เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้ดิฉันกับแม่และหลานสาวอายุ 2 ขวบ ไปซื้อของที่ห้างเดอะมอล์งาวงศ์วานขากลับก็ไปยืนรอแท็กซี่ในจุดที่ทางห้างเตรียมไว้บริการลูกค้าตามปกติ พอขึ้นรถมาได้สักครึ่งทางแม่ก็บีบมือดิฉัน ซึ่งไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเพราะมั่วแต่คุยเล่นกับหลานอยู่ ดิฉันก็หันหน้าไปมองแม่ว่าท่านบีบมือดิฉันทำไม แม่ก็พูดเสียงเบาว่ามิเตอร์ ดิฉันจึงหันไปมองไปที่มิเตอร์ปรากฏว่ามันขึ้นเป็นตัวเลขหลักร้อยบาทแล้วซึ่งรถวิ่งมาเพียงแค่ครึ่งทางเท่านั้น ซึ่งปกติราคาที่ดิฉันเคยนั้นจากเดอะมอล์มาที่บ้านจะอยู่ประมาณ 95 - 100 บาท แต่ถ้ารถติดก็ไม่เกิน 130 บาท ดิฉันไปซื้อของที่ห้างนี้บ่อยแทบจะทุกอาทิตย์และค่าโดยสารทุกครั้งไม่เคยเกินราคานี้ แต่ว่าตอนนี้วิ่งมาได้ครึ่งทางราคาค่าโดยสารขึ้นหลักร้อยแล้วซึ่งรถก็ไม่ติด ดิฉันคิดว่าโดนโกงแน่ตาจึงจ้องที่มิเตอร์ตลอดเชื่อไหมว่าไม่ถึงนาทีมิเตอร์ขึ้นครั้งละ 2 บาท โอ้วแม่เจ้าทำไมมิเตอร์มันถึงได้ขึ้นเร็วขนาดนี้ ดิฉันจึงจะถามคนขับ แต่แม่ก็ส่ายหัวบอกว่าไม่ต้องเพราะแม่ไม่อยากมีปัญหาและอีกอย่างก็มีแต่ผู้หญิง ดิฉันจึงได้แต่นั่งเงียบกว่าจะถึงบ้านมิเตอร์ปาเข้าไป 170 บาท  ด้วยความสะเพร่าบวกกับความโกรธที่ทำอะไรไม่ได้ ดิฉันจึงลืมถ่ายรูปป้ายทะเบียนกับป้ายข้างรถไว้จำได้แต่ว่ารถแท็กซี่คันนี้สีเหลือง น้ำเงิน สภาพรภเก่ามากดูจากภายนอกคงไม่มีใครอยากขึ้นแต่ดิฉันจำใจต้องขึ้นเพราะเลือกไม่ได้