จะมาบอกต่อๆกันกับสิ่งที่โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬาทำค่ะอมยิ้ม02เป็นอะไรที่ประทับใจมากกถึงมากที่สุด
น้องหมาเราป่วยค่ะ เป็นโรคไวรัสลำไส้อักเสบชนิดรุนแรง เลยไปรักษาที่แรกที่ รพส ย่านท่าพระ ให้น้ำเกลือทางผิวหนัง ซึ่งเราแปลกใจค่ะ ว่าเป็นหนักขนาดนี้ทำไมให้ทางผิวหนัง ซึ่งมันดูดซึมช้านะค่ะ และที่นี้ไม่รับแอดมิดค่ะเพราะน้องหมาเราป่วยหนักและกลัวไปติดน้องหมาของเขา รักษาอยู่หลายวันค่ะ หมดไปเป็นพันก็ไม่หาย เลยกลับมาให้ทานโยเกริ์ต ก็ยังมีอาเจียนกับถ่ายเป็นเลือดอยู่ จนเราท้อค่ะ ไม่อยากให้น้องหมาทรมาน แต่แม่เราไม่ท้อค่ะ บอกจะรักษาถึงที่สุด เราก็เลยค้นหาในกูเกิ้ลว่า รพสที่ไหนดีและราคาถูก จนไปเจอ รพสจุฬาฯค่ะ เรารีบไปวันนั้นเลยค่ะ ไปถึงก็ลงทะเบียนและได้คิวที่143 นี่ขนาดไป 8โมงยังได้คิวที่ 143ร้องไห้ แล้วพยาบาลก็ให้ไปรอที่ แผนกอายุรกรรมชั้น1ค่ะ (อย่างกะโรงพยาบาลคน55) เราก็นั่งรอจนถึงประมาน 9โมงกว่าๆ ก็ได้เข้าตรวจค่ะ เป็นอะไรที่โชคดีมากๆค่ะ ได้ตรวจกับคุณหมอที่ใจดีมากๆ และน่ารักมากๆเลยค่ะ คุณหมอจะตรวจประจำอยู่ห้อง3 หน้าตาใจดีค่ะ เวลายิ้มตาคุณหมอจะยิ้มตาปิดเลยค่ะ (น่ารักมากก)จุ๊บๆ และมีผู้ช่วยหมอเป็นผู้ชายออกแนวหนุงหนิงหน่อยค่ะ ที่สำคัญใจดีเช่นเดียวกันค่ะ พอเราเข้าไปถึงก็อธิบายตั้งแต่น้องหมาเราเริ่มเป็น จนไปหาหมอแถวท่าพระแล้วก็มานี้ หมอก็เข้าใจค่ะ เลยเริ่มทำการรักษา เรากะแม่บอกหมอว่า งบมีจำกัดนะค่ะ คุณหมอก็ตอบมาค่ะว่า "ไม่เป็นไรค่ะมีปัญหาบอกหมอได้ อะไรที่ไม่จำเป็นหมอจะตัดไปนะค่ะ" เราก็โอเคค่ะ แล้วพอหาเสร็จคุณหมอก็แถมพารองเปื้อนน้องหมามาค่ะ แล้วก็ให้น้ำเกลือ แล้วก็นัดมาอีกเรื่อยๆค่ะ จนวันที่3 เราไปไม่ทันรอบบ่ายโมง-บ่ายสาม เพราะคุณหมอจะอยู่ถึงแค่บ่ายสามค่ะ แต่เราไปถึงก็บ่ายสามสามนาทีร้องไห้เลยได้คิว 5โมงเย็น (ถ้ามา5โมง-2ทุ่มบวกค่านอกเวลาประมาณ100บาท แต่ถ้ามาหลังสองทุ่มจะบวกเพิ่ม450บาทค่ะ) แม่เราก็กะจะเดินไปดูว่าคุณหมออยู่มั้ย จะไปบอกว่ามาตามนัดนะไม่ได้ผิดนัดแค่มาสาย แต่พอคุณหมอเห็นก็ตกใจ และบอกว่า "คิดว่าจะไม่มาสะแล้วว" แม่เราก็บอกว่า"มาค่ะแต่มาไม่ทัน ได้รอบห้าโมงเลย" คุณหมอผู้ช่วยเลยไปกระซิบอะไรหมอสักอย่างคะ แล้วคุณหมอก็หันมาบอกแม่ว่า"รอแปบนึง เดี๋ยวตรวจให้" แม่เราอึ้งเลยค่ะ ดีใจมากเลย และก็ไม่ต้องเสียค่านอกเวลาด้วย อิอิเยี่ยม พอเข้าตรวจ หมอผู้ช่วยก็บอกว่า "เคสนี้รักเป็นพิเศษนะเนี่ย 55" เรากะแม่ก็ขอบคุณใหญ่เลยค่ะ แล้วก็กลับมาให้น้ำเกลือ พอตอนหมอจะกลับหมอก็เข้ามาดูน้องหมาเราก่อนกลับค่ะ น้องหมาเรานี่ จากป่วยๆลุกขึ้นกระดิกหางดีใจใหญ่เลย เหมือนกับว่าดีใจที่หมอมาหา คุณหมอและผู้ช่วยก็ติดตามอาการของน้องหมาเราอย่างดีนะค่ะ และรวมถึงน้องหมาแมวอื่นๆด้วย รวมถึงหมอและพยาบาลอื่นๆก็ดูแลดีค่ะ แม่บ้านคอยทำความสะอาดอย่างดีเลย เหมือนกับว่าเป็นโรงพยาบาลสัตว์เอกชนอย่างนั้นแหละ ค่าใช้จ่ายจนถึงวันสุดท้ายที่รักษารวมแล้ว2พันบาทค่ะ รักษาอยู่5วัน ตลอดการรักษาให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดค่ะและให้ยากลับมาทานบ้าน จนตอนนี้น้องหมาเราหายป่วยเป็นปลิดทิ้ง วิ่งเล่น ร่าเริง กลับมาซนเหมือนเดิมค่ะ แต่ก็ยังให้ทานอาหารสัตวแบบID เพราะระบบย่อยอาหารน้องหมาจะยังไม่ค่อยดี เราจำชื่อหมอไม่ได้ค่ะขอโทษด้วยนะค่ะ แต่รู้ว่าหมอจะประจำอยู่ห้อง3กะหมอผู้ช่วยชายใส่แว่น ต้องขอบคุณรพสจุฬาฯจริงๆที่รักษาน้องหมาเราจากอาการ50-50 จนตอนนี้ดีขึ้นเยอะมาก แถมยังไม่แพงอีก อมยิ้ม17
โรงพยาบาลสัตว์จุฬาฯ ทำแบบนี้ได้ไง!!
น้องหมาเราป่วยค่ะ เป็นโรคไวรัสลำไส้อักเสบชนิดรุนแรง เลยไปรักษาที่แรกที่ รพส ย่านท่าพระ ให้น้ำเกลือทางผิวหนัง ซึ่งเราแปลกใจค่ะ ว่าเป็นหนักขนาดนี้ทำไมให้ทางผิวหนัง ซึ่งมันดูดซึมช้านะค่ะ และที่นี้ไม่รับแอดมิดค่ะเพราะน้องหมาเราป่วยหนักและกลัวไปติดน้องหมาของเขา รักษาอยู่หลายวันค่ะ หมดไปเป็นพันก็ไม่หาย เลยกลับมาให้ทานโยเกริ์ต ก็ยังมีอาเจียนกับถ่ายเป็นเลือดอยู่ จนเราท้อค่ะ ไม่อยากให้น้องหมาทรมาน แต่แม่เราไม่ท้อค่ะ บอกจะรักษาถึงที่สุด เราก็เลยค้นหาในกูเกิ้ลว่า รพสที่ไหนดีและราคาถูก จนไปเจอ รพสจุฬาฯค่ะ เรารีบไปวันนั้นเลยค่ะ ไปถึงก็ลงทะเบียนและได้คิวที่143 นี่ขนาดไป 8โมงยังได้คิวที่ 143ร้องไห้ แล้วพยาบาลก็ให้ไปรอที่ แผนกอายุรกรรมชั้น1ค่ะ (อย่างกะโรงพยาบาลคน55) เราก็นั่งรอจนถึงประมาน 9โมงกว่าๆ ก็ได้เข้าตรวจค่ะ เป็นอะไรที่โชคดีมากๆค่ะ ได้ตรวจกับคุณหมอที่ใจดีมากๆ และน่ารักมากๆเลยค่ะ คุณหมอจะตรวจประจำอยู่ห้อง3 หน้าตาใจดีค่ะ เวลายิ้มตาคุณหมอจะยิ้มตาปิดเลยค่ะ (น่ารักมากก)จุ๊บๆ และมีผู้ช่วยหมอเป็นผู้ชายออกแนวหนุงหนิงหน่อยค่ะ ที่สำคัญใจดีเช่นเดียวกันค่ะ พอเราเข้าไปถึงก็อธิบายตั้งแต่น้องหมาเราเริ่มเป็น จนไปหาหมอแถวท่าพระแล้วก็มานี้ หมอก็เข้าใจค่ะ เลยเริ่มทำการรักษา เรากะแม่บอกหมอว่า งบมีจำกัดนะค่ะ คุณหมอก็ตอบมาค่ะว่า "ไม่เป็นไรค่ะมีปัญหาบอกหมอได้ อะไรที่ไม่จำเป็นหมอจะตัดไปนะค่ะ" เราก็โอเคค่ะ แล้วพอหาเสร็จคุณหมอก็แถมพารองเปื้อนน้องหมามาค่ะ แล้วก็ให้น้ำเกลือ แล้วก็นัดมาอีกเรื่อยๆค่ะ จนวันที่3 เราไปไม่ทันรอบบ่ายโมง-บ่ายสาม เพราะคุณหมอจะอยู่ถึงแค่บ่ายสามค่ะ แต่เราไปถึงก็บ่ายสามสามนาทีร้องไห้เลยได้คิว 5โมงเย็น (ถ้ามา5โมง-2ทุ่มบวกค่านอกเวลาประมาณ100บาท แต่ถ้ามาหลังสองทุ่มจะบวกเพิ่ม450บาทค่ะ) แม่เราก็กะจะเดินไปดูว่าคุณหมออยู่มั้ย จะไปบอกว่ามาตามนัดนะไม่ได้ผิดนัดแค่มาสาย แต่พอคุณหมอเห็นก็ตกใจ และบอกว่า "คิดว่าจะไม่มาสะแล้วว" แม่เราก็บอกว่า"มาค่ะแต่มาไม่ทัน ได้รอบห้าโมงเลย" คุณหมอผู้ช่วยเลยไปกระซิบอะไรหมอสักอย่างคะ แล้วคุณหมอก็หันมาบอกแม่ว่า"รอแปบนึง เดี๋ยวตรวจให้" แม่เราอึ้งเลยค่ะ ดีใจมากเลย และก็ไม่ต้องเสียค่านอกเวลาด้วย อิอิเยี่ยม พอเข้าตรวจ หมอผู้ช่วยก็บอกว่า "เคสนี้รักเป็นพิเศษนะเนี่ย 55" เรากะแม่ก็ขอบคุณใหญ่เลยค่ะ แล้วก็กลับมาให้น้ำเกลือ พอตอนหมอจะกลับหมอก็เข้ามาดูน้องหมาเราก่อนกลับค่ะ น้องหมาเรานี่ จากป่วยๆลุกขึ้นกระดิกหางดีใจใหญ่เลย เหมือนกับว่าดีใจที่หมอมาหา คุณหมอและผู้ช่วยก็ติดตามอาการของน้องหมาเราอย่างดีนะค่ะ และรวมถึงน้องหมาแมวอื่นๆด้วย รวมถึงหมอและพยาบาลอื่นๆก็ดูแลดีค่ะ แม่บ้านคอยทำความสะอาดอย่างดีเลย เหมือนกับว่าเป็นโรงพยาบาลสัตว์เอกชนอย่างนั้นแหละ ค่าใช้จ่ายจนถึงวันสุดท้ายที่รักษารวมแล้ว2พันบาทค่ะ รักษาอยู่5วัน ตลอดการรักษาให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดค่ะและให้ยากลับมาทานบ้าน จนตอนนี้น้องหมาเราหายป่วยเป็นปลิดทิ้ง วิ่งเล่น ร่าเริง กลับมาซนเหมือนเดิมค่ะ แต่ก็ยังให้ทานอาหารสัตวแบบID เพราะระบบย่อยอาหารน้องหมาจะยังไม่ค่อยดี เราจำชื่อหมอไม่ได้ค่ะขอโทษด้วยนะค่ะ แต่รู้ว่าหมอจะประจำอยู่ห้อง3กะหมอผู้ช่วยชายใส่แว่น ต้องขอบคุณรพสจุฬาฯจริงๆที่รักษาน้องหมาเราจากอาการ50-50 จนตอนนี้ดีขึ้นเยอะมาก แถมยังไม่แพงอีก อมยิ้ม17