เป็นเหตุการ์ณ ที่เกิดขึ้น เมือต้นปี ที่แล้ว ช่วง มกราฯ 2014 หรือ ประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา โดยอัยการสั่งฟ้องเรา เมื่อปลายปีที่แล้ว......เรากำลังจะขึ้นศาลนัดแรก พรุ่งนี้ จ้า......... 09/02/2015
เหตุเกิดฯ ขณะที่เรากำลังเลี้ยวรถเข้าบ้าน เข้าซอยย่อย ในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจังหวะเลี้ยวรถ เพื่อเข้าจอดที่หน้าบ้าน ซึ่งเป็นปรกติ ประจำทุกวัน หลังจากไปส่งลูกที่โรงเรียนในตอนเช้า เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว
โดยในจังหวะที่เลี้ยวที่เกิดเหตุ เราก็ได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์คู่กรณี อยู่ก่อนหน้าแล้ว ซึงมีระยะห่างพอสมควร ประกอบกับมีลูกระนาดคั่น ซึ่งทางมอเตอร์ไซค์คู่กรณี ก็มาด้วยความเร็วไม่มาก เนื่องจากต้องชะลอ ทางกระดก ลูกระนาด
ในจังหวะที่ได้มีการเลี้ยวเข้าซอยเพื่อจอดเข้าบ้านเรา พอดี ในตอนนั้น มีหมา ขวางหน้าบ้าน ตรงซอย บริเวณนั้น เราจึงได้ลดความเร็วชะลอ เพื่อหยุดรถ (จะได้ไม่ไปชนหมา) ในจังหวะนั้นเอง เราเข้าใจว่า ทางมอเตอร์ไซค์ คู่กรณี ซึ่งขับมาด้วยความเร็วไม่มากนัก เนื่องจากต้องชะลอความเร็วจากทางกระดกลูกระนาด และ มีระยะห่างพอสมควร
ก็ปรากฎว่า รถมอเตอร์ไซค์คู่กรณี ได้ขับมาชนรถเรา กลางลำตัวรถ - ดูรูปด้านล่างจ้า.... (เพราะเราเลี้ยวเข้าซอย ทางด้านขวา) ชนด้วยความเร็วช้าๆ อย่างเบา ไม่ได้แรง ตรงบริเวณ ฝั่งประตูด้านข้างคนขับ (ตามรูปเลยจ้า) โดยน้องคู่กรณี ไม่ได้ล้ม และไม่ได้เจ็บ ไม่ได้เป็นอะไร ทางดิฉันเอง ตกใจ ก็ได้ลงไปดู ก็พบว่า มีรอยบุบ อยู่นิดนึง (ตามรูป) เราจึงได้ สอบถามว่า ทำไมถึงไม่เบรก รถเบรกไม่อยู่หรือ ? หรือเบรกมีปัญหาหรือเปล่า? จึงไม่ชะลอ หรือเหม่อลอย ไม่เห็นว่า เราเลี้ยวรถและชะลอรถจนหยุดแล้ว ?
ทางคู่กรณีได้ตอบกลับมาแต่.....เพียงประโยคสั้นๆ ว่า.... "ยังไง ทางพี่ก็ผิด เพราะรถมอเตอร์ไซค์ผม มาทางตรง ต่อให้ผมขับมาชน ยังไงพี่ก็ผิด อยู่ดี เพราะเค้าเป็นทางเอก ซึ่งเราเองก็ได้โทรติดต่อ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด ส่งเจ้าหน้าที่มา เคลียร์ เรื่องต่างๆ ให้
ในระหว่างที่รอ เจ้าหน้าที่วิริยะประกันภัย มาถึง ประมาณ 30-45 นาที ทางน้องคู่กรณี ก็ได้ นั่งรอ ยืนรอ สูบบุหรี่ เล่นโทรศัพท์มือถือ อยู่บริเวณฟุตบาท ปรกติ เพราะไม่ได้เป็นอะไร โดยดิฉันก็เข้าไป สอบถามว่าเป็นอะไรไม๊ ทางน้องคู่กรณีก็บอกว่าไม่เป็นอะไร โดยในระหว่างนั้น ก็มีเพื่อนๆ น้องเค้า ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาก ก็สอบถามว่า เป็นไรไม๊ ? ทางน้องเค้าก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร รอประกันอยู่ ยังไม่มา.......
ทั้งนี้ แฟนเรา ยังไม่ได้ไปทำงาน ทางเราจึงเรียกแฟนออกมาช่วย โดยทางแฟนเรา ได้ขอบัตรประชาชน ทางน้องเค้ามาเพื่อถ่ายรูป + เก็บสำเนาไว้เป็นหลักฐาน บัตรประชาชนคู่กรณี โดยทางแฟนก็ โค๊กซีโร่กระป๋อง จากตู้เย็น ไปให้น้องเค้าดื่ม และ ยังพูดคุย ชวนคุย ขอโทษกับน้องเค้า โดยน้องเค้าก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก และก็ไม่ได้มีท่าที ที่จะเรียกร้องค่าสินไหมทนแทนอะไร เพราะไม่ได้ล้ม และ ไม่ได้มีบาดแผลใดๆ จากการชนเลย เพราะชนกันด้วยความเร็วน้อยมาก โดยแฟนดิฉันเองก็บอกว่า น้องเค้าไม่ได้เป็นอะไรมาก รถก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก น้องเค้ายังนั่งสูบบุหรี่ ดืมโค๊กซีโร่ กระป๋องได้ แถมคุยกะเพื่อนๆ น้องเค้า ที่ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมาได้สบายๆ อยู่เลย
ในระหว่างที่รอประกันฯ มา ทางน้องคู่กรณีฯ ก็ได้ให้เราคุยโทรศัพท์กับแม่เค้า โดยแม่เค้าก็ทำที เหมือนดราม่า โดยทำทีท่าเรียกร้องค่าเสียหาย ทั้งที่ยังไม่ได้รู้เลย หรือ ยังไม่ได้มาเห็นที่เกิดเหตุฯ เลยว่า มันชนกันเบามากๆ ไม่ได้ร้ายแรงอะไรเลย จากนั้น เราก็ยื่นให้แฟนเราคุยกับแม่น้องเค้าแทน แฟนเราก็คุยประมาณ ว่า ทางเรามีประกันชั้น 1. วิริยะฯ ให้ทางเค้าคุยกับประกันได้เลย โดยประกันจะรับผิดชอบ ค่าเสียหาย ค่าซ่อมรถ ค่าตรวจร่างกายต่างๆ ให้
จากนั้น ไม่นาน ทางประกันฯ ก็มา เครียร์ให้..... แล้ว ทางญาติคู่กรณี + แม่คู่กรณี (ดราม่า ทันทีที่มาถึง ทำท่าทางเหมือนลูกจะเป็นอะไรตาย แล้วทำท่าที ไม่พอใจเรามากๆ) มาถึง ก็ พากันไปโรงพัก เพื่อทำบันทึกประจำวัน โดย ในระหว่างทำบันทึกประจำวัน ทาง น้องคู่กรณี คนขับมอเตอร์ไซค์ เค้าบอกว่า จะไป เอ็กซ์เรย์ ตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาล เพื่อความชัวร์ก่อน ซึ่งทางประกันฯ ก็ประสานงานให้ กับโรงพยาบาล ในเรื่องค่าใช้จ่ายในการตรวจร่างกาย โดยเค้าไม่ต้องสำรองจ่ายใดๆเองก่อนเลย
โดยในระหว่างนั้น ทางคู่กรณี ก็แสดงความจำนงแปลกๆ ว่า เค้าต้องการเอารถไปซ่อมเองฯ โดยให้ทางประกันฝั่งเรารับผิดชอบค่าใช้จ่ายฯ เป็นเงินแทน หรือ ออกค่าใช้จ่ายค่าซ่อมให้ทั้งหมด ที่อู่ที่เค้าจะนำรถมอเตอร์ไซค์คันเกิดเหตุไปซ่อม โดยจะต้องเป็นอู่ที่เค้าหา หรือ ไม่ก็ให้เค้าไปซ่อมแล้วเอามาเบิกค่าใช้จ่ายทั้งหมดทีหลังกับ บ.ประกัน ซึ่งทางประกันฯไม่ยอม บอกว่า ต้องซ่อมอู่ในเครือ วิระยะ หรือ อู่ในเครือของเค้าเท่านั้น..... เพื่อป้องกัน คู่กรณีตุกติก แบบซ่อมโน่น นั่นนี่ แอบเนียนเปลี่ยนซ่อมโน่นนี่ แล้วหมกค่าใช้จ่ายซ่อนไว้ โดยที่ไม่เกี่ยวกับอุบัติเหตุ และ มาเนียน............ หรือ ไม่ก็ให้จ่ายค่าซ่อมรถมา แล้ว เค้าจะไปซ่อมเอง (เหมือนอยากได้ตังค์มากกว่า ให้ไปซ่อมรถให้ เพราะเค้าอาจจะไม่ได้ผลประโยชน์ทับซ้อน หรือ ส่วนต่าง จากเหตุการ์ณนี้
และแล้วสิ่งที่เราคิดไว้กับแฟนก็จริงอย่างนั้น โดยเย็นวันต่อมา ทาง อู๋ซ่อมรถ ในเครือ วิริยะฯ โทรมาผิด ดันโทรมาที่เบอร์มือถือเรา แจ้งว่า รถซ่อมเสร็จแล้ว รถไม่ได้เสียหาย ไม่ได้เป็นอะไรมาก ซ่อมโดยเช็คและตั้งศูนย์ล้อหน้าให้ใหม่แล้ว (เพราะยางล้อเท่านั้นที่มาชนประตูข้างคนขับรถเรา) ส่วนอาการที่ว่า Start ไม่ติด หรือ Start ติดยาก ไม่เกี่ยวกับอุบัติเหตุ เพราะเป็นการติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างผิด แต่เค้าก็แก้ไขให้ใหม่ให้แล้ว อย่างไร ให้มารับรถได้เลย ทางเราก็บอกว่า โทรมาผิดนะ ให้โทรไปหาคู่กรณีแจ้งเค้าใหม่อีกที แทนนะ (ซึ่งเรื่อง นี้ ทางเราไม่ได้บอกกับทาง บ.ประกัน วิริยะ เพราะถือว่าช่างมัน เราไม่ได้ออกค่าซ่อม ก็ช่วยเหลือน้องคู่กรณีเค้าไป ช่วยๆกันไป)
หลังจากนั้น ก็ผ่านมาหลาย หลายเดือนอยู่ ทางเรา ก็ทราบมาภายหลัง จากบริษัทฯ ประกัน โทรมาบอกว่า ทางคู่กรณีตกลงกันไม่ได้ เรื่องค่าสินไหมทดแทน เพราะทางประกันแจ้งกับเราว่า ทางคู่กรณี เรียกร้องค่าเสียหาย มาสูงเกินกว่า ที่ทางประกันจะจ่ายได้ (คือเรียกร้องมาสูงมาก สูงเกินกว่า ความเป็นจริงมากๆ เท่าที่ทราบคือหลายหมื่นอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่) ทางเราเองก็ตกใจ เพราะว่า ดูจากตอนนั้น น้องเค้าไม่ได้เป็นอะไร เพราะการชนกันเบามาก (สังเกตุจาก รอยบุบ ว่า บุบไปนิดเดียว แล้ว น้องเอง เค้าก็ไม่ได้ล้ม ในระหว่างชน) ทำให้เรางง ว่า ตกลงเกิดอะไรขึ้น ทำไม คู่กรณี ต้องการอะไร ?
จนเราทราบจากทางประกันว่า ทางคู่กรณี เรียกค่าสินไหมทดแทน เป็นหมื่น เป็นแสน เราเองก็ตกใจ เพราะ เหตุการ์ณ ที่เกิดขึ้น น้องเค้าไม่ได้ล้มและไม่ได้เป็นอะไรเลย ทำไมเรียกร้องมาเวอร์ มากมายขนาดนั้น!!!!
ทางประกันแจ้งว่า วันเกิดเหตุ ที่เข้าตรวจร่างกาย ทางญาติ น้องเค้า ขอ นอนเข้าโรงพยาบาล (รพ.เอกชน แห่งหนึ่ง ที่ค่ารักษาแพงเอาเรื่องฯ อยู่เหมือนกัน) เพื่อรอ ดูอาการ Admit ไป 1 คืน........ โดยหลังจากนั้น คู่กรณีก็เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล บ่อยๆ เหมือน จะพยายามสร้างให้มีหลักฐาน ว่า เจ็บหนัก เข้ารักษา บ่อย และ ให้แพทย์ ออกใบรับรองฯ ว่า ต้องพักรักษาตัวเกิน 21 วัน (เหมือนจะหัวหมอรู้เยอะ)
เราเองก็ไม่รู้ว่า ทางฝั่งคู่กรณี ต้องการทำอย่างนี้ เพื่ออะไร จนมารู้ในตอนหลังว่า ทางเค้ามีเจตนาฯ สร้างหลักฐาน เพื่อเอาเรื่อง คดีอาญามาขู่ ให้ทางเราจ่ายค่าสินไหม ทดแทนฯ ตามที่เค้าต้องการ หากไม่จ่าย ก็จะฟ้องในคดีอาญาเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง มาตรา 300 โดยเค้าไม่ต้องเสียเงิน จ้างทนายสักบาท เพื่อมาฟ้องร้อง เรียกร้องค่าเสียหาย เพราะ สามารถให้ ทางร้อยเวรฯ ส่งสำนวน ให้อัยการฯ ฟ้องแทน การจ้างทนาย มาฟ้องเราในทางแพ่งที่เกี่ยวเนื่องจากทางอาญาได้........
ซึ่งเราเองก็ตกใจมาก ไม่คิดว่า การชนเพียงเบาๆ แบบนี้ ทางโน้น จะเตรียมการมาอย่างดี แถมยังรู้ข้อกฎหมายต่างๆ มาเพื่อจะเล่นงานเรา ทางเราจึงไปสืบกับคนรู้จัก วินมอเตอร์ไซค์แถวบ้าน ที่รู้จักกัน รวมถึงคนแถวบ้าน ที่รู้จักกับครัวครัวนี้.......
ก็พบความจริง ว่า........ จิงๆ แล้ว คู่กรณีเรา ก่อน ที่จะเกิดเหตุฯ รถชนกับเรานั้น น้องคู่กรณีเค้าโดนวันรุ่น รุมกระทืบ ตีหัว และ ขโมยรถมอเตอร์ไซค์ไป โดยมอเตอร์ไซค์ ที่เกิดเหตุกับเรานี้ ก็เพิ่งมาซื้อมือสอง มาใช้ใหม่ แต่มีสภาพที่อาจจะไม่สมบูรณ์ ระบบเบรก หรือ ระบบต่างๆอาจจะไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ เลยทำให้เบรกไม่อยู่....... แบบอุปกรณ์บางตัวที่ติดตั้งมาผิด จึงทำให้ Start ไม่ติด หรือ Start ยาก ......
ประกอบกับ คู่กรณีโดนวัยรุ่น รุมกระทืบมา อาจจะทำให้ร่ายกายไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อม ในการขับขี่ ทำให้อาจจะเบรอ หรือ เพลีย ร่างกายไม่พร้อมสมบูรณ์ ขณะขับขี่ (เหมือนคนเมาแล้วขับขี่) ก็เป็นได้ ไม่รู้ว่า เราคิดไปในแง่ลบหน่อย หรือเปล่า..... จิงๆ แล้ว เราก็อดคิดไม่ได้ว่า แท้จริง เราอาจจะตกเป็นเหยื่อ..... ของคู่กรณี ที่อาจต้องการเอาคืนแก้แค้น.......สังคมแทน โดนอาจจงใจชน เพื่อให้เกิดการเรียกร้องค่าเสียหาย สูงเกินจริง เพื่อเอาไปชดเชย ค่ามอเตอร์ไซค์ หรือ หาเงินทดแทน กับที่น้องคู่กรณีเค้าโดน วัยรุ่นดักตีหัว กระทืบ และ ขโมย รถมอเตอร์ไซค์ไป..........
โดยพยายามสร้างเหตุการ์ณ ว่า เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล หลังจากนั้น เพื่อให้เกิน 21 วัน (เพื่อให้เข้าเป็นคดีอาญา ให้ดูว่าเกิดการบาดเจ็บสาหัส เกินกว่า 21 วัน) โดยให้ แพทย์ ออกใบรับรองฯ เพื่อนำไปสู่การฟ้อง คดีอาญาเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง มาตรา 300 กับทางเรา และ เพื่อขู่ให้เรา กับ ประกันฯ จ่าย ค่าสินไหมทนแทน ที่สูงเกินจริง และ อาจจะสวมสิทธิ์การรักษา จากที่โดนวัยรุ่นกระทืบ เพื่อขโมยรถมอเตอร์ไซค์ในครั้งก่อน (เพราะการเข้าๆ ออกๆ ครั้งต่อๆ มา แจ้งว่า รักษา อาการช้ำใน ทั้งที่น้องเค้าไม่ได้ล้ม และ จากรอยชนที่บุบไปเพียงนิดเดียวที่รถเรา (ดังรูป) มันจะไปทำให้ร่างกายช้ำใน ได้อย่างไร ?)
โดย ค่าสินไหม ทดแทน ที่ทาง บริษัทฯ วิริยะ เสนอว่าสามารถจ่ายให้คู่กรณีได้ = 500 บาท (ค่าแรงต่อวัน ที่เค้าคิดให้) x 24 วัน (ตามใบรับรองแพทย์ฯ แบบธรรมดา สำหรับใช้ลาหยุดงาน หรือใช้เพื่อเบิกค่าชดเชยรายได้จากประกันอุบัติเหตุฯ (หากซื้อกรมธรรม์ คุ้มครองไว้) โดย ไม่ใช่ ใบรับรองแพทย์จากนิติเวช ที่เค้าเรียกกันว่าใบชันสูตร มั้ง?) = 12,000 บาท + ทางเราเองก็ เสนอให้ เป็นค่ามนุษยธรรม 2,000 บาท แลกกับ การที่ไม่ต้องเสียเวลาต่างๆนาๆ ไปขึ้นโรง ขั้นศาล เสียเวลามากมาย........
แต่คู่กรณี ไม่ยินยอม โดยขอเรียกร้อง ค่าสินไหมทนแทนเป็นจำนวนเงิน = 85,000 บาท ซึ่ง ทางวิริยะฯ จ่ายให้ไม่ได้ เพราะสูงเวอร์เกินจริง เราเองก็ตกใจมาก เหมือนเราโดนปล้น ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่ เรื่องจริง มันเล็กน้อยๆ มากๆ เลย แต่คู่กรณ๊ ก็พยายาม สร้างเรื่อง ต่างๆ โดยเอาผลจากที่โดนวัยรุ่นกระทืบ ฉกมอเตอร์ไซค์ไปคราวที่แล้วและสวมสิทธิ์รักษาพยาบาล เพื่อรักษาอาการช้ำในจากครั้งนั้น และใบรับรองแพทย์ฯ มาเล่นงานเรา)
ล่าสุดปลายปีที่แล้ว เราทราบมาจาก ร้อยเวรฯ ที่ไปสน. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ก่อน ส่งสำนวนให้อัยการ สั่งฟ้องคดีว่า........ ทางคู่กรณ๊ ขอเพิ่มค่าสินไหมทดแทน เป็นแสนกว่าบาทแล้ว เค้าบอกว่า รวมค่าเสียเวลา ค่าเดินทาง จากการฟ้องร้องด้วย.........
โดย ส่งสำนวน ให้อัยการส่งฟ้อง แล้ว เมื่อปลายปีที่แล้ว (ก่อนขาดอายุความ 1 ปี) เรากำลังจะไป ขึ้นศาล นัดแรก วันพรุ่งนี้ 09/02/2015
เราขอคำปรึกษา กับ เพื่อนๆ ใน Pantip นี้หน่อยจ้า...ว่า กรณีอย่างนี้ที่เราโดน สามารถทำอะไรได้บ้าง ?
ขอความคิดเห็น หรือ คำแนะนำจากเพื่อนๆ ด้วยใน Pantip นี้ ด้วยจ้า.......... หากใครมีประสบการ์ณแบบนี้ หรือ พอจะรู้ข้อกฎหมาย ขอคำแนะนำให้ด้วยจ้า........
Update ใส่รูปให้แล้วจ้า......ดังรูปนี้ เลยนะ......
คู่กรณีขี่มอไซค์มาชนเราในทางตรง ไม่ล้มไม่เจ็บ รถเราบุบไปนิด แต่เรียกค่าเสียหายแสนกว่าบาท (เราตกเป็นเหยื่อ กรรโชกทรัพย์ ?
เหตุเกิดฯ ขณะที่เรากำลังเลี้ยวรถเข้าบ้าน เข้าซอยย่อย ในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจังหวะเลี้ยวรถ เพื่อเข้าจอดที่หน้าบ้าน ซึ่งเป็นปรกติ ประจำทุกวัน หลังจากไปส่งลูกที่โรงเรียนในตอนเช้า เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว
โดยในจังหวะที่เลี้ยวที่เกิดเหตุ เราก็ได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์คู่กรณี อยู่ก่อนหน้าแล้ว ซึงมีระยะห่างพอสมควร ประกอบกับมีลูกระนาดคั่น ซึ่งทางมอเตอร์ไซค์คู่กรณี ก็มาด้วยความเร็วไม่มาก เนื่องจากต้องชะลอ ทางกระดก ลูกระนาด
ในจังหวะที่ได้มีการเลี้ยวเข้าซอยเพื่อจอดเข้าบ้านเรา พอดี ในตอนนั้น มีหมา ขวางหน้าบ้าน ตรงซอย บริเวณนั้น เราจึงได้ลดความเร็วชะลอ เพื่อหยุดรถ (จะได้ไม่ไปชนหมา) ในจังหวะนั้นเอง เราเข้าใจว่า ทางมอเตอร์ไซค์ คู่กรณี ซึ่งขับมาด้วยความเร็วไม่มากนัก เนื่องจากต้องชะลอความเร็วจากทางกระดกลูกระนาด และ มีระยะห่างพอสมควร
ก็ปรากฎว่า รถมอเตอร์ไซค์คู่กรณี ได้ขับมาชนรถเรา กลางลำตัวรถ - ดูรูปด้านล่างจ้า.... (เพราะเราเลี้ยวเข้าซอย ทางด้านขวา) ชนด้วยความเร็วช้าๆ อย่างเบา ไม่ได้แรง ตรงบริเวณ ฝั่งประตูด้านข้างคนขับ (ตามรูปเลยจ้า) โดยน้องคู่กรณี ไม่ได้ล้ม และไม่ได้เจ็บ ไม่ได้เป็นอะไร ทางดิฉันเอง ตกใจ ก็ได้ลงไปดู ก็พบว่า มีรอยบุบ อยู่นิดนึง (ตามรูป) เราจึงได้ สอบถามว่า ทำไมถึงไม่เบรก รถเบรกไม่อยู่หรือ ? หรือเบรกมีปัญหาหรือเปล่า? จึงไม่ชะลอ หรือเหม่อลอย ไม่เห็นว่า เราเลี้ยวรถและชะลอรถจนหยุดแล้ว ?
ทางคู่กรณีได้ตอบกลับมาแต่.....เพียงประโยคสั้นๆ ว่า.... "ยังไง ทางพี่ก็ผิด เพราะรถมอเตอร์ไซค์ผม มาทางตรง ต่อให้ผมขับมาชน ยังไงพี่ก็ผิด อยู่ดี เพราะเค้าเป็นทางเอก ซึ่งเราเองก็ได้โทรติดต่อ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด ส่งเจ้าหน้าที่มา เคลียร์ เรื่องต่างๆ ให้
ในระหว่างที่รอ เจ้าหน้าที่วิริยะประกันภัย มาถึง ประมาณ 30-45 นาที ทางน้องคู่กรณี ก็ได้ นั่งรอ ยืนรอ สูบบุหรี่ เล่นโทรศัพท์มือถือ อยู่บริเวณฟุตบาท ปรกติ เพราะไม่ได้เป็นอะไร โดยดิฉันก็เข้าไป สอบถามว่าเป็นอะไรไม๊ ทางน้องคู่กรณีก็บอกว่าไม่เป็นอะไร โดยในระหว่างนั้น ก็มีเพื่อนๆ น้องเค้า ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาก ก็สอบถามว่า เป็นไรไม๊ ? ทางน้องเค้าก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไร รอประกันอยู่ ยังไม่มา.......
ทั้งนี้ แฟนเรา ยังไม่ได้ไปทำงาน ทางเราจึงเรียกแฟนออกมาช่วย โดยทางแฟนเรา ได้ขอบัตรประชาชน ทางน้องเค้ามาเพื่อถ่ายรูป + เก็บสำเนาไว้เป็นหลักฐาน บัตรประชาชนคู่กรณี โดยทางแฟนก็ โค๊กซีโร่กระป๋อง จากตู้เย็น ไปให้น้องเค้าดื่ม และ ยังพูดคุย ชวนคุย ขอโทษกับน้องเค้า โดยน้องเค้าก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก และก็ไม่ได้มีท่าที ที่จะเรียกร้องค่าสินไหมทนแทนอะไร เพราะไม่ได้ล้ม และ ไม่ได้มีบาดแผลใดๆ จากการชนเลย เพราะชนกันด้วยความเร็วน้อยมาก โดยแฟนดิฉันเองก็บอกว่า น้องเค้าไม่ได้เป็นอะไรมาก รถก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก น้องเค้ายังนั่งสูบบุหรี่ ดืมโค๊กซีโร่ กระป๋องได้ แถมคุยกะเพื่อนๆ น้องเค้า ที่ขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมาได้สบายๆ อยู่เลย
ในระหว่างที่รอประกันฯ มา ทางน้องคู่กรณีฯ ก็ได้ให้เราคุยโทรศัพท์กับแม่เค้า โดยแม่เค้าก็ทำที เหมือนดราม่า โดยทำทีท่าเรียกร้องค่าเสียหาย ทั้งที่ยังไม่ได้รู้เลย หรือ ยังไม่ได้มาเห็นที่เกิดเหตุฯ เลยว่า มันชนกันเบามากๆ ไม่ได้ร้ายแรงอะไรเลย จากนั้น เราก็ยื่นให้แฟนเราคุยกับแม่น้องเค้าแทน แฟนเราก็คุยประมาณ ว่า ทางเรามีประกันชั้น 1. วิริยะฯ ให้ทางเค้าคุยกับประกันได้เลย โดยประกันจะรับผิดชอบ ค่าเสียหาย ค่าซ่อมรถ ค่าตรวจร่างกายต่างๆ ให้
จากนั้น ไม่นาน ทางประกันฯ ก็มา เครียร์ให้..... แล้ว ทางญาติคู่กรณี + แม่คู่กรณี (ดราม่า ทันทีที่มาถึง ทำท่าทางเหมือนลูกจะเป็นอะไรตาย แล้วทำท่าที ไม่พอใจเรามากๆ) มาถึง ก็ พากันไปโรงพัก เพื่อทำบันทึกประจำวัน โดย ในระหว่างทำบันทึกประจำวัน ทาง น้องคู่กรณี คนขับมอเตอร์ไซค์ เค้าบอกว่า จะไป เอ็กซ์เรย์ ตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาล เพื่อความชัวร์ก่อน ซึ่งทางประกันฯ ก็ประสานงานให้ กับโรงพยาบาล ในเรื่องค่าใช้จ่ายในการตรวจร่างกาย โดยเค้าไม่ต้องสำรองจ่ายใดๆเองก่อนเลย
โดยในระหว่างนั้น ทางคู่กรณี ก็แสดงความจำนงแปลกๆ ว่า เค้าต้องการเอารถไปซ่อมเองฯ โดยให้ทางประกันฝั่งเรารับผิดชอบค่าใช้จ่ายฯ เป็นเงินแทน หรือ ออกค่าใช้จ่ายค่าซ่อมให้ทั้งหมด ที่อู่ที่เค้าจะนำรถมอเตอร์ไซค์คันเกิดเหตุไปซ่อม โดยจะต้องเป็นอู่ที่เค้าหา หรือ ไม่ก็ให้เค้าไปซ่อมแล้วเอามาเบิกค่าใช้จ่ายทั้งหมดทีหลังกับ บ.ประกัน ซึ่งทางประกันฯไม่ยอม บอกว่า ต้องซ่อมอู่ในเครือ วิระยะ หรือ อู่ในเครือของเค้าเท่านั้น..... เพื่อป้องกัน คู่กรณีตุกติก แบบซ่อมโน่น นั่นนี่ แอบเนียนเปลี่ยนซ่อมโน่นนี่ แล้วหมกค่าใช้จ่ายซ่อนไว้ โดยที่ไม่เกี่ยวกับอุบัติเหตุ และ มาเนียน............ หรือ ไม่ก็ให้จ่ายค่าซ่อมรถมา แล้ว เค้าจะไปซ่อมเอง (เหมือนอยากได้ตังค์มากกว่า ให้ไปซ่อมรถให้ เพราะเค้าอาจจะไม่ได้ผลประโยชน์ทับซ้อน หรือ ส่วนต่าง จากเหตุการ์ณนี้
และแล้วสิ่งที่เราคิดไว้กับแฟนก็จริงอย่างนั้น โดยเย็นวันต่อมา ทาง อู๋ซ่อมรถ ในเครือ วิริยะฯ โทรมาผิด ดันโทรมาที่เบอร์มือถือเรา แจ้งว่า รถซ่อมเสร็จแล้ว รถไม่ได้เสียหาย ไม่ได้เป็นอะไรมาก ซ่อมโดยเช็คและตั้งศูนย์ล้อหน้าให้ใหม่แล้ว (เพราะยางล้อเท่านั้นที่มาชนประตูข้างคนขับรถเรา) ส่วนอาการที่ว่า Start ไม่ติด หรือ Start ติดยาก ไม่เกี่ยวกับอุบัติเหตุ เพราะเป็นการติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างผิด แต่เค้าก็แก้ไขให้ใหม่ให้แล้ว อย่างไร ให้มารับรถได้เลย ทางเราก็บอกว่า โทรมาผิดนะ ให้โทรไปหาคู่กรณีแจ้งเค้าใหม่อีกที แทนนะ (ซึ่งเรื่อง นี้ ทางเราไม่ได้บอกกับทาง บ.ประกัน วิริยะ เพราะถือว่าช่างมัน เราไม่ได้ออกค่าซ่อม ก็ช่วยเหลือน้องคู่กรณีเค้าไป ช่วยๆกันไป)
หลังจากนั้น ก็ผ่านมาหลาย หลายเดือนอยู่ ทางเรา ก็ทราบมาภายหลัง จากบริษัทฯ ประกัน โทรมาบอกว่า ทางคู่กรณีตกลงกันไม่ได้ เรื่องค่าสินไหมทดแทน เพราะทางประกันแจ้งกับเราว่า ทางคู่กรณี เรียกร้องค่าเสียหาย มาสูงเกินกว่า ที่ทางประกันจะจ่ายได้ (คือเรียกร้องมาสูงมาก สูงเกินกว่า ความเป็นจริงมากๆ เท่าที่ทราบคือหลายหมื่นอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่) ทางเราเองก็ตกใจ เพราะว่า ดูจากตอนนั้น น้องเค้าไม่ได้เป็นอะไร เพราะการชนกันเบามาก (สังเกตุจาก รอยบุบ ว่า บุบไปนิดเดียว แล้ว น้องเอง เค้าก็ไม่ได้ล้ม ในระหว่างชน) ทำให้เรางง ว่า ตกลงเกิดอะไรขึ้น ทำไม คู่กรณี ต้องการอะไร ?
จนเราทราบจากทางประกันว่า ทางคู่กรณี เรียกค่าสินไหมทดแทน เป็นหมื่น เป็นแสน เราเองก็ตกใจ เพราะ เหตุการ์ณ ที่เกิดขึ้น น้องเค้าไม่ได้ล้มและไม่ได้เป็นอะไรเลย ทำไมเรียกร้องมาเวอร์ มากมายขนาดนั้น!!!!
ทางประกันแจ้งว่า วันเกิดเหตุ ที่เข้าตรวจร่างกาย ทางญาติ น้องเค้า ขอ นอนเข้าโรงพยาบาล (รพ.เอกชน แห่งหนึ่ง ที่ค่ารักษาแพงเอาเรื่องฯ อยู่เหมือนกัน) เพื่อรอ ดูอาการ Admit ไป 1 คืน........ โดยหลังจากนั้น คู่กรณีก็เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล บ่อยๆ เหมือน จะพยายามสร้างให้มีหลักฐาน ว่า เจ็บหนัก เข้ารักษา บ่อย และ ให้แพทย์ ออกใบรับรองฯ ว่า ต้องพักรักษาตัวเกิน 21 วัน (เหมือนจะหัวหมอรู้เยอะ)
เราเองก็ไม่รู้ว่า ทางฝั่งคู่กรณี ต้องการทำอย่างนี้ เพื่ออะไร จนมารู้ในตอนหลังว่า ทางเค้ามีเจตนาฯ สร้างหลักฐาน เพื่อเอาเรื่อง คดีอาญามาขู่ ให้ทางเราจ่ายค่าสินไหม ทดแทนฯ ตามที่เค้าต้องการ หากไม่จ่าย ก็จะฟ้องในคดีอาญาเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง มาตรา 300 โดยเค้าไม่ต้องเสียเงิน จ้างทนายสักบาท เพื่อมาฟ้องร้อง เรียกร้องค่าเสียหาย เพราะ สามารถให้ ทางร้อยเวรฯ ส่งสำนวน ให้อัยการฯ ฟ้องแทน การจ้างทนาย มาฟ้องเราในทางแพ่งที่เกี่ยวเนื่องจากทางอาญาได้........
ซึ่งเราเองก็ตกใจมาก ไม่คิดว่า การชนเพียงเบาๆ แบบนี้ ทางโน้น จะเตรียมการมาอย่างดี แถมยังรู้ข้อกฎหมายต่างๆ มาเพื่อจะเล่นงานเรา ทางเราจึงไปสืบกับคนรู้จัก วินมอเตอร์ไซค์แถวบ้าน ที่รู้จักกัน รวมถึงคนแถวบ้าน ที่รู้จักกับครัวครัวนี้.......
ก็พบความจริง ว่า........ จิงๆ แล้ว คู่กรณีเรา ก่อน ที่จะเกิดเหตุฯ รถชนกับเรานั้น น้องคู่กรณีเค้าโดนวันรุ่น รุมกระทืบ ตีหัว และ ขโมยรถมอเตอร์ไซค์ไป โดยมอเตอร์ไซค์ ที่เกิดเหตุกับเรานี้ ก็เพิ่งมาซื้อมือสอง มาใช้ใหม่ แต่มีสภาพที่อาจจะไม่สมบูรณ์ ระบบเบรก หรือ ระบบต่างๆอาจจะไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ เลยทำให้เบรกไม่อยู่....... แบบอุปกรณ์บางตัวที่ติดตั้งมาผิด จึงทำให้ Start ไม่ติด หรือ Start ยาก ......
ประกอบกับ คู่กรณีโดนวัยรุ่น รุมกระทืบมา อาจจะทำให้ร่ายกายไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อม ในการขับขี่ ทำให้อาจจะเบรอ หรือ เพลีย ร่างกายไม่พร้อมสมบูรณ์ ขณะขับขี่ (เหมือนคนเมาแล้วขับขี่) ก็เป็นได้ ไม่รู้ว่า เราคิดไปในแง่ลบหน่อย หรือเปล่า..... จิงๆ แล้ว เราก็อดคิดไม่ได้ว่า แท้จริง เราอาจจะตกเป็นเหยื่อ..... ของคู่กรณี ที่อาจต้องการเอาคืนแก้แค้น.......สังคมแทน โดนอาจจงใจชน เพื่อให้เกิดการเรียกร้องค่าเสียหาย สูงเกินจริง เพื่อเอาไปชดเชย ค่ามอเตอร์ไซค์ หรือ หาเงินทดแทน กับที่น้องคู่กรณีเค้าโดน วัยรุ่นดักตีหัว กระทืบ และ ขโมย รถมอเตอร์ไซค์ไป..........
โดยพยายามสร้างเหตุการ์ณ ว่า เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล หลังจากนั้น เพื่อให้เกิน 21 วัน (เพื่อให้เข้าเป็นคดีอาญา ให้ดูว่าเกิดการบาดเจ็บสาหัส เกินกว่า 21 วัน) โดยให้ แพทย์ ออกใบรับรองฯ เพื่อนำไปสู่การฟ้อง คดีอาญาเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง มาตรา 300 กับทางเรา และ เพื่อขู่ให้เรา กับ ประกันฯ จ่าย ค่าสินไหมทนแทน ที่สูงเกินจริง และ อาจจะสวมสิทธิ์การรักษา จากที่โดนวัยรุ่นกระทืบ เพื่อขโมยรถมอเตอร์ไซค์ในครั้งก่อน (เพราะการเข้าๆ ออกๆ ครั้งต่อๆ มา แจ้งว่า รักษา อาการช้ำใน ทั้งที่น้องเค้าไม่ได้ล้ม และ จากรอยชนที่บุบไปเพียงนิดเดียวที่รถเรา (ดังรูป) มันจะไปทำให้ร่างกายช้ำใน ได้อย่างไร ?)
โดย ค่าสินไหม ทดแทน ที่ทาง บริษัทฯ วิริยะ เสนอว่าสามารถจ่ายให้คู่กรณีได้ = 500 บาท (ค่าแรงต่อวัน ที่เค้าคิดให้) x 24 วัน (ตามใบรับรองแพทย์ฯ แบบธรรมดา สำหรับใช้ลาหยุดงาน หรือใช้เพื่อเบิกค่าชดเชยรายได้จากประกันอุบัติเหตุฯ (หากซื้อกรมธรรม์ คุ้มครองไว้) โดย ไม่ใช่ ใบรับรองแพทย์จากนิติเวช ที่เค้าเรียกกันว่าใบชันสูตร มั้ง?) = 12,000 บาท + ทางเราเองก็ เสนอให้ เป็นค่ามนุษยธรรม 2,000 บาท แลกกับ การที่ไม่ต้องเสียเวลาต่างๆนาๆ ไปขึ้นโรง ขั้นศาล เสียเวลามากมาย........
แต่คู่กรณี ไม่ยินยอม โดยขอเรียกร้อง ค่าสินไหมทนแทนเป็นจำนวนเงิน = 85,000 บาท ซึ่ง ทางวิริยะฯ จ่ายให้ไม่ได้ เพราะสูงเวอร์เกินจริง เราเองก็ตกใจมาก เหมือนเราโดนปล้น ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่ เรื่องจริง มันเล็กน้อยๆ มากๆ เลย แต่คู่กรณ๊ ก็พยายาม สร้างเรื่อง ต่างๆ โดยเอาผลจากที่โดนวัยรุ่นกระทืบ ฉกมอเตอร์ไซค์ไปคราวที่แล้วและสวมสิทธิ์รักษาพยาบาล เพื่อรักษาอาการช้ำในจากครั้งนั้น และใบรับรองแพทย์ฯ มาเล่นงานเรา)
ล่าสุดปลายปีที่แล้ว เราทราบมาจาก ร้อยเวรฯ ที่ไปสน. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ก่อน ส่งสำนวนให้อัยการ สั่งฟ้องคดีว่า........ ทางคู่กรณ๊ ขอเพิ่มค่าสินไหมทดแทน เป็นแสนกว่าบาทแล้ว เค้าบอกว่า รวมค่าเสียเวลา ค่าเดินทาง จากการฟ้องร้องด้วย.........
โดย ส่งสำนวน ให้อัยการส่งฟ้อง แล้ว เมื่อปลายปีที่แล้ว (ก่อนขาดอายุความ 1 ปี) เรากำลังจะไป ขึ้นศาล นัดแรก วันพรุ่งนี้ 09/02/2015
เราขอคำปรึกษา กับ เพื่อนๆ ใน Pantip นี้หน่อยจ้า...ว่า กรณีอย่างนี้ที่เราโดน สามารถทำอะไรได้บ้าง ?
ขอความคิดเห็น หรือ คำแนะนำจากเพื่อนๆ ด้วยใน Pantip นี้ ด้วยจ้า.......... หากใครมีประสบการ์ณแบบนี้ หรือ พอจะรู้ข้อกฎหมาย ขอคำแนะนำให้ด้วยจ้า........
Update ใส่รูปให้แล้วจ้า......ดังรูปนี้ เลยนะ......