เพิ่งออกอากาศเมื่อกี้นี้..นักข่าวช่อง 3 นำเสนอข่าวเกี่ยวกับกล้องจิ๋วที่ถูกซ่อนไว้ในห้องน้ำ มหาวิทยาลัยสารคาม...
แม่บ้านทำความสะอาดไปเจอ.... นักข่าวก็เตือนว่าให้ระวัง..แต่อันนี้ก็ ok นะครับ.
แต่สิ่งที่ทำให้ผมนี้ยืนขึ้นเลยก็คือ...นักข่าวได้บอกว่า "วิธีตรวจสอบหากล้องจิ๋วในห้องน้ำ 2 วิธี"
1. ให้โทรศัพท์หาใครก็ได้แล้วถ้าโทรไม่ติดแสดงว่าอาจมีกล้องจิ๋วซ่อนอยู่.......??????
2. ให้ใช้กล้องถ่ายรูปในมือถือตรวจสอบส่องหาแสงไฟที่ส่งออกมาจากกล้องจิ๋ว เพราะกล้องจิ๋วจะมีแสง infrared ส่องออกมา..
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อ1. เออออ....มันใช่เหรอออออออออออออออออ????? การโทรศัพท์เข้าหรือออกมันเกี่ยวอะไรกับการทำงานของกล้องครับ.... กล้องมันมีเป็นร้อยเป็นพันชนิด..กล้องพวกนี้ แบบเป็ฯ 2 อย่างก็คือ 1. กล้องที่ถ่ายภาพแล้วเก็บmem ไว้ในตัวกล้องเอง... กับ 2. กล้องที่ถ่ายภาพแล้วส่งข้อมูลไร้สายไปเก็บไว้อีกที่.. ซึ่งต่อให้ไม่ว่าจะเป็ฯแบบ 1 หรือ 2 การโทรศัพท์เข้าหรือออกไม่ได้มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายใดๆเลย..การถ่ายวีดีโอหรือภาพนิ่งใช้พลังงานค่อนข้างมาก ยิ่งการส่งภาพหรือวีดีโอออกไปเก็บไว้ในเครื่องบันทึกที่อยู่ใกล้ๆยิ่งใช้พลังงานเยอะขึ้นไปอีก..แล้วมันจะใช้ได้กี่นาทีกี่ชั่วโมง..อันนี้มันจาก FW mail ลวงโลกชัดๆ
ข้อ2. กล้องมี 2 แบบ คือ กล้องที่ถ่ายกลางวันกับถ่ายกลางคืน... กล้องที่ถ่ายกลางคืนได้นั้นจะมีหลอด IR ส่องให้กล้องมองเห็นในความมืดได้..แต่มักจะต้องเป็นกล้องแบบที่เสียบกับไฟบ้าน ไม่สามารถจะเอามาทำเป็นกล้องไร้สายได้เพราะมันใช้พลังงานการส่งค่อนข้างเยอะ.. และไอ้พวกกล้องจิ้วพวกนี้ ถ้าเป็นแบบ ir สังเกตได้ว่ามันจะมีหลอดเรียงกันอยู่รอบๆเลนส์ของกล้องดังกล่าว...ผมไม่ค่อยเห็นกล้องแอบถ่ายแบบ ไร้สายใช้แสง ir ส่องยกเว้นแต่กล้องแบบที่ต้องต่อสายไฟ 220v
(จริงๆ ข้อ 2 พอเป็นไปได้..แต่ลักษณะของกล้องแอบถ่ายมักจะไม่ใช้แสง ir เพราะปกติห้องน้ำมักจะเปิดไฟสว่างอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใช้แสง ir ให้เปลืองพลังงาน)
----------------------------------------------------------------------
จริงๆวิธีจัดการเรื่องนี้ก็คือ
แม่บ้าน...ควรแกะออกมาแล้วก็ให้ใส่กลับไว้เหมือนเดิม หรือหาเอาอะไรมาปิดกล้องเอาไว้.....แล้วแจ้งอาจารย์ที่คิดว่าไม่น่าจะใช่คนร้ายเพื่อคอยดักจับคนร้ายเพราะคิดว่าาตัว memmory น่าจะอยู่ในกล้องมากกว่า หรือ ถ้าเป็นกล้องแบบถ่ายแล้วส่งข้อมูลภาพออกอย่างเดียวไม่บันทึกลงตัวกล้อง....แสดงว่าตัวรับสัญญาณจะต้องอยู่ใกล้ๆบริเวณนั้น..
** ผมนี้ยืนขึ้นเลย....วิธีการตรวจหากล้องจิ๋วของนักข่าวช่อง 3 **
แม่บ้านทำความสะอาดไปเจอ.... นักข่าวก็เตือนว่าให้ระวัง..แต่อันนี้ก็ ok นะครับ.
แต่สิ่งที่ทำให้ผมนี้ยืนขึ้นเลยก็คือ...นักข่าวได้บอกว่า "วิธีตรวจสอบหากล้องจิ๋วในห้องน้ำ 2 วิธี"
1. ให้โทรศัพท์หาใครก็ได้แล้วถ้าโทรไม่ติดแสดงว่าอาจมีกล้องจิ๋วซ่อนอยู่.......??????
2. ให้ใช้กล้องถ่ายรูปในมือถือตรวจสอบส่องหาแสงไฟที่ส่งออกมาจากกล้องจิ๋ว เพราะกล้องจิ๋วจะมีแสง infrared ส่องออกมา..
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อ1. เออออ....มันใช่เหรอออออออออออออออออ????? การโทรศัพท์เข้าหรือออกมันเกี่ยวอะไรกับการทำงานของกล้องครับ.... กล้องมันมีเป็นร้อยเป็นพันชนิด..กล้องพวกนี้ แบบเป็ฯ 2 อย่างก็คือ 1. กล้องที่ถ่ายภาพแล้วเก็บmem ไว้ในตัวกล้องเอง... กับ 2. กล้องที่ถ่ายภาพแล้วส่งข้อมูลไร้สายไปเก็บไว้อีกที่.. ซึ่งต่อให้ไม่ว่าจะเป็ฯแบบ 1 หรือ 2 การโทรศัพท์เข้าหรือออกไม่ได้มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายใดๆเลย..การถ่ายวีดีโอหรือภาพนิ่งใช้พลังงานค่อนข้างมาก ยิ่งการส่งภาพหรือวีดีโอออกไปเก็บไว้ในเครื่องบันทึกที่อยู่ใกล้ๆยิ่งใช้พลังงานเยอะขึ้นไปอีก..แล้วมันจะใช้ได้กี่นาทีกี่ชั่วโมง..อันนี้มันจาก FW mail ลวงโลกชัดๆ
ข้อ2. กล้องมี 2 แบบ คือ กล้องที่ถ่ายกลางวันกับถ่ายกลางคืน... กล้องที่ถ่ายกลางคืนได้นั้นจะมีหลอด IR ส่องให้กล้องมองเห็นในความมืดได้..แต่มักจะต้องเป็นกล้องแบบที่เสียบกับไฟบ้าน ไม่สามารถจะเอามาทำเป็นกล้องไร้สายได้เพราะมันใช้พลังงานการส่งค่อนข้างเยอะ.. และไอ้พวกกล้องจิ้วพวกนี้ ถ้าเป็นแบบ ir สังเกตได้ว่ามันจะมีหลอดเรียงกันอยู่รอบๆเลนส์ของกล้องดังกล่าว...ผมไม่ค่อยเห็นกล้องแอบถ่ายแบบ ไร้สายใช้แสง ir ส่องยกเว้นแต่กล้องแบบที่ต้องต่อสายไฟ 220v
(จริงๆ ข้อ 2 พอเป็นไปได้..แต่ลักษณะของกล้องแอบถ่ายมักจะไม่ใช้แสง ir เพราะปกติห้องน้ำมักจะเปิดไฟสว่างอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใช้แสง ir ให้เปลืองพลังงาน)
----------------------------------------------------------------------
จริงๆวิธีจัดการเรื่องนี้ก็คือ
แม่บ้าน...ควรแกะออกมาแล้วก็ให้ใส่กลับไว้เหมือนเดิม หรือหาเอาอะไรมาปิดกล้องเอาไว้.....แล้วแจ้งอาจารย์ที่คิดว่าไม่น่าจะใช่คนร้ายเพื่อคอยดักจับคนร้ายเพราะคิดว่าาตัว memmory น่าจะอยู่ในกล้องมากกว่า หรือ ถ้าเป็นกล้องแบบถ่ายแล้วส่งข้อมูลภาพออกอย่างเดียวไม่บันทึกลงตัวกล้อง....แสดงว่าตัวรับสัญญาณจะต้องอยู่ใกล้ๆบริเวณนั้น..