เราอ่านเรื่องความรักของหลายคน มีทั้งสมหวัง อกหัก แอบรัก เหงา ถูกทิ้ง และอีกมากมาย
เราว่าเรื่องของเรามันรวมหลายๆ ความรู้สึกไว้ เราเคยคบกับผช.คนนึง 7 เดือน เรารักเขามาก แต่สุดท้ายก้เป็นเราที่ปล่อยเขาไป
ไม่รู้ว่าเรื่องเรานี่เป็นอาถรรพ์ 7 เดือนรึป่าวนะ.. .
อาจจะยาวหน่อย.. แต่ก้อยากแชร์ให้อ่านกัน เผื่อคนที่กำลังผิดหวังเรื่องความรัก ก้อาจจะมีกำลังใจขึ้นมาบ้างนะคะ ^^
เรื่องของเรามันเริ่มตั้งแต่ที่เราเข้าไปอยู่ในวงโยธวาทิตของโรงเรียน ตอนนั้นกำลังรับสมัครคนเพิ่มเพราะว่าจะลงประกวด เพื่อนในห้องที่เป็นเด็กวงอยู่แล้ว เห็นเรากับเพื่อนอีกคนเต้นเก่งเลยชวนให้ลองไปเข้า คงสงสัยว่าเต้นเก่งเกี่ยวอะไรกับวงโย เราอยู่วงโยก้จริง แต่เราไม่เล่นดนตรี เราไปเป็นคัลเลอร์การ์ด (อยากรู้คืออะไรก้ไปหาดูนะ..) หลังจากนั้นก้เป็นช่วงปิดซัมเมอร์ คือช่วงที่เราต้องอยู่ค่ายที่วง นอนโรงเรียนไม่ได้กลับบ้าน ต้องฝึกซ้อมเผื่อจะลงประกวด ช่วงนี้เป็นช่วงที่สตาฟเริ่มเข้ามาสอนมากขึ้น มีทั้งสตาฟ percussion เครื่องเป่า คัลเลอร์การ์ด มีทั้ง ผญ. ผช. เกย์ กระเทย แค่สตาฟนี่ก้เกือบยี่สิบคนและ นั่นเป็นครั้งแรกที่เราเจอกับเขา ชีวิตเราช่วงนั้นเกือบหนึ่งปีไม่มีอะไรเลย นอกจาก โรงเรียน บ้าน และวงโย ไม่ได้เจอใครไม่ได้เที่ยวไหน เปิดเทอมเสาร์อาทิตย์ก้นอนโรงเรียน ตอนแรกที่เข้าวงมาเราก้ไม่มีแฟนไม่ได้คุยกับใคร จนมีรุ่นน้องในวงคนนึงที่เป็นทอมมาคุยกับเรา คุยกันอยู่หลายเดือนจนทุกคนในวงคิดว่าคบกันไปแล้ว และก้คบกันสมใจทุกคนในที่สุด 55 คบกันได้ 7 เดือน เราก้เลิกกัน เราเลิกกันเพราะพี่สตาฟคนนึง
ทุกที่มีกฎที่วงเราก้มีกฎ กฎเหล็กสำคัญที่ทุกคนห้ามฝ่าฝืนคือ "ห้ามเด็กกับสตาฟมีความสัมพันธ์เกินเลย" ที่มีกฎนี้เพราะสตาฟส่วนใหญ่ก้เป็นผช. และวงเราเป็นวงหญิงล้วน พูดแค่นี้อาจมีหลายคนเดาได้ว่าเราอยู่วงอะไร เราเป็นคนที่เคารพกฎในระดับนึงและไม่คิดที่จะฝ่าฝืนกฎนี้ แต่ในที่สุดเราก้เป็นคนที่ฝ่าฝืนกฎนั้น ซึ่งเราเองก้ไม่คิดว่าพี่เขาจะมาชอบเรา ตอนนั้นเราเองก้มีแฟนและเราก้ไม่สนิทกับพี่เค้าเลย พี่เค้าสอนเครื่องเป่า แทบไม่คุยกันอยู่แล้ว แต่พี่เขาก้ชอบแซวเราบ่อยๆ เรื่องขาเจ็บ เราถ้าซ้อมหนักมากๆ จะปวดเข่า เดินกระเผกๆ ตลอด เวลาเราไปหายาในห้องวงก้จะเจอพี่เขานั่งเล่นคอมไม่ก้โทสับอยู่ในห้องตลอด เลยโดนแซวเรื่องขาเจ็บประจำ แต่ก้ไม่เคยคุยกันนอกจากนั้น จนวันนึงเรากำลังจะไปเรียนพิเศษข้างนอกเพื่อนฝากเราซื้อเค้กมาเซอร์ไพรวันเกิดแฟนที่เป็นรุ่นพี่ที่วง มันให้เบอร์พี่เอ(นามสมมุติ)มาบอกว่ามีอะไรโทเข้าเบอร์นี้นะ เราก้เซฟเบอร์ไว้ หลังจากนั้นก้มีไลน์พี่เขาขึ้นมาในเครื่องเราก้กดแอดไปเพราะเห็นว่าเป็นพี่สตาฟ เราก้แอดไปเกือบเดือนแล้วแต่ก้ไม่ได้คุยอะไรเลย จนวันนึงก่อนเข้าแคมป์ใหญ่นอกโรงเรียนเก็บตัวก่อนแข่งรายการแรกที่พัทยาพี่เขาก้ทักมา เราก้ตอบไปแบบงงๆ คุยปกติกวนตีนกันธรรมดา เราก้ไม่ได้คิดอะไร แต่พี่เขาก้ทักมาทุกวัน จนมีช่วงนึงที่พี่เขาหายหน้าไป เพราะพี่เขายังเรียนอยู่แล้วต้องเทียวไปเทียวมา ต้องเรียนด้วยแล้วก้มาสอนด้วย ตอนนั้นเราซ้อมกันที่คลองหก พี่เขาหายไปเกือบอาทิตย์ เราไม่เห็นหาก้เลยทักไปเล่นๆ
เรา: หายไปไหนเนี่ย ไม่เห็นหน้าหลายวันคิดถึงจุงเบย...
เขา: จริงอะ คิดถึงเหมือนกัน พี่อยู่มอมาเรียนหน่อย เดี๋ยวไม่มีสิทธิ์สอบ
เรา: อ๋อ.. . ค่ะ กลับมาเร็วๆ ไม่มีคนนำออกกำลังกาย ซื้อหนมมาฝากด้วยนะ
หลังจากเหตุการ์นี้ทำให้เราคุยกันมากขึ้น และแปลกไปจากเดิม เขาทักมาคุยกับเรามากขึ้น ตอนเช้า ตอนพัก ตอนเย็น ก่อนนอน.. .
"ตื่นยังๆ ไปซ้อมได้แล้ว"
"กินข้าวยัง.. "
"ซ้อมเป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม๊ ?"
"นอนยัง ฝันดีนะ"
จนเราก้เริ่มรู้สึกว่าไม่เหมือนเดิม เราเลยตัดสินใจจะถาม
เขา: ทำไรซ้อมยัง
เรา: กำลังจะไปซ้อม แล้วพี่ทำไร?
เขา: แต่งเพลงครับ คิดไม่ออกเลยเนี่ย นึกถึงเราอะ เลยคิดออก
เรา: หะ? คิดถึงเขา? ถูกคนปะเนี่ย
เขา: ถูกดิ.. ไม่ผิดหรอก
เรา: จีบเหรอ? จีบปะเนี่ย
เขา: โตเป็นสาวแล้วยังไม่รู้อีกเหรอ
หลังจากนั้นเวลาเราจะคุยกับพี่เขาเราก้ต้องระวังมากขึ้นใส่รหัสโทสับทั้งๆ ที่ไม่เคยใส่ เพราะไม่อยากให้ใครมาเห็นไม่อยากมีปัญหา และเราก้เริ่มทะเลาะกับแฟนเราที่เป็นรุ่นน้องมันไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องล๊อครหัส และก้เริ่มทะเลาะกันมากขึ้น จนมันบอกเลิกเรา แต่ก้กลับมาขอคืนดีอีกประมาณ 5 รอบ จนเราเองก้เริ่มไม่ไหว และปล่อยมันไปในที่สุด แต่มันก้รู้ว่าพี่เอมาคุยกับเรา นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เราทะเลาะกัน แต่เราเลิกกับรุ่นน้องหลังจากกลับมาจากแข่งพัทยาแล้ว วันแข่งรอบชิงเสร็จก้ยังทะเลาะกันเพราะพี่เขามาขอถ่ายรูป ก่อนแข่งก้ทะเลาะกันเหตุเกิดจากเราต้องลงไปนั่งชั้นล้างของรถบัสแล้วคนที่นั่งข้างเราคือพี่เอ.. .
#เดี๋ยวมาต่อ..
ชีวิตจริงกับนิยาย มันคงไม่ต่างกันมากมาย [แชร์,เล่าเรื่อง]
เราว่าเรื่องของเรามันรวมหลายๆ ความรู้สึกไว้ เราเคยคบกับผช.คนนึง 7 เดือน เรารักเขามาก แต่สุดท้ายก้เป็นเราที่ปล่อยเขาไป
ไม่รู้ว่าเรื่องเรานี่เป็นอาถรรพ์ 7 เดือนรึป่าวนะ.. .
อาจจะยาวหน่อย.. แต่ก้อยากแชร์ให้อ่านกัน เผื่อคนที่กำลังผิดหวังเรื่องความรัก ก้อาจจะมีกำลังใจขึ้นมาบ้างนะคะ ^^
เรื่องของเรามันเริ่มตั้งแต่ที่เราเข้าไปอยู่ในวงโยธวาทิตของโรงเรียน ตอนนั้นกำลังรับสมัครคนเพิ่มเพราะว่าจะลงประกวด เพื่อนในห้องที่เป็นเด็กวงอยู่แล้ว เห็นเรากับเพื่อนอีกคนเต้นเก่งเลยชวนให้ลองไปเข้า คงสงสัยว่าเต้นเก่งเกี่ยวอะไรกับวงโย เราอยู่วงโยก้จริง แต่เราไม่เล่นดนตรี เราไปเป็นคัลเลอร์การ์ด (อยากรู้คืออะไรก้ไปหาดูนะ..) หลังจากนั้นก้เป็นช่วงปิดซัมเมอร์ คือช่วงที่เราต้องอยู่ค่ายที่วง นอนโรงเรียนไม่ได้กลับบ้าน ต้องฝึกซ้อมเผื่อจะลงประกวด ช่วงนี้เป็นช่วงที่สตาฟเริ่มเข้ามาสอนมากขึ้น มีทั้งสตาฟ percussion เครื่องเป่า คัลเลอร์การ์ด มีทั้ง ผญ. ผช. เกย์ กระเทย แค่สตาฟนี่ก้เกือบยี่สิบคนและ นั่นเป็นครั้งแรกที่เราเจอกับเขา ชีวิตเราช่วงนั้นเกือบหนึ่งปีไม่มีอะไรเลย นอกจาก โรงเรียน บ้าน และวงโย ไม่ได้เจอใครไม่ได้เที่ยวไหน เปิดเทอมเสาร์อาทิตย์ก้นอนโรงเรียน ตอนแรกที่เข้าวงมาเราก้ไม่มีแฟนไม่ได้คุยกับใคร จนมีรุ่นน้องในวงคนนึงที่เป็นทอมมาคุยกับเรา คุยกันอยู่หลายเดือนจนทุกคนในวงคิดว่าคบกันไปแล้ว และก้คบกันสมใจทุกคนในที่สุด 55 คบกันได้ 7 เดือน เราก้เลิกกัน เราเลิกกันเพราะพี่สตาฟคนนึง
ทุกที่มีกฎที่วงเราก้มีกฎ กฎเหล็กสำคัญที่ทุกคนห้ามฝ่าฝืนคือ "ห้ามเด็กกับสตาฟมีความสัมพันธ์เกินเลย" ที่มีกฎนี้เพราะสตาฟส่วนใหญ่ก้เป็นผช. และวงเราเป็นวงหญิงล้วน พูดแค่นี้อาจมีหลายคนเดาได้ว่าเราอยู่วงอะไร เราเป็นคนที่เคารพกฎในระดับนึงและไม่คิดที่จะฝ่าฝืนกฎนี้ แต่ในที่สุดเราก้เป็นคนที่ฝ่าฝืนกฎนั้น ซึ่งเราเองก้ไม่คิดว่าพี่เขาจะมาชอบเรา ตอนนั้นเราเองก้มีแฟนและเราก้ไม่สนิทกับพี่เค้าเลย พี่เค้าสอนเครื่องเป่า แทบไม่คุยกันอยู่แล้ว แต่พี่เขาก้ชอบแซวเราบ่อยๆ เรื่องขาเจ็บ เราถ้าซ้อมหนักมากๆ จะปวดเข่า เดินกระเผกๆ ตลอด เวลาเราไปหายาในห้องวงก้จะเจอพี่เขานั่งเล่นคอมไม่ก้โทสับอยู่ในห้องตลอด เลยโดนแซวเรื่องขาเจ็บประจำ แต่ก้ไม่เคยคุยกันนอกจากนั้น จนวันนึงเรากำลังจะไปเรียนพิเศษข้างนอกเพื่อนฝากเราซื้อเค้กมาเซอร์ไพรวันเกิดแฟนที่เป็นรุ่นพี่ที่วง มันให้เบอร์พี่เอ(นามสมมุติ)มาบอกว่ามีอะไรโทเข้าเบอร์นี้นะ เราก้เซฟเบอร์ไว้ หลังจากนั้นก้มีไลน์พี่เขาขึ้นมาในเครื่องเราก้กดแอดไปเพราะเห็นว่าเป็นพี่สตาฟ เราก้แอดไปเกือบเดือนแล้วแต่ก้ไม่ได้คุยอะไรเลย จนวันนึงก่อนเข้าแคมป์ใหญ่นอกโรงเรียนเก็บตัวก่อนแข่งรายการแรกที่พัทยาพี่เขาก้ทักมา เราก้ตอบไปแบบงงๆ คุยปกติกวนตีนกันธรรมดา เราก้ไม่ได้คิดอะไร แต่พี่เขาก้ทักมาทุกวัน จนมีช่วงนึงที่พี่เขาหายหน้าไป เพราะพี่เขายังเรียนอยู่แล้วต้องเทียวไปเทียวมา ต้องเรียนด้วยแล้วก้มาสอนด้วย ตอนนั้นเราซ้อมกันที่คลองหก พี่เขาหายไปเกือบอาทิตย์ เราไม่เห็นหาก้เลยทักไปเล่นๆ
เรา: หายไปไหนเนี่ย ไม่เห็นหน้าหลายวันคิดถึงจุงเบย...
เขา: จริงอะ คิดถึงเหมือนกัน พี่อยู่มอมาเรียนหน่อย เดี๋ยวไม่มีสิทธิ์สอบ
เรา: อ๋อ.. . ค่ะ กลับมาเร็วๆ ไม่มีคนนำออกกำลังกาย ซื้อหนมมาฝากด้วยนะ
หลังจากเหตุการ์นี้ทำให้เราคุยกันมากขึ้น และแปลกไปจากเดิม เขาทักมาคุยกับเรามากขึ้น ตอนเช้า ตอนพัก ตอนเย็น ก่อนนอน.. .
"ตื่นยังๆ ไปซ้อมได้แล้ว"
"กินข้าวยัง.. "
"ซ้อมเป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม๊ ?"
"นอนยัง ฝันดีนะ"
จนเราก้เริ่มรู้สึกว่าไม่เหมือนเดิม เราเลยตัดสินใจจะถาม
เขา: ทำไรซ้อมยัง
เรา: กำลังจะไปซ้อม แล้วพี่ทำไร?
เขา: แต่งเพลงครับ คิดไม่ออกเลยเนี่ย นึกถึงเราอะ เลยคิดออก
เรา: หะ? คิดถึงเขา? ถูกคนปะเนี่ย
เขา: ถูกดิ.. ไม่ผิดหรอก
เรา: จีบเหรอ? จีบปะเนี่ย
เขา: โตเป็นสาวแล้วยังไม่รู้อีกเหรอ
หลังจากนั้นเวลาเราจะคุยกับพี่เขาเราก้ต้องระวังมากขึ้นใส่รหัสโทสับทั้งๆ ที่ไม่เคยใส่ เพราะไม่อยากให้ใครมาเห็นไม่อยากมีปัญหา และเราก้เริ่มทะเลาะกับแฟนเราที่เป็นรุ่นน้องมันไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องล๊อครหัส และก้เริ่มทะเลาะกันมากขึ้น จนมันบอกเลิกเรา แต่ก้กลับมาขอคืนดีอีกประมาณ 5 รอบ จนเราเองก้เริ่มไม่ไหว และปล่อยมันไปในที่สุด แต่มันก้รู้ว่าพี่เอมาคุยกับเรา นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เราทะเลาะกัน แต่เราเลิกกับรุ่นน้องหลังจากกลับมาจากแข่งพัทยาแล้ว วันแข่งรอบชิงเสร็จก้ยังทะเลาะกันเพราะพี่เขามาขอถ่ายรูป ก่อนแข่งก้ทะเลาะกันเหตุเกิดจากเราต้องลงไปนั่งชั้นล้างของรถบัสแล้วคนที่นั่งข้างเราคือพี่เอ.. .
#เดี๋ยวมาต่อ..