[CR] รีวิวและเปรียบเทียบเครื่องสำอาง 6 ตัว Drug store ปะทะ Hi-End by PSN

กราบสวัสดีพี่ๆน้องๆเพื่อนๆลุงป้าน้าอาชาวโต๊ะเครื่องแป้งคร้าบบบ พอดีวันนี้ว่างๆ(จริงๆก็ไม่ค่อยว่างหรอกครับ ฮ่าๆๆ) เลยมาทำรีวิวและเปรียบเทียบเครื่องสำอางให้ดูกัน มีด้วยกันทั้งหมด 6 ตัวครับ ทั้งหมดนี้เสียเงินซื้อเอง ใช้เอง ชอบเอง ยังไงก็ดูไว้ประกอบการตัดสินใจแล้วกันน่ะครับ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ^^

ฝากเพจด้วยน่ะครับ >>>
Facebook : https://www.facebook.com/PhitzaBeauty/
Instagram : phitzabeauty

จขกท เป็นคนผิวผสม - ค่อนข้างมันน่ะครับ แต่ไม่ค่อยชอบใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อแมทสักเท่าไหร่ แต่ก็มีใช้ๆบ้างแล้วแต่โอกาส เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปเริ่มกันเลยดีกว่า ^^



Diorskin star studio makeup spectacular brightening weightless perfection spf30+/PA++
ปริมาณ 30 มล. ราคา 2000 บาท

รองพื้นสุดหรูจาก Dior ที่เหล่า Makeup Artist ไว้ใช้แต่งหน้าให้กับนางแบบนายแบบหลังเวที ถูกออกแบบมาเพื่อให้สู้แสงไฟได้เป็นอย่างดี ใช้เบอร์ 021 น่ะครับ อันเดอร์โทนเหลือง คือตอนจะซื้อนั้นแอบเล็งไว้สามตัว นั่นก็คือ Nars sheer glow, Chanel perfection lumiere และตัวนี้ Diorskin star ตอบโจทย์ที่สุด คือรองพื้นตัวนี้ให้การปกปิดระดับปานกลาง ไม่แมทและไม่วาวจนเกินไป กำลังพอดี(ชอบตรงนี้แหละ) ตอนเกลี่ยนี่กลิ่นหอมเลยทีเดียวแต่สักพักก็ไม่ได้กลิ่นล่ะ โดยส่วนตัวแล้วรองพื้นตัวนี้ไม่ค่อยคุมมันน่ะครับ แต่ก็ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม สีไม่ดร็อป เกลี่ยง่าย ติดทนยาวนานใช้ได้เลย ทาตอนแปดโมงเช้าจนตกเย็นก็ยังอยู่ แอบมีหลุดลอกบ้างตอนซับหน้า แต่ก็กลับมาผ่องเหมือนเดิม เลิฟๆ


ชอบแพ็กเกจจิ้งมากกกก มาในขวดแก้วและฝาปั๊ม คือเป็นรองพื้นขวดที่สวยที่สุดที่มี 55555 แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลหลักที่ตัดสินใจซื้อ ขวดค่อนข้างหนักใช้ได้เลยไม่ค่อยสะดวกแก่การพกพา (แต่ก็พกน่ะ อิอิ)



Bourjois healthy mix foundation
ปริมาณ 30 ราคา 550 บาท

รองพื้นสัญชาติฝรั่งเศสอีกตัว ที่มาในราคาไม่แรงมาก เป็นรองพื้นที่ชอบมากกกกใช้บ่อยมากกกก แพ็กเกจจิ้งก็โอเค เป็นขวดแก้วและฝาปั๊มเช่นเดียวกับ Dior ใช้เบอร์ 51 น่ะครับ ซึ่งเป็นเบอร์ที่ขาวที่สุด เนื่องจากว่าสีที่พอดีกับสีผิวหมดทุกที่เลยยย (บ้านอยู่ต่างจังหวัด TT) ครั้งหน้าต้องซื้อเบอร์ 52 ให้ได้ >< เข้าเรื่องกันต่อ คือรองพื้นตัวนี้เนื้อค่อนข้างเหลว เกลี่ยง่าย ให้การปกปิดระดับปานกลาง แต่การติดทนน้อยกว่า Dior กลิ่นรองพื้นหอมมากกกกก เป็นกลิ่นออกแนวผลไม้ๆ คือแอบฟินเวลาทา 55555 (นี่รองพื้นหรือขนม) ไม่คุมมัน แอบมีความวาวบ้างงง ดูเป็นผิวสุขภาพดี สีไม่ดร็อปเช่นกัน

เปรียบเทียบรองพื้นทั้งสองตัว

อย่าเพิ่งตกใจสีน่ะครับ 55555 คือจริงๆเนื้อผลิตภัณฑ์ของ Bourjois จะเหลวกว่า Dior นิดหน่อย เวลาเกลี่ยจะเห็นชัดเลย


ชะแว๊บบบบ!! เกลี่ยออกมาแล้วแบบ...คือมันสวยอ่ะ  Dior จะกลืนไปกับผิวเลยยย เนียนมากกกก ส่วน Bourjois นี่ถ้าสังเกตจะเห็นว่ามันค่อนข้างจะวาวกว่า Dior แต่เรียบเนียนเช่นกัน ชอบทั้งคู่เลยยย ^^


เซตด้วยแป้งฝุ่นก็จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ความวาวลดน้อยลง ดูเป็นคนผิวดีตั้งแต่เกิด จริงๆแล้วอีนี่ทารองพื้นมา 55555 (ขอโทษที่ใช้คำไม่สุภาพน่ะครับ ^^)

สรุปคือรักทั้งสอง จริงๆมีรองพื้นอีกหลายตัวที่ใช้ แน่นอนว่าต้องชอบแหละถึงซื้อ แต่นี่เราเปรียบเทียบ Drug store กับ Hi-end เลยเลือกมาสองตัวที่ชอบที่สุด Bourjois นั้นไว้ใช้ในวันธรรมดาๆ แต่งไปเรียนไรงี้ ส่วน Dior ไว้ใช้ในวันที่แบบ..วันนี้อยากดูดีมีระดับ พิเศษๆนิดนึง 55555 จริงๆเค้าก็ไม่รู้หรอกว่าใช้รองพื้นของอะไร เป็นการมโนไปเองว่าใช้ของแพงแล้วต้องเริ่ดดดต้องดี สรุปใช้แทนกันได้ เริ่ดดดดทั้งคู่ ><

คะแนน Dior ให้ 9.5/10 (หักตรงราคาและขวดหนักนี่แหละ)
คะแนน Bourjois ให้ 9.5/10 (มีสีให้เลือกน้อยและการติดทนยังสู้ Dior ไม่ได้ แต่คุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ)


Chanel correcteur perfection long lasting concealer
ปริมาณ 7.5 กรัม ราคา 1200 บาท

ต้องบอกก่อนเลยว่าถ้ามันไม่ดีจริง เราคงไม่ยอมจ่ายเงินพันกว่าบาทกับคอนซีลเลอร์ตัวนี้ ตอนนั้นมีโอกาสได้ลองของ Dior ซึ่งเป็นไลน์เดียวกับรองพื้น แต่รู้สึกว่ามันเกลี่ยค่อนข้างยากและปริมาณก็น้อยกว่าด้วย 5555 เลยได้ตัวนี้มา ตัวนี้เนื้อผลิตภัณฑ์ดีมากกก ปกปิดดีเยี่ยม แต่ไม่หนาจนเกินไป แทบจะไม่ตกร่องเลยถ้าเกลี่ยดีๆ กลิ่นก็สไตล์ Chanel เลยยย หอมอ่อนๆ ใช้งานง่ายไม่ต้องวอร์มก่อนใช้เหมือนบางแบรนด์ ใช้เบอร์ 2 น่ะครับ สีกำลังพอดีเลยยย


Collection lasting perfection concealer
ปริมาณ 4 กรัม ราคา 249 บาท

คอนซีลเลอร์เนื้อดีคุณภาพดีราคาถูก ปกปิดค่อนข้างดีแต่ยังไม่เท่า Chanel  เกลี่ยง่าย ไม่หนา แต่ระหว่างวันมีแอบตกร่องนิดหน่อย ใช้เบอร์ 1 นะครับ รู้สึกว่ามันขาวไป ครั้งหน้าคงซื้อเบอร์ 3 เพราะเบอร์ 2 มันออกชมพูๆ

เปรียบเทียบคอนซีลเลอร์ทั้ง 2 ตัว

เหมือนของ Collection จะดูฉ่ำกว่านิดหน่อยน่ะครับ สีสว่างกว่าอย่างเห็นได้ชัด


อันนี้คือเกลี่ยแบบทั่ว เวลาใช้จริงเราก็ใช้แค่เฉพาะจุดหรือไม่ก็ใต้ตา ซึ่งของ Collection จะเหมาะมากกับใต้ตารอยสิวคงไม่รอด ส่วนของ Chanel ลองใช้กับใต้ตาและรอยสิวแล้วถือว่าดีเลยทีเดียว สีกลืนไปกับผิวดี

สรุปคือดีงามทั้งสองตัว คาดหวังได้กับคอนซีลเลอร์สองตัวนี้ ราคาต่างกันมากกก แต่คุณภาพไม่ได้แตกต่างเวอร์อะไรขนาดนั้น Chanel ราคาสูงแต่ถ้ามีงบก็สอยเลยยย หลอดนึงใช้ได้นานเลยทีเดียว ส่วนของ Collection ซื้อแบบไม่ต้องคิดอะไรแล้ว 55555 คุณภาพคุ้มเกินราคา

คะแนน Chanel ให้ 9.5/10 (หักตรงราคาตามเคย)
คะแนน Collection ให้ 9/10 (มีแอบตกร่องนิดหน่อย และปกปิดยังไม่กริ๊บเท่า Chanel แต่คุณภาพกับราคานี่ผ่านแบบไม่ต้องคิด 5555)


Burberry sheer powder luminous pressed powder
ปริมาณ 10 กรัม ราคา 1,900 บาท

แป้งฝุ่นอัดแข็งไม่ผสมรองพื้นสัญชาติอังกฤษตัวนี้มาในแพ็กเกจจิ้งหรูหราตามแบบฉบับผู้ดีอังกฤษ ตลับพิมพ์ลายตารางหมากรุก(check) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Burberry มาพร้อมซองกำมะหยี่และแปรงขนแพะ แปรงขนนุ่มพอสมควร


เปิดตลับออกมาจะเจอแป้ง(ไม่เจอแป้งแล้วจะเจออะไรล่ะเออ) ที่พิมพ์ลายเหมือนตัวตลับ เพิ่มความหรูไปอีก 25% แทบไม่อยากแตะเลยกลัวลายหาย แต่ซื้อมาใช้ไม่ได้ซื้อมาโชว์ 55555' ตลับเป็นแม่เหล็กดูด แข็งแรงทนทานใช้ได้เลย ใช้เบอร์ 1 น่ะครับ อันเดอร์โทนเหลือง ส่วนเบอร์ 2 อันเดอร์โทนชมพู แป้งเนื้อเนียนละเอียดมากกก บางเบาไม่ปกปิด ก็มันเอาไว้เซตรองพื้นหนิเนอะ กลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วยความที่ว่ามันก็คือแป้งฝุ่นดังนั้นอย่าไปคาดหวังในเรื่องการคุมมันมากนัก การติดทนก็ระดับนึง ตัวนี้เอาไว้พกพาใช้เติมระหว่างวัน เริ่ดดดอยู่ๆ อิอิ


KMA transparent loose powder
ปริมาณ 30 กรัม ราคา 450 บาท

แป้งฝุ่นคุณภาพดีราคาถูก มาในกระปุกที่ค่อนข้างใหญ่ พกพาลำบากจึงตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งต่อไป

เอิ่มมม...คือจะเยอะไปไหนนน จะเอามาใช้แต่ล่ะทีนี่ลำบากพอควรเลย แต่คุณภาพดี ชั้นยอมมมได้ 55555' พัฟที่ให้มาก็น่ะ คุณภาพก็สมราคานั่นแหละ โดยปกติจะใช้แปรง


ชอบสีของแป้งมากกกก มันเหลืองนวลได้ใจจริงๆ แต่พอทาไปแล้วก็ไม่เห็นสีอยู่ดี แป้งเนื้อล่ะเอียดมากกก บางเบา เปิดกระปุกออกมาแต่ล่ะทีนี่แป้งปลิวหายไปกับอากาศเลยยย แต่ก่อนเคยใช้ของ Revlon แต่พอมาเจอตัวนี้รู้สึกว่าชอบตัวนี้มากกว่า แต่ตอนนี้กำลังเล็ง mti ไว้อยู่ เห็นว่าเป็นตัวตายตัวแทนของ Laura Mercier เดี๋ยวรอตัวนี้หมดก่อน แต่คาดว่าคงอีกนานเลยยย 55555 ติดทนระดับนึงเช่นกัน เลยต้องมีการเติมระหว่างวัน

เปรียบเทียบแป้งทั้ง 2 ตัว

ดูสีของแป้งแตกต่างกันชัดเจนเลยทีเดียว ก็ยังชอบสีของ KMA อยู่เหมือนเดิม อิอิ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่เอาแป้งฝุ่นกับแป้งอัดแข็งมาเปรียบเทียบกัน แต่เพราะมันทำหน้าที่และใช้งานเหมือนกัน เลยคิดว่าน่าจะใช้แทนกันได้ แฮ่ๆๆ


หลังจากใช้แปรงปัดแล้วปรากฏว่าหายวั๊บไปกับตาเหมือนไม่ได้ทาเลยยย 55555 บางเบาจริงๆ

สรุปคือก็ชอบทั้งคู่อีกเช่นเดียวกัน ให้ความบางเบาทั้งคู่  การติดทนก็พอๆกัน แต่ราคาต่างกันเยอะเลยยย T^T ใช้แทนกันได้เลยยยถ้าไม่ติดเรื่องการพกพา ของดีราคาถูก กับของแพงคุณภาพสมราคา ถ้ามีงบหน่อยก็จัดโล๊ดดดด อิอิ

คะแนน Burberry ให้ 9/10 (หักตรงราคาและหาซื้อยาก ที่แน่ๆมีเคาท์เตอร์อยู่ที่สยามพารากอนและเอ็มโพเรี่ยม แต่ชอบแพ็กเกจจิ้งมากกกกก)
คะแนน KMA ให้ 9.5/10 (หักอย่างเดียวเลยคือกระปุกใช้งานค่อนข้างลำบาก นอกนั้นเริ่ดดดเลอออ)

จบแล้ววววววววคร้าบบบบบ สำหรับการรีวิวและเปรียบเทียบเครื่องสำอาง 6 ตัว ขอบคุณทุกท่านสำหรับการรับชมและติดตามน่ะครับ ไว้พบกันรีวิวหน้า บ๊ายยยยบายยยย ^^
ชื่อสินค้า:   Dior / Chanel / Burberry / Bourjois / KMA / Collection
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่