สำหรับคอซีรีย์ เมื่อสิบปีก่อนคงไม่มีใครไม่รู้จักสาวน้อยน่ารักผู้พิทักษ์ความรัก และความยุติธรรม เวโรนิกา มาร์ส นักสืบสาวไฮสคูลที่มาพร้อมลุคสาวร่างเล็ก ผมบลอนด์ ตาฟ้าสุดแบ๊ว แต่ลำพังแค่รูปลักษณ์ภายนอกคงไม่ทำให้ซีรีย์นี้กลายเป็นซีรีย์สุดฮิต ติดลมบนไปได้ หากแต่เป็นเพราะบุคลิกแก่น เซี้ยว ตลก ปากกล้า บ้าดีเดือด ประกอบกับการวางโครงเรื่องหลายชั้น หักมุมหลายตลบของผู้สร้างต่างหากที่ทำใช้เรื่องราวของเวโรนิกาได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม และ ดำเนินมายาวนานถึง 3 ซีซั่น แต่สุดท้ายเนื่องจากความขัดข้องของทางทีมงานแ ละสถานี ทำให้ เวโรนิกา มาร์ส ก้าวไปไม่ถึงซีซั่นที่ 4 ท่ามกลางความเสียดายของบรรดาแฟนๆ



10 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ด้วยพลังแห่งโซเซียล #ทีมเวโรนิกา ได้ระดมทุนผ่านทาง Kickstarter เพื่อฟื้นคืนชีพ ให้เธอกลับมาโลดแล่นในโลกของภาพยนตร์ แถมยังสร้างสถิติใหม่ของเว็บ ที่สามารถระดมเงินทุนได้เร็วที่สุด ด้วยการผ่านหลักล้านไม่ถึง 5 ชั่วโมง

หลังจากกำเนิดใหม่ เวโรนิกา มาร์ส ผ่านทางจอเงินไปเมื่อช่วงต้นปี 2014 เรียบร้อยแล้ว ทีมผู้สร้างก็ได้ต่อยอดด้วยการผลักดันในเธอโลดแล่นต่อในโลกน้ำหมึก โดยมี Veronica Mars : The Thousand Dollar Tan line หรือในชื่อไทยว่า เวโรนิกา มาร์ส กับคดีฆาตกรรมสาวผิวแทน ออกมาประเดิมเป็นตอนแรกในหนังสือชุดนี้ ในหนังสือจะดำเนินเรื่องต่อจากภาพยนตร์ ที่เวโรนิกาทิ้งชีวิตสาวนักกฎหมาย และแฟนหนุ่มรูปหล่อที่นิวยอร์ค เพื่อกลับมาใช้ชีวิตในเนปจูน บ้านเกิดของเธอ และสานสัมพันธ์ความรักครั้งใหม่กับคนรักเก่า หลังจากที่เธอไขคดีฆาตกรรมปริศนาจนทำให้เขาพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัยได้



เวโรนิกา มาร์ส กับคดีฆาตกรรมสาวผิวแทน เป็นเรื่องราวของเมืองเนปจูน ท่ามกลางบรรยากาศการเฉลิมฉลองปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิอันสุดเหวี่ยงของบรรดานักศึกษาจากมหาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ ที่ดูจะสนุกเกินขอบเขตไปนิด จนเกิดคดีสาวผิวแทนสุดเซ็กซี่หายตัวไปอย่างลึกลับกลางงานปาร์ตี้ ถึงจะเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่นายอำเภอ (เชอริฟ) ขี้ช่อ ก็ยังคงวุ่นวายอยู่กับการเอาหน้ากับสื่อฯ และเลียแข้งเลียขาคะแนนเสียง จนทำให้เกิดคดีคนหายรายที่ 2 ตามมาติดๆ ร้อนถึงกลุ่มผู้ค้าขายในเมืองที่เล็งเห็นว่าหากปล่อยให้เกิดคดีอาชญากรรมต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เช่นนี้ หายนะทางธุรกิจการท่องเที่ยวคงจะมาเยือนในไม่ช้า จึงระดมทุนจ้าง เวโรนิกา ให้ออกโรงมาไขคดียุ่งๆ ที่ยิ่งแก้ ยิ่งอีรุงตุงนัง ให้สำเร็จเพื่อกู้หน้าให้กับชาวเมืองเนปจูน

ถึงแม้ช่วงบทแรกๆ จะเป็นการย้อนความถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในซีรีย์ และภาพยนตร์ ที่อาจจะทำให้ดูเนือยๆ ไปบ้าง แต่ด้วยการเขียนสไตล์บทละครโทรทัศน์ ของ Rob Thomas ที่ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ดี และสามารถผูกต่อกับเหตุการณ์ในเรื่องได้อย่างราบลื่น หมัดเด็ดอยู่ในช่วงที่เวโรนิกาเริ่มออกสืบคดี ที่ผู้เขียนทำออกมาได้ดี จนผู้อ่านตื่นเต้น ราวกับยืนเคียงข้างไขคดีไปพร้อมๆ กับนักสืบสาวเลยทีเดียว

หนังสือเล่มนี้มีครบทุกรส ทั้งแอคชั่น ตื่นเต้น ระทึกขวัญ จิกกัด ตลกร้าย และซาบซึ้งน้ำตาซึม มีเพียงอารมณ์กุ๊กกิ๊ก จิกหมอนที่ขาดไปอย่างน่าเสียดาย แต่ไม่แน่มันอาจจะขึ้นบกมาพร้อมกับพ่อหนุ่มโลแกน ในเล่ม 2 Mr. Kiss and Tell ก็เป็นได้ ^^