ผมเป็นมือใหม่หัดรีวิวนะครับ ส่วนมากก็แอบดูอย่างเดียว แต่อยากลองแบ่งปันคนอื่นดูบ้าง

ขอเริ่มเลยนะครับ....... ทริปนี้เกิดขึ้นเนื่องจากอยากหาทริปไปเที่ยว หลังจากลาออกจากงาน ให้กายได้พัก

โจทย์ของผมคือ ที่หนาวๆ คนน้อยๆ และที่สำคัญยังไม่เคยไป ...................

สถานที่แรกที่นึกออกก็ คือ > ปางอุ๋ง < หรือ "สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย"  นั้นเอง (ผมนึกได้ตอน 5 โมงเย็น วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์)

พอคิดปุ๊บผมก็ชวนเพื่อน แต่ไม่มีใครไปกับผมได้ เพราะติดงานกันหมดครับ ผมเลยไปคนเดียว

ผมไปรถทัวร์ของ "สมบัติทัวร์ มิตรแท้เพื่อนเดินทาง" ดีหน่อยจะได้นอนสบายๆ  

แต่กว่าจะเลือกรถทัวร์ได้ก็ปาไป 2ทุ่มกว่าแล้ว ผมก็โทรไปที่Call Center 02792-1444

พนักงานที่รับโทรศัพท์บอกไม่สามารถจองได้แล้วนะค่ะ ระบบจองผ่าน Call Center ปิดแล้วค่ะ (Call Center จองได้ตั้งแต่ 6 am - 8 pm)

ผมเลยไปซื้อตั๋วหน้าเคาเตอร์ตอนเช้า วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ ครับ จัดไปเลยครับ 7โมงเช้า

ไปจองที่สมบัติทัวร์ วิภาวดี จองรถปรับอากาศพิเศษนะครับ ราคา 779 บาท จากราคา 865 บาท (ลด 10% ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์)

รถออก 17.20 ถึงแม่ฮ่องสอน 8โมงเช้า  ผมขึ้นรถที่สมบัติทัวร์วิภาวดีนะ

อันนี้ต้องดูดีๆครับ ว่าขึ้นรถที่ไหน ขึ้นได้ 2จุด สำหรับกรุงเทพ คือ 1.หมอชิต  2.วิภาวดี  บางรอบ ขึ้นได้ที่เดียวนะครับดูเอา

หลังจากขึ้นรถได้ก็นอนยาว ไปตื่นเอา ครัวต้นกำแพง จ.กำแพงเพชร  3,4ทุ่มได้ ผมไม่ได้ดูเวลาเลย ง่วงมาก

ลงไปทานอาหารเสร็จ ก็ขึ้นรถมานอนต่อยาวๆเลยครับ

กว่าจะถึงแม่ฮ่องสอนก็ 9โมงได้ครับ ช้ากว่าตารางเดินรถไป 1 ชม แหนะ

ลงจากรถไปอากาศเย็นดีครับ 15 องศา แต่เดินแทบไม่ไหวเลยครับนั่งนาน แถมที่นั่งไม่โอเคสำหรับคนตัวใหญ่ ขายาว

แต่เดี๋ยวแนะนำให้ครับ คนตัวใหญ่ ขายาว ควรนั่งตำแหน่งไหน


นั่งตำแหน่งที่วงกลมชมพูไว้นะครับ ถ้าตำแหน่งนั้นเต็ม

ให้หลีกเลี่ยง ที่นั่งริมทางเดินนะครับ เพราะจะวางขาไม่สบาย จะปวดเมื่อย ได้ครับ

ก่อนเข้าเมืองผมเลยไปเคาเตอร์สมบัติทัวร์ ขอเปลี่ยนที่นั่งขากลับ

หลังจากเปลี่ยนตั๋วรถทัวร์เสร็จ ผมก็ขึ้น วินไปร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ 40 บาท จากขนส่งครับ
นอกจากวินแล้วยังมีสองแถวไป ปางอุ๋งด้วย แต่ถ้าขึ้นสองแถวจะไม่ได้แวะสถานที่ท่องเที่ยวรายทางนะครับ

เบอร์มือถือพี่วินมอเตอร์ไซด์นะครับ เผื่อขากลับได้ใช้บริการ

ถึงร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ ผมก็ทำเรื่องขอเช่ามอเตอร์ไซด์ครับ

จ่ายค่าเช่า+มัดจำเสร็จ ก็ขอพี่เค้าอาบน้ำ  หลังร้านมีห้องอาบน้ำ สะดวกสะอาดดีครับ แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะครับ สดชื่นดี
ค่าเช่าวันละ250บาท ผมเช่า2วันนะครับ 500 บาทแต่พี่เค้าคิด450 บาท มัดจำอีก1000  ต้องเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนมาคืนนะ




หลังจากอาบน้ำแต่งตัวจัดของเรียบร้อย  >> ก่อนออกเดินทางก็ศึกษาเส้นทางกันหน่อย มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
ผมไป วัดพระเธาตุดอยกองมู นั่งชิวที่ร้าน Before Sunset > ไปดูความขลังของสะพานซูตองเป้ > พอกหน้าที่ภูโคลน
     > ให้อาหารปลาที่ถ้ำปลา > ไปชมน้ำตกผาเสื่อ > ไปชมพืชพรรณนานาพันธุ์ และ ปศุสัตว์ ที่ พระตำหนักปางตอง
     > เข้าไปนอนที่ปางอุ๋ง > ตื่นเช้ามาไปหมู่บ้านรักไทย > รีบเข้าเมืองเที่ยววัดต่ออีก2วัด วังจองคำ กับ วัดหัวเวียง


ผมเริ่มจากไปสักการะ วัดพระธาตุดอยกองมู ในเมืองแม่ฮ่องสอนก่อน เพื่อความเป็นสิริมงคล
และเป็นการลองฝึกขี่มอเตอร์ไซด์ขึ้นเขาไปในตัวด้วย  ผมขี่ไม่แข็งครับ เคยยืมเพื่อนขี่ตอนมหาลัย นิดหน่อย









หลังจากเคารพสักการะพระธาตุ และ พระพุทธรูปเสร็จ ผมแวะไปจิบกาแฟ ที่ร้าน Before Sunset อยู่ตรงลานจอดรถข้างหลังหาไม่ยาก
ส่วนใหญ่เค้าจะมาดูพระอาทิตย์ตกกัน แต่ด้วยโปรแกรมผมแน่น เลยอดดูพระอาทิตย์ตกเลย








ขนมเค้กเพื่อนซื้อให้ติดมาจากกรุงเทพ ที่ร้านก็น่าจะมี ลองถามดูนะ
แต่สำหรับผมแค่กาแฟหอมๆกับบรรยากาศสบายๆก็ฟินแล้ว




หลังจากจิบกาแฟเสร็จก็11โมงกว่าๆ ก็ขี่ออกนอกเมืองไปปางอุ๋ง ระหว่างทางก็แวะเที่ยว
สะพานซูตองเป้ครับ ขี่ไปไม่นาน30นาทีก็ถึง ผมขี่ค่อนข้างช้านะ






จริงๆแล้วเจ้าสะพานนี้ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวหลอกครับ แต่ตอนนี้เริ่มนิยมเนื่องด้วยบรรยากาศที่สวยงาม ของวิวทิวทัศน์รอบๆ  
แต่จุดประสงค์จริงๆสร้างให้พระที่อยู่ในสวนธรรมภูสมะ ใช้ข้ามแม่น้ำสะงา และ ทุ่งนาไปบิณฑบาต และให้ประชาชนใช้สัญจรไปมาได้












รอบๆบรรยากาศดีมากครับ แวะเข้ามาสักการะพระพุทธรูป และ ทำบุญ ทำนุบำรุงศาสนากันได้นะครับ แต่สำรวมๆเนอะ




สะพานก็ยาวประมาณ 500 เมตร ครับเดินสบายๆ สองข้างทางมีแต่ทุ่งนา บรรยากาศดีครับ อาจร้อนไปหน่อยผมไปถึงก็เที่ยงตรงได้
ใต้สะพานก็อาจมีชาวบ้าน-ชาวนานั่งหลบแดดอยู่ ก็อย่าเดินเสียงดัง ค่อยๆเดิน เกรงใจคนนั่งข้างล่างเค้าตกใจ  
ปล.ผมก็เดินตามปกติของผมแหละ นึกว่าเดินพื้นปูน ใส่เต็มที่ ชาวบ้านก็บอกเดินเบาๆหน่อยหนุ่มเอ้ย ฟังไม่รู้เรื่องหลอกแต่น่าจะประมาณนี้ ฮา ฮา


ก่อนเดินลงก็บริจาคอีกสักหน่อยไว้ซ่อมบำรุงสะพาน