต่ไม่ได้เข้ามายู่ในบ้านนน่ะ เจอเพียงอยู่ข้างนอกตลอด เฮ้อคงหมดหวังแล้วล่ะ แต่ตอนนี้เราเริ่มมีการงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ พ่อแม่เค้าก้อถามอยู่เป็นประจำ อ้อลืม ผู้ ญ เค้าคนนั้นทำงานเป็นพนักงานเซเว่น อยู่มาได้ 4-5 ปีเหมือนกัน เราเองไปหา แต่เค้าก้อไม่ยอมให้เจอเลย แล้วอีกไม่นาน เค้าก้อเลิกกะผู้ ช คนนั้นแล้ว เราก้อไม่ได้รีรอ ขอเป็นแฟนเลยคราวนี้ เค้าก้อตอบตกลง ร็สึกดีใจจริงๆ 555+
แร่ะก้อต่อมา ได้ไปรับ ไปส่งบ้างไปหาบ้าง พอมาตอนหลังบอกกะเราไม่ต้องไปรับไปส่ง เดี๋ยวขับมอไซไปเอง ตอนนั้นเราก้อแอบไปบ้างไปดูท่าที่ มันคืออะไร ปากฏว่า มีผู้ชายคนหนึ่ง เค้าเป็น ผู้จัดการร้านเซเว่นเลยคราวนี้ แย่แน่เรา 555+ เตรียมตัวเตรียมใจอีกแร่ะ ผู้ ญ เค้าก็บอกเพียงว่าไว้ปรึกษาเรื่องงานอ่ะน่ะ ไม่มีไรหรอก มีอยู่วันนึง แอบไปหา เห็นเค้าซื้อของฝากให้กันกะตาเลยที่เดียว ไอ้เราไม่ได้จู่โจมเข้าไปหรอก เพียงรอให้เลิกงานก่อนจะถามว่ามันคืออะไร พอเลิกงานเสร็จเท่านั้นแร่ะ ขับรถไปบ้านแล้วไม่ยอมคุยกะเราเลย เรารอออยู่หน้าบ้าน ก้อยังไม่ยอมลงมาคุย เลยคิดดูว่าท่าทางอกหักแน่เรา หรือว่าเราจะเดือดใส่เค้าเลยกว่ามั่ง ก็งง ใจก็หาย ที่ไม่ได้คำตอบ เลยตัดสิ้นใจหยุดสักพัก
ปีที่ 8 - 11 เราก็วนเวียนไปหาก้อไปเจอกันบ้างยังไปรอรับที่เซเว่นบ้าง(แบบห่างๆ ไม่ได้สนิทเหมือนเก่าเพียงแค่รอเวลา) ตอนนี้เลยถามว่า ยังคุยกะคนนั้นอยู่มั่ย เค้าก็ตอบน่ะว่า คุยกะพี่เค้ารู้สึกดี เค้าตามใจทุกอย่าง (อ้าวแล้วเราล่ะ ก็ตามใจเหมือนกันนิ) มาคราวนี้ ทางบ้านผู้ ญ เค้ากำลังจะมีงานบวชน้องชาย อยู่ๆเค้ามาถามว่าจะไปงานมั่ย ไอ้เราก็ดีใจทันทีทันใดตอบเลยว่าไปซิไปยังงัย ผู้ ญ บอกเพียงว่า พาหนูกลับบ้านได้มั่ย ได้ซิได้เลย เรามีรถอะน่ะ พาไปได้เลย พอจะถึงวันงานเราเตรียมของเสร็จ ไปรับเค้าที่บ้าน นั่งขับรถยนต์ไป 10 ชม. (โอ้ยอารายนานปานนั้น) พอไปถึง ฝ่ายญาติพี่น้องดีใจที่เห็นเราพาลูกสาว หลานสาวเค้ากลับไปด้วย (ก็หยั่งว่าอ่ะน่ะ พ่อแม่เค้าชอบเรา ไม่ได้เข้าข้างตัวเองเลยเนาะ) งานก็เริ่ม ไอ้เราก็เข้าไปช่วยทุกอย่าง 4-5 วัน ลางานไป 7 วัน แต่เมื่ออยู่ในงานผู้ ญ เค้าคุยโทรสับกับคนพี่ที่บอกมา โอ้ยอยู่กะเราคุยกะใคร คุยไปคุยมา พี่สาวก็รู้ว่าคุยกะใคร พี่สาวด่าซะยับ (ทำมั่ยถึงรู้ล่ะ เจ้าตัวบอกมาว่าโดนด่าไม่ให้คุย บอกว่าคนทางนี้คือเราที่ดีกว่าทำมัยไม่เลือก) พอถึงเวลาขับรถกลับเมื่อวาน 15-02-58 ขับไปใจสั่นมาก เค้าบอกว่า ยังไม่ได้รักใคร อยากอยู่แบบนี้ แร่ะคุยกะพี่คนนั่น ก็รู้สึกดีเค้าตามใจทุกอย่าง ก็ว่าเนาะ ใจไม่ชอบ คนที่ใช่มันก็ใช่ คนไม่ใช่ก็ไม่ใช่
เอาล่ะไม่ได้แร่ะ ตัดสิ้นใจเลยบอกว่าเดี๋ยวให้แม่ไปขอปลายปีน่ะ (คราวนี้แร่ะ สงสัยว่าวัดดวงกันเลย ถ้าไม่ตกลงปรงใจ จะได้ไม่ต้องไปยุ่งกันอีก) ผู้ ญ ก็มาถามเราน่ะว่ารักเค้ามั่ย (งง 11ปี นี่ไม่เห็นเลยหรอ) ตอบไปว่ารักซิ ไม่รักจะมาอยู่ตรงนี้หรอ 11 ปีแล้วน่ะที่เรารู้จักกันมา ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ขอโอกาสได้มั่ยให้เรารู้จักกันมากขึ้นก่อนจะตัดสิ้นใจในปลายปีว่าเทอจะตอบฉันว่ายังงัย
(อยากรู้ว่าเค้าจะตัดสิ้นใจยังงัยน้อ) น่าจะโดนบังคับหรือกดดันจากทางบ้านบ้างแน่ๆ กลัวจังแต่งไปใจไม่รัก
1.มีมั่ยที่จะไม่ชอบเลยคนอ้วน(เลือกคนอื่นที่เอาใจตัวเค้า)
2.ชอบผอมๆขาวๆตี๋ เป็นสเปคที่มั่นคงต่อตัวเค้าเอง(ก็ยังไม่รักใครจะรอจนกว่าจะเจอ)
3.เลือกความเหมาะสมหน้าที่การกันเพียงพอแล้ว(เลือกตัวผมเอง)
***ขอบคุณที่รักการอ่าน แร่ะยังอ่านจนจบเรื่องของผม (มีเยอะกว่านี้แต่ตัดลงมา)***