กระทู้นี้เหมาะสำหรับ คนอย่างน้อย 2 ประเภท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. คนที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมติด BTS อ่อนนุช อย่าเพิ่งตัดสินใจเช่า/ซื้อคอนโด Ideo Verve หรือ The President ถ้ายังไม่ได้อ่านกระทู้นี้ คุณอาจต้องแบกรับปัญหาใหญ่ไร้ทางออกซึ่งมาพร้อมกับบ้านใหม่ของคุณอย่างไม่คาดฝันเหมือนกับเรา
2. คนที่เดือดร้อนกับปัญหาเสียงดังยามวิกาลจากสถานประกอบการเช่น ผับ บาร์ ลานเบียร์ ร้านคาราโอเกะ ในกทม. และความรู้ทางกฎหมายอยู่ในระดับเรี่ยศูนย์ คุณอาจกำลังกัดฟันทนเพราะคิดว่าเรื่องเสียงดังเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เจ้าหน้าที่ในบ้านเมืองไม่มีวันรับฟัง หรือกำลังสิ้นหวังตั้งแต่ก่อนจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เราขอยืนยันตรงนี้เลยว่า เสียงดังยามวิกาล เป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบต่อการใช้ชีวิต สุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างแน่นอน ในกระทู้นี้ เรา"อาจ"มีคำตอบให้ว่า คุณจะพอทำอะไรได้บ้างตามที่กฎหมายให้สิทธิมา คุณ"ควร"จะใช้สิทธินั้นอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐโมเมหรือปั่นหัวคุณเล่นเหมือนอย่างที่เราโดนมาแล้ว ในฐานะที่เราก็มีความรู้ทางกฎหมายเริ่มจากจุดทศนิยมเหมือนกัน
ก่อนเริ่มเรื่องเราขอบอกไว้ก่อนว่า ยังไม่มีตอนจบสำหรับมหากาพย์เรื่องนี้ค่ะ แต่ข้อมูลเบื้องต้นที่เราได้ทราบจากการพูดคุยกับ
นิติบุคคล ของตึกเราก็คือ ปัญหาเสียงดังยามวิกาลจากลานเบียร์อ่อนนุชนี้เริ่มมานานหลายปีแล้ว และมีผู้พักอาศัยอีกมากที่เดือดร้อนในเรื่องเดียวกัน ปัญหาดังกล่าวเคยลงข่าวหนังสือพิมพ์คมชัดลึก เคยออกรายการช่องไทยพีบีเอส เคยไปถึงสำนักนายกรัฐมนตรี คสช.เคยต้องเข้ามาคุมลานเบียร์นี้อยู่ครั้งหนึ่ง เจ้าของลานเบียร์ถูกเรียกมาเจรจาหลายครั้งจน "เคย" ได้ข้อสรุปว่าพื้นที่ตรงลานเบียร์ปัจจุบันจะถูกพัฒนาไปเป็นโรงหนังภายในปีที่แล้ว (2014) แต่ทุกวันนี้ลานเบียร์เจ้าปัญหาก็ยังคงอยู่ ส่วนเจ้าของที่นั้นไม่ไยดีต่อข้อร้องเรียนของนิติบุคคลแต่อย่างใด
เราหวังว่ากระทู้นี้จะเปิดพื้นที่ให้คนกทม. คนละแวกเดียวกัน โดยเฉพาะคอนโดเดียวกับเรา ได้คุยถึงปัญหานี้ แชร์วิธีแก้ไขที่ได้ทำไปซึ่งแน่นอนว่าล้มเหลว เผื่อว่าเราจะได้หาทางอื่นกันต่อ และเราหวังมาก ๆ ว่าประเด็นนี้จะได้เข้าไปอยู่ในความสนใจของเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนทั่วไปสักที ว่า "เสียงดังยามวิกาล" เป็นปัญหาที่เราทุกคนควรต้องส่งเสียงออกมาดัง ๆ ว่า "มันเป็น
ปัญหาที่ต้องแก้ไขกันอย่างจริงจังได้แล้ว!"
หมายเหตุ :::::
เรื่องทั้งหมดที่เราจะเล่าต่อจากนี้เป็นเหตุการณ์จริงที่เราเรียบเรียงขึ้นจาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1. บันทึกการแก้ปัญหาเสียงดังที่เราจดไว้ในสมุด
2. สเตตัสบ่นในเฟสบุ๊คเราเอง เราเคยเขียนลงเฟซก่อนเพื่อฟ้องเพื่อนและเพราะว่ามันลงวันที่เป็นหลักฐานให้เราโดยอัตโนมัติว่าวันไหนเราทำอะไรไป
3. บันทึกเสียงสนทนากับเจ้าหน้าที่รัฐที่เราแอบอัดเก็บหรือถ่ายคลิปเก็บไว้
4. ค่าความดังเดซิเบลที่เราอ้างถึงมาจากแอพลิเคชั่น deciBel ของแอนดรอยด์ซึ่งแม้จะไม่แม่นยำนัก แต่ก็พอบอกได้คร่าว ๆ ว่าเสียงดังลดลงหรือไม่หลังจากที่เราดำเนินการร้องเรียนไป เราได้อัดคลิปและถ่ายภาพนิ่งค่าเดซิเบลและเสียงจากลานเบียร์ทั้งในบริเวณลานเบียร์และเสียงที่ได้ยินจากระเบียงห้อง/ในห้องของเราไว้ด้วย หลักฐานทั้งหมดได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเขตวัฒนาและเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมฝ่ายวัฒนาแล้วเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2558 และเขตได้ส่งอีเมลตอบรับกลับมาว่าได้หลักฐานทั้งหมดแล้วในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558
เดือนมิถุนายน ตอนที่หาห้องเช่าย่านอ่อนนุชได้ เราดีใจมากเพราะจะได้อยู่ใกล้ออฟฟิศ ไปกลับสะดวก ได้พักผ่อนเต็มที่ซักที แต่คืนแรกที่เข้าพักเท่านั้น ความหวังที่จะได้พักผ่อนอย่างสบายตลอดหนึ่งปีข้างหน้าก็ระเหิดหายไปเลยเพราะไม่นึกมาก่อนว่าคอนโดจะมีเพื่อนบ้านเป็นลานเบียร์ไร้จิตสำนึก! เสียงดังที่ว่านี้มาจาก “ลานเบียร์อ่อนนุช” ส่วนหนึ่งของตลาดกลางแจ้งระหว่างคอนโด Ideo Verve และ The President เริ่มเปิดทำการทรมานผู้คนตั้งแต่ช่วงสองทุ่มครึ่ง-ห้าทุ่มครึ่งของ
ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ยิ่งช่วงที่มีการร้องเรียนหนัก ๆ ร้านจะเริ่มส่งเสียงดังตั้งแต่ทุ่มครึ่งราวกับต้องการเยาะเย้ยกฎหมายไทยดัง ๆ ให้โลกรู้ (เราเองที่ร้องเรียน แต่ก็คาดว่ามีคนอื่นด้วย จากที่สอบถามตำรวจสน.พระโขนงมา)
*** สามเดือนหลังจากแจ้งเขต (แจ้งวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557) พบว่ามีเวทีงอกขึ้นมาส่งเสียงดังเพิ่มอีกชื่อ เวที Cocktail ส่วน "เวทีลานเบียร์อ่อนนุช" ขยับขยายไปแผ่ตัวอยู่บริเวณกลางตลาด
สองเดือนแรกที่มาอยู่ เรายอมอดทนกับเสียงพิฆาตหูทุกคืน เพราะคิดว่าเสียงดังน่ะมันเรื่องเล็ก อีกเดี๋ยวก็ชินไปเอง ร้องเรียนไปเดี๋ยวก็โดนหาว่าจุกจิกเรื่องมาก แต่เรื่องบางเรื่องมัน "ชิน" ไม่ได้จริง ๆ นับวันเราก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกเป็นทาสที่ต้องขึ้นอยู่กับความเมตตาของคนกลุ่มนี้อยู่เสมอ พอใกล้ ๆ สามทุ่ม ก็จะเริ่มวิตกจริตว่าวันนี้ลานเบียร์มันจะมาอารมณ์ไหน เสียงจะดังกว่าเดิมมั้ย จะเล่นกันนานแค่ไหน มันไม่ง่ายเลยที่จะต้องข่มตาหลับทั้งที่หูได้ยินเสียงเพลงที่เราไม่ต้องการจะฟัง ซ้ำ ๆ ซาก ๆ คืนละหลาย ๆ รอบ
เราเองก็ทำงาน กลับมาถึงบ้านดึกสามทุ่มสี่ทุ่ม อยากจะนอน แต่กลับต้องมาตั้งสมาธิข่มตานอนอีก ถึงจะพยายามหลีกเลี่ยงการปัญหาอยู่หลายครั้ง ทั้งซื้อที่อุดหูมาใช้ แต่ก็ไม่ได้ผลเลยสักอย่าง เพราะจริง ๆ ปัญหามันไม่ใช่แค่เสียงโหยหวนของนักร้อง แต่มี
"บีทจากกีต้าร์ไฟฟ้า" ที่สั่นสะเทือนขึ้นมาถึงบนห้องด้วย จากที่คิดว่าจะได้พักผ่อนเต็มที่ เรากลับไม่ได้นอนก่อนเที่ยงคืนมาสี่-ห้าเดือนแล้ว คุณภาพชีวิตตกต่ำยิ่งกว่าสมัยอยู่ไกลที่ทำงานเสียอีก ฉะนั้น ใครคิดจะมาเช่าห้องอยู่แถวนี้ระวังไว้ให้ดีนะคะ เช็คดี ๆ ก่อนเลยว่าห้องที่จะย้ายไปเสียงมาถึงมั้ย
"การมาดูห้องตอนกลางวัน" เหมือนเราบอกอะไรไม่ได้เพราะเสียงดังยามวิกาล = เกิดขึ้นยามวิกาล ทางที่ดีพยายามเลือกห้องที่หันหน้าออกจากลานเบียร์น่าจะปลอดภัยสุดค่ะ (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ไม่รู้นะคะว่าห้องฟากอื่นได้รับอานิสงส์ไปบ้างมั้ย ระวังไว้ก่อนเป็นดีค่ะ)
แต่แล้ว
ช่วงต้นกรกฎาคม 57 เสียงดังตลอดเดือนหยุดไปซะเฉย ๆ สองสัปดาห์ ช่วงนั้นเราแทบจะจุดพลุฉลองเลย คิดว่าคงมีคนโทรแจ้งตำรวจแล้ว เราไม่ต้องทนทุกข์ทรมานยามค่ำคืนเพราะเรื่องนี้อีกแล้ว....โชคร้าย ที่เราคิดผิด เพราะปลายเดือนกรกฎา คอนเสิร์ตกลับมาอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังรุนแรงเหมือนเดิม ตอนนั้นเราไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องทำยังไง ได้แต่เกลียดตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่กลายเป็นพวกงอมืองอเท้า เอาแต่บ่นลงเฟซไปวัน ๆ ได้ถึงสองเดือน เป็นคนประเภทที่เราไม่ชอบเลย! เราเริ่มอยากรู้ค่ะ ว่าสาเหตุที่เสียงมันหยุดไปตอนนั้นใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐจริงอย่างที่เราเคยให้เครดิตไว้มั้ย? เราสงสัยค่ะ ว่า
"จริง ๆ แล้ว เจ้าหน้าที่รัฐช่วยประชาชนได้จริงหรือเปล่านะ?"
เดือนสิงหาคม เรากล้า ๆ กลัว ๆ เพราะเป็นครั้งแรกของเราที่ตัดสินใจจะส่งเรื่องร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ สำหรับเราที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้
เลย มันเป็นอะไรที่มืดแปดด้านมาก ๆ
เราไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่อยากให้ความศรัทธาที่มีอยู่เพียงนิดน้อยต้องแตกสลายไปมากกว่านี้ ถึงได้พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด เอาแต่คิดว่า "เอาน่ะ วันนี้น่าจะเสียงดังน้อยกว่าเมื่อวานนะ" หรือ "ไม่มีใครอยากทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรอก" หรือ "เดี๋ยวพอเค้าหาเงินได้มากพอเค้าก็จะทำผนังกั้นเสียงเอง" แต่ใครที่เจอเสียงดังยามวิกาลแบบเดียวกันนี้ก็น่าจะรู้ค่ะ ว่ามันไม่จริง ดังนั้น กลางเดือนสิงหาคม เราจึงเริ่มโทรหา 191... แทบทุกคืน
ผลก็คือ
เราไม่เคยได้คุยกับตำรวจจริง ๆ เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเกลียดมาก ๆ โอเค เรารู้ว่า ตำรวจอาจจะไม่รับสายเราบ้างเป็นบางครั้ง แต่เนื่องจากเราไม่เคยโทรต่อเนื่อง เราจึงเพิ่งรู้ว่ามีการไม่รับสายอย่างต่อเนื่องขนาดนี้ด้วย! ตลอดทั้งเดือนเราเจอแต่เสียงตอบรับของตำรวจหญิงที่พูดประมาณว่า "เจ้าหน้าที่ไม่มี กำลังออกปฏิบัติหน้าที่" พอสิ้นเดือน เราเริ่มสิ้นศรัทธากับ 191 และหันไปทำรีเสิร์ชเกี่ยวกับลานเบียร์ด้านล่างด้วยตัวเอง เพราะตอนนั้นเราเพิกเฉยกับปัญหามากเสียจนเราเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เสียงที่ทำร้ายเราอยู่ทุกคืนมันมาจากร้านไหน ชื่ออะไร ส่วนหนึ่งก็เพราะร้านไม่ได้มีชื่อบอกไว้ด้านหน้า แต่แปะเอาไว้ที่ฉากหลังเวทีว่า "ลานเบียร์อ่อนนุช"
การเสิร์ชข้อมูลทำให้เราได้รู้ว่า นี่ ไม่ใช่ ครั้งแรกที่ "ลานเบียร์อ่อนนุช" ก่อเรื่อง เพราะเมื่อปี 2012 เคยมีข่าวออกมาแล้วว่า เขตวัฒนาได้แจ้งความกับลานเบียร์นี้เพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก (เสิร์ช "คมชัดลึก ลานเบียร์อ่อนนุช" ดูนะคะ) ครั้งนั้นร้านเคยถูกปิดไปด้วยข้อหา "ไม่มีใบอนุญาตจากทางเขต" ซึ่งก็น่าสงสัยว่าทำไมแค่สองปีมันถึงกลับมาได้ ใช้ชื่อเดิม ปักหลักก่อความรำคาญเวลาเดิม ที่เดิม มีพฤติการณ์แบบเดิม ๆ ทั้งที่เมื่อสอบถามข้อกฎหมายกับทางเขตแล้ว เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า หากเจ้าของถูกดำเนินคดีในข้อหานี้ จะไม่สามารถเปิดสถานประกอบการแบบเดิมได้อีกเลย เราสันนิษฐานเอาว่า อาจเป็นเพราะ มีเวทีลานเบียร์สองแห่งในตลาด แห่งหนึ่งใกล้ Ideo Verve กับอีกแห่งใกล้ The President ที่โดนปิดปี 2012 อาจไม่ใช่ทั้งสองแห่ง หรือไม่ก็อาจจะแค่เปิดผิดกฎหมายทั่ว ๆ ไป จ่ายใต้โต๊ะ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน
เพื่อความกระชับของเรื่อง (ที่ยาวมาก) ใครที่อยากรู้รายละเอียดว่าเราอ่านอะไรไปบ้าง จิ้มดูได้ตรงนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ Keyword: กฎหมายมลพิษทางเสียงและความสั่นสะเทือน
คู่มือวัดเสียงรบกวนของกรมควบคุมมลพิษ
บทความเสียงนี้ที่ไม่ต้องการ ของศาลปกครอง
หลักการตรวจวัดเสียงรบกวน
อ่านแล้วสรุปไม่ได้อยู่ดีว่าเราจะต้องแจ้งปัญหานี้กับใคร และสรุปไม่ได้ด้วยว่าเสียงที่ดังอยู่นี่นับเป็นเสียงรบกวนหรือเปล่า เพราะแม้กฎหมายจะบอกว่า
"เสียงรบกวน = ความดังหน่วยเดซิเบลเอขณะที่มีเสียงรบกวน - ความดังขณะที่ไม่มีเสียงรบกวน แล้วมีค่ามากกว่า 10 เดซิเบลเอ" แต่ชาวบ้านอย่างเราจะเอาอะไรมาวัดเดซิเบลเอกันล่ะ นอกจากแอพมือถือที่ก็ไม่แน่ว่าจะเที่ยงตรงพอด้วย
ส่วนใครที่อยากอ่านกรณีของคนที่ร้องเรียนเรื่องนี้สำเร็จ ขอให้ตามไปอ่านที่กระทู้
http://ppantip.com/topic/32330956 นะคะ เราปริ๊นท์กระทู้ของเขาออกมาวางไว้หน้าทีวีเพื่อที่ทุกวันตื่นมาจะได้อ่านมันซ้ำ หนึ่ง เพื่อให้จำขั้นตอนได้ และ สอง เพื่อให้เรามีกำลังใจว่า สักวันเสียงอึกทึกแถวนี้ก็จะหายไปเหมือนกัน แต่เรื่องของเรายังไม่ได้ Happy Ending มาเป็นตอนจบเหมือนอย่างเขาหรอกนะคะ และยังไม่เห็นหนทางเลยด้วย มาหวนคิดถึงวันนั้นตอนนี้แล้ว บางครั้ง เราก็อยากจะหัวเราะค่ะ... หัวเราะทั้งน้ำตา ... ก็สงสัยเหมือนกันนะคะว่า
ทำไมประเทศนี้ถึงไม่เคยเหนื่อยกับการทำลายศรัทธาของประชาชนเลยล่ะคะ?
เสียงดังจากลานเบียร์อ่อนนุช ปัญหาไร้ทางแก้ของเขตวัฒนา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก่อนเริ่มเรื่องเราขอบอกไว้ก่อนว่า ยังไม่มีตอนจบสำหรับมหากาพย์เรื่องนี้ค่ะ แต่ข้อมูลเบื้องต้นที่เราได้ทราบจากการพูดคุยกับ นิติบุคคล ของตึกเราก็คือ ปัญหาเสียงดังยามวิกาลจากลานเบียร์อ่อนนุชนี้เริ่มมานานหลายปีแล้ว และมีผู้พักอาศัยอีกมากที่เดือดร้อนในเรื่องเดียวกัน ปัญหาดังกล่าวเคยลงข่าวหนังสือพิมพ์คมชัดลึก เคยออกรายการช่องไทยพีบีเอส เคยไปถึงสำนักนายกรัฐมนตรี คสช.เคยต้องเข้ามาคุมลานเบียร์นี้อยู่ครั้งหนึ่ง เจ้าของลานเบียร์ถูกเรียกมาเจรจาหลายครั้งจน "เคย" ได้ข้อสรุปว่าพื้นที่ตรงลานเบียร์ปัจจุบันจะถูกพัฒนาไปเป็นโรงหนังภายในปีที่แล้ว (2014) แต่ทุกวันนี้ลานเบียร์เจ้าปัญหาก็ยังคงอยู่ ส่วนเจ้าของที่นั้นไม่ไยดีต่อข้อร้องเรียนของนิติบุคคลแต่อย่างใด
เราหวังว่ากระทู้นี้จะเปิดพื้นที่ให้คนกทม. คนละแวกเดียวกัน โดยเฉพาะคอนโดเดียวกับเรา ได้คุยถึงปัญหานี้ แชร์วิธีแก้ไขที่ได้ทำไปซึ่งแน่นอนว่าล้มเหลว เผื่อว่าเราจะได้หาทางอื่นกันต่อ และเราหวังมาก ๆ ว่าประเด็นนี้จะได้เข้าไปอยู่ในความสนใจของเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนทั่วไปสักที ว่า "เสียงดังยามวิกาล" เป็นปัญหาที่เราทุกคนควรต้องส่งเสียงออกมาดัง ๆ ว่า "มันเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขกันอย่างจริงจังได้แล้ว!"
หมายเหตุ :::::
เรื่องทั้งหมดที่เราจะเล่าต่อจากนี้เป็นเหตุการณ์จริงที่เราเรียบเรียงขึ้นจาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดือนมิถุนายน ตอนที่หาห้องเช่าย่านอ่อนนุชได้ เราดีใจมากเพราะจะได้อยู่ใกล้ออฟฟิศ ไปกลับสะดวก ได้พักผ่อนเต็มที่ซักที แต่คืนแรกที่เข้าพักเท่านั้น ความหวังที่จะได้พักผ่อนอย่างสบายตลอดหนึ่งปีข้างหน้าก็ระเหิดหายไปเลยเพราะไม่นึกมาก่อนว่าคอนโดจะมีเพื่อนบ้านเป็นลานเบียร์ไร้จิตสำนึก! เสียงดังที่ว่านี้มาจาก “ลานเบียร์อ่อนนุช” ส่วนหนึ่งของตลาดกลางแจ้งระหว่างคอนโด Ideo Verve และ The President เริ่มเปิดทำการทรมานผู้คนตั้งแต่ช่วงสองทุ่มครึ่ง-ห้าทุ่มครึ่งของทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ยิ่งช่วงที่มีการร้องเรียนหนัก ๆ ร้านจะเริ่มส่งเสียงดังตั้งแต่ทุ่มครึ่งราวกับต้องการเยาะเย้ยกฎหมายไทยดัง ๆ ให้โลกรู้ (เราเองที่ร้องเรียน แต่ก็คาดว่ามีคนอื่นด้วย จากที่สอบถามตำรวจสน.พระโขนงมา)
*** สามเดือนหลังจากแจ้งเขต (แจ้งวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557) พบว่ามีเวทีงอกขึ้นมาส่งเสียงดังเพิ่มอีกชื่อ เวที Cocktail ส่วน "เวทีลานเบียร์อ่อนนุช" ขยับขยายไปแผ่ตัวอยู่บริเวณกลางตลาด
สองเดือนแรกที่มาอยู่ เรายอมอดทนกับเสียงพิฆาตหูทุกคืน เพราะคิดว่าเสียงดังน่ะมันเรื่องเล็ก อีกเดี๋ยวก็ชินไปเอง ร้องเรียนไปเดี๋ยวก็โดนหาว่าจุกจิกเรื่องมาก แต่เรื่องบางเรื่องมัน "ชิน" ไม่ได้จริง ๆ นับวันเราก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกเป็นทาสที่ต้องขึ้นอยู่กับความเมตตาของคนกลุ่มนี้อยู่เสมอ พอใกล้ ๆ สามทุ่ม ก็จะเริ่มวิตกจริตว่าวันนี้ลานเบียร์มันจะมาอารมณ์ไหน เสียงจะดังกว่าเดิมมั้ย จะเล่นกันนานแค่ไหน มันไม่ง่ายเลยที่จะต้องข่มตาหลับทั้งที่หูได้ยินเสียงเพลงที่เราไม่ต้องการจะฟัง ซ้ำ ๆ ซาก ๆ คืนละหลาย ๆ รอบ
เราเองก็ทำงาน กลับมาถึงบ้านดึกสามทุ่มสี่ทุ่ม อยากจะนอน แต่กลับต้องมาตั้งสมาธิข่มตานอนอีก ถึงจะพยายามหลีกเลี่ยงการปัญหาอยู่หลายครั้ง ทั้งซื้อที่อุดหูมาใช้ แต่ก็ไม่ได้ผลเลยสักอย่าง เพราะจริง ๆ ปัญหามันไม่ใช่แค่เสียงโหยหวนของนักร้อง แต่มี "บีทจากกีต้าร์ไฟฟ้า" ที่สั่นสะเทือนขึ้นมาถึงบนห้องด้วย จากที่คิดว่าจะได้พักผ่อนเต็มที่ เรากลับไม่ได้นอนก่อนเที่ยงคืนมาสี่-ห้าเดือนแล้ว คุณภาพชีวิตตกต่ำยิ่งกว่าสมัยอยู่ไกลที่ทำงานเสียอีก ฉะนั้น ใครคิดจะมาเช่าห้องอยู่แถวนี้ระวังไว้ให้ดีนะคะ เช็คดี ๆ ก่อนเลยว่าห้องที่จะย้ายไปเสียงมาถึงมั้ย "การมาดูห้องตอนกลางวัน" เหมือนเราบอกอะไรไม่ได้เพราะเสียงดังยามวิกาล = เกิดขึ้นยามวิกาล ทางที่ดีพยายามเลือกห้องที่หันหน้าออกจากลานเบียร์น่าจะปลอดภัยสุดค่ะ (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ไม่รู้นะคะว่าห้องฟากอื่นได้รับอานิสงส์ไปบ้างมั้ย ระวังไว้ก่อนเป็นดีค่ะ)
แต่แล้ว ช่วงต้นกรกฎาคม 57 เสียงดังตลอดเดือนหยุดไปซะเฉย ๆ สองสัปดาห์ ช่วงนั้นเราแทบจะจุดพลุฉลองเลย คิดว่าคงมีคนโทรแจ้งตำรวจแล้ว เราไม่ต้องทนทุกข์ทรมานยามค่ำคืนเพราะเรื่องนี้อีกแล้ว....โชคร้าย ที่เราคิดผิด เพราะปลายเดือนกรกฎา คอนเสิร์ตกลับมาอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังรุนแรงเหมือนเดิม ตอนนั้นเราไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องทำยังไง ได้แต่เกลียดตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่กลายเป็นพวกงอมืองอเท้า เอาแต่บ่นลงเฟซไปวัน ๆ ได้ถึงสองเดือน เป็นคนประเภทที่เราไม่ชอบเลย! เราเริ่มอยากรู้ค่ะ ว่าสาเหตุที่เสียงมันหยุดไปตอนนั้นใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐจริงอย่างที่เราเคยให้เครดิตไว้มั้ย? เราสงสัยค่ะ ว่า "จริง ๆ แล้ว เจ้าหน้าที่รัฐช่วยประชาชนได้จริงหรือเปล่านะ?"
เดือนสิงหาคม เรากล้า ๆ กลัว ๆ เพราะเป็นครั้งแรกของเราที่ตัดสินใจจะส่งเรื่องร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ สำหรับเราที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้เลย มันเป็นอะไรที่มืดแปดด้านมาก ๆ
เราไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่อยากให้ความศรัทธาที่มีอยู่เพียงนิดน้อยต้องแตกสลายไปมากกว่านี้ ถึงได้พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด เอาแต่คิดว่า "เอาน่ะ วันนี้น่าจะเสียงดังน้อยกว่าเมื่อวานนะ" หรือ "ไม่มีใครอยากทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรอก" หรือ "เดี๋ยวพอเค้าหาเงินได้มากพอเค้าก็จะทำผนังกั้นเสียงเอง" แต่ใครที่เจอเสียงดังยามวิกาลแบบเดียวกันนี้ก็น่าจะรู้ค่ะ ว่ามันไม่จริง ดังนั้น กลางเดือนสิงหาคม เราจึงเริ่มโทรหา 191... แทบทุกคืน
ผลก็คือ เราไม่เคยได้คุยกับตำรวจจริง ๆ เลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเกลียดมาก ๆ โอเค เรารู้ว่า ตำรวจอาจจะไม่รับสายเราบ้างเป็นบางครั้ง แต่เนื่องจากเราไม่เคยโทรต่อเนื่อง เราจึงเพิ่งรู้ว่ามีการไม่รับสายอย่างต่อเนื่องขนาดนี้ด้วย! ตลอดทั้งเดือนเราเจอแต่เสียงตอบรับของตำรวจหญิงที่พูดประมาณว่า "เจ้าหน้าที่ไม่มี กำลังออกปฏิบัติหน้าที่" พอสิ้นเดือน เราเริ่มสิ้นศรัทธากับ 191 และหันไปทำรีเสิร์ชเกี่ยวกับลานเบียร์ด้านล่างด้วยตัวเอง เพราะตอนนั้นเราเพิกเฉยกับปัญหามากเสียจนเราเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เสียงที่ทำร้ายเราอยู่ทุกคืนมันมาจากร้านไหน ชื่ออะไร ส่วนหนึ่งก็เพราะร้านไม่ได้มีชื่อบอกไว้ด้านหน้า แต่แปะเอาไว้ที่ฉากหลังเวทีว่า "ลานเบียร์อ่อนนุช"
การเสิร์ชข้อมูลทำให้เราได้รู้ว่า นี่ ไม่ใช่ ครั้งแรกที่ "ลานเบียร์อ่อนนุช" ก่อเรื่อง เพราะเมื่อปี 2012 เคยมีข่าวออกมาแล้วว่า เขตวัฒนาได้แจ้งความกับลานเบียร์นี้เพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก (เสิร์ช "คมชัดลึก ลานเบียร์อ่อนนุช" ดูนะคะ) ครั้งนั้นร้านเคยถูกปิดไปด้วยข้อหา "ไม่มีใบอนุญาตจากทางเขต" ซึ่งก็น่าสงสัยว่าทำไมแค่สองปีมันถึงกลับมาได้ ใช้ชื่อเดิม ปักหลักก่อความรำคาญเวลาเดิม ที่เดิม มีพฤติการณ์แบบเดิม ๆ ทั้งที่เมื่อสอบถามข้อกฎหมายกับทางเขตแล้ว เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า หากเจ้าของถูกดำเนินคดีในข้อหานี้ จะไม่สามารถเปิดสถานประกอบการแบบเดิมได้อีกเลย เราสันนิษฐานเอาว่า อาจเป็นเพราะ มีเวทีลานเบียร์สองแห่งในตลาด แห่งหนึ่งใกล้ Ideo Verve กับอีกแห่งใกล้ The President ที่โดนปิดปี 2012 อาจไม่ใช่ทั้งสองแห่ง หรือไม่ก็อาจจะแค่เปิดผิดกฎหมายทั่ว ๆ ไป จ่ายใต้โต๊ะ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน
เพื่อความกระชับของเรื่อง (ที่ยาวมาก) ใครที่อยากรู้รายละเอียดว่าเราอ่านอะไรไปบ้าง จิ้มดูได้ตรงนี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อ่านแล้วสรุปไม่ได้อยู่ดีว่าเราจะต้องแจ้งปัญหานี้กับใคร และสรุปไม่ได้ด้วยว่าเสียงที่ดังอยู่นี่นับเป็นเสียงรบกวนหรือเปล่า เพราะแม้กฎหมายจะบอกว่า "เสียงรบกวน = ความดังหน่วยเดซิเบลเอขณะที่มีเสียงรบกวน - ความดังขณะที่ไม่มีเสียงรบกวน แล้วมีค่ามากกว่า 10 เดซิเบลเอ" แต่ชาวบ้านอย่างเราจะเอาอะไรมาวัดเดซิเบลเอกันล่ะ นอกจากแอพมือถือที่ก็ไม่แน่ว่าจะเที่ยงตรงพอด้วย
ส่วนใครที่อยากอ่านกรณีของคนที่ร้องเรียนเรื่องนี้สำเร็จ ขอให้ตามไปอ่านที่กระทู้ http://ppantip.com/topic/32330956 นะคะ เราปริ๊นท์กระทู้ของเขาออกมาวางไว้หน้าทีวีเพื่อที่ทุกวันตื่นมาจะได้อ่านมันซ้ำ หนึ่ง เพื่อให้จำขั้นตอนได้ และ สอง เพื่อให้เรามีกำลังใจว่า สักวันเสียงอึกทึกแถวนี้ก็จะหายไปเหมือนกัน แต่เรื่องของเรายังไม่ได้ Happy Ending มาเป็นตอนจบเหมือนอย่างเขาหรอกนะคะ และยังไม่เห็นหนทางเลยด้วย มาหวนคิดถึงวันนั้นตอนนี้แล้ว บางครั้ง เราก็อยากจะหัวเราะค่ะ... หัวเราะทั้งน้ำตา ... ก็สงสัยเหมือนกันนะคะว่า
ทำไมประเทศนี้ถึงไม่เคยเหนื่อยกับการทำลายศรัทธาของประชาชนเลยล่ะคะ?