อย่างเช่นความฝันของคนในครอบครัว พ่อแม่อะไรงี้ ผมอายุ 23 เพิ่งจบมาหมาดๆ จบนิติศาสตร์(รียนเพราะพ่อแม่บอกให้เรียน)
จริงๆตอนเรียนจบ ม.6 ผมไม่รู้หรอกครับว่าตัวเองชอบอะไร ฝันอยากทำอะไร เพราะยังมีความคิดแบบเด็กๆ เรียนๆไปให้จบแค่นั้น ไม่ได้วางแผนชีวิตอะไร เลยไม่ได้ตั้งใจว่าจะเรียนคณะอะไร พ่อเลยบอกให้เรียนนิติ เพราะตระกูลผมตั้งแต่ รุ่นทวดลงมาเป็นข้าราชการทั้งนั้น ไอพ่อผมก็อยากให้ผมเป็นมั่ง ผมก็เออ ออไป
แต่พอเรียนเค้าๆผ่านกระบวนการใช้ความคิด อยู่กับคนหมู่มาก หลากหลายความคิด หลากหลายความฝัน ตอนนั้นจากคนที่ไม่ได้ฝันอยากจะทำอะไร ก็เริ่มมีความคิดความฝันก่อตัวกันเป็นรูปเป็นร่างละ พอจบออกมา เอาละ ตั้งใจว่าจะตามฝันของตัวเองแบบไม่ได้ต้องไปเพิ่งพ่อแม่
ไอผมเพิ่งมารู้ว่าชอบภาษาต่างประเทศมากๆ ตอนนี้มีความรู้อยู่ ก็อังกฤษ กับญี่ปุ่น อีกทั้งทำงานอยู่ในแหล่งชุมชนที่ต้องใช้ภาษาต่างประเทศทุกครั้งในการสื่อสาร จากคนที่ไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษใส่ใคร จนตอนนี้แทบจะพุ่งเข้าไปคุยด้วย ขนาดภาษาญี่ปุ่นผมได้แค่บางคำ แต่มีความรู้สึกอยากจจะเข้าไปพูดกับคนญี่ปุ่นมากๆ เคยพูดกับคนญี่ปุ่นนิดหน่อย(พูดมั่วๆจำมาจากอนิเมะอีกที) เค้ายังรู้เรื่อง ผมเลยรู้สึกว่านี่แหละสิ่งที่ผมชอบนี่แหละคือฝันของผม ผมมีความฝันอยากไปต่างประเทศ อยากมีเพื่อนต่างชาติ ต่อให้ไม่ได้ไปต่างประเทศ แต่ขอให้ได้ทำงานอะไรก็ได้ที่มันได้สื่อสาร ได้พูดคุย ได้สนุกกับงาน
พอทำไปได้สักพัก ความฝันผมก็ต้องสะดุดลง เพราะผมต้องออกมาเรียนเน ออกมาอ่านหนังสือ ออกมานั่งหน้าหนังสือทุกวันๆ นั่งเครียด นั่งทำตามใครต่อใคร นั่งทำในสิ่งที่ผมไม่อยากทำ ครับ พ่อผมบอกให้ออกมาเพื่อมาเรียนต่อ ออกมาเพื่อมาอ่านหนังสือสอบราชการ
พ่อผมบอก เรียนจบมาด้านนี้แล้ว ทำไมไม่เอามันไปใช้ในสายงานที่เราเรียนมา อีกอย่างพ่อยังบอกว่า ทำงานแบบนั้นสู้พวกเรียนจบสายนั้นมาไม่ได้หรอก เรามันงูๆปลาๆ เอาที่เราเรียนจบนี่แหละ เป็นราชการดีกว่า ที่ผมอยู่ได้ มีเงิน มีบ้าน ได้เรียนสูงเพราะราชการ ไม่ใช่แค่พ่อผมที่พูดแบบนี้ ลุงเอย น้าเอย แม่กระทั่งปู่ เค้าหวังกับผมไว้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ผมน่ะหรอ ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับ ผมเป็นประเภทที่ว่า ไม่ได้อยากเป็นอะไรมากหรอก แต่ผมมักจะทุ่มเทกับหน้าที่ที่ได้รับมา
มันอารมณ์ประมาณว่า ไม่ได้อยากเป็น แต่ก็ไม่อยากแพ้
ตอนนี้เลยต้องทิ้งความฝันของตัวเอง เพื่อมาทำตามความฝันของคนอื่น กดดันมากๆครับ เคยพูดด้วยเหตุผลกับท่านแล้ว
พ่อผมท่านตอบมาประโยคเดียวเลย "ถ้าได้งานดีๆมั่นคงก่อน จะไม่สอบก็เรื่องของผม แต่อนนี้ ยังไม่ได้งานดีๆ ก็ต้องทำตามที่พ่อบอกก่อน"
ผมคิดในใจละถ้ามัวแต่ทำตามความฝันของพ่อ แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้ทำตามความฝันของผม แล้วเมื่อไหร่ ผมจะได้งานดีๆ ที่มันเป็นงานที่ผมอยากทำละครับ
TT
เคยเบื่อที่จะทำตามความฝันคนอื่นไหมครับ
จริงๆตอนเรียนจบ ม.6 ผมไม่รู้หรอกครับว่าตัวเองชอบอะไร ฝันอยากทำอะไร เพราะยังมีความคิดแบบเด็กๆ เรียนๆไปให้จบแค่นั้น ไม่ได้วางแผนชีวิตอะไร เลยไม่ได้ตั้งใจว่าจะเรียนคณะอะไร พ่อเลยบอกให้เรียนนิติ เพราะตระกูลผมตั้งแต่ รุ่นทวดลงมาเป็นข้าราชการทั้งนั้น ไอพ่อผมก็อยากให้ผมเป็นมั่ง ผมก็เออ ออไป
แต่พอเรียนเค้าๆผ่านกระบวนการใช้ความคิด อยู่กับคนหมู่มาก หลากหลายความคิด หลากหลายความฝัน ตอนนั้นจากคนที่ไม่ได้ฝันอยากจะทำอะไร ก็เริ่มมีความคิดความฝันก่อตัวกันเป็นรูปเป็นร่างละ พอจบออกมา เอาละ ตั้งใจว่าจะตามฝันของตัวเองแบบไม่ได้ต้องไปเพิ่งพ่อแม่
ไอผมเพิ่งมารู้ว่าชอบภาษาต่างประเทศมากๆ ตอนนี้มีความรู้อยู่ ก็อังกฤษ กับญี่ปุ่น อีกทั้งทำงานอยู่ในแหล่งชุมชนที่ต้องใช้ภาษาต่างประเทศทุกครั้งในการสื่อสาร จากคนที่ไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษใส่ใคร จนตอนนี้แทบจะพุ่งเข้าไปคุยด้วย ขนาดภาษาญี่ปุ่นผมได้แค่บางคำ แต่มีความรู้สึกอยากจจะเข้าไปพูดกับคนญี่ปุ่นมากๆ เคยพูดกับคนญี่ปุ่นนิดหน่อย(พูดมั่วๆจำมาจากอนิเมะอีกที) เค้ายังรู้เรื่อง ผมเลยรู้สึกว่านี่แหละสิ่งที่ผมชอบนี่แหละคือฝันของผม ผมมีความฝันอยากไปต่างประเทศ อยากมีเพื่อนต่างชาติ ต่อให้ไม่ได้ไปต่างประเทศ แต่ขอให้ได้ทำงานอะไรก็ได้ที่มันได้สื่อสาร ได้พูดคุย ได้สนุกกับงาน
พอทำไปได้สักพัก ความฝันผมก็ต้องสะดุดลง เพราะผมต้องออกมาเรียนเน ออกมาอ่านหนังสือ ออกมานั่งหน้าหนังสือทุกวันๆ นั่งเครียด นั่งทำตามใครต่อใคร นั่งทำในสิ่งที่ผมไม่อยากทำ ครับ พ่อผมบอกให้ออกมาเพื่อมาเรียนต่อ ออกมาเพื่อมาอ่านหนังสือสอบราชการ
พ่อผมบอก เรียนจบมาด้านนี้แล้ว ทำไมไม่เอามันไปใช้ในสายงานที่เราเรียนมา อีกอย่างพ่อยังบอกว่า ทำงานแบบนั้นสู้พวกเรียนจบสายนั้นมาไม่ได้หรอก เรามันงูๆปลาๆ เอาที่เราเรียนจบนี่แหละ เป็นราชการดีกว่า ที่ผมอยู่ได้ มีเงิน มีบ้าน ได้เรียนสูงเพราะราชการ ไม่ใช่แค่พ่อผมที่พูดแบบนี้ ลุงเอย น้าเอย แม่กระทั่งปู่ เค้าหวังกับผมไว้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ผมน่ะหรอ ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับ ผมเป็นประเภทที่ว่า ไม่ได้อยากเป็นอะไรมากหรอก แต่ผมมักจะทุ่มเทกับหน้าที่ที่ได้รับมา
มันอารมณ์ประมาณว่า ไม่ได้อยากเป็น แต่ก็ไม่อยากแพ้
ตอนนี้เลยต้องทิ้งความฝันของตัวเอง เพื่อมาทำตามความฝันของคนอื่น กดดันมากๆครับ เคยพูดด้วยเหตุผลกับท่านแล้ว
พ่อผมท่านตอบมาประโยคเดียวเลย "ถ้าได้งานดีๆมั่นคงก่อน จะไม่สอบก็เรื่องของผม แต่อนนี้ ยังไม่ได้งานดีๆ ก็ต้องทำตามที่พ่อบอกก่อน"
ผมคิดในใจละถ้ามัวแต่ทำตามความฝันของพ่อ แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้ทำตามความฝันของผม แล้วเมื่อไหร่ ผมจะได้งานดีๆ ที่มันเป็นงานที่ผมอยากทำละครับ
TT