รองพื้นใหม่จากนาร์ส. NARS Cosmetics กับ NARS ALL DAY LUMINOUS WEIGHLESS FOUNDATION ที่เครมแรงว่า "สามารถปกปิดได้ระดับ Medium to Full Coverage แต่ทว่าเบาสบายผิว และคงทน 16 ชั่วโมง ให้ผิวคงความชุ่มชื้น แต่มาในรูปแบบ Oil Free เหมาะกับทุกสภาพผิว" ที่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา
มาพูดถึงแพ็คเกจ. ก็มาในแบบเรียบๆตามสไตล์ของนาร์ส ที่ใช้กล่องสีดำ ตัวอักษรสีขาวเช่นเคย
แต่ที่แตกต่างไปจากรองพื้นของนาร์สตัวอื่นคือแพ็กเกจของขวดรองพื้น ที่มาในแบบทรงสูง และที่แน่ๆมีหัวปั๊มมาให้ด้วยไม่ต้องซื้อเพิ่มแล้ว แล้วฝาครอบที่ครอบหัวปั๊มนั้นก็แน่นหนามาก ขย่ำแรงๆก็ไม่หลุดกระเด็นหลุดออกจากหัวปั๊ม ถือว่าโอเคมากๆ
วันนี้สีที่จะเทสคือสี STROMBOLI ซึ่งคือสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวพั้นซ์มากที่สุด
แต่ก่อนเลือกสีได้มีการเทสสีที่เคาน์เตอร์ มี 2 สีด้วยกันคือสี PUNJAB, STROMBOLI ค่ะ
โดยสำหรับสี Punjab จะสว่างกว่าสีผิวพั้นซ์นิดหน่อย(1เฉด) ส่วนสี Stromboli ดูจะพอดีกับผิวค่ะ
มาว่าด้วยเรื่องของเนื้อ ALL DAY LUMINOUS WEIGHTLESS FOUNDATION อย่างแรกเลยก่อนใช้ ต้องเขย่าก่อนเสมอ ย้ำเขย่าก่อนใช้เสมอเพราะว่าเนื้อรองพื้นจะแยกชั้นสี โดยสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
หลังจากเขย่าแล้วเนื้อสีจะรวมตัวเข้าด้วยกันได้ดีค่ะ
แรกๆที่กดเนื้อออกมาจากขวดจะรู้สึกเหมือนเนื้อเหลว แต่ทว่ากลับไม่เหลวและไม่ไหลอย่างที่คิดไว้ โดยพั้นซ์ได้นำรองพื้นตัวใหม่ของ เอสเต้ ลอเดอร์ อย่าง Estee Lauder Perfectionist Youth Infusing Makeup ที่มีเนื้อไม่เหลวแล้วไหล นำมาเปรียบเทียบเนื้อ ของความเหลว, และ สีรองพื้น
เมื่อดูจากภาพการเปรียบเทียบแล้ว เราจะเห็นเลยว่า
Nars: เนื้อโปร่งใสกว่า, ดูเป็นน้ำๆกว่า, แต่สีดูออกเข้มกว่า
Ester Perfectionist: เนื้อทึบ, เหมือนจะหนักๆและหนืดกว่า, ให้สีสว่างและพอดีกับสีผิวมากกว่า
เริ่มรีวิวกันเลยค่ะ เริ่มจากหน้าที่เปลือยเปล่าก่อนค่ะ
จากนั้นก็ลง สกินแคร์+กันแดด+ไพรเมอร์ ตามปกติค่ะ (จากภาพจะเห็นว่ายังมองเห็นรูขุมขนอยู่คะ)
และตามด้วยการลงรองพื้นแค่ครึ่งใบหน้าค่ะเพื่อเปรียบเทียบกับผิวที่ยังไม่ได้ลงรองพื้น
เวลาลงรองพื้น แนะนำให้แต้มลงบนผิวเป็นส่วนๆแล้วรีบเกลี่ยทันที เนื้อแห้งไวมาก **แต่ในขณะที่เนื้อเริ่มแห้งก็สามารถเกลี่ยๆได้อยู่ ด้วยวิธีกดๆ วิธีนี้จะไม่ทำให้เป็นคราบ และวิธียังสามารถเพิ่มปริมาณรองพื้นเฉพาะที่ได้ หากยังไม่พอใจกับการลงไปแล้ว และห้ามใช้วิธีถูไปมา จะไม่สวย จะเป็นคราบนะ
มาดูหลังลงรองพื้นทั้งหน้าดีกว่าคะ
จากภาพเราจะเห็นว่ายังคงเห็นความมันเงาอยู่เล็กน้อย โดยรองพื้นตัวนี้จะช่วยควบคุมความมันเท่านั้น ไม่ได้ให้ลุค Super Matte
หลังจากลงแป้งฝุ่น เราจะเริ่มเห็นความแมทมากๆบนใบหน้าค่ะ
จากภาพจะเห็นว่าใบหน้าหลังแป้งฝุ่นแล้ว หน้าค่อนข้างแมทมากและและเหมือนผิวขาวขึ้น (แต่พั้นซ์ใช้แป้งฝุ่นไม่มีสี หรือเป็น Translucent)
ดังนี้นคำเครมที่เขายังแจงไว้อีกว่า เมื่อคุณเลือกสีรองพื้นที่เหมาะและพอดีกับสีคุณเอง หลังจากลงรองพื้นแล้วในระยะเวลาหนึ่ง สีของรองพื้นจะปรับสีให้เหมาะเข้ากับสีผิวคุณอย่างไม่หน้าเชื่อ ซึ่งค่อนข้างโอเคนะค่ะ สามารถทำได้จริงอย่างที่เขาว่า
จากภาพไม่มีการคอนทัวร์ หรือ ใช้แอปแต่งภาพช่วยนะค่ะ
สรุป
1. มาในราคาไม่สูงจนเกินจริงไป. คือราคาน่าคบได้ 1,850฿
2. เนื้อค่อนข้างดี เต็ม 10 ให้ 8 เพราะเนื้ออาจจะแห้งเร็วนิดหน่อยแต่ไม่น่าเกียจอะไร แต่บางคนอาจจะไม่ชอบเนื้อแบบนี้เท่าไร เพราะเนื้อไม่ค่อยลื่นมากนัก เนื้อจะไม่ลื่นเท่า DIOR STAR
3. ถ้าหมด ซื้อต่อแน่ (แต่ถ้ารองพื้นตัวใหม่ของ YSL FUSION INK ดีกว่าก็อาจจะไม่ซื้อต่อค่ะของรอง YSL ก่อน)
4. ไม่มีกลิ่นน้ำหอม
5. มีสีรองพื้นให้เลือกค่อนข้างเยอะ
6. ใช้ตลอดทั้งวัน (09:30-22:00) 11 ชั่วโมงครึ่ง ไม่หลุดลอก (เขาเครมว่าติดทนนาน 16 ชั่วโมง) แต่ก็มีความมันให้เห็นอยู่บ้างช่วง T Zone แต่ก็รับได้รับ ไม่น่าเกียจจนเกินงามค่ะ
สรุปค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียวค่ะยังไงก็ลองไปลองเล่นเนื้อผลิตภัณฑ์แล้วลองเทสที่ผิวหน้าจริงๆก่อนดูนะค่ะ เพราะบางครั้งผลิตภัณฑ์ก็อาจจะไม่เหมาะกับผิวเราก็ได้ค่ะ
วันนี้หวังว่าคงได้ไอเดียก่อนไปตำตำตำตำตำรองพื้นตัวใหม่กันนะค่ะ ครั้งต่อไปจะแนะนำอะไรรอพบกันครั้งหน้านะค่ะ
ขอบคุณสำหรับการเข้ามาอ่านไอเดียของพั้นซ์นะค่ะวันนี้ขอตัวก่อนนะค่ะ
สวัสดีค่ะ
THANK YOU SO MUCH
PUNCHY
ไฉไลกว่าเดิมพร้อมเครมแรง รีวิว! รองพื้นตัวใหม่จาก นาร์ส
รองพื้นใหม่จากนาร์ส. NARS Cosmetics กับ NARS ALL DAY LUMINOUS WEIGHLESS FOUNDATION ที่เครมแรงว่า "สามารถปกปิดได้ระดับ Medium to Full Coverage แต่ทว่าเบาสบายผิว และคงทน 16 ชั่วโมง ให้ผิวคงความชุ่มชื้น แต่มาในรูปแบบ Oil Free เหมาะกับทุกสภาพผิว" ที่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา
มาพูดถึงแพ็คเกจ. ก็มาในแบบเรียบๆตามสไตล์ของนาร์ส ที่ใช้กล่องสีดำ ตัวอักษรสีขาวเช่นเคย
แต่ที่แตกต่างไปจากรองพื้นของนาร์สตัวอื่นคือแพ็กเกจของขวดรองพื้น ที่มาในแบบทรงสูง และที่แน่ๆมีหัวปั๊มมาให้ด้วยไม่ต้องซื้อเพิ่มแล้ว แล้วฝาครอบที่ครอบหัวปั๊มนั้นก็แน่นหนามาก ขย่ำแรงๆก็ไม่หลุดกระเด็นหลุดออกจากหัวปั๊ม ถือว่าโอเคมากๆ
วันนี้สีที่จะเทสคือสี STROMBOLI ซึ่งคือสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวพั้นซ์มากที่สุด
แต่ก่อนเลือกสีได้มีการเทสสีที่เคาน์เตอร์ มี 2 สีด้วยกันคือสี PUNJAB, STROMBOLI ค่ะ
โดยสำหรับสี Punjab จะสว่างกว่าสีผิวพั้นซ์นิดหน่อย(1เฉด) ส่วนสี Stromboli ดูจะพอดีกับผิวค่ะ
มาว่าด้วยเรื่องของเนื้อ ALL DAY LUMINOUS WEIGHTLESS FOUNDATION อย่างแรกเลยก่อนใช้ ต้องเขย่าก่อนเสมอ ย้ำเขย่าก่อนใช้เสมอเพราะว่าเนื้อรองพื้นจะแยกชั้นสี โดยสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
หลังจากเขย่าแล้วเนื้อสีจะรวมตัวเข้าด้วยกันได้ดีค่ะ
แรกๆที่กดเนื้อออกมาจากขวดจะรู้สึกเหมือนเนื้อเหลว แต่ทว่ากลับไม่เหลวและไม่ไหลอย่างที่คิดไว้ โดยพั้นซ์ได้นำรองพื้นตัวใหม่ของ เอสเต้ ลอเดอร์ อย่าง Estee Lauder Perfectionist Youth Infusing Makeup ที่มีเนื้อไม่เหลวแล้วไหล นำมาเปรียบเทียบเนื้อ ของความเหลว, และ สีรองพื้น
เมื่อดูจากภาพการเปรียบเทียบแล้ว เราจะเห็นเลยว่า
Nars: เนื้อโปร่งใสกว่า, ดูเป็นน้ำๆกว่า, แต่สีดูออกเข้มกว่า
Ester Perfectionist: เนื้อทึบ, เหมือนจะหนักๆและหนืดกว่า, ให้สีสว่างและพอดีกับสีผิวมากกว่า
เริ่มรีวิวกันเลยค่ะ เริ่มจากหน้าที่เปลือยเปล่าก่อนค่ะ
จากนั้นก็ลง สกินแคร์+กันแดด+ไพรเมอร์ ตามปกติค่ะ (จากภาพจะเห็นว่ายังมองเห็นรูขุมขนอยู่คะ)
และตามด้วยการลงรองพื้นแค่ครึ่งใบหน้าค่ะเพื่อเปรียบเทียบกับผิวที่ยังไม่ได้ลงรองพื้น
เวลาลงรองพื้น แนะนำให้แต้มลงบนผิวเป็นส่วนๆแล้วรีบเกลี่ยทันที เนื้อแห้งไวมาก **แต่ในขณะที่เนื้อเริ่มแห้งก็สามารถเกลี่ยๆได้อยู่ ด้วยวิธีกดๆ วิธีนี้จะไม่ทำให้เป็นคราบ และวิธียังสามารถเพิ่มปริมาณรองพื้นเฉพาะที่ได้ หากยังไม่พอใจกับการลงไปแล้ว และห้ามใช้วิธีถูไปมา จะไม่สวย จะเป็นคราบนะ
มาดูหลังลงรองพื้นทั้งหน้าดีกว่าคะ
จากภาพเราจะเห็นว่ายังคงเห็นความมันเงาอยู่เล็กน้อย โดยรองพื้นตัวนี้จะช่วยควบคุมความมันเท่านั้น ไม่ได้ให้ลุค Super Matte
หลังจากลงแป้งฝุ่น เราจะเริ่มเห็นความแมทมากๆบนใบหน้าค่ะ
จากภาพจะเห็นว่าใบหน้าหลังแป้งฝุ่นแล้ว หน้าค่อนข้างแมทมากและและเหมือนผิวขาวขึ้น (แต่พั้นซ์ใช้แป้งฝุ่นไม่มีสี หรือเป็น Translucent)
ดังนี้นคำเครมที่เขายังแจงไว้อีกว่า เมื่อคุณเลือกสีรองพื้นที่เหมาะและพอดีกับสีคุณเอง หลังจากลงรองพื้นแล้วในระยะเวลาหนึ่ง สีของรองพื้นจะปรับสีให้เหมาะเข้ากับสีผิวคุณอย่างไม่หน้าเชื่อ ซึ่งค่อนข้างโอเคนะค่ะ สามารถทำได้จริงอย่างที่เขาว่า
จากภาพไม่มีการคอนทัวร์ หรือ ใช้แอปแต่งภาพช่วยนะค่ะ
สรุป
1. มาในราคาไม่สูงจนเกินจริงไป. คือราคาน่าคบได้ 1,850฿
2. เนื้อค่อนข้างดี เต็ม 10 ให้ 8 เพราะเนื้ออาจจะแห้งเร็วนิดหน่อยแต่ไม่น่าเกียจอะไร แต่บางคนอาจจะไม่ชอบเนื้อแบบนี้เท่าไร เพราะเนื้อไม่ค่อยลื่นมากนัก เนื้อจะไม่ลื่นเท่า DIOR STAR
3. ถ้าหมด ซื้อต่อแน่ (แต่ถ้ารองพื้นตัวใหม่ของ YSL FUSION INK ดีกว่าก็อาจจะไม่ซื้อต่อค่ะของรอง YSL ก่อน)
4. ไม่มีกลิ่นน้ำหอม
5. มีสีรองพื้นให้เลือกค่อนข้างเยอะ
6. ใช้ตลอดทั้งวัน (09:30-22:00) 11 ชั่วโมงครึ่ง ไม่หลุดลอก (เขาเครมว่าติดทนนาน 16 ชั่วโมง) แต่ก็มีความมันให้เห็นอยู่บ้างช่วง T Zone แต่ก็รับได้รับ ไม่น่าเกียจจนเกินงามค่ะ
สรุปค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียวค่ะยังไงก็ลองไปลองเล่นเนื้อผลิตภัณฑ์แล้วลองเทสที่ผิวหน้าจริงๆก่อนดูนะค่ะ เพราะบางครั้งผลิตภัณฑ์ก็อาจจะไม่เหมาะกับผิวเราก็ได้ค่ะ
วันนี้หวังว่าคงได้ไอเดียก่อนไปตำตำตำตำตำรองพื้นตัวใหม่กันนะค่ะ ครั้งต่อไปจะแนะนำอะไรรอพบกันครั้งหน้านะค่ะ
ขอบคุณสำหรับการเข้ามาอ่านไอเดียของพั้นซ์นะค่ะวันนี้ขอตัวก่อนนะค่ะ
สวัสดีค่ะ
THANK YOU SO MUCH
PUNCHY