สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกชาวพันทิพทุกท่าน
คราวนี้ผมจะมารีวิวใช้งานนาฬิกาอัฉริยะหรือที่เรียกกันหรูๆว่า Smart Watch
โดยเครื่องที่ผมเอามาใช้งานนี้เป็นของค่าย LG มีชื่อรุ่นคือ G WATCH R นั่นเองครับ
======เกริ่นนำก่อน ทำไมถึงซื้อเรือนนี้======
เนื่องจากเดิมผมเป็นคนที่ไม่ได้ใส่นาฬิกามาสิบกว่าปีแล้ว มันรู้สึกว่าเราจะมาควักโทรศัพท์มือถือเพื่อจะดูเวลาออกจะลำบากไปสักหน่อย(โดยเฉพาะตอนที่ใส่กางเกงยีน) จะไปซื้อนาฬิกาข้อมือทั่วๆไปก็ออกจะธรรมดา ไหนๆผมก็เป็นคนที่ทำงานทางด้าน IT อยู่แล้วก็พบกับนาฬิกา smart watch โดยตอนนั้นมีเพียง samsung เจ้าเดียวที่มีขายในไทย แต่ดันโดนมัดมือชกให้ไปใช้กับมือถือตัวเองเท่านั้น ไอ้เราใช้ Nexus4 ก็ใช้ไม่ได้น่ะสิครับ จะขายรับประทานเพื่อซื้อเครื่องใหม่ให้เข้ากับนาฬิกาก็ไม่ใช่เรื่อง ยิ่งผมค้นหาเกี่ยวกับ smart watch มากขึ้น มันก็มีหลากหลายมากขึ้น ตอนนั้นก็มี pebble มาแล้วเราจะไปหาซื้อได้ที่ไหน เรามันก็คนชนบท รู้ได้แค่ว่าในห้าง MBK มันมีโซนขายมือถือหิ้วมาก็เท่านั้น
จนกระทั่งทางกูเกิลออกระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์สวมใส่โดยมีชื่อว่า Android Wear โอ้ว!!! ผมเห็นทางสว่างแล้ว หลังจากนั้นก็มีนาฬิกาที่เป็น Android Wear อยู่ 4-5รุ่น แต่ไม่เห็นเข้าไทยสักกะรุ่น แม้แต่ของ samsung ก็ยังไม่เข้าเลย ให้ตายเถอะ
โดยโจทย์ที่ผมต้องการตอนนั้นคืออยากได้นาฬิกาที่มี sensor ออกกำลังกาย และมี Heart Rate sensor ด้วย ผมจะเอาไปใช้ตอนปั่นจักรยาน โดยตัวเลือกมีตอนนั้นคือ MOTO360,G Watch R และ Wellograph ตัดตัวเลือก samsung ออกไปเพราะมันเข้ากันไม่ได้กับมือถือของผมเอง จริงๆผมชอบตัว Wellograph นะมันเป็นอุปกรณ์ที่สำหรับคู่กับการออกกำลังกายโดยเฉพาะแถมใช้ได้กับมือถือทุกระบบด้วย แต่ด้วยที่ว่าราคาสูงไปนิดและความสามารถอย่างอื่นมีค่อนข้างน้อย เลยจนใจตัดตัวเลือก Wellograph ออกไป ส่วน MOTO360 นั้นผมชอบที่ดูหรูมากราวๆกับ Rolex แต่เนื่องด้วยการออกแบบที่ดูหรูกลัวว่าจะเอาไปใช้งานออกกำลังกายเดี๋ยวจะเป็นรอยไปซะก่อน ผมต้องการให้มันถึกๆนิดนึง จะรอ sony smartwatch3 ก็ดันไม่มี Heart Rate sensor มาอีก สุดท้ายเหลือตัวเลือกเดียวและเอามาใช้ในคราวนี้ครับ
เครื่องที่ผมซื้อมานี้เป็นแบบสีดำครับ(ที่ร้านมีขายสีเดียว) และเป็นเครื่องนำเข้าด้วยครับ(ยังไม่มีวางขายในไทยอย่างเป็นทางการ) ซึ่งก็แบบเดียวกับ MOTO360 ครับ
ผมรีวิวการใช้งาน งั้นผมไม่ขอแกะกล่องให้ท่านรับชมนะครับ เอาหลังกล่องระบุสเปคไปดูก่อนครับ
อ่อ รีวิวแกะกล่องสามารถรับชมได้ที่นี่
http://xenonart.com/2014/11/07/review-lg-watch-r-specs/
อันนี้วีดิโอ
ของผมจะต่างจากทั้งสองที่มาตรงที่ผมไม่มีอแดปเตอร์แปลงปลั๊กหัวกลมมาให้ครับ
ตัวเครื่องรุ่นนี้ต่างจากตัว G WATCH ธรรมดาตรงที่หน้าปัดวงกลม ใช้จอ OLED และมี Heart rate sensor ครับ(มีรายละเอียดต่างไปอีกก็ไปดูเปรียบเทียบเพิ่มเติมเอาเองนะครับ)
ก่อนอื่นและก่อนจะซื้อต้องดูเครื่องโทรศัพท์ของตัวเองก่อนว่ารองรับการใช้งาน Android Wear หรือเปล่า โดยที่กูเกิลระบุว่าต้องเป็นแอนดรอยเวอร์ชัน 4.3 ขึ้นไป ใครใช้เก่ากว่านี้แต่อัพได้ก็อัพเกรดก่อนนะครับ
ถัดมาให้ตรวจสอบหน้าเว็บว่าสามารถใช้งานร่วมกับแอพ Android Wear ได้หรือไม่ ให้เปิดเว็บนี้ในมือถือ
http://www.android.com/wear/check
ถ้าขึ้นรูปมือถือและนาฬิกาเป็นสีเขียว แสดงว่าเครื่องของท่านสนับสนุน Android Wear แล้วครับ
และโหลดแอพ Android Wear มาติดตั้งในเครื่องก่อนครับ
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.google.android.wearable.app
สิ่งที่สำคัญของการใช้งานนาฬิการเรือนนี้คือ การจับคู่กับโทรศัพท์มือถือหรือแทปเล็ต มันจะไม่สามารถใช้งานได้เลยถ้าไม่ได้จับคู่กับมือถือตั้งแต่แรก
ก็เปิดบลูทูธจับคู่กันก่อนครับ ผมว่าการจับคู่บลูทูธไม่น่าจะมีอะไรยาก และเปิดแอพ Android Wear ขึ้นมา ตัวนาฬิกาจะมีตั้งค่าและโหลดเตรียมข้อมูลและติดตั้งแอพที่รองรับให้อัตโนมัติซึ่งใช้เวลานานมากราวๆ10นาทีได้ เสร็จแล้วตัวนาฬิกาก็แสดงหน้าปัดนาฬิกาซึ่งปรับเวลาตามมือถือแบบเป๊ะๆให้เลยครับ
หน้าจอแอพ Android Wear เมื่อจับคู่เสร็จแล้ว
ตอนที่ผมได้เครื่องมานั้น ตัวซอฟแวร์ในเรือนยังเป็น 4.4W1 อยู่ครับโดยตัวแอพในมือถือจะส่งอัพเดตไปให้อัตโนมัติซึ่งล่าสุดคือเวอร์ชัน 5.0.1 ครับ
ผมทดสอบโดยการปิดบลูทูธในมือถือ ผลคือนาฬิกายังเดินได้ปกติ แต่แอพในนาฬิกาแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยครับ อย่างมากก็ได้แค่วัดชีพจรครับ
เมื่อเครื่องนาฬิกาขาดการติดต่อกับมือถือ จะขึ้นเป็นรูปก้อนเมฆแล้วมีขีดฆ่าครับ
จุดสังเกตของผมคือตอนที่ไม่ได้ติดต่อกับมือถือแล้วปิดเปิดตัวนาฬิกาใหม่ ปรากฎว่ามันไม่จำว่าเวลาเดิมนั้นกี่โมง วันที่เท่าไหร่ อาการเหมือนมือถือเอาแบตออกยังไงยังงั้น แต่พอติดต่อกันได้แล้ว เวลาก็เดินตรงปกติ
และจุดสังเกตอีกอย่างคือผมปิดเน็ตที่มือถือ ตัวนาฬิกาจะขึ้น Offline ไม่ตอบสนองต่อคำสั่งเสียงครับ แต่แอพบางตัวยังคงใช้งานได้
ดังนั้นจะให้ทำงานเต็มที่จะต้องเชื่อมต่อกับมือถือตลอดเวลาและมือถือต้องมีเน็ตด้วยครับ
ที่พิเศษกว่านาฬิกาธรรมดาตรงที่สามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาของนาฬิกาได้ เป็นแบบเข็มหรือตัวเลขดิจิตอลก็ยังได้ แถมโหลดตัวหน้าปัดจาก Play store ได้อีก(แต่ต้องโหลดในมือถือนะครับ)
การแจ้งเตือนนั้นเมื่อมีการแจ้งเตือนในมือถือ ตัวนาฬิกาก็จะสั่นและเด้งการแจ้งเตือนขึ้นมา อ่อ ตัวนาฬิกา
ไม่มีเสียง นะครับ
การใช้งานในตัวนาฬิกาจะไม่ได้มีอะไรมาก ก็คือปัดจากบนลงล่างก็จะเป็นตั้งค่าแจ้งเตือน ความสว่าง และตั้งค่าเครื่อง
ปัดจากซ้ายไปขวาเป็นการปิดแอพ ดีดการแจ้งเตือนทิ้ง
ปัดจากขวาไปซ้ายก็จะแสดงเมนูเพิ่มเติมของการแจ้งเตือนหรือแอพนั้นๆ
ปัดจากล่างขึ้นบนเป็นการแสดงรายการที่ตั้งค่ามาจาก Google Now ครับ ไม่ว่าจะเป็นพยากรณ์อากาศ ฟุตบอล หุ้น เดินวิ่งออกกำลังกาย
และสิ่งที่ผมตัดสินใจซื้อก็เพื่องานออกกำลังกายนั่นก็คือปั่นจักรยานนั่นเอง
ผมได้ทำการติดตั้งแอพ 2ตัวคือ Runtastic Roadbike กับ Endomondo
แต่ว่าตัวแอพ Runtastic Roadbike นั้นไม่รองรับนาฬิการุ่นนี้ (แอบเซ็ง) แต่ว่าแอพ Runtastic Running & Fitness สามารถใช้งานได้ครับ ถ้าใครวิ่งแล้วใช้แอพนี้อยู่ก็สามารถใช้งานกับนาฬิกาเรือนนี้ได้เลยครับ
และเป็นที่น่าดีใจที่แอพ Endomondo นั้นรองรับนาฬิกา Android Wear ด้วยครับซึ่งก็ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นยี่ห้อใด คุณจะซื้อ MOTO360,Gear live,G WATCH ตัวแรก,ZENWATCH ก็สามารถใช้ร่วมกับแอพ Endomondo ได้ครับ แถมมีเมนูเปิดปิดการใช้งาน Heart rate sensor ได้ด้วย
จากนั้นทำการทดสอบแอพ Endomondo ทำงานร่วมกับนาฬิกา Android Wear เรือนนี้โดยการปั่นจักรยานซึ่งวันนั้นผมปั่นไปทำงานพอดีเลยทดสอบซะทีเดียวเลยครับ
ตอนที่เปิดแอพ Endomondo ในนาฬิกาตัววัดชีพจรจะทำงานเป็นแสงสีเขียว
จุดสังเกตคือกว่าแอพทั้งตัวนาฬิกาและมือถือพร้อมทำงานและจับเวลานั้นมันเหมือนจะรออะไรสักอย่างอยู่ กดเริ่มไปแล้วมันเหมือนไม่ตอบสนอง ต้องรอสัก10-15วินาทีถึงจะพร้อมทำงาน
ผลการทดสอบเป็นแบบนี้ครับ
เป็นการปั่นเรื่อยๆครับตามประสาคนทำงาน ไม่ใช่นักซิ่งขาแรงแต่อย่างใดครับ
จุดสังเกตอยู่ที่กราฟชีพจรสีแดงนั้นมีค่าขึ้นๆลงๆทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้เปลี่ยนกระบวนท่าหรือจอดพักแต่อย่างใด ผมคิดว่ามันเกิดจากแสงรบกวนจากภายนอกเช่น แสงจากดวงอาทิตย์ ไปรบกวนการทำงานของเซนเซอร์ ทำให้ค่าที่ได้มาผิดเพี้ยน ผมว่ามันเหมาะสำหรับไว้วัดเวลาค่ำๆหรือจุดที่มีแสงรบกวนน้อย
เพราะฉะนั้น ค่าที่ได้จากการวัดนี้เอาไว้เป็นการอ้างอิงโดยเฉลี่ยเท่านั้น คงไม่สามารถวัดค่าละเอียดแบบ realtime ได้
ต่อมาคือการใช้พลังงาน
จริงๆผมทำใจไว้แล้วแหละครับว่าแบตมันต้องหมดเร็วอันเนื่องมาจากความจุอันน้อยนิด
การใช้งานทั่วไป มี Facebook,Line,ข้อความ,อีเมล เข้ามาบ้างไม่ถี่มากแล้วนานๆจะพลิกข้อมือมาดูสักที (เวลาปกติหน้าจอจะดับอยู่ ถ้าเราพลิกข้อมือ หน้าจอจะติดขึ้นมา) การใช้งานก็ตามรูป ถามว่าอยู่ได้นานไหม?? ผมคิดว่าน่าจะอยู่ได้ราวๆ 36 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ถ้ามีแจ้งเตือนน้อยๆ อาจจะอยู่นานประมาณ2วันเต็มๆ ถ้าใช้แอพที่เปิด sensor ชีพจรด้วย อาจจะอยู่ได้แค่ 24 ชั่วโมง
จากรูปตอนช่วงที่เป็นหยักนั้นคือตอนที่เปิดเซนเซอร์ชีพจรครับ
ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนล่ะก็กราฟดิ่งลงเหวแบบนี้อาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเป็นนาฬิกาล่ะก็อาจจะต้องคิดหน่อยว่ามันจะอยู่พอข้ามวันหรือข้ามคืนไหม ไปงานทำงานไกลๆจะต้องเตรียมแท่นชาร์จไว้หรือเปล่า หรือเอาไปวัดชีพจรตอนวิ่งหรือจักรยาน มันจะอยู่จนถึงบ้านหรือเปล่า ก็ลองคิดทบทวนดูว่ามันคุ้มค่าไหม สำหรับผมแล้วจะให้วางบนแท่นชาร์จทุกวันก็คงจะไม่ไหวถึงแม้จะชาร์จเร็วก็เถอะ(จาก30%-เต็มใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึง) น่าจะให้มันประหยัดแบตมากกว่านี้ อาจจะชาร์จวันเว้นวันก็ยังดี จะได้ไม่ต้องพะวงกังวลว่าแบตมันจะหมดเมื่อไหร่
สรุป
ข้อดี
1.ดูข้อความ,Facebook,Line,อีเมล ได้เลยโดยไม่ต้องควักมือถือเปิดดู
2.สามารถตอบข้อความจากข้อ1 ได้เลยโดยใช้คำสั่งเสียง(ใช้ความสามารถของ google now) ฟังไทยออกแถมแม่นด้วย
3.มี heart rate sensor วัดชีพจรตอนออกกำลังกายได้
4.ใช้เป็นรีโมทถ่ายรูปได้ด้วย เอาไว้ใช้กับไม้เซลฟี่แบบไม่มีปุ่มถ่ายรูปได้เลย แถมถ่ายแล้วยังโชว์รูปที่นาฬิกาด้วย
5.ใช้ได้กับมือถือแอนดรอยด์ทุกยี่ห้อแต่ต้องเป็นเวอร์ชัน 4.3 ขึ้นไป
6.สายนาฬิกาสามารถเปลี่ยนได้ ขนาด22mm
7.หน้าปัดเปลี่ยนแบบได้ โหลดเพิ่มได้
ข้อด้อย
1.ต้องเชื่อมต่อกับมือถือตลอดเวลา และมือถือต้องมีอินเทอร์เน็ตด้วย
2.heart rate sensor มีความเพี้ยนเยอะจากการถูกแสงรบกวน
3.แบตหมดเร็ว ต้องชาร์จแทบทุกวัน
4.ตัวเรือนดูขนาดใหญ่ อาจจะไม่เหมาะกับสาวๆหรือหนุ่มแขนเล็ก(อันนี้ก็แล้วแต่รสนิยม)
5.ราคาค่อนข้างสูง (ของผมเฉียดหมื่น)
6.ไม่มีการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย อาจจะไม่มีอะไหล่เมื่อมีปัญหาหรือต้องส่งศูนย์ต่างประเทศ
ึ7.ตัวเครื่องตอบสนองช้าไปนิด ตอนพลิกข้อมือเพื่อดูเวลา กว่าหน้าจอจะติดก็ใช้เวลาพอสมควร
จบการรีวิวเพียงเท่านี้ ราตรีสวัสดิ์ครับ
[CR] รีวิวใช้งาน LG G WATCH R : ใช้งานสะดวกพลัน แต่ชาร์จทุกวันก็ไม่ไหวนะ
คราวนี้ผมจะมารีวิวใช้งานนาฬิกาอัฉริยะหรือที่เรียกกันหรูๆว่า Smart Watch
โดยเครื่องที่ผมเอามาใช้งานนี้เป็นของค่าย LG มีชื่อรุ่นคือ G WATCH R นั่นเองครับ
======เกริ่นนำก่อน ทำไมถึงซื้อเรือนนี้======
เนื่องจากเดิมผมเป็นคนที่ไม่ได้ใส่นาฬิกามาสิบกว่าปีแล้ว มันรู้สึกว่าเราจะมาควักโทรศัพท์มือถือเพื่อจะดูเวลาออกจะลำบากไปสักหน่อย(โดยเฉพาะตอนที่ใส่กางเกงยีน) จะไปซื้อนาฬิกาข้อมือทั่วๆไปก็ออกจะธรรมดา ไหนๆผมก็เป็นคนที่ทำงานทางด้าน IT อยู่แล้วก็พบกับนาฬิกา smart watch โดยตอนนั้นมีเพียง samsung เจ้าเดียวที่มีขายในไทย แต่ดันโดนมัดมือชกให้ไปใช้กับมือถือตัวเองเท่านั้น ไอ้เราใช้ Nexus4 ก็ใช้ไม่ได้น่ะสิครับ จะขายรับประทานเพื่อซื้อเครื่องใหม่ให้เข้ากับนาฬิกาก็ไม่ใช่เรื่อง ยิ่งผมค้นหาเกี่ยวกับ smart watch มากขึ้น มันก็มีหลากหลายมากขึ้น ตอนนั้นก็มี pebble มาแล้วเราจะไปหาซื้อได้ที่ไหน เรามันก็คนชนบท รู้ได้แค่ว่าในห้าง MBK มันมีโซนขายมือถือหิ้วมาก็เท่านั้น
จนกระทั่งทางกูเกิลออกระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์สวมใส่โดยมีชื่อว่า Android Wear โอ้ว!!! ผมเห็นทางสว่างแล้ว หลังจากนั้นก็มีนาฬิกาที่เป็น Android Wear อยู่ 4-5รุ่น แต่ไม่เห็นเข้าไทยสักกะรุ่น แม้แต่ของ samsung ก็ยังไม่เข้าเลย ให้ตายเถอะ
โดยโจทย์ที่ผมต้องการตอนนั้นคืออยากได้นาฬิกาที่มี sensor ออกกำลังกาย และมี Heart Rate sensor ด้วย ผมจะเอาไปใช้ตอนปั่นจักรยาน โดยตัวเลือกมีตอนนั้นคือ MOTO360,G Watch R และ Wellograph ตัดตัวเลือก samsung ออกไปเพราะมันเข้ากันไม่ได้กับมือถือของผมเอง จริงๆผมชอบตัว Wellograph นะมันเป็นอุปกรณ์ที่สำหรับคู่กับการออกกำลังกายโดยเฉพาะแถมใช้ได้กับมือถือทุกระบบด้วย แต่ด้วยที่ว่าราคาสูงไปนิดและความสามารถอย่างอื่นมีค่อนข้างน้อย เลยจนใจตัดตัวเลือก Wellograph ออกไป ส่วน MOTO360 นั้นผมชอบที่ดูหรูมากราวๆกับ Rolex แต่เนื่องด้วยการออกแบบที่ดูหรูกลัวว่าจะเอาไปใช้งานออกกำลังกายเดี๋ยวจะเป็นรอยไปซะก่อน ผมต้องการให้มันถึกๆนิดนึง จะรอ sony smartwatch3 ก็ดันไม่มี Heart Rate sensor มาอีก สุดท้ายเหลือตัวเลือกเดียวและเอามาใช้ในคราวนี้ครับ
เครื่องที่ผมซื้อมานี้เป็นแบบสีดำครับ(ที่ร้านมีขายสีเดียว) และเป็นเครื่องนำเข้าด้วยครับ(ยังไม่มีวางขายในไทยอย่างเป็นทางการ) ซึ่งก็แบบเดียวกับ MOTO360 ครับ
ผมรีวิวการใช้งาน งั้นผมไม่ขอแกะกล่องให้ท่านรับชมนะครับ เอาหลังกล่องระบุสเปคไปดูก่อนครับ
อ่อ รีวิวแกะกล่องสามารถรับชมได้ที่นี่
http://xenonart.com/2014/11/07/review-lg-watch-r-specs/
อันนี้วีดิโอ
ของผมจะต่างจากทั้งสองที่มาตรงที่ผมไม่มีอแดปเตอร์แปลงปลั๊กหัวกลมมาให้ครับ
ตัวเครื่องรุ่นนี้ต่างจากตัว G WATCH ธรรมดาตรงที่หน้าปัดวงกลม ใช้จอ OLED และมี Heart rate sensor ครับ(มีรายละเอียดต่างไปอีกก็ไปดูเปรียบเทียบเพิ่มเติมเอาเองนะครับ)
ก่อนอื่นและก่อนจะซื้อต้องดูเครื่องโทรศัพท์ของตัวเองก่อนว่ารองรับการใช้งาน Android Wear หรือเปล่า โดยที่กูเกิลระบุว่าต้องเป็นแอนดรอยเวอร์ชัน 4.3 ขึ้นไป ใครใช้เก่ากว่านี้แต่อัพได้ก็อัพเกรดก่อนนะครับ
ถัดมาให้ตรวจสอบหน้าเว็บว่าสามารถใช้งานร่วมกับแอพ Android Wear ได้หรือไม่ ให้เปิดเว็บนี้ในมือถือ
http://www.android.com/wear/check
ถ้าขึ้นรูปมือถือและนาฬิกาเป็นสีเขียว แสดงว่าเครื่องของท่านสนับสนุน Android Wear แล้วครับ
และโหลดแอพ Android Wear มาติดตั้งในเครื่องก่อนครับ
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.google.android.wearable.app
สิ่งที่สำคัญของการใช้งานนาฬิการเรือนนี้คือ การจับคู่กับโทรศัพท์มือถือหรือแทปเล็ต มันจะไม่สามารถใช้งานได้เลยถ้าไม่ได้จับคู่กับมือถือตั้งแต่แรก
ก็เปิดบลูทูธจับคู่กันก่อนครับ ผมว่าการจับคู่บลูทูธไม่น่าจะมีอะไรยาก และเปิดแอพ Android Wear ขึ้นมา ตัวนาฬิกาจะมีตั้งค่าและโหลดเตรียมข้อมูลและติดตั้งแอพที่รองรับให้อัตโนมัติซึ่งใช้เวลานานมากราวๆ10นาทีได้ เสร็จแล้วตัวนาฬิกาก็แสดงหน้าปัดนาฬิกาซึ่งปรับเวลาตามมือถือแบบเป๊ะๆให้เลยครับ
หน้าจอแอพ Android Wear เมื่อจับคู่เสร็จแล้ว
ตอนที่ผมได้เครื่องมานั้น ตัวซอฟแวร์ในเรือนยังเป็น 4.4W1 อยู่ครับโดยตัวแอพในมือถือจะส่งอัพเดตไปให้อัตโนมัติซึ่งล่าสุดคือเวอร์ชัน 5.0.1 ครับ
ผมทดสอบโดยการปิดบลูทูธในมือถือ ผลคือนาฬิกายังเดินได้ปกติ แต่แอพในนาฬิกาแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยครับ อย่างมากก็ได้แค่วัดชีพจรครับ
เมื่อเครื่องนาฬิกาขาดการติดต่อกับมือถือ จะขึ้นเป็นรูปก้อนเมฆแล้วมีขีดฆ่าครับ
จุดสังเกตของผมคือตอนที่ไม่ได้ติดต่อกับมือถือแล้วปิดเปิดตัวนาฬิกาใหม่ ปรากฎว่ามันไม่จำว่าเวลาเดิมนั้นกี่โมง วันที่เท่าไหร่ อาการเหมือนมือถือเอาแบตออกยังไงยังงั้น แต่พอติดต่อกันได้แล้ว เวลาก็เดินตรงปกติ
และจุดสังเกตอีกอย่างคือผมปิดเน็ตที่มือถือ ตัวนาฬิกาจะขึ้น Offline ไม่ตอบสนองต่อคำสั่งเสียงครับ แต่แอพบางตัวยังคงใช้งานได้
ดังนั้นจะให้ทำงานเต็มที่จะต้องเชื่อมต่อกับมือถือตลอดเวลาและมือถือต้องมีเน็ตด้วยครับ
ที่พิเศษกว่านาฬิกาธรรมดาตรงที่สามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาของนาฬิกาได้ เป็นแบบเข็มหรือตัวเลขดิจิตอลก็ยังได้ แถมโหลดตัวหน้าปัดจาก Play store ได้อีก(แต่ต้องโหลดในมือถือนะครับ)
การแจ้งเตือนนั้นเมื่อมีการแจ้งเตือนในมือถือ ตัวนาฬิกาก็จะสั่นและเด้งการแจ้งเตือนขึ้นมา อ่อ ตัวนาฬิกา ไม่มีเสียง นะครับ
การใช้งานในตัวนาฬิกาจะไม่ได้มีอะไรมาก ก็คือปัดจากบนลงล่างก็จะเป็นตั้งค่าแจ้งเตือน ความสว่าง และตั้งค่าเครื่อง
ปัดจากซ้ายไปขวาเป็นการปิดแอพ ดีดการแจ้งเตือนทิ้ง
ปัดจากขวาไปซ้ายก็จะแสดงเมนูเพิ่มเติมของการแจ้งเตือนหรือแอพนั้นๆ
ปัดจากล่างขึ้นบนเป็นการแสดงรายการที่ตั้งค่ามาจาก Google Now ครับ ไม่ว่าจะเป็นพยากรณ์อากาศ ฟุตบอล หุ้น เดินวิ่งออกกำลังกาย
และสิ่งที่ผมตัดสินใจซื้อก็เพื่องานออกกำลังกายนั่นก็คือปั่นจักรยานนั่นเอง
ผมได้ทำการติดตั้งแอพ 2ตัวคือ Runtastic Roadbike กับ Endomondo
แต่ว่าตัวแอพ Runtastic Roadbike นั้นไม่รองรับนาฬิการุ่นนี้ (แอบเซ็ง) แต่ว่าแอพ Runtastic Running & Fitness สามารถใช้งานได้ครับ ถ้าใครวิ่งแล้วใช้แอพนี้อยู่ก็สามารถใช้งานกับนาฬิกาเรือนนี้ได้เลยครับ
และเป็นที่น่าดีใจที่แอพ Endomondo นั้นรองรับนาฬิกา Android Wear ด้วยครับซึ่งก็ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นยี่ห้อใด คุณจะซื้อ MOTO360,Gear live,G WATCH ตัวแรก,ZENWATCH ก็สามารถใช้ร่วมกับแอพ Endomondo ได้ครับ แถมมีเมนูเปิดปิดการใช้งาน Heart rate sensor ได้ด้วย
จากนั้นทำการทดสอบแอพ Endomondo ทำงานร่วมกับนาฬิกา Android Wear เรือนนี้โดยการปั่นจักรยานซึ่งวันนั้นผมปั่นไปทำงานพอดีเลยทดสอบซะทีเดียวเลยครับ
ตอนที่เปิดแอพ Endomondo ในนาฬิกาตัววัดชีพจรจะทำงานเป็นแสงสีเขียว
จุดสังเกตคือกว่าแอพทั้งตัวนาฬิกาและมือถือพร้อมทำงานและจับเวลานั้นมันเหมือนจะรออะไรสักอย่างอยู่ กดเริ่มไปแล้วมันเหมือนไม่ตอบสนอง ต้องรอสัก10-15วินาทีถึงจะพร้อมทำงาน
ผลการทดสอบเป็นแบบนี้ครับ
เป็นการปั่นเรื่อยๆครับตามประสาคนทำงาน ไม่ใช่นักซิ่งขาแรงแต่อย่างใดครับ
จุดสังเกตอยู่ที่กราฟชีพจรสีแดงนั้นมีค่าขึ้นๆลงๆทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้เปลี่ยนกระบวนท่าหรือจอดพักแต่อย่างใด ผมคิดว่ามันเกิดจากแสงรบกวนจากภายนอกเช่น แสงจากดวงอาทิตย์ ไปรบกวนการทำงานของเซนเซอร์ ทำให้ค่าที่ได้มาผิดเพี้ยน ผมว่ามันเหมาะสำหรับไว้วัดเวลาค่ำๆหรือจุดที่มีแสงรบกวนน้อย
เพราะฉะนั้น ค่าที่ได้จากการวัดนี้เอาไว้เป็นการอ้างอิงโดยเฉลี่ยเท่านั้น คงไม่สามารถวัดค่าละเอียดแบบ realtime ได้
ต่อมาคือการใช้พลังงาน
จริงๆผมทำใจไว้แล้วแหละครับว่าแบตมันต้องหมดเร็วอันเนื่องมาจากความจุอันน้อยนิด
การใช้งานทั่วไป มี Facebook,Line,ข้อความ,อีเมล เข้ามาบ้างไม่ถี่มากแล้วนานๆจะพลิกข้อมือมาดูสักที (เวลาปกติหน้าจอจะดับอยู่ ถ้าเราพลิกข้อมือ หน้าจอจะติดขึ้นมา) การใช้งานก็ตามรูป ถามว่าอยู่ได้นานไหม?? ผมคิดว่าน่าจะอยู่ได้ราวๆ 36 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ถ้ามีแจ้งเตือนน้อยๆ อาจจะอยู่นานประมาณ2วันเต็มๆ ถ้าใช้แอพที่เปิด sensor ชีพจรด้วย อาจจะอยู่ได้แค่ 24 ชั่วโมง
จากรูปตอนช่วงที่เป็นหยักนั้นคือตอนที่เปิดเซนเซอร์ชีพจรครับ
ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนล่ะก็กราฟดิ่งลงเหวแบบนี้อาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเป็นนาฬิกาล่ะก็อาจจะต้องคิดหน่อยว่ามันจะอยู่พอข้ามวันหรือข้ามคืนไหม ไปงานทำงานไกลๆจะต้องเตรียมแท่นชาร์จไว้หรือเปล่า หรือเอาไปวัดชีพจรตอนวิ่งหรือจักรยาน มันจะอยู่จนถึงบ้านหรือเปล่า ก็ลองคิดทบทวนดูว่ามันคุ้มค่าไหม สำหรับผมแล้วจะให้วางบนแท่นชาร์จทุกวันก็คงจะไม่ไหวถึงแม้จะชาร์จเร็วก็เถอะ(จาก30%-เต็มใช้เวลาประมาณชั่วโมงนึง) น่าจะให้มันประหยัดแบตมากกว่านี้ อาจจะชาร์จวันเว้นวันก็ยังดี จะได้ไม่ต้องพะวงกังวลว่าแบตมันจะหมดเมื่อไหร่
สรุป
ข้อดี
1.ดูข้อความ,Facebook,Line,อีเมล ได้เลยโดยไม่ต้องควักมือถือเปิดดู
2.สามารถตอบข้อความจากข้อ1 ได้เลยโดยใช้คำสั่งเสียง(ใช้ความสามารถของ google now) ฟังไทยออกแถมแม่นด้วย
3.มี heart rate sensor วัดชีพจรตอนออกกำลังกายได้
4.ใช้เป็นรีโมทถ่ายรูปได้ด้วย เอาไว้ใช้กับไม้เซลฟี่แบบไม่มีปุ่มถ่ายรูปได้เลย แถมถ่ายแล้วยังโชว์รูปที่นาฬิกาด้วย
5.ใช้ได้กับมือถือแอนดรอยด์ทุกยี่ห้อแต่ต้องเป็นเวอร์ชัน 4.3 ขึ้นไป
6.สายนาฬิกาสามารถเปลี่ยนได้ ขนาด22mm
7.หน้าปัดเปลี่ยนแบบได้ โหลดเพิ่มได้
ข้อด้อย
1.ต้องเชื่อมต่อกับมือถือตลอดเวลา และมือถือต้องมีอินเทอร์เน็ตด้วย
2.heart rate sensor มีความเพี้ยนเยอะจากการถูกแสงรบกวน
3.แบตหมดเร็ว ต้องชาร์จแทบทุกวัน
4.ตัวเรือนดูขนาดใหญ่ อาจจะไม่เหมาะกับสาวๆหรือหนุ่มแขนเล็ก(อันนี้ก็แล้วแต่รสนิยม)
5.ราคาค่อนข้างสูง (ของผมเฉียดหมื่น)
6.ไม่มีการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย อาจจะไม่มีอะไหล่เมื่อมีปัญหาหรือต้องส่งศูนย์ต่างประเทศ
ึ7.ตัวเครื่องตอบสนองช้าไปนิด ตอนพลิกข้อมือเพื่อดูเวลา กว่าหน้าจอจะติดก็ใช้เวลาพอสมควร
จบการรีวิวเพียงเท่านี้ ราตรีสวัสดิ์ครับ