KINGSMAN: THE SECRET SERVICE
DIRECTOR: Matthew Vaughn
STARRING: Colin Firth, Samuel L. Jackson, Michael Caine, Mark Strong และ Taron Egerton
ผลงานล่าสุดจากผู้กำกับ Kick-Ass และ X-Men: First Class
ส่วนตัวเพิ่งเริ่มดูหนังแบบจริงจังได้แค่ปีกว่าๆ ทั้ง 2 เรื่องที่ว่ามาเลยยังไม่เคยดูครับ (555)
แต่การได้ดูเรื่องนี้ทำให้ผมอยากหาผลงานเก่าๆของเขามาดูเลยครับ เพราะผลงานเรื่องนี้ผสมผสานระหว่างความเป็นหนังแอ๊คชั่นกับหนังตลกได้ดีทีเดียวครับ
Kingsman: The Secret Service เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสายลับที่เรียกกันว่า 'Kingsman' ซึ่งปฏิบัติการต่างๆที่เหล่าคิงส์แมนได้ทำ จะถูกเก็บเป็นความลับโดยไม่เผยแพร่ให้ใครรู้ และทุกคนที่เป็นคิงส์แมนจะต้องรักษาความลับนี้เอาไว้ด้วย
จุดเริ่มต้นของเรื่องเริ่มจากการที่จำนวนคิงส์แมนมีไม่พอ เนื่องจากมีสมาชิกตาย แฮร์รี่ ฮาร์ท (Colin Firth) จึงได้ทำการค้นหาบุคคลที่เหมาะสมจะมาเป็นคิงส์แมนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจต่อไป ด้วยเรื่องราวหลายๆอย่างทำให้เขาต้องมาพบกับเอ็กซี่ (Taron Egerton) เอ็กซี่จึงได้โอกาสไปคัดเลือกเพื่อเข้าเป็นคิงส์แมน (เล่าแค่นี้พอครับ เดี๋ยวไม่สนุก 555)
ดูจากหน้าหนังและตัวอย่างหนังแล้ว ก็พอจะเดาได้ว่ามันเป็นหนังที่ต้องการขายฉากแอ๊คชั่น หลายๆคนเริ่มคิดแล้วว่า "เราจะไปดูกันดีมั้ย" หรือ "กลัวไม่สนุกอะ" เพราะในช่วงที่ผ่านมามีหนังแอ๊คชั่นที่แป้กเยอะมาก
แต่ผมรับประกันเลยว่า เรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง
โอเคหากคุณเป็นคอหนังแอ๊คชั่นที่ดูแทบจะทุกเรื่อง มันอาจจะคล้ายๆกับบางเรื่องที่คุณเคยดูมา แต่สิ่งที่แตกต่างไปคือนักแสดงนำที่มีคุณภาพและบทที่ชวนให้ลุ้นและเงิบเป็นระยะๆ
เอาจริงๆบทเรื่องนี้อาจจะเดาทางง่ายและไม่ค่อยพลิกแพลงสักเท่าไหร่ แต่ส่วนที่ทำให้เงิบระหว่างดูนี่มีเยอะเลยครับ มีเยอะจนบางครั้งเราก็เดาได้ล่วงหน้า แต่มันไม่ได้ทำให้หนังสนุกน้อยลงไปเลย เพราะฉากบู๊แต่ละฉากคือดีงามมากครับ มันไม่ใช่ฉากที่ออกแบบมาลวกๆแล้วให้คนไปต่อยกันเล่นๆ หนังจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่คิงส์แมนใช้ จนเห็นแล้วอยากมีบ้างเลยครับ 555 ส่วนตัวก็แอบคิดว่าอนาคตถ้าเรามีอาวุธแบบนี้มันจะดีมาก
สำหรับนักแสดงนะครับ
หากคุณเคยดูผลงานเก่าๆของ Colin Firth อย่างเช่น The King's Speech หรือ Love Actually คุณคงพอเดาได้ว่านักแสดงคนนี้มาสายดราม่าล้วนๆ แต่สิ่งที่คุณจะเห็นในเรื่องนี้คือแบบว่า พระเจ้า!!! ไม่คิดว่าเขาจะเล่นฉากบู๊ได้ดีขนาดนี้นะครับ อีกทั้งยังมีความสามารถในการแสดง(เคยได้ออสการ์มาแล้ว) สรุปคือสมบูรณ์แบบเลยครับ
สำหรับ Samuel L. Jackson (ที่เล่นเป็น Nick Fury) ผมว่าเขาเป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก อย่างเช่นหน้าตา บุคลิกในการทำท่าต่างๆ แล้วก็สำเนียงภาษาอังกฤษ เรื่องนี้เขาเล่นเป็น Richmond Valentine ตัวร้ายที่ต้องการลดประชากรโลก ที่มีคาแรกเตอร์แบบกวนนิดๆฮาหน่อยๆ ถือว่าดีครับ
Michael Caine เฉยๆครับเรื่องนี้ บทพ่อบ้านอัลเฟรดน่าจะเหมาะกับเขามากกว่า 55555
Taron Egerton ต้องใช้คำว่า"ขอแสดงความยินดี" เพราะนี่คือหนังที่แจ้งเกิดเขาในวงการแสดงเลยครับ
ส่วนตัวคนที่ผมชอบที่สุดในเรื่องนี้คือ Mark Strong เพราะที่ผ่านมาเขาเล่นเป็นแต่ตัวประกอบหนังแป้กๆ (เช่น Before I Go To Sleep) สำหรับเรื่องนี้บทบาทเขาดีมากครับ (ไม่อยากบอกว่าเล่นเป็นอะไร อยากให้ไปดูกันเอง)
สรุปคือแนะนำนะครับ หนังดีที่ทั้งคอหนังปกติ คอหนังบู๊ หรือคนที่ไม่ใช่คอหนังไม่ควรพลาด โดยเฉพาะคอหนังบู๊ ถ้าพลาดนี่จะเสียใจไปตลอดชีวิตเลยครับ
คำเตือน: เครดิตขึ้นแล้วอย่าพึ่งลุกออก พอเครดิตช่วงแรกจบมันจะมีหนังต่ออีกนิดนึงครับ ซึ่งเป็นฉากที่ถือว่าสำคัญมาก เพราะมันกระตุกต่อมฮาแบบฮา
!!! 555555
ติดตามได้ที่เพจครับ
https://www.facebook.com/movieaddictman
[CR] [Review] Kingsman: The Secret Service : การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างหนังแอ๊คชั่นและหนังตลก
DIRECTOR: Matthew Vaughn
STARRING: Colin Firth, Samuel L. Jackson, Michael Caine, Mark Strong และ Taron Egerton
ผลงานล่าสุดจากผู้กำกับ Kick-Ass และ X-Men: First Class
ส่วนตัวเพิ่งเริ่มดูหนังแบบจริงจังได้แค่ปีกว่าๆ ทั้ง 2 เรื่องที่ว่ามาเลยยังไม่เคยดูครับ (555)
แต่การได้ดูเรื่องนี้ทำให้ผมอยากหาผลงานเก่าๆของเขามาดูเลยครับ เพราะผลงานเรื่องนี้ผสมผสานระหว่างความเป็นหนังแอ๊คชั่นกับหนังตลกได้ดีทีเดียวครับ
Kingsman: The Secret Service เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสายลับที่เรียกกันว่า 'Kingsman' ซึ่งปฏิบัติการต่างๆที่เหล่าคิงส์แมนได้ทำ จะถูกเก็บเป็นความลับโดยไม่เผยแพร่ให้ใครรู้ และทุกคนที่เป็นคิงส์แมนจะต้องรักษาความลับนี้เอาไว้ด้วย
จุดเริ่มต้นของเรื่องเริ่มจากการที่จำนวนคิงส์แมนมีไม่พอ เนื่องจากมีสมาชิกตาย แฮร์รี่ ฮาร์ท (Colin Firth) จึงได้ทำการค้นหาบุคคลที่เหมาะสมจะมาเป็นคิงส์แมนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจต่อไป ด้วยเรื่องราวหลายๆอย่างทำให้เขาต้องมาพบกับเอ็กซี่ (Taron Egerton) เอ็กซี่จึงได้โอกาสไปคัดเลือกเพื่อเข้าเป็นคิงส์แมน (เล่าแค่นี้พอครับ เดี๋ยวไม่สนุก 555)
ดูจากหน้าหนังและตัวอย่างหนังแล้ว ก็พอจะเดาได้ว่ามันเป็นหนังที่ต้องการขายฉากแอ๊คชั่น หลายๆคนเริ่มคิดแล้วว่า "เราจะไปดูกันดีมั้ย" หรือ "กลัวไม่สนุกอะ" เพราะในช่วงที่ผ่านมามีหนังแอ๊คชั่นที่แป้กเยอะมาก
แต่ผมรับประกันเลยว่า เรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง
โอเคหากคุณเป็นคอหนังแอ๊คชั่นที่ดูแทบจะทุกเรื่อง มันอาจจะคล้ายๆกับบางเรื่องที่คุณเคยดูมา แต่สิ่งที่แตกต่างไปคือนักแสดงนำที่มีคุณภาพและบทที่ชวนให้ลุ้นและเงิบเป็นระยะๆ
เอาจริงๆบทเรื่องนี้อาจจะเดาทางง่ายและไม่ค่อยพลิกแพลงสักเท่าไหร่ แต่ส่วนที่ทำให้เงิบระหว่างดูนี่มีเยอะเลยครับ มีเยอะจนบางครั้งเราก็เดาได้ล่วงหน้า แต่มันไม่ได้ทำให้หนังสนุกน้อยลงไปเลย เพราะฉากบู๊แต่ละฉากคือดีงามมากครับ มันไม่ใช่ฉากที่ออกแบบมาลวกๆแล้วให้คนไปต่อยกันเล่นๆ หนังจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่คิงส์แมนใช้ จนเห็นแล้วอยากมีบ้างเลยครับ 555 ส่วนตัวก็แอบคิดว่าอนาคตถ้าเรามีอาวุธแบบนี้มันจะดีมาก
สำหรับนักแสดงนะครับ
หากคุณเคยดูผลงานเก่าๆของ Colin Firth อย่างเช่น The King's Speech หรือ Love Actually คุณคงพอเดาได้ว่านักแสดงคนนี้มาสายดราม่าล้วนๆ แต่สิ่งที่คุณจะเห็นในเรื่องนี้คือแบบว่า พระเจ้า!!! ไม่คิดว่าเขาจะเล่นฉากบู๊ได้ดีขนาดนี้นะครับ อีกทั้งยังมีความสามารถในการแสดง(เคยได้ออสการ์มาแล้ว) สรุปคือสมบูรณ์แบบเลยครับ
สำหรับ Samuel L. Jackson (ที่เล่นเป็น Nick Fury) ผมว่าเขาเป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก อย่างเช่นหน้าตา บุคลิกในการทำท่าต่างๆ แล้วก็สำเนียงภาษาอังกฤษ เรื่องนี้เขาเล่นเป็น Richmond Valentine ตัวร้ายที่ต้องการลดประชากรโลก ที่มีคาแรกเตอร์แบบกวนนิดๆฮาหน่อยๆ ถือว่าดีครับ
Michael Caine เฉยๆครับเรื่องนี้ บทพ่อบ้านอัลเฟรดน่าจะเหมาะกับเขามากกว่า 55555
Taron Egerton ต้องใช้คำว่า"ขอแสดงความยินดี" เพราะนี่คือหนังที่แจ้งเกิดเขาในวงการแสดงเลยครับ
ส่วนตัวคนที่ผมชอบที่สุดในเรื่องนี้คือ Mark Strong เพราะที่ผ่านมาเขาเล่นเป็นแต่ตัวประกอบหนังแป้กๆ (เช่น Before I Go To Sleep) สำหรับเรื่องนี้บทบาทเขาดีมากครับ (ไม่อยากบอกว่าเล่นเป็นอะไร อยากให้ไปดูกันเอง)
สรุปคือแนะนำนะครับ หนังดีที่ทั้งคอหนังปกติ คอหนังบู๊ หรือคนที่ไม่ใช่คอหนังไม่ควรพลาด โดยเฉพาะคอหนังบู๊ ถ้าพลาดนี่จะเสียใจไปตลอดชีวิตเลยครับ
คำเตือน: เครดิตขึ้นแล้วอย่าพึ่งลุกออก พอเครดิตช่วงแรกจบมันจะมีหนังต่ออีกนิดนึงครับ ซึ่งเป็นฉากที่ถือว่าสำคัญมาก เพราะมันกระตุกต่อมฮาแบบฮา!!! 555555
ติดตามได้ที่เพจครับ
https://www.facebook.com/movieaddictman