ข่าวยูเครนก็ยังดังอยู่นะครับ เห็นสื่อตะวันตกอย่างเช่น BBC  CNN ก็ยังลงอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตอนที่แองเจลา เมเคิลกับ ฟรองซัวส์ อัลลองเดเดินทางไปเจรจากับปูตินแต่ล้มเหลว แต่ที่คนไทยเริ่มหันมาสนใจตะวันออกกลางก็เพราะเป็นธรรมชาติของการเสพข่าวที่ชอบข่าวที่มีการเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีฉากที่น่าสะเทือนใจเช่นการปาดคอนักข่าว การเผานักบินทั้งเป็น ถึงแม้  2 สถานการณ์จะซีเรียสกันไปคนละแง่มุม

อย่างไรก็ตาม ที่คนไทย (กับคนชาติอื่น) รู้สึกสนใจเรื่องไอซิสมากกว่ายูเครนก็มีเหตุผลนะ

กรณีของยูเครนเป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างโลกตะวันตกกับรัสเซียซึ่งส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจยุโรปเป็นอันดับแรก คือแซงชั่นกันไปมากลายเป็นสาดกระสุนใส่กัน  ซึ่งถึงแม้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจลามมาถึงประเทศโลกที่ 3 ด้วย (ดังเช่นไทยโดนไปแล้วเรื่องนักท่องเที่ยวรัสเซียมาเที่ยวพัทยาน้อยลง) แต่ก็ยังไม่เห็นผลชัดเจนนักเช่นเดียวกับผลกระทบในด้านสังคม การเมือง การทหาร ฯลฯ (เท่าที่ผมเห็นผ่านสื่อทั่วไปนะ)  ประเทศรอบข้างซึ่งเป็นยุโรปตะวันออกหรืออดีตสหภาพโซเวียตเก่ารู้สึกได้ถึงภัยคุกคามของรัสเซียแต่ยังอยู่ในสภาพที่ยังเอาไหวอยู่ พร้อมกับได้รับความอุ่นใจจากนาโต (กระนั้นถ้ารัสเซียรุกจริงๆ ก็เป็นกรณีใหญ่โตเหมือนกันเพราะมีหลายประเทศที่มีคนเชื้อสายรัสเซียซึ่งฝักใฝ่กรุงมอสโคว์อยู่ไม่น้อย ซึ่งโอกาสก็ยังไม่เกิดเพราะกรณียูเครนยังไม่เรียบร้อยดี) กรณียูเครนเป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐที่มีขีดวงชัดเจนคือบริเวณยุโรปตะวันออก

ส่วนกรณีของไอเอส เป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐกับองค์กรที่ไม่ใช่รัฐอย่างเช่นไอเอส (ซึ่งประกาศตนว่าเป็นรัฐ แต่ไม่มีใครแม้แต่วงการมุสลิมกระแสหลักก็ไม่รับรอง)  ไอเอสนั้นน่ากลัวกว่ายูเครนเพราะสถานที่เกิดในตะวันออกกลางที่เต็มไปด้วยปัญหานอกจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์   และรัฐใกล้ๆ กลายเป็นรัฐล้มเหลวไม่ว่าซีเรียหรืออิรัก หรือรัฐที่เปราะบางเพราะผลกระทบจากสงครามกลางเมืองในซีเรียไม่ว่าเลบานอน จอร์แดน หรือมีการเปลี่ยนผู้ปกครองอย่างซาอุดิอาระเบีย  นอกจากนี้ไอซิสยังน่ากลัวเพราะอาศัยสื่อเทคโนโลยีอันทันสมัยในการปลุกระดมมุสลิมหัวรุนแรงทั่วโลกและการร่วมมือกับกลุ่มการก่อการร้ายอื่น ซึ่งมีผลกระทบต่อประเทศโลกที่ 3 ไปเต็มๆ เช่นเดียวกับบ้านเราซึ่งคนไทยจำนวนไม่น้อยที่อาจมีทัศนคติที่ไม่ดีกับศาสนาอิสลามจากกรณี 3 จังหวัดภาคใต้