หลังจากที่ไปเดินตลาดนัด Akihabara มาเมื่อวาน ก็ถึงเวลาไปส่องถุงโชคดีที่ Pokemon Center ซึ่งจริงๆแล้วมีขายตั้งแต่วันที่ 1 แล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
===== ความเดิมตอนที่แล้ว =====
Tokyo โอตาคุ 8 วัน 7 คืน อิสระช้อปของถูก Ueno - COMIKET - POKECEN - ธีมคาเฟ่
Tokyo โอตาคุ 8 วัน 7 คืน episode 2: COMIKET 87 วันที่ 2-3, AKIHABARA, IKEBUKURO POKECEN
Tokyo โอตาคุ 8 วัน 7 คืน episode 3: ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
======================
===== 02-02-2015: ถุงโชคดีจาก Pokemon Center และ สวัสดีปีใหม่รุ่นน้อง =====
เช้ามาวันนี้ หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็ออกไปหาไรกินที่ร้านเมื่อวานต่อ เพราะมีเมนูให้ลองอีกเยอะ ก็เลยได้จานนี้มาในราคา 590 yen เป็น กะทะร้อน ฮัมเบิร์ก+สเต๊กไก่ ราดซอสเผ็ด อิ่มอร่อยกันไปเลย
หลังจากอิ่มท้อง เวลาประมาณ 10 โมงก็เดินทางไป Sunshine City เพื่อจะไปส่องถุงโชคดีที่ Pokemon Center ระหว่างทางขึ้น Pokemon Center ก็เห็นร้านค้าต่างๆ ในศูนย์การค้า alpa ยังคงมีถุงโชคดีขายอยู่ บางร้านก็มีป้ายบอกเลยว่าของในถุงได้อะไรบ้าง แต่ผมที่ไม่ค่อยมีงบ ก็เลยได้แต่ผ่านเลยไป
เจอเขากำลังขนย้ายนกเพนกวิ้นอยู่หน้า Pokecen ด้วย เสียงร้องมันยังกว่าอีกา.....
จนไปถึงที่หมาย สุดท้ายก็ควักบัตร Credit ออกมาจัดหนักกันเลยทีเดียว
(พอกลับไทยมาเช็คยอด พบว่าถูกกว่าอัตราค่าเงินที่เราแลกไปอีก…..)
new 3DS Limited แบบชัดๆ อย่างงาม
นั่งๆนอนๆอยู่หน้า Pokemon Center อยู่นาน เพราะคอยนัดรับของกับพี่ที่รู้จักอยู่ จนได้เวลาไปรับของประมาณบ่าย 3 พอรับของเสร็จแล้วก็ได้เวลาเปิดภาคเรียนวันแรก แต่ก็คิดอยู่นานจะเข้ายังไง โปเกม่อน ตัวเป้งๆ 2 ถุง(เพื่อนฝากด้วยถุงนึง)
ของภายในถุงเพียงถุงเดียวมีตุ๊กตาตัวเริ่มภาค X/Y 3 ตัวเป้งๆ(ท่าหลับข้ามปี ฮา~~~~~) ในราคาเพียง 5000 yen เท่านั้น
(ปกติตัวขนาดนี้ 3000+ yen ได้แค่ตัวเดียว)
และของอีกมากมาย ทีแรกก็กะจะกลับเอาของไปเก็บห้องก่อน แต่พอลองเดินไปในสถานีรถไฟ ก็มองไปเห็น Coin Locker พอดี จึงได้โอกาสลองใช้บริการ จัดของมากมายเข้าตู้ไปซะ
เก็บของเสร็จเรียบร้อยก็เลยไปเข้าเรียนกันต่อ วันนี้เป็นวันแรกของโรงเรียน โรงเรียนเปิดตอนบ่าย 2 แต่ผมเข้าประมาณ 5 โมง สิ่งที่น่ายินดีสุดของวันนี้ คือ ท่านประธานวง Afilia Saga มาเข้าทำงานที่ร้านแจ้ ก็จัด 2 Shot กันไป
(มีรุ่นน้องใส่ชุดมิโกะด้วย เลยลองขอถ่ายรูป 2 shot ดู แต่เขาบอกว่าชุดมิโกะถ่ายไม่ได้ ก็อดไป)
ประมาณ 2 ทุ่มผมก็เดินทางกลับที่พัก ไปจัดร้านเดิมต่อด้วยเมนูนี้ในราคา 520 yen เป็น ผัดหมูสามชั้น รสชาติเหมือนกินเบค่อนผัดซีอิ้ว อิ่มอร่อยไปอีกมื้อ
และก็นัดรับของกับเพื่อนช่วง 4 ทุ่มที่สะพาน Ueno แล้วก็กลับที่พักจัดแพ็คกระเป๋าเตรียมกลับกรุงเทพในวันพรุ่งนี้
มีแอบไปหยอดเครื่อง Print ที่ เซเว่น มาด้วย เป็นรูป น้องสาว กับ พี่สาว ใครพี่ใครน้องไปเดากันเองเลยแจ้.....
===== 03-02-2015: สิ่งที่จะทำได้วันสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพ =====
เวลาประมาณ 10 โมง ตอนแรกผมคิดว่าวันนี้จะไม่ได้ไปไหนต่อแล้ว แต่ก็ลองเดินออกไปนอกที่พัก ส่อง Coin Locker ฝั่งตรงข้าม พบว่า ว่างอยู่รีบขึ้นไปเอากระเป๋าที่อัดแน่นไปด้วยสินค้า(ตุ๊กตาโปเกม่อน 3 ตัวเป้งๆ)เก็บเข้าไป ทำให้ในที่สุดก็ไม่มีภาระเรื่องต้องเฝ้าของ สิ่งที่จะทำได้ ก็เหลือเวลาอีกช่วงหนึ่ง เพราะผมควรจะไปถึงสนามบิน ก่อนบ่าย 3 ดังนั้น ไปหาไรกินก่อน
ร้านเดิม 470 yen set อาหารเช้าพุงปลาแซลม่อนย่าง(400 yen)+ไก่ทอด(70 yen) ไก่ทอดร้านนี้นี่ผม recommeded เลยครับ ของเขาดีจริง
แล้วก็…..ไปเข้าเรียนสิครัช ฮา~~~~~~~~~~~
เมนูในวันนี้เป็นของหวาน วันนี้เป็นวันเริ่ม New Year Encount วันแรก เลยสั่งเมนูพิเศษมา
ก็ได้ของแถมตามเมนู Encount แต่ทำไมวันนี้ขอ 2 Shot กับ มิโกะได้…..
หลังจากนั้นประมาณบ่ายโมงใกล้ได้เวลาก็รีบกลับไปเอากระเป๋าออกจาก Coin Locker แล้วลากไปขึ้น Keisei Main Line เพื่อไปสนามบินพร้อมกับเพื่อนๆ
ไปถึงสนามบินบ่าย 3 กว่า ผมมีภาระที่ต้องไปคืน Wi-Fi เลยแยกกับเพื่อนไปหาที่คืน Wi-Fi ก่อน ซึ่งก็ถามทางเอาจากเจ้าหน้าที่สนามบิน จนเจอ จุดรับส่งของ JP POST ก็ทำการส่งของคืนไป รอดตัวไปไม่โดนค่าปรับ
(ตอนแรกเจ้าหน้าที่สนามบินบอกว่าเวลานี้ วันนี้เขาอาจจะปิดแล้ว)
จากนั้นก็เข้าไปเดินช็อป Duty Free ก่อนกลับ แล้วก็ไปกดตู้ไอติม Coolish มากิน
(ช่วงหน้าหนาวในตัวเมืองไม่มี Coolish ขายซักร้านเลยครับ ไอติม Coolish ที่ กทม นำเข้ามาขายกันอันนึง 100 บาท กินที่นู่น 100 YEN ฮา~~~~~~~~)
เมื่อได้กิน Coolish ก็จะทำหน้าแบบในรูปนี้กันไป
พอได้เวลาก็ขึ้นเครื่องกลับ กทม โดยสวัสดิภาพ โดย โหลด กระเป๋า 28 นิ้ว และ carry on อย่างละใบ ลาก carry on ขึ้นอีกใบ และหิ้วถุงมาม่าอีกถุง(ที่ซื้อวันที่ 28 นั่นแหละ ไม่ได้กะกินที่นู่นหลอกนะ ฮา~~~~~~~)
ปล.ผมไม่เจอ Taxi สุวรรณภูมิ เรียกค่าโดยสารแบบเหมานะ แล้วก็เรียกคันแรกก็ไปเลยด้วย ของงี้คงแล้วแต่ดวงด้วยมั้งครับ
แล้วก็ขอปิดทริปแต่เพียงเท่านี้ ท่านไหนสนใจไปเที่ยวแนวนี้ พูดคุยกันต่อได้ที่เพจ OTATOUR เลยแจ้
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ต้องขออภัยที่รูปประกอบไม่ค่อยเยอะ เพราะตอนแรกไม่ได้กะว่าจะเอามาตั้งกระทู้รีวิว ไว้ทริปหน้า ถ้ามีโอกาสอีกจะถ่ายรูปประกอบมาเยอะๆเลยแจ้
[CR] [Japan Solo Trip] Tokyo โอตาคุ 8 วัน 7 คืน Last episode : ถุงโชคดีจาก Pokemon Center และ วันสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯ
หลังจากที่ไปเดินตลาดนัด Akihabara มาเมื่อวาน ก็ถึงเวลาไปส่องถุงโชคดีที่ Pokemon Center ซึ่งจริงๆแล้วมีขายตั้งแต่วันที่ 1 แล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
===== ความเดิมตอนที่แล้ว =====
Tokyo โอตาคุ 8 วัน 7 คืน อิสระช้อปของถูก Ueno - COMIKET - POKECEN - ธีมคาเฟ่
Tokyo โอตาคุ 8 วัน 7 คืน episode 2: COMIKET 87 วันที่ 2-3, AKIHABARA, IKEBUKURO POKECEN
Tokyo โอตาคุ 8 วัน 7 คืน episode 3: ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
======================
===== 02-02-2015: ถุงโชคดีจาก Pokemon Center และ สวัสดีปีใหม่รุ่นน้อง =====
เช้ามาวันนี้ หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็ออกไปหาไรกินที่ร้านเมื่อวานต่อ เพราะมีเมนูให้ลองอีกเยอะ ก็เลยได้จานนี้มาในราคา 590 yen เป็น กะทะร้อน ฮัมเบิร์ก+สเต๊กไก่ ราดซอสเผ็ด อิ่มอร่อยกันไปเลย
หลังจากอิ่มท้อง เวลาประมาณ 10 โมงก็เดินทางไป Sunshine City เพื่อจะไปส่องถุงโชคดีที่ Pokemon Center ระหว่างทางขึ้น Pokemon Center ก็เห็นร้านค้าต่างๆ ในศูนย์การค้า alpa ยังคงมีถุงโชคดีขายอยู่ บางร้านก็มีป้ายบอกเลยว่าของในถุงได้อะไรบ้าง แต่ผมที่ไม่ค่อยมีงบ ก็เลยได้แต่ผ่านเลยไป
เจอเขากำลังขนย้ายนกเพนกวิ้นอยู่หน้า Pokecen ด้วย เสียงร้องมันยังกว่าอีกา.....
จนไปถึงที่หมาย สุดท้ายก็ควักบัตร Credit ออกมาจัดหนักกันเลยทีเดียว
(พอกลับไทยมาเช็คยอด พบว่าถูกกว่าอัตราค่าเงินที่เราแลกไปอีก…..)
new 3DS Limited แบบชัดๆ อย่างงาม
นั่งๆนอนๆอยู่หน้า Pokemon Center อยู่นาน เพราะคอยนัดรับของกับพี่ที่รู้จักอยู่ จนได้เวลาไปรับของประมาณบ่าย 3 พอรับของเสร็จแล้วก็ได้เวลาเปิดภาคเรียนวันแรก แต่ก็คิดอยู่นานจะเข้ายังไง โปเกม่อน ตัวเป้งๆ 2 ถุง(เพื่อนฝากด้วยถุงนึง)
ของภายในถุงเพียงถุงเดียวมีตุ๊กตาตัวเริ่มภาค X/Y 3 ตัวเป้งๆ(ท่าหลับข้ามปี ฮา~~~~~) ในราคาเพียง 5000 yen เท่านั้น
(ปกติตัวขนาดนี้ 3000+ yen ได้แค่ตัวเดียว)
และของอีกมากมาย ทีแรกก็กะจะกลับเอาของไปเก็บห้องก่อน แต่พอลองเดินไปในสถานีรถไฟ ก็มองไปเห็น Coin Locker พอดี จึงได้โอกาสลองใช้บริการ จัดของมากมายเข้าตู้ไปซะ
เก็บของเสร็จเรียบร้อยก็เลยไปเข้าเรียนกันต่อ วันนี้เป็นวันแรกของโรงเรียน โรงเรียนเปิดตอนบ่าย 2 แต่ผมเข้าประมาณ 5 โมง สิ่งที่น่ายินดีสุดของวันนี้ คือ ท่านประธานวง Afilia Saga มาเข้าทำงานที่ร้านแจ้ ก็จัด 2 Shot กันไป
(มีรุ่นน้องใส่ชุดมิโกะด้วย เลยลองขอถ่ายรูป 2 shot ดู แต่เขาบอกว่าชุดมิโกะถ่ายไม่ได้ ก็อดไป)
ประมาณ 2 ทุ่มผมก็เดินทางกลับที่พัก ไปจัดร้านเดิมต่อด้วยเมนูนี้ในราคา 520 yen เป็น ผัดหมูสามชั้น รสชาติเหมือนกินเบค่อนผัดซีอิ้ว อิ่มอร่อยไปอีกมื้อ
และก็นัดรับของกับเพื่อนช่วง 4 ทุ่มที่สะพาน Ueno แล้วก็กลับที่พักจัดแพ็คกระเป๋าเตรียมกลับกรุงเทพในวันพรุ่งนี้
มีแอบไปหยอดเครื่อง Print ที่ เซเว่น มาด้วย เป็นรูป น้องสาว กับ พี่สาว ใครพี่ใครน้องไปเดากันเองเลยแจ้.....
===== 03-02-2015: สิ่งที่จะทำได้วันสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพ =====
เวลาประมาณ 10 โมง ตอนแรกผมคิดว่าวันนี้จะไม่ได้ไปไหนต่อแล้ว แต่ก็ลองเดินออกไปนอกที่พัก ส่อง Coin Locker ฝั่งตรงข้าม พบว่า ว่างอยู่รีบขึ้นไปเอากระเป๋าที่อัดแน่นไปด้วยสินค้า(ตุ๊กตาโปเกม่อน 3 ตัวเป้งๆ)เก็บเข้าไป ทำให้ในที่สุดก็ไม่มีภาระเรื่องต้องเฝ้าของ สิ่งที่จะทำได้ ก็เหลือเวลาอีกช่วงหนึ่ง เพราะผมควรจะไปถึงสนามบิน ก่อนบ่าย 3 ดังนั้น ไปหาไรกินก่อน
ร้านเดิม 470 yen set อาหารเช้าพุงปลาแซลม่อนย่าง(400 yen)+ไก่ทอด(70 yen) ไก่ทอดร้านนี้นี่ผม recommeded เลยครับ ของเขาดีจริง
แล้วก็…..ไปเข้าเรียนสิครัช ฮา~~~~~~~~~~~
เมนูในวันนี้เป็นของหวาน วันนี้เป็นวันเริ่ม New Year Encount วันแรก เลยสั่งเมนูพิเศษมา
ก็ได้ของแถมตามเมนู Encount แต่ทำไมวันนี้ขอ 2 Shot กับ มิโกะได้…..
หลังจากนั้นประมาณบ่ายโมงใกล้ได้เวลาก็รีบกลับไปเอากระเป๋าออกจาก Coin Locker แล้วลากไปขึ้น Keisei Main Line เพื่อไปสนามบินพร้อมกับเพื่อนๆ
ไปถึงสนามบินบ่าย 3 กว่า ผมมีภาระที่ต้องไปคืน Wi-Fi เลยแยกกับเพื่อนไปหาที่คืน Wi-Fi ก่อน ซึ่งก็ถามทางเอาจากเจ้าหน้าที่สนามบิน จนเจอ จุดรับส่งของ JP POST ก็ทำการส่งของคืนไป รอดตัวไปไม่โดนค่าปรับ
(ตอนแรกเจ้าหน้าที่สนามบินบอกว่าเวลานี้ วันนี้เขาอาจจะปิดแล้ว)
จากนั้นก็เข้าไปเดินช็อป Duty Free ก่อนกลับ แล้วก็ไปกดตู้ไอติม Coolish มากิน
(ช่วงหน้าหนาวในตัวเมืองไม่มี Coolish ขายซักร้านเลยครับ ไอติม Coolish ที่ กทม นำเข้ามาขายกันอันนึง 100 บาท กินที่นู่น 100 YEN ฮา~~~~~~~~)
เมื่อได้กิน Coolish ก็จะทำหน้าแบบในรูปนี้กันไป
พอได้เวลาก็ขึ้นเครื่องกลับ กทม โดยสวัสดิภาพ โดย โหลด กระเป๋า 28 นิ้ว และ carry on อย่างละใบ ลาก carry on ขึ้นอีกใบ และหิ้วถุงมาม่าอีกถุง(ที่ซื้อวันที่ 28 นั่นแหละ ไม่ได้กะกินที่นู่นหลอกนะ ฮา~~~~~~~)
ปล.ผมไม่เจอ Taxi สุวรรณภูมิ เรียกค่าโดยสารแบบเหมานะ แล้วก็เรียกคันแรกก็ไปเลยด้วย ของงี้คงแล้วแต่ดวงด้วยมั้งครับ
แล้วก็ขอปิดทริปแต่เพียงเท่านี้ ท่านไหนสนใจไปเที่ยวแนวนี้ พูดคุยกันต่อได้ที่เพจ OTATOUR เลยแจ้
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ต้องขออภัยที่รูปประกอบไม่ค่อยเยอะ เพราะตอนแรกไม่ได้กะว่าจะเอามาตั้งกระทู้รีวิว ไว้ทริปหน้า ถ้ามีโอกาสอีกจะถ่ายรูปประกอบมาเยอะๆเลยแจ้